คือผมเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดๆ นึงที่กาญจนบุรี ปกติผมไปช่วงที่เค้ามีคอร์ส ก็จะต้องไปนอนรวมที่โรงนอนใหญ่ๆ แต่ครั้งนี้ผมไปช่วงที่ไม่ได้มีคอร์ส ก็เลยต้องไปนอนห้องเล็ก มีคนอยู่ประมาณ 3-4 คน แต่คืนต้องนอนคนเดียวเพราะเค้ากลับกันหมด
ที่จริงวันนั้นมีเด็กนักเรียนเพิ่งมาเข้าคอร์สวันแรกเป็นกลุ่มใหญ่ หลังทำวัตรเย็นพระก็เทศน์ แต่ทีนี้เด็กนักเรียนก็คุยกันไม่สนใจพระเทศน์ พระก็เตือนให้ฟังหลายรอบ ก็เงียบเป็นพักๆ แล้วก็คุยกันเจี๊ยวจ๊าวต่อ สักพักอยู่ดีๆ มีหมาหอนครับ หอนเป็นทอดๆ หอนเอาจริงเอาจัง แบบรับช่วงกันสุดยอดเลย พระได้ทีเห็นเด็กก็ไม่สนใจฟังเทศน์กันอยู่แล้ว ก็เลยบอกว่าเอ้าวันนี้พอแค่นี้แหละ หมาหอนแล้ว ท่าจะไม่ดีแล้ว ก็เลยปล่อยกลับ (ไปวัดนี้มา 3-4 ครั้งไม่เคยเจอหมาหอนเลยสักครั้ง)
ทีนี้ผมก็ต้องมานอนที่โรงนอนเล็กคนเดียวแต่ในใจคิดว่า เดี๋ยวเด็กนักเรียนพวกนี้คงจะต้องมานอนที่โรงนอนใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ กันนี้แหละ (ในบริเวณนี้มี 3-4 โรงนอนใหญ่) ระหว่างเดินกลับผมก็เห็นเด็กนักเรียพวกนี้เดินเลยโรงนอนไปเลยครับ อ้าว เฮ้ย ไปไหนกันวะ ทำไมทิ้งฉันนอนคนเดียวเล่า
แต่ด้วยความที่ช่วงนั้นไปปฏิบัติธรรมบ่อย จิตใจเข้มแข็งครับ ก็เข้าไปนอนตามปกติ ระหว่างที่นอนไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ ที่ประตู (เป็นสังกะสี) เหมือนมีอะไรมาจับกุกกักๆ ตรงกลอนประตู จะหลับๆ ก็ดังเป็นพักๆ ใจก็คิดว่าเอาเถอะ อาจจะเป็นลมเป็นอะไรก็ได้ นอนดีกว่า ก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ใจยังแข็งอยู่ครับ จังหวะที่กำลังจะหลับเฮือกสุดท้าย เสียงกุกกักๆก็ดังอีก ด้วยความที่ตกภวังค์กำลังจะหลับแล้วสะดุ้งกลับมา ผมเลยรู้สึกโกรธและรำคานเลยพูดในใจว่า เฮ้ย จะคนหรือผีก็นอนซะทีเถอะ กูง่วง ..... คำว่าง่วงในใจยังไม่ทันจบดี เสียงกุกกัก ดังขึ้นแบบ 10 เท่ารัวๆๆๆๆๆ แล้ว เสียงก็ดังจากหน้าประตูไปด้านข้างตามกำแพงเลี้ยวซ้ายมาที่ข้างหน้าต่างตรงกำแพงแล้วเลื่อนขึ้นด้านบนหลังคาแล้วก็ดังจนมาตามหลังคาเลื่อนมาตรงจุดกับที่ผมนอนพอดี แล้วเสียงก็สงบลง
เอวัง ผมงี้ตื่นเลย พร้อมกับคิดในใจว่า เอ ที่เราสงสัย หรือเค้าจะให้คำตอบเราหว่า ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงนึกถึงคำพระสอนที่ว่า เมื่อเกิดความกลัวที่อริยาบถใด ก็ให้อยู่ในอริยาบถเดิมนั้น (จริงๆ ก็ไม่รู้จะทำอะไรครับ เพราะอยู่คนเดียวตรงนั้น) ผมจึงได้แต่นอนในท่าเดิมพร้อมกับสวดแผ่เมตตาทันที พร้อมแถมสวดมนต์บทอื่นๆ ไปเรื่อยๆ แล้วก็นอนต่อ สุดท้ายก็หลับไป ตื่นมาเช้าอีกวันก็เป็นวันที่กลับพอดี นี่ก็ยังคิดว่าโชคดีที่ไม่เป็นคืนแรก
กลับมาเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง เพื่อนผู้หญิงใจเด็ดมาก ถามว่า แล้วได้ออกมาดูหรือเปล่า ปกติช่วงปฏิบัติธรรมนี่ไม่กลัวผีนะ แต่คืนนั้นออกไม่ไหวจริงๆ แค่นอนต่อได้ก็บุญแล้ว
จากที่เล่าให้ฟัง เพื่อนๆ ในเวป คิดว่าเป็นอะไร ระหว่าง ผี กับ ตุ๊กแกกับงูสู้กัน หรือตุ๊กแกกับตุ๊กแกสู้กัน และถ้าเป็นเพื่อน จะออกมาดูมั๊ยครับ
------------------------------------------------------------------------------------
