ทำไมละครไทยต้อง...?!?

กระทู้สนทนา
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยดูละครไทย แต่ตอนนี้เลิกดูไปนานแล้ว หรือถ้าจะดูจริงๆก็จะดูเป็น sitcom ซะมากกว่า เพราะไม่ชอบที่ละครไทยโครงเรื่องเกือบทั้งหมดมักจะมาคล้ายๆกัน ตัวเอกสักฝ่ายต้องรวย แล้วอีกฝ่ายต้องจนมาก แต่ หน้าตาจะดูสดชื่นสุขภาพดีและมีเครื่องประทินผิวดูแลผิวหน้าเป็นอย่างดี หรืออาจจะทั้ง 2 ฝ่ายรวยเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนหน้าเต็มเหมือนเดิม ครอบครัวของฝ่ายที่รวย แม่มักจะมีผมทรงกระบังตั้งตระหง่านทุกเวลาไม่ว่าจะพึ่งตื่นนอน จะเข้านอน หรือพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ คาดว่าถึงในเรื่องอีแม่ต้องโดนรถชนตายตอนที่ลูกไปดูศพเพื่อระบุตัวหัวก็ยังคงเป็นกระบังอยู่เช่นเคย เช่นเดียวกันหน้าของตัวละครหญิงหลักๆทุกตัวๆ ไม่ว่าจะยังไงหน้ายังคงเต็มตลอดเวลา ส่วนพ่อมักจะเป็นแนวนักธุรกิจใส่แว่นตัวใส่เชิ้ตและกางเกงขายาวตลอดเวลาแม้แต่ตอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน พวกนี้(ในละคร)นี่น่าสงสารนะคงจะไม่เคยมีพวกเสื้อยืดเก่าๆที่ใส่จนผ้าย้วยๆแต่โคตรนิ่มใส่สบายๆ แล้วก็กางเกงขาสั้นผ้านิ่มๆใส่แล้วสบายยวง

      ต่อไปมาที่ตัวอิจฉา เพศชาย มักจะเป็นคนที่นางเอกรู้จัก แต่เป็นนักเลง อันธพาล และมักจะแอบชอบนางเอกอยู่ บางเรื่องอาจวางบทให้เคยเป็นแฟนนางเอกมาก่อนแต่ไปเล่นชู้แล้วนากเอกเปิดมาเจอเลยเลิก แล้วไอ้นี่ก็ตามตื๊อแนวข่มขู่ สุดท้ายตัวโกง-ตัวอิจฉาเพศชายมักจะตายไม่ก็ถูกจับ แม้สังคมไทยจะเป็นสังคมพุทธ และมักจะเชื่อว่าคนเราจะกลับตัวกลับใจได้ แต่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นกับเหล่าตัวโกง-ตัวอิจฉานี้เลย เพศหญิงเองก็เช่นกัน มักจะเป็นแฟนพระเอก หรืออาจจะเป็นแฟนเก่าที่เลิกไปแล้วแต่ยังคอยวนเวียนด้วยความที่อยู่สังคม-ชนชั้นเดียวกัน หรือแย่กว่านั้นบางเรื่องก็เป็นแฟนพระเอกอยู่แล้วด้วยแถมรักกันดี แต่ด้วยความที่พ่อแม่พระเอกดันมีสัญญาใจจะให้ลูกๆแต่งงานกัน สุดท้ายต้องเลิกกับแฟนตัวเอง เพื่อไปแต่งงานกับอีกนางเอก ทั้งที่ไม่อยากแต่ขัดไม่ได้ สุดท้ายเลิก เลยทำให้อดีตแฟนผู้แสนดีกลายร่างเป็นนางอิจฉา คอยรังควานนางเอกที่พระเอกไม่ได้รัก จนพระเอกเริ่มสงสารนางเอกเลยรักกัน แต่กลับเกลียดอีแฟนเก่า ซึ่งถ้าว่ากันตรงๆบางทีน่าสงสารกว่าด้วยนะ เพราะรักกันอยู่ดีๆแต่โดนใบสั่งเลิกซะอย่างงั้น เป็นกู ก็ก็ร้าย แล้วนางอิจฉาก็มักจะเข้ากับแม่พระเอกได้อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย แต่เชื่อมะ สมมุติพระเอกแต่งกับนางร้ายนะให้ก่อนแต่งสนิทกันยังไงสุดท้ายกัดกันแบบไม่เผาผีชัวร์ๆ ที่สำคัญเวลาไม่ได้ดั่งใจ โดนขัดใจ เสียรู้นางเอก ต้องกรี๊ด เอาจริงๆนะ แมงสาบบินมาเกาะหน้าเอ็งจะกรี๊ดอย่างงี้มะ จะกรี๊ดไปไหน แล้วมันช่วยให้อะไรดีขึ้นมั้ย เป็นเด็กรึไง ไม่ได้ของเล่นต้องกรีดร้องจนกว่าจะได้ แต่อันนี้คงจะกรณีเดียวกัน ไม่ได้หรรมเลยต้องกรี๊ดจนกว่าจะได้ ใช่ครับมาถึงโครงเรื่อง เรียกว่าแทบจะทุกเรื่องของละครไทย แก่นหลักมันคือการแย่งดุ้น หรือแย่งถ้ำ ok อาจจะมีแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องหลักความถูกต้องหรืออะไรก็ว่าไปแต่ท้ายที่สุดคือการแย่งเพศตรงข้ามมาผสมพันธุ์

