[CR] My weekend in WINDERMERE, LAKE DISTRICT เมืองทะเลสาบทางเหนือของอังกฤษ

สวัสดีค่าา วันนี้จะขอประเดิมกระทู้แรกด้วยการเล่าประสบการณ์ที่ไปสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจมากๆที่นึงค่ะ
เราไป Windermere มาในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
Windermere เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดใน Lake District National Park และเมืองที่จะไปพักชื่อว่า Bowness-on-Windermere  (ในกระทู้จะเรียกสั้นๆว่า Bowness) เท่าที่อ่านในเน็ตมา เมืองนี้สมัยก่อนจะเป็นเมืองที่คนรวยๆมาสร้างบ้านพักตากอากาศอยู่ค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ แต่หลายๆที่ถูกเปลี่ยนมาในเป็นโรงแรม เลยมี house hotel เต็มไปหมดเลย
โชคดีมากๆที่ตลอดการเดินทางอากาศเป็นใจตลอด แดดออกตลอดวัน มีฝนตกปรอยๆแค่เฉพาะวันกลับ ☺ ที่เราทั้งหมด 3 วัน 2 คืนค่ะ ไปวันเสาร์กลับวันจันทร์
เริ่มกันเลยดีกว่า…


วันที่ 1
พวกเราเดินทางด้วยการขับรถเช่าค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากลอนดอนไปวินเดอเมียร์ประมาณ 4-5ชม. นั่งกันจนเมื่อยก้นสุดๆ 555 ระหว่างทางก็นั่งมองวิวบ้านนอกอังกฤษไป มีแต่ทุ่งหญ้าแล้วก็ทุ่งหญ้าแล้วก็ทุ่งหญ้าตลอดทางค่ะ มีม้าวัวแกะให้เห็นตลอด ถามว่าสวยไหมก็สวยนะคะ มองแล้วสบายตาดี แต่นั่งมอง 4-5ชม.ก็เบื่อนิดนึง 555
จะบอกว่าจุดพักรถของที่อังกฤษ ที่ไปเข้ามา2-3ที่ ทุกที่สะอาดและใหญ่มากๆค่ะ มีทั้งร้านอาหารทั้งร้านสะดวกซื้อ ห้องน้ำก็สะอาดค่ะ แวะได้แบบสะบายใจเลย
พวกเราเดินทางมาถึงที่โรงแรมประมาณ 5 โมงเย็น ครั้งนี้ไปพักที่ Linthwaite House Hotel อยู่ในเมือง Bowness ชอบโรงแรมนี้มากกกก บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านฝรั่ง แต่ละห้องนอนจะตกแต่งต่างกัน มีมุมห้องนั่งเล่นส่วนกลางดูอบอุ่น มีสวนกับบริเวณนั่งชมวิวข้างนอก ชอบตั้งแต่เข้าไปครั้งแรกเลยค่ะ แนะนำมากๆ
โรงแรมห่างจากตัวเมือง Bowness แค่ประมาณ5นาทีค่ะ (ขับรถ) ถ้าไม่ได้เช่ารถก็ไม่แนะนำเพราะทางไปโรงแรมตอนกลางคืนมืดมากๆ ไม่โอเคสำหรับการเดินค่ะ
จากโรงแรมจะไม่ได้มองเห็นทะเลสาบแบบเต็มๆนะคะ เห็นนิดนึง บรรยากาศรอบๆโรงแรมก็เป็นทุ่งหญ้ามีแกะเต็มไปหมดเลยค่ะ
ที่นี่มีพนักงานคนไทยด้วย1คนค่ะ ตอนแรกตกใจเบาๆตอนที่เขาเดินเข้ามาทักว่า “สวัสดีค่ะ” นิสัยเป็นกันเองดี พนักงานที่นี่จะnice มากทุกคน
ค่าโรงแรมสำหรับ1ห้องที่จองไปตกคืนละประมาณ 13,000 บาทค่ะ สิ่งที่ได้รับก็คุ้มกับราคามากๆค่ะ

ห้องพัก



มุมนั่งเล่น




ด้านนอก




พอเชคอินเสร็จพวกเราก็จองอาหารเย็นที่โรงแรมค่ะ จองไว้ตอน 2ทุ่ม แล้วก็ขับรถไปในเมืองไปเดินเล่นนิดนึงก่อนฟ้าจะมืดค่ะ พอไปถึงที่ทะเลสาบพระอาทิตย์ใกล้จะตกพอดี ท้องฟ้าเลยสีสวยมากๆ เก็บภาพมาได้ตามนี้ค่ะ
    



