คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 34
หนุ่มเบญจเพศซิ่งบิ๊กไบค์ชน "นศ.วิศวะ" ดับอนาถ
วันที่ 4 เม.ย.58 เมื่อเวลา 02.00
http://www.komchadluek.net/detail/20150404/204170.html
วันที่ 4 เม.ย.58 เมื่อเวลา 02.00
http://www.komchadluek.net/detail/20150404/204170.html
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าลดเรื่องขับขี่เร็ว ในที่ที่ไม่ควรขับขี่เร็ว อุบัติเหตุแบบนี้จะลดน้อยลงเยอะ เพราะรถพวกนี้ ทั้งแรงและเร็ว
ส่วนใหญ่จะเป็นมือใหม่หรือวัยแรงที่คึกคะนอง(ไม่ได้ว่าเหมาทั้งหมดนะครับ) ที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความคึกคะนอง รวมทั้งควบคุมสมรรถนะของรถที่มีสูงๆได้ พอได้รถแรงๆ ซัดกันตะพึด ในชุมชน ทางร่วม ทางแยก ถนนที่การจราจรคับคั่งก็ขับกันเร็วๆ ถึงเร็วมากๆ ขึ้นเขา เข้าโค้งก็สาดกันเต็มๆโอกาสพลาดก็จะมากขึ้น
ผมขับรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่มาตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบัน ช่วงที่เริ่มขับปีแรกๆ ก็มีคนที่อยู่ในวัยเดียวกันหรือเริ่มพร้อมๆกัน ขับรถคึกคะนองและประมาทแบบนี้เช่นกัน
ปัจจุบัน พรรคพวกคนรุ่นเดียวกับผมที่ยังขับรถมอเตอร์ใหญ่กันอยู่ ก็ไม่เคยมีใครประสบอุบัติเหตุเหล่านี้แบบนี้เลย ยังคงอยู่รอดปลอดภัยกันทุกคน
ถามว่า คนรุ่นผมไม่มีรถขับรถแบบนี้เลยหรือ ตอบได้ว่าในตอนนั้นมีครับ แต่อยู่ไม่ถึงเพราะลาโลกไปก่อน หรือพิการหรือเจ็บแล้วเลิกไปเกือบหมด
ท่านที่เริ่มขับขี่กันใหม่แค่ปีแรก หรือปีสองปี ถ้าท่านขับขี่ด้วยความไม่ประมาท ไม่คึกคะนอง เคารพกฎจราจร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้เกียรติผู้ร่วมทาง ประพฤติปฏิบัติตนเป็นสุภาพบุรุษ ท่านจะมีชีวิตยืนยาว ขับรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ไปได้เรื่อยๆครับ จนกว่าจะหมดแรงขี่เอง
เคยมีน้องๆมาถามกลุ่มผม(ขอยอมรับว่าอาวุโสทางวัยแต่ไม่ยอมแก่)ว่า สมัยพี่ๆอยู่ในช่วงวัยรุ่นวัยฉกรรจ์ มีคนขับรถเกรียนๆแบบนี้ หรือมีคนที่ขับรถคึกคะนองแบบนี้ หรือมีคนที่ประสบอุบัติเหตุแรงๆแบบที่เป็นข่าวบ่อยๆเหมือนตอนนี้ไหมครับ ก็ตอบไปว่า มีครับเขาจึงอยู่ไม่ถึงจนอายุเท่าพวกผมไง
เจอขนาด เอารถสปอร์ตตัวแข่ง ยางสลิค มายกล้อตอนฝนตกพรำๆ ในเชียงกงปทุมวัน แล้วแฉลบเข้าร้านในซอย ตัวเองเจ็บข้าวของในร้านของคนอื่นพังไปเยอะก็มี สมัยนั้นก็มีขี่เกรียนๆกันขนาดนั้น และหลังจากนั้นสองปีเขาผู้นั้นก็จากไป ด้วยอุบัติเหตุแหกโค้งแถวๆเมืองกาญจน์ฯ
