กระต่ายเปลี่ยวมารายงานตัวอีกแล้วนะครับ ตามสัญญากับฮอกไกโด เทศกาลหิมะ ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นการย้อนอดีตเล่าไปตอนปี 2014 เดือนกุมภาพันธ์ครับ เป็นช่วงการเดินทางแบบเตรียมตัวประมาณเดือน ธันวาคม คิดว่าปีนี้จะไปเที่ยวไหนดี หันมองรูปภาพเจอคลองโอตารุ แล้วก็คิดว่านี่แหละที่ช้านนนนจะไป แต่ขึ้นชื่อว่าเทศกาลใหญ่ขนาดนี้ แล้วตั๋วกับที่พักเอาไงดีละเนี่ยะ
ถึงแม้ผมจะไปญี่ปุ่นบ่อยๆ แต่ก็หัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่จะออกเดินทาง ฮอกไกโด เป็นอะไรที่นึกภาพไม่ออกจริง ผมเลยตัดสินใจไปที่ H.I.S. สาขาอโศก ด้อมมองๆ เดินเข้าไปสอบถาม ต้องบอกพนักงานน่ารักมากครับในการให้คำอธิบายอย่างดี พร้อมช่วยหาตั๋วเครื่องบินให้อย่างเร็วและมีคำแนะนำที่ดีมาก สรุปเราได้สายการบิน Air China ราคาไม่แพงมากนัก แวะปักกิ่ง 2 ชม.
จุดมุ่งหมายแรกคืออยากไปที่ซัปโปโรก่อน แต่เนื่องจากเป็นช่วง Peak สุดๆ จริง ที่พักเต็มเอี้ยด ส่วนอีกหลายๆ ที่ค่อนข้างแพงเกือบจะถอดใจ แต่พนักงานก็ค่อยๆ ช่วยวางแพลนว่า ถ้าเป็นที่ฮาโกะดาเตะสัก 2 คืน แล้วค่อยไปต่อซัปโปโร แบบนี้พอไหวและยังทันเทศกาลหิมะ ตอนนั้นแค่คิดว่าได้ประมาณนี้ก็โอเคแล้ว แต่ก็อยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย ว่าแต่มีที่ไหนแนะนำอีกบ้างมั้ยเนี่ยะ ทางเจ้าหน้าที่ก็มีแนะนำอีก 2-3 ที่ เลยทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า จุดหมายที่จะไปต่อคือ โทยะ และโนโบริเบทซึ ถึงแม้ว่าต้องนั่งรถย้อนมาที่ฮาโกะดาเตะก่อน แล้วค่อยกลับไปซัปโปโร แต่เวลานี้คิดว่าถ้าไม่จองก็คงไม่ทันแน่ๆ เป็นไงเป็นกันเลือกแล้วก็ต้อง Go On
ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่ยาว ผมอยู่ช่วงตรงกลางและทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูมิภาคนี้ ซึ่งท่องเที่ยวประมาณ 7-8 วันแบบเต็มอิ่มบอกตรงๆ ว่ายังไม่หมด เพราะถ้าใช้เวลาจริงๆ ญี่ปุ่นก็มีอะไรให้ได้ค้นหาตลอด