ที่จริงคืนแรกก็มีเรื่องน่าตื่นเต้น เดี๋ยวค่อยไปตั้งอีกกระทู้ อันนี้เอาแค่นี้ก่อน
สิ่งที่เกิดขึ้น ผี หรือ ตุ๊กแก และ ความกลัว
ที่จริงวันนั้นมีเด็กนักเรียนเพิ่งมาเข้าคอร์สวันแรกเป็นกลุ่มใหญ่ หลังทำวัตรเย็นพระก็เทศน์ แต่ทีนี้เด็กนักเรียนก็คุยกันไม่สนใจพระเทศน์ พระก็เตือนให้ฟังหลายรอบ ก็เงียบเป็นพักๆ แล้วก็คุยกันเจี๊ยวจ๊าวต่อ สักพักอยู่ดีๆ มีหมาหอนครับ หอนเป็นทอดๆ หอนเอาจริงเอาจัง แบบรับช่วงกันสุดยอดเลย พระได้ทีเห็นเด็กก็ไม่สนใจฟังเทศน์กันอยู่แล้ว ก็เลยบอกว่าเอ้าวันนี้พอแค่นี้แหละ หมาหอนแล้ว ท่าจะไม่ดีแล้ว ก็เลยปล่อยกลับ (ไปวัดนี้มา 3-4 ครั้งไม่เคยเจอหมาหอนเลยสักครั้ง)
ทีนี้ผมก็ต้องมานอนที่โรงนอนเล็กคนเดียวแต่ในใจคิดว่า เดี๋ยวเด็กนักเรียนพวกนี้คงจะต้องมานอนที่โรงนอนใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ กันนี้แหละ (ในบริเวณนี้มี 3-4 โรงนอนใหญ่) ระหว่างเดินกลับผมก็เห็นเด็กนักเรียพวกนี้เดินเลยโรงนอนไปเลยครับ อ้าว เฮ้ย ไปไหนกันวะ ทำไมทิ้งฉันนอนคนเดียวเล่า
แต่ด้วยความที่ช่วงนั้นไปปฏิบัติธรรมบ่อย จิตใจเข้มแข็งครับ ก็เข้าไปนอนตามปกติ ระหว่างที่นอนไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ ที่ประตู (เป็นสังกะสี) เหมือนมีอะไรมาจับกุกกักๆ ตรงกลอนประตู จะหลับๆ ก็ดังเป็นพักๆ ใจก็คิดว่าเอาเถอะ อาจจะเป็นลมเป็นอะไรก็ได้ นอนดีกว่า ก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ใจยังแข็งอยู่ครับ จังหวะที่กำลังจะหลับเฮือกสุดท้าย เสียงกุกกักๆก็ดังอีก ด้วยความที่ตกภวังค์กำลังจะหลับแล้วสะดุ้งกลับมา ผมเลยรู้สึกโกรธและรำคานเลยพูดในใจว่า เฮ้ย จะคนหรือผีก็นอนซะทีเถอะ กูง่วง ..... คำว่าง่วงในใจยังไม่ทันจบดี เสียงกุกกัก ดังขึ้นแบบ 10 เท่ารัวๆๆๆๆๆ แล้ว เสียงก็ดังจากหน้าประตูไปด้านข้างตามกำแพงเลี้ยวซ้ายมาที่ข้างหน้าต่างตรงกำแพงแล้วเลื่อนขึ้นด้านบนหลังคาแล้วก็ดังจนมาตามหลังคาเลื่อนมาตรงจุดกับที่ผมนอนพอดี แล้วเสียงก็สงบลง
เอวัง ผมงี้ตื่นเลย พร้อมกับคิดในใจว่า เอ ที่เราสงสัย หรือเค้าจะให้คำตอบเราหว่า ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงนึกถึงคำพระสอนที่ว่า เมื่อเกิดความกลัวที่อริยาบถใด ก็ให้อยู่ในอริยาบถเดิมนั้น (จริงๆ ก็ไม่รู้จะทำอะไรครับ เพราะอยู่คนเดียวตรงนั้น) ผมจึงได้แต่นอนในท่าเดิมพร้อมกับสวดแผ่เมตตาทันที พร้อมแถมสวดมนต์บทอื่นๆ ไปเรื่อยๆ แล้วก็นอนต่อ สุดท้ายก็หลับไป ตื่นมาเช้าอีกวันก็เป็นวันที่กลับพอดี นี่ก็ยังคิดว่าโชคดีที่ไม่เป็นคืนแรก
กลับมาเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง เพื่อนผู้หญิงใจเด็ดมาก ถามว่า แล้วได้ออกมาดูหรือเปล่า ปกติช่วงปฏิบัติธรรมนี่ไม่กลัวผีนะ แต่คืนนั้นออกไม่ไหวจริงๆ แค่นอนต่อได้ก็บุญแล้ว
จากที่เล่าให้ฟัง เพื่อนๆ ในเวป คิดว่าเป็นอะไร ระหว่าง ผี กับ ตุ๊กแกกับงูสู้กัน หรือตุ๊กแกกับตุ๊กแกสู้กัน และถ้าเป็นเพื่อน จะออกมาดูมั๊ยครับ
------------------------------------------------------------------------------------
ที่จริงคืนแรกก็มีเรื่องน่าตื่นเต้น เดี๋ยวค่อยไปตั้งอีกกระทู้ อันนี้เอาแค่นี้ก่อน