[CR] Furious 7 ::  เมื่อคุณค่าของหนังทั้งเรื่องคือการ “อุทิศ” เพื่อเพื่อนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ


โอ้ยยย แม่เจ้า กว่าจะได้ดู Furious 7 ฉันต้องวนรถไป 3 โรงหนังนะเธอว์กว่าจะได้ตั๋ว  แถมยังเป็นรอบดึกสุดตะหาก แต่คนยังเยอะอยู่มากกกก ขอยอมรับ ณ.ตรงนี้ว่า ฉันตั้งใจจะดูหนังเรื่องนี้ แต่...ไม่ได้ตั้งจะดูวันแรก ดูวันที่สอง สาม สี่ หรือรอดูวันพุธก็ได้ถูกดี เพราะฉันเสพติดการดูหนังแบบคนไม่เยอะ ไม่พลุกพล่าน บังเอิญว่า ฉันมันคนขี้อิน กลัวการแสดงออกมันจะเกินหน้าเกินตานักแสดงบนจอ แต่เพราะดราม่างดฉาย Fast 7 ทำให้สุดท้ายก็ต้องหาโรงมาสนองนี๊ดตัวเองจนได้

เข้าเรื่องเลยดีกว่า ถ้าใครตาม Fast & Furious มาทั้ง 7 ภาค จะเห็นความแตกต่างของภาคนี้อย่างชัดเจน
หรือภาคอื่นมันก็มีว่ะ แต่ฉันไม่ทันสังเกต คือยังไงดีละ ภาคอื่นๆมันก็คือหนังแอคชั่นอะเธอว์ แต่ภาคนี้ความวินาศสันตะโรในหนังเนี่ย ฉันว่าเหมือนทีมฟุตบอลจะไต่ระดับดิวิชั่นเลยนะ คืออีกนิดเดียวเมิงก็จะขึ้นไปเทียบชั้น Transformers,Avengers,Pacific Rim ละนะ  คือดูๆอยู่นี่อดคิดไม่ได้ว่า แมร่งงงง … สักพักพี่ดอมกรูจะกลายร่างและมารู้ตัวเองว่าเป็น Mutant หรือเปล่าวะ นี่แอบมโนเอาเองนะ ถ้าผู้กำกับมันบ้าอีกนิด พี่ดอมอาจจะหลับฝันแล้วก็ระลึกได้ว่าชาติก่อนกรูเป็น Riddick นะ เยสสส..ฉากแอคชั่นพี่จัดเต็ม จัดหนัก ฮาร์ดเซลล์มากคร่ะ ใจดิฉันนี่เต้นตึกๆๆ กลัวเสียชีวิตก่อนออกจากโรงเป็นยิ่งนัก แต่ก็นะ ฉากบู๊พี่มาแรงมาเร็วมารัวในความเร็วระดับ 242ฉาก/ชั่วโมง มันฉับๆๆๆซะจน ดีออก… อินไม่ทันค่ะ 555555+ เฮ้ยยย แต่ไม่ใช่มันไม่มีพลอต ไม่มีบทอะไรนะ ฉันรู้ ฉันจำได้ว่า เนื้อเรื่องมันเป็นไงนะ แต่ต้องใช้เวลานึกนิสนึง ถึงแม้ฉากบางฉากมันจะไม่สมจริงตามทฤษฎีโมเมนตั้ม ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงหรือจะ theory of everything  ก็ได้แต่...เฮ้ยย หนังแอคชั่นอะ ถ้ามันทำให้เราตื่นเต้น อู้หู อ้าหา ได้ลุ้นระทึก ได้มันส์ไปกับหนัง ฉันว่ามันก็ตอบโจทย์ตัวเองได้ดีในระดับนึงแล้วนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หนังเรื่องนี้จะไม่ตอบจริตคนที่ชอบหนังที่เน้นที่มาที่ไป และเอาจริงๆนะ ถ้าตัวหนังมันจะไม่ตัดแบบมาไวไปไวขนาดนี้ คะแนนจะได้เยอะกว่านี้นะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


และทั้งหมดทั้งมวลมันก็ทำให้ฉันถึงบางอ้อพร้อมน้ำตารินได้ในฉากสุดท้า่ยของเรื่อง ว่าทำไมหนังเรื่องนี้มันต้องอัดความมันส์ ความระห่ำ ความเวอร์วังจนถึงขั้นไม่สมเหตุสมผลมาซะขนาดนั้น เพราะหนังเรื่องนี้คือเรื่องสุดท้ายที่พอล วอล์กเกอร์ได้แสดง และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือ “ความพยายาม” ที่จะทำให้ดีที่สุดเพื่ออุทิศให้กับเขา และมันก็ตอบคำถามที่มีอยู่ในใจว่า “นี่มัน… ต้องขนาดนี้เลยเหรอวะ??”  มันก็ต้องขนาดนี้จริงๆแหละ เมื่อผู้ชายคนนึงที่โลดแล่นอยู่ในหนังที่ผูกพันกันมาเป็นสิบปี จะต้องหายไป มันคือการให้เกียรติ มันคือคำขอบคุณจากเพื่อน มันคือคำสัญญาว่าจะอยู่ในใจตลอดไป ฉันปาดน้ำตาป้อยๆประหนึ่งคุณหนูผู้บอบบางให้กับฉากสุดท้ายในหนัง ที่ทั้งภาพ ทั้งเพลงมันไปด้วยกันจนชะนีน้อยที่นั่งข้างๆกันก็อดร้องไห้ไม่ได้ ช่างมันเถอะ...ถ้าหนังมันจะตัดฉากไวไปซักหน่อย แค่ความมันส์ และความรู้สึกซาบซึ้งที่ฉันได้จากการสดุดี พอล วอล์เกอร์ ฉันก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว ให้ 8.5/10 คะแนน

เพิ่มเติมที่หลายๆคนอาจสงสัย
- Fast 7 เปลี่ยนผู้กำกับจาก Justin Lin เป็น James Wan เพราะค่ายหนังอย่างจะเปิดกล้องในช่วงที่ Fast 6 กำลังทำ Post Production และตอนนั้น Justin คิดว่าจะส่งผลกระทบกับหนังภาค 6 เลยปฏิเสธไป
- Mr.Nobody ที่ Kurt Russell เล่นนั้น ก่อนหน้านี้บทถูกส่งให้  Danzel Washington พิจารณา เพราะค่ายหนังอยากได้ดาราบิ๊กเนมมารับบท เพราะภาคต่อไปจะมีบทบาทมากขึ้น แต่ Danzel ก็ไม่รับเล่น
- หนังหยุดถ่ายไปเมื่อ 1 ธันวา 2013 เนื่องมาจากการสูญเสีย พอล วอล์กเกอร์ ตอนนั้น พอลก็ถ่ายทำไปมากกว่า 50% แล้ว หลังจากนั้นทางทีมงานจึงมานั่งประชุมกันว่าจะทำอย่างไรให้หนังภาคนี้เป็นการอุทิศและวางบทของ พอล วอล์กเกอร์ให้เหมาะสมและมีคุณค่าที่สุด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ขอไว้อาลัยให้กับ พอล วอล์กเกอร์




So let the light guide your way, yeah
Hold every memory as you go
And every road you take
Will always lead you home
It's been a long day without you my friend
And I'll tell you all about it when I see you again
We've come a long way from where we began
Oh, I'll tell you all about it when I see you again
When I see you again


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   Fast & Furious 7
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่