มีตาแก่ๆ คนหนึ่ง อายุ 99แล้วละ เคยเล่าให้ผมฟัง แกรู้จักเด็กผู้ชายสองคน เห็นชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย น่าสนใจ เด็กสองคนชื่อไอ้แดง กับชื่อไอ้จิต กำพร้าทั้งคู่ ไอ้แดงมีความจำดี ไอ้จิตจะออกแนวซื่อๆ ไม่ได้เรียนหนังสือทั้งคู่ มันสนิทกัน โตมาด้วยกัน สองคนจะตามตาแกไปวัดทุกวัน วันหนึ่งไอ้สองคนนี่มันมาถามตาว่า พาผมไปบวชเณรได้มั้ย แกก็ถามกลับ ว่าทำไมละ มันบอก เห็นเขามีของกินเยอะดี มันอยากกิน อยู่อย่างงี้ ไม่ค่อยมีอะไรให้กิน ตาก็พาไปบวชที่วัดใกล้ๆบ้าน ที่นั่นมีหลวงตาแก่ๆ อยู่กันสองรูป ไม่มีใครเข้าไปวุ่นวายมาก สภาพวัดก็เป็นแบบเก่าๆ ในชายป่า สองคนก็บวชอยู่นั่น จนเป็นพระอยู่ที่วัดนั้น ตาแกบอกว่าพระแดงชอบเรียน พระจิตชอบเก็บตัวเงียบๆ พระแดงย้ายไปเรียนที่วัดในเมือง พระจิตอยู่ที่เดิม จนเวลาพ่านไปหลายสิบปี พระจิตอยู่วัดนั้นองค์เดียว เพราะหลวงตาสองรูปมรณะภาพหมด ต่อมาตาแกได้ยินข่าว ว่าพระแดงได้เป็นเจ้าคณะจังหวัด มีคนนับถือมาก แกก็ดีใจ โมทนาสาธุกับพระแดง หลังจากนั้นสิบกว่าปี พระแดงกลับมาที่วัด บอกเบื่อความวุ่นวาย อยากเก็บตัวเงียบๆบ้าง พระจิตกับตาก็ดีใจที่พระแดงกลับมาอยู่ด้วย แต่ไม่นานก็มีตำรวจมาจับพระแดง ตาแกสงสัยว่าทำไมถึงมาจับพระ ตำรวจเลยเล่าให้แกฟัง ว่าท่านเจ้าคุณรูปนี้ โกงเงินวัด แล้วหลังจากนั้นไม่กี่ปี แดงก็ตายด้วยโรคมะเร็งในคุก อีกสองปี พระจิตก็มรณะภาพ ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวที่วัด ตาแกดูแลจัดการเรื่องศพของแดง และพระจิต เอากระดูกไปเก็บอยู่ที่ศาลาวัดด้วยกัน ตอนพระจิตมรณะภาพ วัดก็ร้างอยู่ปีกว่าๆ ก็มีพระธุดงค์มาอาศัย ตาแกก็เข้าไปอุปฐาก อยู่ระยะหนึ่ง พระธุดงค์นั้นก็บอกกับตาว่าจะบูรณะวัดนี้ เพราะมีพระธาตุอยู่ ตาแกก็งง ว่ามีอยู่ตรงใหน เพราะอยู่กับวัดนี้มาค่อนชีวิต รู้ทุกซอกทุกมุมของวัด ไม่เคยเห็นพระธาตุเลย พระองค์นั้น บอกว่าอยู่ที่ศาลา ปรากฎว่าเป็นกระดูกของพระจิต ที่ตาแกเป็นคนเก็บไว้เอง แต่ไม่เคยเปิดดูเลย หลังจากนั้นก็เลยถูกพัฒนาจนเป็นที่ปฎิบัติธรรมตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
คุณว่าพระที่ให้ความสำคัญกับการ ภาวนา จะทำอะไรให้ศาสนาบ้าง