นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยนะครับ คือจะมาบ่นๆมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ ยาวหน่อย (อาจจะไม่หน่อยนะครับ อิอิ)
เกริ่นก่อนว่าผมเคยใช้ Samsung Galaxy S3 มาก่อน ใช้ไปตามประสา ร่วงบ้างไรบ้าง สักพักจอก็แตกเป็นธรรมดาของสมาร์ทโฟน ก็ทนๆใช้แบบแตกลายสวยงามตามสภาพไปเรื่อย แต่เมื่อมันถึงเวลา และแล้วมันก็ต้องไปครับ อย่างกับเพลง เกิดมาแค่รักกันเลยเชียว อิอิ
ตัดสินใจหาซื้อเครื่องใหม่ครับ ส่อง Sony ไว้อยู่นาน แนะนำเพื่อนซื้อไปคนนึงแล้วสำหรับ Z1 ก็ดูเข้าท่าดี ลองถามเพื่อนสนิทคนนึงบอกว่า ดีหมดยกเว้นศูนย์ซ่อม เราก็รับฟังตามปกติ แต่ในใจก้อคิดว่าเราคงไม่ได้ใช้บริการศูนย์เท่าไหร่ เพราะ S3 ที่ใช้ไม่เคยซ่อมเลยสักครั้ง ประกอบกับ Z3 นี้เพิ่งออกได้ไม่นาน ปรึกษากับพี่สาวแล้ว พี่สาวอนุมัติ ให้ยืมบัตรเครดิตมาผ่อน บอกพี่สาวว่าให้หักเงินเดือน (แต่หลังๆมาแอบเนียน พี่สาวลืม ไม่โดนหักเลยครัช อิอิ) ไปจัดมาทันทีครับ ช่วงนั้นน่าจะกลางๆเดือน พ.ย. ครับ เป็นที่ถูกอกถูกใจ เร็วปรี๊ดลื่นปรื้ด ลื่นจริงๆครับ ลื่นตกโต๊ะเลยใช้ได้ห้าวัน กระจกหลังร้าวคร่าาาา สบายใจได้ แอบนอย กลัวเคลมแล้วจะไม่กันน้ำเหมือนเดิม จะขายทิ้งเลย 5555555
เรื่องมันเริ่มตรงนี้ฮะ คือหลังจากตกครั้งนั้นยังใช้ได้ดีสักสามสี่วัน แล้วหลังจากนั้นอยู่ๆมันก็ทัชไม่ได้ครึ่งจอครับ ทัชได้แต่ด้านบน งานเข้าครัช ได้ใช้บริการศูนย์ไวม๊ากกกกกก 5555 ก็เลยติดต่อเคลมโดยค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเนี่ยแหละ ได้ความว่ามีสองศูนย์ แต่หลายท่านแนะนำ Loxley จัดการโทรไปเลยครับ คุยกับเจ้าหน้าที่ได้ความว่าเคลมได้แต่ต้องรออะไหล่ 1 เดือน โอ้วแม่เจ้าาาาาาา ทางLoxley ก็เลยแนะนำให้ถามศุนย์เพชรบุรี เพื่อเช็คอะไหล่ โทรสอบถามเบื้องต้น บอกว่ามีอะไหล่ รอซ่อม 10-15 วัน แต่ให้เข้ามาประเมิณอาจจะเคลมไม่ได้ เอ๊ะ !!! ทำไมพูดไม่เหมือนกัน แต่ด้วยเวลาที่ต่างกันโขจึงตัดสินใจถ่อจากรังสิตไปเข้าศูนย์เพชรบุรี เอาเครื่องไว้ตามขั้นตอนปกติ บอกรอแจ้ง 2-3 วัน โอเค ตามนั้น รอจนครบสามวันก็เงียบกริบ ด้วยความใจร้อนเลยโทรไปสอบถามก็ให้รออีกวันนึงครับ พอวันรุ่งขึ้นจำได้เลยว่าพนักงานโทรมาแจ้งว่าเครื่องตก ไม่สามารถเคลมได้ !!!! อ๊าวววววว อีตอนตกเนี่ยมันยังใช้ได้นะเฟร้ย มันมาพังหลังจากนั้นต่างหาก เลยตัดสินใจย้ายเข้าศูนย์ Loxley ครับ ถามพนักงานว่าเครื่องอยู่ไหนเพราะตอนแรกแจ้งว่าจะมารับเครื่องที่ลาดพร้าว