ก่อนจะว่าเรื่องอื่น
ต้องยอมรับความจริงก่อนว่า ภาพการแต่งชุดไทยนั้น เจ้าตัวมี "เจตนา" เผยแพร่เพื่อ
รณรงค์อนุรักษ์วิถีไทย ใช่ไหม ???
หากยอมรับตรงนี้ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นในการพิจารณาเนื้อหาของเรื่องราว
เรื่องนี้
เห็นหลาย ๆ คน ด่า อ.ปวินว่า บอกตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วทำไมไม่เคารพสิทธิคนอื่น
หลายคนก็บอกว่า เขาจะใส่ชุดอะไรก็เรื่องของเขา เขาจะกินอะไรก็เรื่องของเขา
บางคนถึงขนาดว่า จะกินอาหารป่า ไม่ต้องแต่งชุดทาร์ซานเร๊อะ
ไปโน่นเลย
ประเด็นมันนิดเดียวครับ
คือเมื่อคุณรณรงค์ ชักชวนคนอื่นให้ร่วมอนุรักษ์วิถีไทย ด้วยการแต่งชุดไทย
ในบริบทนั้น ตัวคุณก็ควรมี "พฤติกรรม" ตามวิถีไทยด้วย
ไม่ใช่รณรงค์ไป ชวนคนอื่นไป แล้วดันมีการกระทำอันเป็นวิถีฝรั่ง มันย้อนแย้ง
หากคุณจะเป็นไทย ก็ควรเป็นทั้งภายในและภายนอก
ไม่ใช่แค่เอาชุดไทยมาหุ้มเป็นเปลือก
ยิ่งมีเด็กร่วมอยู่ด้วยนี่ เสียหายครับ เพราะเด็กจะรับ "วัฒนธรรมกระแดะ" เข้าไปโดยไม่รู้ตัว
เรื่องสิทธิเสรภาพก็เรื่องหนึ่ง เรื่องพฤติกรรมการแสดงออกอันย้อนแย้งก็เรื่องหนึ่ง
ต้องแยกแยะให้ออก ไม่ใช่ไม่แยกแยะ เอาแต่ใช้ตรรกะบวม ๆ มาเถียงเอาชนะคะคาน
จะแต่งชุดอะไร กินอะไรก็เรื่องหนึ่ง แต่เมื่อชวนอนุรักษ์ไทยแล้วกลับมีพฤติกรรมฝรั่ง มันย้อนแย้ง
สังคมไทยนั้น หารากเหง้าไม่เจอครับ มองดูรอบ ๆ ตัวสิ มีอะไรที่เป็น "ไทย" บ้าง
ไม่ว่าทางด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต วัตถุ และหามองให้ลึก ความเป็นไทยเราแทบไม่มีเป็นของตัวเอง
ยืมเขามา รับเขามาทั้งนั้น ไม่ว่าจากเขมร แขก ฝรั่ง จีน
ที่เป็นของไทยแท้ ๆ แทบจะเลือนหายไปหมด แทบไม่มีเหลือ และหากมีเหลือก็แทบไม่มีคุณค่า
อย่างเรื่องชื่อ ชื่อที่เป็นไทยแท้ ๆ กลายเป็นชื่อหมาชื่อแมวไปหมดแล้ว หายากที่จะเป็นชื่อคน
แดง ดำ ชื่อหมาชื่อแมวทั้งนั้น ส่วนชื่อคน ต้องแม็ค ต้องเบิร์ด ถึงจะเท่
และคำไทยแท้ ๆ ส่วนใหญ่ โดนหาว่าเป็นคำหยาบไปซะทั้งนั้น
หากมีโสเภณีสักคน แต่งชุดไทยไปยืนโบกรถหากิน มีหวังเธอโดนด่าแหลก
เธอจะไม่มีสิทธิอ้างเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคลแม้แต่นิดเดียว
แต่หากจะมีใครแต่งชุดไทยไปกินอาหารฝรั่ง กินอาการอิตาลี คน ๆ นั้น จะมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลเต็มที่
นี่คือวัฒนธรรมกระแดะที่ฝังรากลึกในสังคมไทย
มันไม่ใช่เรื่องสิทธิส่วนตัวว่าแต่งชุดอะไร กินอะไร หนักหัวใคร
แต่ประเด็นคือ ทำตัวรณรงค์อนุรักษ์วิถีไทย แล้วทำไมวิถีที่เป็นดันเป็นวิถีฝรั่ง
เป็นเรื่องทางสังคมครับ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ปล. อ.ปวิน ครับ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงข้อเขียนของคุณคำ ผกาเรื่องหนึ่งนานมาแล้ว
เป็นเรื่องราวทำนองว่า คุณคำ ผกา เถียงกับเด็กศิลปากรเรื่องวัฒนธรรมไทย ศิลปะไทย ยกตัวอย่างศิลปินไทยมาเถียงกัน
เด็กศิลปากรอ้างถึง อ.ศิลป์ พีระศรี เถียงกับคุณคำ ผกา เถียงกันไปเถียงกันมา
คุณคำ ผกา ก็นึกขึ้นได้ว่า แล้วตูจะไปเถียงกับมันทำไมฟร่ะ
ศิลป์ พีระศรี น่ะ คนไทยซะที่ไหน อิตาลีแท้ ๆ
งง ๆ แฮะ เรื่องแต่งชุดไทยกินไก่ทอดฝรั่งนี่ มันเกี่ยวกับเรื่องสิทธิส่วนตัวตรงไหน เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น
ต้องยอมรับความจริงก่อนว่า ภาพการแต่งชุดไทยนั้น เจ้าตัวมี "เจตนา" เผยแพร่เพื่อรณรงค์อนุรักษ์วิถีไทย ใช่ไหม ???