แอร์ไชน่าก็ถือว่ามาตรฐานแบบพอใช้ได้ อาจจะไม่ได้ใหม่มากครับ สำหรับตอนแวะเปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่ง ตอนรอ ตม.เพื่อเปลี่ยนเครื่องก็งงอยู่เหมือนกันเพราะดูแล้ว เจ้าหน้าที่ก็หน้าบึ้งๆ คุยไม่รู้เรื่อง ป้ายก็ไม่ค่อยเคลียร์ อาจจะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ที่คนบอกว่าสนามบินปักกิ่งกว้าง ผมว่าสุวรรณภูมินี่แหละกว้างและเดินไกลว่าเยอะ ถ้าเจอรถที่คอยรับส่งห้ามขึ้นนะครับ เพราะเค้าจะคิดตังค์เรา แต่ก็จะหลอกล่อเราว่าไกลนะ บรา บรา บรา ถ้าเราเดินไปเกทในสุวรรณภูมิได้แล้วที่นี่จิ๊บๆ ครับ
หลังจากที่รอเปลี่ยนเครื่อง ก็นั่งหลับรอบนเครื่องตามปกติ ผ่านไป 1 ชม. ตื่นมาแล้วก็โอ้ว....เครื่องจอดนิ่ง ซวยละ เพราะตรูเล่นหลับซะเต็มคราบแล้วอยู่บนเครื่องมันจะไปนอนหลับลงได้อย่างไร อ้อ...Late ทั้งขาไปและขากลับครับคุณผู้ชม ในที่สุดถึงสนามบินนิวชิโตเซะ ฮอกไกโด ความมันส์ก็เกิดขึ้นเพราะตอนที่เราต้องไปจัดการเรื่องตั๋วรถไฟ เนื่องจากวางแผนไว้แล้วว่าถ้าลงเครื่องต้องเป็นรอบนี้ โอเคยังพอทันอยู่ แต่เมื่อถึงด้านล่างตรงที่จองตั๋ว ความหายนะที่เห็นคือคิวจ้าาาาา คนนี่โคตะระเยอะไปไหน ทำให้เสียเวลาในการจองตั๋วไป 40 นาที พร้อมกับลุ้นด้วยว่าจะทันรถด่วนขบวนสุดท้ายกันม้าย
หลังจากผ่านวิกฤต...เวลาที่เหลือก็เดินเล่นที่สนามบิน ซึ่งมีของหลอกล่อเราเยอะแยะมากมายทั้ง โดเรมอน มิวซิว, Royce และมีอะไรจุ๊กจิ๊กอีกเยอะ แต่เสียเงินค่าเข้านะครับผม เห็นมั้ยว่าการวางแผนดีขนาดไหนแต่แผน B เราก็ควรต้องสำรองไว้ให้ดีด้วย เกริ่นกันไปเยอะแล้ว เดี๋ยวกระต่ายเปลี่ยนจะค่อยๆ อัพเดททริปการเดินทางพร้อมรูปกันเรื่อยๆ ติดตามกันได้ แต่สำหรับตอนนี้เอารูปขาปูที่ยักษ์ ตลาดปลา ฮาโกะดาเตะมาฝากให้ชมเป็นรูปแรกก็แล้วกันนะคราบผม
เตรียมตัวกับการอัพเดทภาพอาหารตระการตาราคาทู้กกกถูกกกก เดี๋ยวมีเวลาอัพให้ชมกันนะครับ
กระต่ายเปลี่ยวเที่ยวฮอกไกโด (ฮาโกะดาเตะ ซัปโปโร โอตารุ โทยะ โนโบริเบทซึ)
ถึงแม้ผมจะไปญี่ปุ่นบ่อยๆ แต่ก็หัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่จะออกเดินทาง ฮอกไกโด เป็นอะไรที่นึกภาพไม่ออกจริง ผมเลยตัดสินใจไปที่ H.I.S. สาขาอโศก ด้อมมองๆ เดินเข้าไปสอบถาม ต้องบอกพนักงานน่ารักมากครับในการให้คำอธิบายอย่างดี พร้อมช่วยหาตั๋วเครื่องบินให้อย่างเร็วและมีคำแนะนำที่ดีมาก สรุปเราได้สายการบิน Air China ราคาไม่แพงมากนัก แวะปักกิ่ง 2 ชม.
