[Review] ละครเวทีมนต์รักเพลงสวรรค์ The sound of music

วันนี้ได้มีโอกาสไปชมในรอบสื่อมาครับ กลับมาด้วยความอิ่มเอิบใจอย่างที่ไม่เคยเป็นกับละครเวทีเรื่องไหน เลยอยากจะมาแชร์ต่อให้เพื่อนๆฟังครับ



หลายๆคนคงเคยมีโอกาสได้ชมหรือว่ารู้จักกับสุดยอดความคลาสสิคของ The sound of music ภาพของมาเรียแสนสวยร้องเพลงโดเรมีกลางทุ่งหญ้ายังตราตรึงในความทรงจำไม่หาย เชื่อไหมว่ายังมีดีวีดีเก็บไว้ ส่วนม้วนวิดีโอนี่ดูบ่อยจดยืดพังไปแล้ว ^^



เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า หลังจากได้ข่าวว่าเมืองไทยจะเอา The sound of music มาทำเวอร์ชั่นภาษาไทย ก็แอบแคลงใจ จะสู้ของจริงได้ไหม ยิ่งได้ดูการโปรโมตจากรายการทีวีรายการนึง ยิ่งรู้สึกไม่โอเค ยอมรับเลยว่ามีทัศนคติติดลบตั้งแต่ก่อนเข้าชมด้วยซ้ำ แต่นั่นเป็นข้อดีครับ ความไม่คาดหวังมันจะนำพาไปสู่ความประทับใจเสมอ

ละครความยาวประมาณ  3 ชั่วโมงครับ ตั้งแต่ 1 ทุ่มครึ่ง - 4 ทุ่มครึ่ง ที่โรงละครรัชดาลัย

เนื้อเรื่อง

ไม่ต้องกลัวครับว่าจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหา เพราะละครเวทียังคงเนื้อเรื่องไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่สปอยละกันครับ การเปลี่ยนฉาก เชื่อมโยงต่างๆทำออกมาได้ดีไม่ติดขัดเลยครับ

ฉาก

ฉากสวยมาก สบายตา และดูสมจริงครับ คอสตูมต่างๆก็ทำออกมาได้ดี คือเรื่องฉากคอสตูมเอาอยู่จริงๆ

เพลง

หลายๆคนรวมทั้งตัวผมเองน่าจะกังวลเรื่องการเปลี่ยนเนื้อเพลงเป็นภาษาไทย จะออกมาตลก หรือแปลกๆไหม ส่วนตัวฟังแล้วไม่แปลกนะครับ ต้องยกความดีความชอบให้คนแต่งเนื้อ เพราะฟังแล้วสมูทมาก ช่วงเพลง "do re me" กับ "เหล โหล่ โหล่ เหล โหล่ โหล่ เหล่ ฮุ๊ ฮู"  ลืมไปเลยว่าคนละภาษากับที่เราเคยฟัง เชื่อไหมครับว่าขนลุกแล้วก็น้ำตาซึม คือเราผูกพันธ์กับเพลงพวกนี้มาก มันคือความทรงจำวัยเด็ก พอได้ฟังอีกครั้ง มันเหนือความคาดหมาย มันดี มันเพราะมากกก คนร้องก็เพอร์เฟ็คครับ ไม่อยากให้พลาดจริงๆ ฟังสองเพลงนี้ก็คุ้มแล้วอ่ะ

นักแสดง



นักแสดงทำได้ดีเลยนะครับ เรามาดูกันว่าแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง ยกมาแค่บางคนและเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ
นักแสดงหลักมี 2 ชุดครับ แล้วแต่รอบ เวลาซื้อบัตรก็สามารถเลือกได้ครับ

มาเรีย ไรเนอร์  รับบทโดย ฟาง FFK / และดาวโอเกะ ณัฐภัสสร สิมะเสถียร



หลังจากที่นางเอกร้องเพลงแรกเสร็จ ผมก็พึ่งรู้ว่านางเอกคือ ฟาง(เฟย์ ฟาง แก้ว) ผมนี่ตะลึงเลยครับ ปกติเห็น FFK ร้องเพลงตัวเองยังแกว่งๆเลย แต่ฟางร้องเพราะมากกกกกกกกกกกกก เสียงหวานสวย อาจจะไม่ได้คมมากแต่ไม่ใช่เล่นๆเลย ยิ่งระบบเสียงในโรงละครมันดีมากๆด้วยทำให้เสียงยิ่งเพราะเข้าไปกันใหญ่
การแสดงก็ดีครับ  น่ารักมาก หน้าน้องเขายิ้ม ดูสดใสตลอดเวลา ต่างจากดาวโอเกะที่จะดูโตกว่า มีความสุขุมกว่า และเสียงร้องจะคมกว่าหน่อยๆ ทั้งสองทำได้ดีในแบบของตัวเอง แต่ผมแอบปลื้มฟางไปแล้ว โอ๊ย เพ้อ