พนักงานบอกอยู่ที่ศูนย์ให้เข้าไปเอาได้ วันรุ่งขึ้นก้อถ่อไปเอาเครื่องฮะ โอ้วชิทททท เครื่องดันไปอยู่ลาดพร้าว ตรูก้อไปซะไกล ตอนนั้นก็คิดว่าช่างมัน เป็นความเข้าใจผิดของพนักงาน ระหว่างกลับไปเอาเครื่องที่ลาดพร้าว ก้อไม่รู้ตึกรู้อะไร ลง MRT มาได้นั่งพี่วินบอกไปแถวๆตึกไทยรัฐ พี่วินบอก 50 บาท ด้วยความไม่รู้ก้อนั่งไป พอไปหน้าตึกไทยรัฐก้อบอกพี่วินจะไปเล้าเป้งง้วน พี่แกก้อย้อนมาส่งใกล้ๆ โอ้วแม่เจ้า แยกลาดพร้าวอยู่ด้านหน้า ใกล้แค่นี้ พี่จัดผม 50 บาท มันพีคตรงที่พอควักตังจ่ายในกระเป๋าตังเหลือเงิน 220 ครัช แล้วไอ้ค่าประเมิณเนี่ย 200 + vat7% = 214 บาท ในใจคิด ตรูจะกลับรังสิตยังไงฟระอยู่ตั้งลาดพร้าว พอจ่ายเสร็จไปเอาเครื่องแทบจะดิ้นตาย พี่ท่านไม่แกะเครื่องไม่ทำอะไรเลยครับ เห็นรอยร้าวด้านหลังของเครื่องแล้วไม่เคลมเลย (อันนี้ผมเดาเอานะ คือมันเนียนกริ๊บมาก) เสียดายค่าประเมิณจุงงงงง อ่ะ เซ็นรับเครื่องตามขั้นตอนปกติ ออกมานอกอาคารลมพัดหน้าร้อนผ่าว ไหนจะต้องเอาเครื่องไป Loxley แถมต้องกลับรังสิต ตังในกระเป๋าคือเศษ 6 บาทจากเงินทอน หน้านี่สั่น น้ำตาจะไหล แต่พอก้มมองที่นิ้ว ก็พบทางสว่างฮะ ดีใจแทบตีลังกาสามตลบ
.
.
พิมตั้งนานยังไม่ได้ซ่อมจอครั้งแรกเลย ก็นั่นละฮะท่านผู้ชม (เสียงพี่สรยุทธลอยมาเลยขรั่บบ) เดี๋ยวมาต่อนะฮะ
มหากาพย์ซ่อมโทรศัพท์ เปลี่ยนจอ 4 ครั้งใน 5 เดือน ซ่อมแล้วซ่อมอีก กับ Sony Xperia Z3
เกริ่นก่อนว่าผมเคยใช้ Samsung Galaxy S3 มาก่อน ใช้ไปตามประสา ร่วงบ้างไรบ้าง สักพักจอก็แตกเป็นธรรมดาของสมาร์ทโฟน ก็ทนๆใช้แบบแตกลายสวยงามตามสภาพไปเรื่อย แต่เมื่อมันถึงเวลา และแล้วมันก็ต้องไปครับ อย่างกับเพลง เกิดมาแค่รักกันเลยเชียว อิอิ
ตัดสินใจหาซื้อเครื่องใหม่ครับ ส่อง Sony ไว้อยู่นาน แนะนำเพื่อนซื้อไปคนนึงแล้วสำหรับ Z1 ก็ดูเข้าท่าดี ลองถามเพื่อนสนิทคนนึงบอกว่า ดีหมดยกเว้นศูนย์ซ่อม เราก็รับฟังตามปกติ แต่ในใจก้อคิดว่าเราคงไม่ได้ใช้บริการศูนย์เท่าไหร่ เพราะ S3 ที่ใช้ไม่เคยซ่อมเลยสักครั้ง ประกอบกับ Z3 นี้เพิ่งออกได้ไม่นาน ปรึกษากับพี่สาวแล้ว พี่สาวอนุมัติ ให้ยืมบัตรเครดิตมาผ่อน บอกพี่สาวว่าให้หักเงินเดือน (แต่หลังๆมาแอบเนียน พี่สาวลืม ไม่โดนหักเลยครัช อิอิ) ไปจัดมาทันทีครับ ช่วงนั้นน่าจะกลางๆเดือน พ.ย. ครับ เป็นที่ถูกอกถูกใจ เร็วปรี๊ดลื่นปรื้ด ลื่นจริงๆครับ ลื่นตกโต๊ะเลยใช้ได้ห้าวัน กระจกหลังร้าวคร่าาาา สบายใจได้ แอบนอย กลัวเคลมแล้วจะไม่กันน้ำเหมือนเดิม จะขายทิ้งเลย 5555555