       ทำไมละครดีๆที่ให้แง่คิดดีๆถึงทำออกมาฉายไม่กี่ครั้ง อย่างเรื่อง น้ำพุ บางคนอาจจะบอกน้ำพุเป็นเรื่องอิงประวัติชีวิตคนไม่ใช่ละคร ok ไม่ว่า งั้นเรื่องนี้เลยละครดีมาก ไม่รู้เคยสร้างมากี่ทีแล้วแต่ครั้งสุดท้ายที่ผมดูก็ร่วม 20 ปีได้ แล้วไม่เคยทำอีกเลย "ไม้ดัด" ผมจำได้เลยเรื่องนี้ให้เกร็ดการใช้ชีวิตได้ดีมากๆ ตอนนั้นเอกรัตน์ สารสุข เล่นเป็นพระเอก อยู่ในครอบครัวกลางๆ พ่อเป็นครูใหญ่เลยมองว่าเด็กดีต้องเรียนเก่ง แต่ฉมเรียนกลางๆ พ่อเลยไปรักลูกคนอื่นๆที่เรียนเก่งกว่า คนพี่เรียนเก่งมาก สอบได้ที่ 1 ตลอด จนวันนึงชีวิตพบความผิดหวัง รับไม่ได้สุดท้ายฆ่าตัวตาย คนน้องด้วยความที่เป็ลูกสุดท้องโดนตามใจ สุดท้ายเรียนไม่จบออกจากโรงเรียน กลายเป็นผู้ชายขายน้ำไป แต่ฉมเองที่ไม่ค่อยได้รับความรักเท่าไหร่จึงมักมาหลบมาอยู่กับปู่ที่เรียนไม้ดัด แล้วปู่ก็คอยสอน สุดท้ายฉมคือคนที่ประสบความสำเร็จที่สุด มีกิจการของตัวเอง ครอบครัวที่อบอุ่นและคอยดูแลพ่อที่ป่วยเป็นอัมพาต แต่เรื่องดีๆแบบนี้คงขายไม่ออก เพราะมันไม่มีฉากพระเอกข่มขืนนางเอก ไม่มีฉากตัวอิจฉากรีดร้องด้วยความเจ็บใจ ไม่มีแม่ผัวที่คอยตีกับลูกสะใภ้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เบื่อได้ไงกับละครไทยเนี่ย พัฒนาหน่อยเหอะโลกไปถึงไหนแล้ว ละครไทยยังตบ-จูบ ตบ-จูบ อยู่เลย บทประพันต์เรื่องเก่าถ้าเอามาทำใหม่ก็แก้ให้มันเหมาะกับยุคหน่อยเหอะ ถามจริงเหอะไม่เบื่อรึไงกับบ้านทรายทอง ดาวพระศุกร์ คู่กรรม ฯลฯ วนเวียนไม่กี่เรื่องอ่ะแต่โครงเรื่องประมาณเดียวกันทั้งนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่