* รอบสื่อ เบรก1 กับ 2 จะเปลี่ยนนักแสดงครับ ของน้องฟางกับพี่ปานจะอยู่เบรกแรก ซึ่งเป็นช่วงที่สดใส สนุกอยู่แล้ว ทำให้คนดูจะอินในพาทแรก สำหรับดาวโอเกะและครูก้อยจะอยู่ในเบรกสอง บทจะดราม่า ตึงเครียดกว่าเยอะครับ

นาวาเอก เก-ออร์กฟอน ทรัปป์ (ผู้การฟอน ทรัปป์)
รับบทโดย    ชาย ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ

พี่ชายหายห่วงอยู่แล้วครับเรื่องการแสดง หล่อ เท่ สุขุม ดูแล้วอยากจะเป็นมาเรียแทนเลยจริงๆ 5555 แต่เรื่องร้องก็พอสอบผ่านครับ ฮ่าๆๆ

คุณแม่อธิการ
รับบทโดย  ปาน ธนพร แวกประยูร  / ก้อย ชิดชนก มัญชุรัตน์

ชอบพี่ปานเล่นมากๆ เล่นออกมาได้เป็นปานมากๆ ชอบ แต่ร้องต้องยกให้ครูก้อยเลยครับ พลังล้นมากๆ เพลง Climb every moutain คือที่สุด

เด็กๆ



ถ้าใครได้ดูน้องคนเล็กที่เล่นเป็น เกรเทิลเล่นแล้วไม่หลงรักผมให้เหยียบเลย เด็กๆน่ารักมากกกทุกคน สร้างเสียงหัวเราะตลอด โดยเฉพาะน้องคนเล็ก แล้วก็ได้น้องกวาง TGT มารับบทเป็นพี่คนโต ลีเซิล ก็ทำได้โอเคนะครับ คิดว่าเล่นไปเรื่อยๆน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ

นักแสดงมีดังนี้ครับ

มาเรีย ไรเนอร์  
รับบทโดย ฟาง FFK ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์  และดาวโอเกะ ณัฐภัสสร สิมะเสถียร

นาวาเอก เก-ออร์กฟอน ทรัปป์ (ผู้การฟอน ทรัปป์)
รับบทโดย    ชาย ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ

เอลซ่า ชเรอเดอร์  
รับบทโดย  ลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ

คุณแม่อธิการ
รับบทโดย  ปาน ธนพร แวกประยูร   และ ก้อย ชิดชนก มัญชุรัตน์

โรล์ฟ กรูเบอร์ (บุรุษไปรษณีย์)
รับบทโดย บอม KPN อนุรักษ์ บุญเพิ่มพูน

แม็กซ์  เดทไวเลอร์  
รับบทโดย  จ้อน ธานี พูนสุวรรณ

พี่น้องตระกูลฟอน ทรัปป์
ลีเซิล ฟอน ทรัปป์
รับบทโดย  กวาง อาริศา หอมกรุ่น

ฟรีดริค ฟอน ทรัปป์
รับบทโดย  ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน  และ  เบนซ์ กิตติภูมิ

ลุยซ่า ฟอน ทรัปป์
รับบทโดย  ขวัญ ขวัญแก้ว  และ  บัว ณัฐณิชา

เคิร์ท ฟอน ทรัปป์
รับบทโดย  แน่น สรรค์ชัย และ เฟิร์ส ลัทธวิทย์

บริกิตต้า ฟอน ทรัปป์
รับบทโดย   พิณ รรินศรี และ  ลิซ่า ชาริสา

มาธาร์ ฟอน ทรัปป์
รับบทโดย  น้องอ๊ะอาย และ พรู ภัทรจารีย์

เกรเทิล ฟอน ทรัปป์
รับบทโดย  เฟรย่า พิชชา และ มามิ จิตณิตา

สรุป

อย่างที่บอกเลยครับ ผมเข้าไปด้วยทัศนคติติดลบ แต่ออกมาด้วยความอิ่มเอิบใจ ใครจะทำแบบผมก็ไม่ว่ากันครับ อย่าตั้งความหวัง แล้วความบันเทิงจะเกิดขึ้นเอง ใครที่อยากจะไปย้อนรำลึก The sound of music ห้ามพลาดเลยครับ ออกมาด้วยความประทับใจแน่นอน อย่าไปเทียบเลยครับว่าจะทำได้เท่าต้นฉบับไหม ยังไงต้นฉบับก็คือความคลาสสิค แต่ที่ยืนยันคือของไทยทำออกมาได้ไม่แพ้ใครเลย ส่วนเรื่องการแบ่งนักแสดง ถูกจริตนักแสดงนำคนไหนก็เลือกรอบนั้นครับ แต่ทุกคนทำได้ดีอยู่แล้ว ชมละครให้มีความสุขครับ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่