เรื่องมันเริ่มตรงนี้ฮะ คือหลังจากตกครั้งนั้นยังใช้ได้ดีสักสามสี่วัน แล้วหลังจากนั้นอยู่ๆมันก็ทัชไม่ได้ครึ่งจอครับ ทัชได้แต่ด้านบน งานเข้าครัช ได้ใช้บริการศูนย์ไวม๊ากกกกกก 5555 ก็เลยติดต่อเคลมโดยค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเนี่ยแหละ ได้ความว่ามีสองศูนย์ แต่หลายท่านแนะนำ Loxley จัดการโทรไปเลยครับ คุยกับเจ้าหน้าที่ได้ความว่าเคลมได้แต่ต้องรออะไหล่ 1 เดือน โอ้วแม่เจ้าาาาาาา ทางLoxley ก็เลยแนะนำให้ถามศุนย์เพชรบุรี เพื่อเช็คอะไหล่ โทรสอบถามเบื้องต้น บอกว่ามีอะไหล่ รอซ่อม 10-15 วัน แต่ให้เข้ามาประเมิณอาจจะเคลมไม่ได้ เอ๊ะ !!! ทำไมพูดไม่เหมือนกัน แต่ด้วยเวลาที่ต่างกันโขจึงตัดสินใจถ่อจากรังสิตไปเข้าศูนย์เพชรบุรี เอาเครื่องไว้ตามขั้นตอนปกติ บอกรอแจ้ง 2-3 วัน โอเค ตามนั้น รอจนครบสามวันก็เงียบกริบ ด้วยความใจร้อนเลยโทรไปสอบถามก็ให้รออีกวันนึงครับ พอวันรุ่งขึ้นจำได้เลยว่าพนักงานโทรมาแจ้งว่าเครื่องตก ไม่สามารถเคลมได้ !!!! อ๊าวววววว อีตอนตกเนี่ยมันยังใช้ได้นะเฟร้ย มันมาพังหลังจากนั้นต่างหาก เลยตัดสินใจย้ายเข้าศูนย์ Loxley ครับ ถามพนักงานว่าเครื่องอยู่ไหนเพราะตอนแรกแจ้งว่าจะมารับเครื่องที่ลาดพร้าว พนักงานบอกอยู่ที่ศูนย์ให้เข้าไปเอาได้ วันรุ่งขึ้นก้อถ่อไปเอาเครื่องฮะ โอ้วชิทททท เครื่องดันไปอยู่ลาดพร้าว ตรูก้อไปซะไกล ตอนนั้นก็คิดว่าช่างมัน เป็นความเข้าใจผิดของพนักงาน ระหว่างกลับไปเอาเครื่องที่ลาดพร้าว ก้อไม่รู้ตึกรู้อะไร ลง MRT มาได้นั่งพี่วินบอกไปแถวๆตึกไทยรัฐ พี่วินบอก 50 บาท ด้วยความไม่รู้ก้อนั่งไป พอไปหน้าตึกไทยรัฐก้อบอกพี่วินจะไปเล้าเป้งง้วน พี่แกก้อย้อนมาส่งใกล้ๆ โอ้วแม่เจ้า แยกลาดพร้าวอยู่ด้านหน้า ใกล้แค่นี้ พี่จัดผม 50 บาท มันพีคตรงที่พอควักตังจ่ายในกระเป๋าตังเหลือเงิน 220 ครัช แล้วไอ้ค่าประเมิณเนี่ย 200 + vat7% = 214 บาท ในใจคิด ตรูจะกลับรังสิตยังไงฟระอยู่ตั้งลาดพร้าว พอจ่ายเสร็จไปเอาเครื่องแทบจะดิ้นตาย พี่ท่านไม่แกะเครื่องไม่ทำอะไรเลยครับ เห็นรอยร้าวด้านหลังของเครื่องแล้วไม่เคลมเลย (อันนี้ผมเดาเอานะ คือมันเนียนกริ๊บมาก) เสียดายค่าประเมิณจุงงงงง อ่ะ เซ็นรับเครื่องตามขั้นตอนปกติ ออกมานอกอาคารลมพัดหน้าร้อนผ่าว ไหนจะต้องเอาเครื่องไป Loxley แถมต้องกลับรังสิต ตังในกระเป๋าคือเศษ 6 บาทจากเงินทอน หน้านี่สั่น น้ำตาจะไหล แต่พอก้มมองที่นิ้ว ก็พบทางสว่างฮะ ดีใจแทบตีลังกาสามตลบ
.
.
พิมตั้งนานยังไม่ได้ซ่อมจอครั้งแรกเลย ก็นั่นละฮะท่านผู้ชม (เสียงพี่สรยุทธลอยมาเลยขรั่บบ) เดี๋ยวมาต่อนะฮะ