หากยอมรับตรงนี้ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นในการพิจารณาเนื้อหาของเรื่องราว
เรื่องนี้
เห็นหลาย ๆ คน ด่า อ.ปวินว่า บอกตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วทำไมไม่เคารพสิทธิคนอื่น
หลายคนก็บอกว่า เขาจะใส่ชุดอะไรก็เรื่องของเขา เขาจะกินอะไรก็เรื่องของเขา
บางคนถึงขนาดว่า จะกินอาหารป่า ไม่ต้องแต่งชุดทาร์ซานเร๊อะ
ไปโน่นเลย
ประเด็นมันนิดเดียวครับ
คือเมื่อคุณรณรงค์ ชักชวนคนอื่นให้ร่วมอนุรักษ์วิถีไทย ด้วยการแต่งชุดไทย
ในบริบทนั้น ตัวคุณก็ควรมี "พฤติกรรม" ตามวิถีไทยด้วย
ไม่ใช่รณรงค์ไป ชวนคนอื่นไป แล้วดันมีการกระทำอันเป็นวิถีฝรั่ง มันย้อนแย้ง
หากคุณจะเป็นไทย ก็ควรเป็นทั้งภายในและภายนอก
ไม่ใช่แค่เอาชุดไทยมาหุ้มเป็นเปลือก
ยิ่งมีเด็กร่วมอยู่ด้วยนี่ เสียหายครับ เพราะเด็กจะรับ "วัฒนธรรมกระแดะ" เข้าไปโดยไม่รู้ตัว
เรื่องสิทธิเสรภาพก็เรื่องหนึ่ง เรื่องพฤติกรรมการแสดงออกอันย้อนแย้งก็เรื่องหนึ่ง
ต้องแยกแยะให้ออก ไม่ใช่ไม่แยกแยะ เอาแต่ใช้ตรรกะบวม ๆ มาเถียงเอาชนะคะคาน
จะแต่งชุดอะไร กินอะไรก็เรื่องหนึ่ง แต่เมื่อชวนอนุรักษ์ไทยแล้วกลับมีพฤติกรรมฝรั่ง มันย้อนแย้ง
สังคมไทยนั้น หารากเหง้าไม่เจอครับ มองดูรอบ ๆ ตัวสิ มีอะไรที่เป็น "ไทย" บ้าง
ไม่ว่าทางด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต วัตถุ และหามองให้ลึก ความเป็นไทยเราแทบไม่มีเป็นของตัวเอง
ยืมเขามา รับเขามาทั้งนั้น ไม่ว่าจากเขมร แขก ฝรั่ง จีน
ที่เป็นของไทยแท้ ๆ แทบจะเลือนหายไปหมด แทบไม่มีเหลือ และหากมีเหลือก็แทบไม่มีคุณค่า
อย่างเรื่องชื่อ ชื่อที่เป็นไทยแท้ ๆ กลายเป็นชื่อหมาชื่อแมวไปหมดแล้ว หายากที่จะเป็นชื่อคน
แดง ดำ ชื่อหมาชื่อแมวทั้งนั้น ส่วนชื่อคน ต้องแม็ค ต้องเบิร์ด ถึงจะเท่
และคำไทยแท้ ๆ ส่วนใหญ่ โดนหาว่าเป็นคำหยาบไปซะทั้งนั้น
หากมีโสเภณีสักคน แต่งชุดไทยไปยืนโบกรถหากิน มีหวังเธอโดนด่าแหลก
เธอจะไม่มีสิทธิอ้างเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคลแม้แต่นิดเดียว
แต่หากจะมีใครแต่งชุดไทยไปกินอาหารฝรั่ง กินอาการอิตาลี คน ๆ นั้น จะมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลเต็มที่
นี่คือวัฒนธรรมกระแดะที่ฝังรากลึกในสังคมไทย
มันไม่ใช่เรื่องสิทธิส่วนตัวว่าแต่งชุดอะไร กินอะไร หนักหัวใคร
แต่ประเด็นคือ ทำตัวรณรงค์อนุรักษ์วิถีไทย แล้วทำไมวิถีที่เป็นดันเป็นวิถีฝรั่ง
เป็นเรื่องทางสังคมครับ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ปล. อ.ปวิน ครับ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงข้อเขียนของคุณคำ ผกาเรื่องหนึ่งนานมาแล้ว
เป็นเรื่องราวทำนองว่า คุณคำ ผกา เถียงกับเด็กศิลปากรเรื่องวัฒนธรรมไทย ศิลปะไทย ยกตัวอย่างศิลปินไทยมาเถียงกัน
เด็กศิลปากรอ้างถึง อ.ศิลป์ พีระศรี เถียงกับคุณคำ ผกา เถียงกันไปเถียงกันมา
คุณคำ ผกา ก็นึกขึ้นได้ว่า แล้วตูจะไปเถียงกับมันทำไมฟร่ะ
ศิลป์ พีระศรี น่ะ คนไทยซะที่ไหน อิตาลีแท้ ๆ