เรื่องของเรื่องคือครอบครัวเรามีกันอยู่ 4 คนค่ะ เราเป็นลูกสาวคนโต พ่อ แม่ และน้องชาย
สามปีก่อนแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ตอนนั้นเรายังเรียนไม่จบเลยค่ะ อยู่ปี 4
แม่จากไปพร้อมกับหนี้สินที่เราเองต้องรับภาระไว้ ประมาณ 200,000 บาท
เป็นเงินที่ยืมญาติมาค่ะ เราไม่ทราบเรื่องเส้นทางการเงินเลย พอแม่เสียญาติคนนี้ก็มาบอกว่าแม่เป็นหนี้เขาอยู่
เรากับพ่อก็เลยคุยกัน ด้วยความที่ไม่อยากให้เป็นบาปติดตัวแม่ อยากให้เขาไปสบาย
เราก็เลยรับใช้หนี้ญาติคนนั้น โดยตกลงกันว่า พอเรียนจบและทำงานจะทยอยส่งคืนให้ ซึ่งเค้าก็โอเค
หลังจากแม่เสียน้องชายเราก็เริ่มเละเทะค่ะ เที่ยวเล่น เกเร ไม่เรียน ตอนนั้นน้องเราประมาณ 17-18
ฐานะที่บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเลยค่ะ พอมีพอกินไปวันๆ แต่น้องเรากลับขอเงินเป็นว่าเล่น
ใช้เงินเป็นเบี้ยเลยค่ะ จนเรากับพ่อไม่ไหวแล้ว แบบไม่มีจะให้ น้องเราก็ไปหางานทำค่ะ
ในขณะที่ทำงานก็ยังขอเงินที่บ้านอยู่เสมอ ช่วงนั้นเครียดมากเลยค่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน น้องชายเราก็เบื่องานค่ะ บอกว่าจะออก ไม่อยากทำแล้ว แต่ลาออกไม่ได้
เป็นหนี้นอกระบบอยู่ 30,000 จะโดนกระทืบด้วย ด้วยความที่เราเองก็เพิ่งจะทำงาน
และก็ตกใจมาก พยายามจะช่วยน้องโดยไม่บอกพ่อ เพราะไม่อยากให้พ่อเครียด
เลยตัดสินใจทำบัตรกดเงินสด เพื่อนำเงินไปช่วยน้องชายค่ะ หลังจากนั้นยิ่งแย่เลยค่ะ น้องไม่ทำงานเลย
มาทราบทีหลังว่าติดยาเสพติด ทำไงเค้าก็ไม่เลิก กลายเป็นคนโกหกหลอกลวง
เริ่มขโมยของในบ้านไปขาย ขโมยเงินพ่อ มีครั้งนึงเราฝังใจมาก น้องชายมาบอกว่าขโมยเงินพ่อไป 3,000
และรู้สึกผิดมากอยากหาเงินไปคืนพ่อ แต่ไม่มี ด้วยความที่เราเองก็ไม่อยากให้พ่อเสียใจที่โดนลูกแทัๆขโมยเงิน
เราก็เลยให้น้องไป 3,000 ค่ะ บอกให้เอาไปคืนพ่อซะ หลังจากนั้นวันนึงพ่อมาบอกว่าโดนขโมยเงิน เรานี้เจ็บใจมากเลยค่ะ
เงินพ่อ 3,000 ไม่พอ กลายเป็นเราเสียรู้ไปอีก 3,000 หลังจากนั้นเอาอีกค่ะ ขโมยอีก จนบ้านแทบไม่เหลืออะไรแล้ว
ผ่านมาสักระยะ น้องเราถูกตำรวจจับค่ะ เรื่องยาเสพติด ตำรวจระบุว่าเป็นผู้ขายเลย ช่วงนั้นบอกตามตรงว่าเรากะพ่อทำใจไม่ได้
วิ่งเต้นทุกวิถีทาง สุดท้ายคือต้องหาเงินจำนวน 4-500,000 มาเพื่อปิดคดีและเอาน้องออกจากคุก ตอนนั้นเงินเรากะพ่อรวมกันมีแค่ 200,000 ค่ะ
ต้องไปหายืมมาเพิ่มอีก 300,000 หลังจากเรื่องนี้จบ เราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานใช้หนี้ค่ะ น้องเราก็ดีขึ้นนิดนึง เริ่มหางานทำ
