มันมาเงียบๆ ตามประสาตลาดหนังไทย พ.ศ.นี้ แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่ถึงกับเงียบนัก เรากำลังกล่าวถึงเรื่อง "2538 อัลเทอร์มาจีบ" หนังแนวโรแมนติก คอเมดี้ แฟนตาซี ที่พาย้อนไปบันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์อันน่าจดจำในช่วงปี พ.ศ. 2538 ที่ทำได้อย่างแนบเนียนและน่ารัก จนต้องยกนิ้วให้เป็นหนังไทยในดวงใจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 ที่แม้ช่วงนี้จะไม่มีเรื่องใดโด่งดังเท่า และยังไม่มีหนังเรื่องไหนเลยที่พิชิตเงินร้อยล้านบาท แต่อย่างน้อยหนังเรื่องนี้ได้สร้างปรากฏการณ์เล็กๆ ที่คุ้มค่าให้กับวงการหนังไทยได้เป็นอย่างดี
ก็ต้องชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์และการทำงานของทีมงานเรื่องนี้ทั้งหมด โดย ผกก.หน้าใหม่แต่ฝีมือไม่ใหม่อย่าง "เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร" ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ปีในการทุ่มเทให้กับหนังเรื่องนี้จนเป็นผลสำเร็จ เป็นหนังน่ารักอีกเรื่องที่น่าจะถูกใจเด็กๆ จ๊าบๆ ในสมัยนี้
2538 อัลเทอร์มาจีบ ถ่ายทอดภาพความหลังสมัยนั้นและเชื่อมโยงถึงสมัยนี้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ แทบไม่มีที่ติ พิสูจน์จริง จัดวางเนื้อหาและองค์ประกอบฉากได้อย่างลงตัว การแสดงสมจริง มีหยิกนิดหยอกหน่อย อีกทั้งแสดงวิถีชีวิตผ่านการสื่อสารได้อย่างเด่นชัดและงดงาม
เราจึงได้เห็นเพจเจอร์แสดงข้อความ เครื่องเล่นทามาก๊อตจิ อินเทอร์เน็ตรุ่นแรก แผงเทปคาสเซ็ทของเหล่าศิลปินแนวอัลเทอร์เนทีฟ และแนวป็อป(โดยเฉพาะเทปของวงบอยแบนด์ที่มีสมาชิกคนหนึ่งซึ่งปัจจุบันเป็น...) หนังสือพิมพ์รายวันราคา 5 บาทที่พาดหัวข่าวอุบัติเหตุ(เพราะปีนั้นมีดาราดังหลายคนตายด้วยอุบัติเหตุกันทั้งนั้น) เบอร์โทรศัพท์ที่มีแค่ 7 หลัก และสิ่งที่สำคัญที่สามารถเปลี่ยนชีวิตสู่อดีตหรือสู่อนาคตได้คือ ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ นั่นเอง
ส่วนเรื่องดนตรีก็มีเพลงประกอบมากมายทั้งเก่าทั้งใหม่ และยังได้วงพราว(ตัวจริงเสียงจริง)มาเข้าฉาก จนคนดูบ่นว่าหน้าดูแก่ไปสักหน่อย เลยได้ฟังเพลง เธอคือความฝัน(ที่เคยประกอบหนังเรื่อง HBD ของโมโนฟิล์มอีกนั่นแหละ) กันอย่างซาบซึ้ง
มีหนังไทยสุดฮอตอย่าง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว และโปสเตอร์หนังไทยเรื่องต่างๆ จากค่ายต่างๆ ที่ฉายในช่วงปี 2538 กระทั่งสื่อโทรทัศน์ที่มีละครยอดฮิตอย่าง มนต์รักลูกทุ่ง วาไรตี้ดังอย่าง สี่ทุ่มสแควร์ แต่เสียดายที่ไม่มีเรื่อง เปาบุ้นจิ้น จากช่องคู่แข่งให้ได้เห็นกัน มิฉะนั้นก็จะถือว่าเต็มอรรถรสแน่นอน
