จากกระทู้ก่อนหน้านี้
http://ppantip.com/topic/33465194 เป็นหนี้ชีวิต..
ครั้งหนึ่งเราเคยทำงานเกี่ยวกับสังคมสงเคราะห์ค่ะ ช่วยเหลือเด็ก สตรี ที่ถูกกระทำความรุนแรงจากครอบครัว เราเป็นเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล เงินเดือน9พันกว่าๆ ไม่มีหน้าที่ต้องออกไปช่วยเหลือเด็กเลย เพราะเป็นหน้าที่ของนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ แต่เราได้ช่วยเหลือเด็กตอนที่ต้องรับเค้ามาพักกับหน่วยงานของเรา อย่างเช่น พ่อข่มขืนลูก เราจึงต้องแยกเด็กออกมา เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับพ่อให้จบเรื่อง และฟื้นฟูจิตใจเด็กเหล่านั้น ช่วงเวลานั้นแหละค่ะ ที่เราได้ทำบุญกับเค้า เงินเดือนเราไม่สูงมาก แต่เราก็คอยซื้อขนมมาแบ่งเด็กๆ เอาเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้ว มาให้บ้าง หรือไม่ก็ช่วยสอนหนังสือให้กับเด็กเหล่านั้น มีปัญหาที่เราได้เห็นมากมายค่ะ อย่างเช่น แม่บังคับให้ลูกอายุ 15 ขายตัวก็มี เด็ก 2 ขวบ ถูกทิ้งที่ศาลาริมทาง เพราะพ่อแม่วัยรุ่นทะเลาะกันก็มีค่ะ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนชีวิตเราทุกวันนี้ค่ะ ตอนนี้เรามีหนี้สินตอนแต่งงานค่ะ เพราะเรากับแฟนช่วยกันเก็บเงินแต่งงาน เรามีลูกน่ารักๆ 3 เดือน เราไม่ถึงกับลำบากมาก พอกินพอใช้หนี้ แต่ก็อยากเลี้ยงลูกของเราให้ดีที่สุด ให้เค้าอยู่สบาย และได้รับความรักจากพ่อแม่ค่ะ
ถึงเรามีหนี้สิน แต่เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร เสื้อผ้าลูก ของใช้ลูก เราได้รับบริจาคมาจากญาติพี่น้อง หรือเพื่อนๆ ของเราเองค่ะ แพมเพิส ลุงซื้อให้บ้าง พี่ชายซื้อให้บ้าง เพราะทุกคนพอเข้าใจว่าเรามีภาระหนี้สิน และเราก็อยากช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องให้พ่อแม่มาเดือนร้อนในหนี้สินของเราค่ะ
เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรารู้ว่า เราทำบุญไว้เช่นไร เราก็ได้ตอบแทนผลบุญเช่นนั้นค่ะ ถึงช่วงที่เราจะลำบาก เราก็ยังไม่ตาย ยังอยู่ได้เพราะมีคนรอบข้างคอยเข้าใจและช่วยเหลือเราค่ะ
หากช่วงเวลาที่มีก็แบ่งปันกันไปค่ะ ถึงเวลาหนึ่งที่เราลำบากเราจะรับรู้ได้เองค่ะ ว่าชีวิตไม่มีสิ้นหวังค่ะ
ประสบการณ์ >>ได้ทำบุญ กับคนที่ด้อยโอกาศกว่า มีผลจนทุกวันนี้..
ครั้งหนึ่งเราเคยทำงานเกี่ยวกับสังคมสงเคราะห์ค่ะ ช่วยเหลือเด็ก สตรี ที่ถูกกระทำความรุนแรงจากครอบครัว เราเป็นเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล เงินเดือน9พันกว่าๆ ไม่มีหน้าที่ต้องออกไปช่วยเหลือเด็กเลย เพราะเป็นหน้าที่ของนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ แต่เราได้ช่วยเหลือเด็กตอนที่ต้องรับเค้ามาพักกับหน่วยงานของเรา อย่างเช่น พ่อข่มขืนลูก เราจึงต้องแยกเด็กออกมา เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับพ่อให้จบเรื่อง และฟื้นฟูจิตใจเด็กเหล่านั้น ช่วงเวลานั้นแหละค่ะ ที่เราได้ทำบุญกับเค้า เงินเดือนเราไม่สูงมาก แต่เราก็คอยซื้อขนมมาแบ่งเด็กๆ เอาเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้ว มาให้บ้าง หรือไม่ก็ช่วยสอนหนังสือให้กับเด็กเหล่านั้น มีปัญหาที่เราได้เห็นมากมายค่ะ อย่างเช่น แม่บังคับให้ลูกอายุ 15 ขายตัวก็มี เด็ก 2 ขวบ ถูกทิ้งที่ศาลาริมทาง เพราะพ่อแม่วัยรุ่นทะเลาะกันก็มีค่ะ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนชีวิตเราทุกวันนี้ค่ะ ตอนนี้เรามีหนี้สินตอนแต่งงานค่ะ เพราะเรากับแฟนช่วยกันเก็บเงินแต่งงาน เรามีลูกน่ารักๆ 3 เดือน เราไม่ถึงกับลำบากมาก พอกินพอใช้หนี้ แต่ก็อยากเลี้ยงลูกของเราให้ดีที่สุด ให้เค้าอยู่สบาย และได้รับความรักจากพ่อแม่ค่ะ
ถึงเรามีหนี้สิน แต่เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร เสื้อผ้าลูก ของใช้ลูก เราได้รับบริจาคมาจากญาติพี่น้อง หรือเพื่อนๆ ของเราเองค่ะ แพมเพิส ลุงซื้อให้บ้าง พี่ชายซื้อให้บ้าง เพราะทุกคนพอเข้าใจว่าเรามีภาระหนี้สิน และเราก็อยากช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องให้พ่อแม่มาเดือนร้อนในหนี้สินของเราค่ะ
เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรารู้ว่า เราทำบุญไว้เช่นไร เราก็ได้ตอบแทนผลบุญเช่นนั้นค่ะ ถึงช่วงที่เราจะลำบาก เราก็ยังไม่ตาย ยังอยู่ได้เพราะมีคนรอบข้างคอยเข้าใจและช่วยเหลือเราค่ะ
หากช่วงเวลาที่มีก็แบ่งปันกันไปค่ะ ถึงเวลาหนึ่งที่เราลำบากเราจะรับรู้ได้เองค่ะ ว่าชีวิตไม่มีสิ้นหวังค่ะ