จุดมุ่งหมายแรกคืออยากไปที่ซัปโปโรก่อน แต่เนื่องจากเป็นช่วง Peak สุดๆ จริง ที่พักเต็มเอี้ยด ส่วนอีกหลายๆ ที่ค่อนข้างแพงเกือบจะถอดใจ แต่พนักงานก็ค่อยๆ ช่วยวางแพลนว่า ถ้าเป็นที่ฮาโกะดาเตะสัก 2 คืน แล้วค่อยไปต่อซัปโปโร แบบนี้พอไหวและยังทันเทศกาลหิมะ ตอนนั้นแค่คิดว่าได้ประมาณนี้ก็โอเคแล้ว แต่ก็อยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย ว่าแต่มีที่ไหนแนะนำอีกบ้างมั้ยเนี่ยะ ทางเจ้าหน้าที่ก็มีแนะนำอีก 2-3 ที่ เลยทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า จุดหมายที่จะไปต่อคือ โทยะ และโนโบริเบทซึ ถึงแม้ว่าต้องนั่งรถย้อนมาที่ฮาโกะดาเตะก่อน แล้วค่อยกลับไปซัปโปโร แต่เวลานี้คิดว่าถ้าไม่จองก็คงไม่ทันแน่ๆ เป็นไงเป็นกันเลือกแล้วก็ต้อง Go On
ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่ยาว ผมอยู่ช่วงตรงกลางและทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูมิภาคนี้ ซึ่งท่องเที่ยวประมาณ 7-8 วันแบบเต็มอิ่มบอกตรงๆ ว่ายังไม่หมด เพราะถ้าใช้เวลาจริงๆ ญี่ปุ่นก็มีอะไรให้ได้ค้นหาตลอด
แอร์ไชน่าก็ถือว่ามาตรฐานแบบพอใช้ได้ อาจจะไม่ได้ใหม่มากครับ สำหรับตอนแวะเปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่ง ตอนรอ ตม.เพื่อเปลี่ยนเครื่องก็งงอยู่เหมือนกันเพราะดูแล้ว เจ้าหน้าที่ก็หน้าบึ้งๆ คุยไม่รู้เรื่อง ป้ายก็ไม่ค่อยเคลียร์ อาจจะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ที่คนบอกว่าสนามบินปักกิ่งกว้าง ผมว่าสุวรรณภูมินี่แหละกว้างและเดินไกลว่าเยอะ ถ้าเจอรถที่คอยรับส่งห้ามขึ้นนะครับ เพราะเค้าจะคิดตังค์เรา แต่ก็จะหลอกล่อเราว่าไกลนะ บรา บรา บรา ถ้าเราเดินไปเกทในสุวรรณภูมิได้แล้วที่นี่จิ๊บๆ ครับ
หลังจากที่รอเปลี่ยนเครื่อง ก็นั่งหลับรอบนเครื่องตามปกติ ผ่านไป 1 ชม. ตื่นมาแล้วก็โอ้ว....เครื่องจอดนิ่ง ซวยละ เพราะตรูเล่นหลับซะเต็มคราบแล้วอยู่บนเครื่องมันจะไปนอนหลับลงได้อย่างไร อ้อ...Late ทั้งขาไปและขากลับครับคุณผู้ชม ในที่สุดถึงสนามบินนิวชิโตเซะ ฮอกไกโด ความมันส์ก็เกิดขึ้นเพราะตอนที่เราต้องไปจัดการเรื่องตั๋วรถไฟ เนื่องจากวางแผนไว้แล้วว่าถ้าลงเครื่องต้องเป็นรอบนี้ โอเคยังพอทันอยู่ แต่เมื่อถึงด้านล่างตรงที่จองตั๋ว ความหายนะที่เห็นคือคิวจ้าาาาา คนนี่โคตะระเยอะไปไหน ทำให้เสียเวลาในการจองตั๋วไป 40 นาที พร้อมกับลุ้นด้วยว่าจะทันรถด่วนขบวนสุดท้ายกันม้าย
หลังจากผ่านวิกฤต...เวลาที่เหลือก็เดินเล่นที่สนามบิน ซึ่งมีของหลอกล่อเราเยอะแยะมากมายทั้ง โดเรมอน มิวซิว, Royce และมีอะไรจุ๊กจิ๊กอีกเยอะ แต่เสียเงินค่าเข้านะครับผม เห็นมั้ยว่าการวางแผนดีขนาดไหนแต่แผน B เราก็ควรต้องสำรองไว้ให้ดีด้วย เกริ่นกันไปเยอะแล้ว เดี๋ยวกระต่ายเปลี่ยนจะค่อยๆ อัพเดททริปการเดินทางพร้อมรูปกันเรื่อยๆ ติดตามกันได้ แต่สำหรับตอนนี้เอารูปขาปูที่ยักษ์ ตลาดปลา ฮาโกะดาเตะมาฝากให้ชมเป็นรูปแรกก็แล้วกันนะคราบผม
เตรียมตัวกับการอัพเดทภาพอาหารตระการตาราคาทู้กกกถูกกกก เดี๋ยวมีเวลาอัพให้ชมกันนะครับ