พอไปทำงานก็เหมือนเดิมค่ะ ไปเป็นหนี้เค้าอีก มาขอเงินเราอีกเหนื่อยใจมากค่ะ ที่แย่คืออยู่ดีๆ น้องเราก็ไปดาวน์มอเตอร์ไซด์มาค่ะ
บอกเอาไว้ขับไปทำงาน คือตอนที่เค้าไปดาวน์ออกมาเนี่ย ไปกะญาติเราค่ะ ซื้อเป็นชื่อญาติ เพราะเค้าเพิ่งเริ่มทำงาน
ผ่อนได้ 4 เดือน ออกจากงานค่ะ มอเตอร์ไซด์ก็ไม่ผ่อนต่อ เดือดร้อนอีกค่ะ เราต้องมานั่งผ่อนต่อ เพราะญาติเราเค้าไม่ยอมเสียเครดิต
หนี้มาอีกแล้วค่ะ สรุปเดือนๆนึง เราใช้หนี้ให้ที่บ้านประมาณ 8,000 - 10,000 บาท เรามานั่งมองคนรุ่นเดียวกันก็อิจฉาค่ะ
เค้าดูมีความสุข แต่เรามีแต่เรื่องเครียด ครอบครัวมีปัญหา ล่าสุดเลยคือวันนี้ค่ะ อยู่ๆน้องเราก็มาบอกว่าเป็นหนี้อยู่ 2,000
แล้วเจ้าหนี้จะเอาเรื่อง โทรหาเราเป็นร้อยๆสาย เราก็ปฏิเสธ บอกไม่มีๆ สุดท้ายน้องเราก็พูดทำนองขู่ๆเราว่าถ้าเราไม่ให้แล้วเค้าเป็นไรไป
อย่ามาเสียใจทีหลัง เราผิดมั้ย เงินแค่ 2,000 เรามีให้นะ แต่เราเสียใจ ที่มีน้องชายแบบนี้ ให้ไปเค้าก็มาขออีก เค้าพูดว่าแค่นี้ช่วยเค้าไม่ได้หรอ
แล้วที่ผ่านมาล่ะคะ หนี้สินที่เรารับภาระอยู่ เค้าไม่เคยนึกถึงเราบ้างเลย ถ้าเกิดน้องเราโดนทำร้ายจิงๆ เราคงผิดมากใช่มั้ยคะ ที่ไม่ให้เงินเค้าไป
ผิดมากมั้ย ที่พี่น้องยืมเงินแล้วเราไม่ให้???
สามปีก่อนแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ตอนนั้นเรายังเรียนไม่จบเลยค่ะ อยู่ปี 4
แม่จากไปพร้อมกับหนี้สินที่เราเองต้องรับภาระไว้ ประมาณ 200,000 บาท
เป็นเงินที่ยืมญาติมาค่ะ เราไม่ทราบเรื่องเส้นทางการเงินเลย พอแม่เสียญาติคนนี้ก็มาบอกว่าแม่เป็นหนี้เขาอยู่
เรากับพ่อก็เลยคุยกัน ด้วยความที่ไม่อยากให้เป็นบาปติดตัวแม่ อยากให้เขาไปสบาย
เราก็เลยรับใช้หนี้ญาติคนนั้น โดยตกลงกันว่า พอเรียนจบและทำงานจะทยอยส่งคืนให้ ซึ่งเค้าก็โอเค
หลังจากแม่เสียน้องชายเราก็เริ่มเละเทะค่ะ เที่ยวเล่น เกเร ไม่เรียน ตอนนั้นน้องเราประมาณ 17-18
ฐานะที่บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเลยค่ะ พอมีพอกินไปวันๆ แต่น้องเรากลับขอเงินเป็นว่าเล่น
ใช้เงินเป็นเบี้ยเลยค่ะ จนเรากับพ่อไม่ไหวแล้ว แบบไม่มีจะให้ น้องเราก็ไปหางานทำค่ะ
ในขณะที่ทำงานก็ยังขอเงินที่บ้านอยู่เสมอ ช่วงนั้นเครียดมากเลยค่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน น้องชายเราก็เบื่องานค่ะ บอกว่าจะออก ไม่อยากทำแล้ว แต่ลาออกไม่ได้
เป็นหนี้นอกระบบอยู่ 30,000 จะโดนกระทืบด้วย ด้วยความที่เราเองก็เพิ่งจะทำงาน