พอถ่ายรูปกับเสร็จก็กลับมาทานอาหารเย็นที่โรงแรมกัน เท่าที่อ่านรีวิวอาหารมาจากในเน็ตมีแต่คนชมกันก็เลยวางใจฝากท้องที่นี่ พวกเราสั่งแบบ 2 course ทานค่ะ เป็น starter & main ราคาอยู่ที่ £37 ต่อคน (ประมาณ 1,850บาท)
ก่อนอาหารที่สั่งไปจะมาเสิรฟ ทางร้านอาหารมีcomplimentary drink, small starter, กับตะกร้าขนมปังมาให้ค่ะ
small starter: chower cream soup
ที่สั่งมามีดังนี้ค่ะ (บางอันจำชื่อเป้ะๆไม่ได้นะคะ)
Starter 1: Duck leg terrine, smoked duck breast, quince, ginger bread
Starter 2: Octopus อะไรสักอย่างจำชื่อเต็มๆไม่ได้ค่ะ เป็นเมนูพิเศษของวันนั้น
Main 1: Steak and kidney pudding, roasted sirloin, baked swede, cinnamon
Main 2: Lamb จำชื่อเต็มๆไม่ได้เหมือนกันค่ะ เป็น special เช่นกัน



อาหารมื้อนี้ขอให้คะแนนแค่ 3/5 พอค่ะ คือการจัดวางอาหารบนจานสวย แต่รสชาติไม่ได้ขนาดนั้นค่ะ คือคาดหวังไว้มากกว่านี้เพราะอ่านรีวิวมา แล้วก็เนื้อแกะเหนียวสุดๆ เคี้ยวไม่ไหวจนทานไม่หมดจานเลยค่ะ
เห็นจานใหญ่ๆแต่อาหารจิ๋วๆแบบนั้น แน่นอนว่าไม่อิ่ม! 555 เลยขับรถออกมาหาอะไรทานข้างนอกต่อค่ะ มาเจอกับร้านอาหารไทยชื่อ Jintana Thai Cuisine ก็เลยลองสักหน่อยคิดว่ายังไงๆก็คงพอกินได้แหละ รสชาติคงไม่เพี้ยนขนาดนั้น ได้ยินเสียงกุ๊กที่คุยกันภาษาไทยก็อุ่นใจขึ้นมาที่เป็นคนไทยทำ ที่สั่งมามีลาบไก่ ยำวุ้นเส้น กับผัดซีอิ๊วค่ะ ตักเข้าปากปุ๊ป โอ้โหววววว ลาบกับยำทำไมมันหวานแบบนี้ เหมือนกินน้ำจิ้มไก่เจือจางในน้ำ เลยขอมะนาวเขามาบีบใส่ค่ะ บอกเลยว่ามันไม่ช่วยอะไร ที่พอโอเคอย่างเดียวคือผัดซีอิ๊วค่ะ
สรุปว่าวันนี้เฟลกับอาการเย็น 555
ที่นี่ตอนดึกๆดาวเต็มท้องฟ้าเลยค่ะปกติอยู่แต่ในเมืองใหญ่ๆ จะเห็นแค่ดวงสองดวง แต่ที่นี่มันแบบว้าวววว เต็มฟ้าไปหมด ถ้าไม่ติดว่าตอนนั้นดึกๆมันหน๊าวหนาวคงได้มานั่งดูดาวค่ะ

วันที่ 2
ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าที่โรงแรมจัดไว้ให้ค่ะ ที่นี่จะให้สั่งอาหารเช้าจากเมนูเอาค่ะ เป็นพวกเมนูไข่ๆทั้งหลาย แล้วก็มีโต๊ะบุฟเฟ่1โต๊ะ บนโต๊ะมีผลไม้ cereal กับโยเกิรตค่ะตักได้ตลอด
วันแรกทาน Cartmel Valley Smoked Salmon, Creamy Scrambled Eggs, Toasted Muffin รสชาติโอเคค่ะ


ทานเสร็จก็ขับรถไปที่ริมทะเลสาบ ไปซื้อตั๋ว cruise นั่งเรือชมวิวรอบ10โมงกว่าๆ
มีทัวร์ให้เลือก 3 แบบค่ะ สีเหลือง 90นาที สีแดง 75นาที สีน้ำเงิน 45นาที รูทของแต่ละทัวร์จะไม่เหมือนกัน คือไปคนละมุมของทะเลสาบค่ะ
ที่เราเลือกคือทัวร์สีเหลือง90นาทีค่ะ ราคาตั๋วตกคนละ £10.80 (540 บาท) ทัวร์นี้มีจอดแวะ 1 จุด เป็น aquarium กับ motormobile museum ค่ะ ต้องซื้อตั๋วเข้าต่างหาก ซึ่งพวกเราไม่ได้ลงที่จุดแวะค่ะ
ขนาดของเรือไม่ใหญ่มาก มี2ชั้น ชั้นบนเป็น open deck ส่วนชั้นล่างเป็นห้องปิด มีคาเฟ่เล็กๆด้วย เลือกที่นั่งได้เองเลย ตอนแรกก็ไปนั่งชั้นบนค่ะ แต่พอออกเรือสักพักมันหนาววว คือลมเต็มๆ เลยย้ายไปนั่งชั้นล่าง เห็นวิวเหมือนกันแต่อุ่นกว่า 555
วิวของทะเลสาบสวยมากๆ บวกกับที่วันนั้นอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใสเลยยิ่งสวยเข้าไปอีก มีบ้านตากอากาศบ้าง คนมาเล่นเรือใบบ้าง นั่งมองวิวไปเรื่อยๆมันสะบายใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะ ต้องมาดูเองจริงๆ
      