ดังนั้นจะเป็นวัฏจักรครับ คนที่เริ่มขับใหม่ในวันนี้ เมื่อเวลาผ่านไปๆ จะมีทั้งที่ขี่นาน จนเบื่อ จนหมดแรง กับคนตายไปก่อนจากอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาท ซวยและคึกคะนองเกินเหตุ
ส่วนใหญ่จะเป็นมือใหม่หรือวัยแรงที่คึกคะนอง(ไม่ได้ว่าเหมาทั้งหมดนะครับ) ที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความคึกคะนอง รวมทั้งควบคุมสมรรถนะของรถที่มีสูงๆได้ พอได้รถแรงๆ ซัดกันตะพึด ในชุมชน ทางร่วม ทางแยก ถนนที่การจราจรคับคั่งก็ขับกันเร็วๆ ถึงเร็วมากๆ ขึ้นเขา เข้าโค้งก็สาดกันเต็มๆโอกาสพลาดก็จะมากขึ้น
ผมขับรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่มาตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบัน ช่วงที่เริ่มขับปีแรกๆ ก็มีคนที่อยู่ในวัยเดียวกันหรือเริ่มพร้อมๆกัน ขับรถคึกคะนองและประมาทแบบนี้เช่นกัน
ปัจจุบัน พรรคพวกคนรุ่นเดียวกับผมที่ยังขับรถมอเตอร์ใหญ่กันอยู่ ก็ไม่เคยมีใครประสบอุบัติเหตุเหล่านี้แบบนี้เลย ยังคงอยู่รอดปลอดภัยกันทุกคน
ถามว่า คนรุ่นผมไม่มีรถขับรถแบบนี้เลยหรือ ตอบได้ว่าในตอนนั้นมีครับ แต่อยู่ไม่ถึงเพราะลาโลกไปก่อน หรือพิการหรือเจ็บแล้วเลิกไปเกือบหมด
ท่านที่เริ่มขับขี่กันใหม่แค่ปีแรก หรือปีสองปี ถ้าท่านขับขี่ด้วยความไม่ประมาท ไม่คึกคะนอง เคารพกฎจราจร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้เกียรติผู้ร่วมทาง ประพฤติปฏิบัติตนเป็นสุภาพบุรุษ ท่านจะมีชีวิตยืนยาว ขับรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ไปได้เรื่อยๆครับ จนกว่าจะหมดแรงขี่เอง
เคยมีน้องๆมาถามกลุ่มผม(ขอยอมรับว่าอาวุโสทางวัยแต่ไม่ยอมแก่)ว่า สมัยพี่ๆอยู่ในช่วงวัยรุ่นวัยฉกรรจ์ มีคนขับรถเกรียนๆแบบนี้ หรือมีคนที่ขับรถคึกคะนองแบบนี้ หรือมีคนที่ประสบอุบัติเหตุแรงๆแบบที่เป็นข่าวบ่อยๆเหมือนตอนนี้ไหมครับ ก็ตอบไปว่า มีครับเขาจึงอยู่ไม่ถึงจนอายุเท่าพวกผมไง
เจอขนาด เอารถสปอร์ตตัวแข่ง ยางสลิค มายกล้อตอนฝนตกพรำๆ ในเชียงกงปทุมวัน แล้วแฉลบเข้าร้านในซอย ตัวเองเจ็บข้าวของในร้านของคนอื่นพังไปเยอะก็มี สมัยนั้นก็มีขี่เกรียนๆกันขนาดนั้น และหลังจากนั้นสองปีเขาผู้นั้นก็จากไป ด้วยอุบัติเหตุแหกโค้งแถวๆเมืองกาญจน์ฯ
ดังนั้นจะเป็นวัฏจักรครับ คนที่เริ่มขับใหม่ในวันนี้ เมื่อเวลาผ่านไปๆ จะมีทั้งที่ขี่นาน จนเบื่อ จนหมดแรง กับคนตายไปก่อนจากอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาท ซวยและคึกคะนองเกินเหตุ
แสดงความคิดเห็น
ช่วงนี้เห็นข่าวพวกนี้ถี่มาก ขับบิ๊กไบท์ ชนรถบรรทุก/แหกโค้ง ตาย ร่างเละ รถแหลก ทำไม เพราะอะไร