และก็ตกใจมาก พยายามจะช่วยน้องโดยไม่บอกพ่อ เพราะไม่อยากให้พ่อเครียด
เลยตัดสินใจทำบัตรกดเงินสด เพื่อนำเงินไปช่วยน้องชายค่ะ หลังจากนั้นยิ่งแย่เลยค่ะ น้องไม่ทำงานเลย
มาทราบทีหลังว่าติดยาเสพติด ทำไงเค้าก็ไม่เลิก กลายเป็นคนโกหกหลอกลวง
เริ่มขโมยของในบ้านไปขาย ขโมยเงินพ่อ มีครั้งนึงเราฝังใจมาก น้องชายมาบอกว่าขโมยเงินพ่อไป 3,000
และรู้สึกผิดมากอยากหาเงินไปคืนพ่อ แต่ไม่มี ด้วยความที่เราเองก็ไม่อยากให้พ่อเสียใจที่โดนลูกแทัๆขโมยเงิน
เราก็เลยให้น้องไป 3,000 ค่ะ บอกให้เอาไปคืนพ่อซะ หลังจากนั้นวันนึงพ่อมาบอกว่าโดนขโมยเงิน เรานี้เจ็บใจมากเลยค่ะ
เงินพ่อ 3,000 ไม่พอ กลายเป็นเราเสียรู้ไปอีก 3,000 หลังจากนั้นเอาอีกค่ะ ขโมยอีก จนบ้านแทบไม่เหลืออะไรแล้ว
ผ่านมาสักระยะ น้องเราถูกตำรวจจับค่ะ เรื่องยาเสพติด ตำรวจระบุว่าเป็นผู้ขายเลย ช่วงนั้นบอกตามตรงว่าเรากะพ่อทำใจไม่ได้
วิ่งเต้นทุกวิถีทาง สุดท้ายคือต้องหาเงินจำนวน 4-500,000 มาเพื่อปิดคดีและเอาน้องออกจากคุก ตอนนั้นเงินเรากะพ่อรวมกันมีแค่ 200,000 ค่ะ
ต้องไปหายืมมาเพิ่มอีก 300,000 หลังจากเรื่องนี้จบ เราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานใช้หนี้ค่ะ น้องเราก็ดีขึ้นนิดนึง เริ่มหางานทำ
พอไปทำงานก็เหมือนเดิมค่ะ ไปเป็นหนี้เค้าอีก มาขอเงินเราอีกเหนื่อยใจมากค่ะ ที่แย่คืออยู่ดีๆ น้องเราก็ไปดาวน์มอเตอร์ไซด์มาค่ะ
บอกเอาไว้ขับไปทำงาน คือตอนที่เค้าไปดาวน์ออกมาเนี่ย ไปกะญาติเราค่ะ ซื้อเป็นชื่อญาติ เพราะเค้าเพิ่งเริ่มทำงาน
ผ่อนได้ 4 เดือน ออกจากงานค่ะ มอเตอร์ไซด์ก็ไม่ผ่อนต่อ เดือดร้อนอีกค่ะ เราต้องมานั่งผ่อนต่อ เพราะญาติเราเค้าไม่ยอมเสียเครดิต
หนี้มาอีกแล้วค่ะ สรุปเดือนๆนึง เราใช้หนี้ให้ที่บ้านประมาณ 8,000 - 10,000 บาท เรามานั่งมองคนรุ่นเดียวกันก็อิจฉาค่ะ
เค้าดูมีความสุข แต่เรามีแต่เรื่องเครียด ครอบครัวมีปัญหา ล่าสุดเลยคือวันนี้ค่ะ อยู่ๆน้องเราก็มาบอกว่าเป็นหนี้อยู่ 2,000
แล้วเจ้าหนี้จะเอาเรื่อง โทรหาเราเป็นร้อยๆสาย เราก็ปฏิเสธ บอกไม่มีๆ สุดท้ายน้องเราก็พูดทำนองขู่ๆเราว่าถ้าเราไม่ให้แล้วเค้าเป็นไรไป
อย่ามาเสียใจทีหลัง เราผิดมั้ย เงินแค่ 2,000 เรามีให้นะ แต่เราเสียใจ ที่มีน้องชายแบบนี้ ให้ไปเค้าก็มาขออีก เค้าพูดว่าแค่นี้ช่วยเค้าไม่ได้หรอ
แล้วที่ผ่านมาล่ะคะ หนี้สินที่เรารับภาระอยู่ เค้าไม่เคยนึกถึงเราบ้างเลย ถ้าเกิดน้องเราโดนทำร้ายจิงๆ เราคงผิดมากใช่มั้ยคะ ที่ไม่ให้เงินเค้าไป