ลงมาจากเรือปุ๊ปก็เดินไปที่ร้าน souvenir ใกล้ๆท่าเรือค่ะ ไปเจอเข้ากับแก๊งนกฮูก! คือเขาเป็นมูลนิธิสำหรับนกฮูกค่ะ เอานกฮูกมาโชว์6-7ตัว แล้วก็ให้เกาะมือถ่ายรูปด้วย ไม่เรียกเก็บเงินเลยค่ะ อยากให้เท่าไรก็ให้ นกฮูกน่ารักสุดๆเลยค่ะ มีทั้งตัวจิ๋วๆเท่ามือจนไปถึงตัวใหญ่บิ๊กเบิ้ม ตอนที่ขอเอามาเกาะมือเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าลองลูบขนดูสิ พอลองลูบเท่านั้นแหละฟินนน ขนนุ่มมากค่ะ ไม่เคยจับมาก่อนแล้วก็ไม่คิดว่าจะนุ่มขนาดนี้

  


หลังจากนั้นก็เดินมาให้อาหารหงส์กับห่านตรงริมน้ำใกล้ๆท่าเรือค่ะ อาหารที่ขายถุงละ £0.50 (25บาท) พอให้อาหารแล้วหงส์กินเพลินๆก็นั่งลูบหงส์ถ่ายรูปกันไป พี่หงส์เค้าไม่ดุ

  

เที่ยงแล้วก็หาอะไรทานกันค่ะ ขับรถไปเรื่อยๆจนไปถึงอีกเมืองข้างๆ Bowness ไม่ไกลมาก ก็ไปเจอกับร้านชื่อว่า The Lamplighter Dining Rooms ค่ะ เป็นอาหารอังกฤษ ที่นี่อร่อยค่ะไม่เฟลแบบเมื่อวาน พวกเราสั่ง Steak กับ Duck Confit ไปค่ะ ที่นี่มี side dish ให้ด้วย เป็นมันหวานบด กะหล่ำสีม่วงหวานๆ กับอะไรสักอย่างบดค่ะ ทานคู่กับเป็ดใช้ได้เลย มื้อนี้ให้คะแนน 5/5 ราคาไม่แพง อาหารอร่อย เลิฟ
  


ทานข้าวกลางวันเสร็จก็ขับรถไปต่อกันค่ะ ขับไปจนถึงเมือง Kendal ขับรถจาก Bowness ประมาณ 20นาทีค่ะ เราไปเดินเล่นกันที่ Kendal Castle ค่ะ เป็นซากปราสาทหินที่ไม่ใหญ่มาก ไม่ได้อลังอะไร ผ่านเลยแวะมาดูเฉยๆค่ะ ปราสาทอยู่บนเนินเขา เดินขึ้นไปเห็นทั้งเมืองเลย บรรยากาศดีค่ะ นั่งชิวๆ ถ่ายรูปได้ ตัวปราสาทก็ไม่มีอะไรมากเหลือให้เห็นไม่เยอะค่ะ ไม่มีเก็บค่าเข้าชม บริเวณปราสาทถูกกั้นด้วยรั้วหินเป็นวงกลม มีแค่นั้นจริงๆค่ะไม่รู้จะบรรยายอะไรละ 5555
เดินๆไปก็นึกภาพเล่นๆว่าสมัยก่อนมันจะเป็นยังไง เขาอยู่กันยังไง ใครแบกหินมาสร้างบนเนินได้ขนาดนี้ ถถถ
      







จบไปอีกวัน พวกเราจะเที่ยวกันแบบชิวๆค่ะ ขับรถไปเจออะไรอยากจอดก็จอด ไม่ได้แพลนอะไรขนาดนั้น เลยอาจจะดูเหมือนสถานที่เที่ยวน้อยๆ

วันที่ 3
เดินทางกลับลอนดอน แล้วก็แวะ Bicester Outlet Village เพราะทาง(เกือบ)ผ่าน Oxford ค่ะ ใครขับรถไปก็แวะกันได้นะคะ

ที่เที่ยวอื่นๆใน Bowness ที่น่าสนใจแต่ไม่ได้ไป
-The World of Beatrix Potter Attraction เป็นพิพิธภันฑ์ของคนวาด Peter Rabbit ตัวการ์ตูนกระต่าย มีร้านขายของและ tea room ด้วยค่ะ ที่นี่เป็นหนึ่งในที่เที่ยวหลักๆของ Bowness เลย
-ถ้าแนวลุยๆหน่อยก็มีไป trekking ค่ะ เดินดูธรรมชาติ

จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ แนะนำให้ไปเที่ยวพักผ่อนที่นี่จริงๆค่ะ มันสวยมาก เลือกวันเดินทางให้ตรงกับวันอากาศดีๆจะได้เพอร์เฟ็ค รูปที่ถ่ายก็ใช้ไอโฟนถ่ายเลยไม่ได้สวยขนาดนั้น ของจริงสวยกว่าอีกหลายเท่าแน่นอนค่ะ อมยิ้ม36อมยิ้ม36
ชื่อสินค้า:   lake district
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่