สิ่งที่น่าจะเติมเต็มให้ในเรื่องนี้น่าดูยิ่งขึ้นก็ยังมี คอมแพ็คดิสก์ หรือ ซีดี ที่เพิ่งขยายตลาด คนยุคนั้นต้องหันไปสนใจซื้อซีดีแทนเทปคาสเซ็ตแล้ว หนังสือการ์ตูนตาโต บะหมี่กุ๊งกิ๊ง(ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ก็ต้องฟรุ้งฟริ้ง) หรือจะเป็นเหตุการณ์ระดับชาติอย่าง น้ำท่วมทะลักเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งคงจะเป็นไปได้ยากในการสร้าง หรือพระเอกกับนางเอกควงแขนดูสุริยุปราคาเต็มดวง กระทั่งดารารับเชิญที่ทางผู้สร้างเคยจะชวน ป้าง นครินทร์ กับ ป๊อด โมเดิร์นด็อก ไว้ตั้งต้น ก็มาแค่เสียงร้องจากในเทปเพียงเท่านั้น อาจเป็นเพราะต้องประหยัดต้นทุนหรืออย่างไรก็ไม่แน่ใจ
และที่ยังขาดหายไปในหนังเรื่องนี้ก็คือ เครดิตที่ปรากฏท้ายเรื่อง ก็น่าจะให้เครดิตขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของส่วนประกอบต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ด้วย จะถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
โปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้(ตามภาพ) จัดวางได้อย่างลงตัวดีจริงๆ ไม่ต้องชมมากชมมายอะไรหรอก เห็นอย่างนี้ก็สุขใจแล้ว
นี่คือสิ่งที่ได้จาก 2538 อัลเทอร์มาจีบ บทบันทึกระหว่างยุคสมัยที่ควรค่าแก่การชม ก็ต้องคอยติดตามท่าทีของเรื่องต่อไปจากค่ายนี้ว่าจะโปรโมทมากมายเพียงใด หรือมีอะไรให้เราโดด/ดาวน์โหลดกันบ้าง...สวัสดี.
บอกเล่าผ่านยุคสมัยจาก "2538 อัลเทอร์มาจีบ"
มันมาเงียบๆ ตามประสาตลาดหนังไทย พ.ศ.นี้ แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่ถึงกับเงียบนัก เรากำลังกล่าวถึงเรื่อง "2538 อัลเทอร์มาจีบ" หนังแนวโรแมนติก คอเมดี้ แฟนตาซี ที่พาย้อนไปบันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์อันน่าจดจำในช่วงปี พ.ศ. 2538 ที่ทำได้อย่างแนบเนียนและน่ารัก จนต้องยกนิ้วให้เป็นหนังไทยในดวงใจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 ที่แม้ช่วงนี้จะไม่มีเรื่องใดโด่งดังเท่า และยังไม่มีหนังเรื่องไหนเลยที่พิชิตเงินร้อยล้านบาท แต่อย่างน้อยหนังเรื่องนี้ได้สร้างปรากฏการณ์เล็กๆ ที่คุ้มค่าให้กับวงการหนังไทยได้เป็นอย่างดี
ก็ต้องชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์และการทำงานของทีมงานเรื่องนี้ทั้งหมด โดย ผกก.หน้าใหม่แต่ฝีมือไม่ใหม่อย่าง "เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร" ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ปีในการทุ่มเทให้กับหนังเรื่องนี้จนเป็นผลสำเร็จ เป็นหนังน่ารักอีกเรื่องที่น่าจะถูกใจเด็กๆ จ๊าบๆ ในสมัยนี้
2538 อัลเทอร์มาจีบ ถ่ายทอดภาพความหลังสมัยนั้นและเชื่อมโยงถึงสมัยนี้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ แทบไม่มีที่ติ พิสูจน์จริง จัดวางเนื้อหาและองค์ประกอบฉากได้อย่างลงตัว การแสดงสมจริง มีหยิกนิดหยอกหน่อย อีกทั้งแสดงวิถีชีวิตผ่านการสื่อสารได้อย่างเด่นชัดและงดงาม
เราจึงได้เห็นเพจเจอร์แสดงข้อความ เครื่องเล่นทามาก๊อตจิ อินเทอร์เน็ตรุ่นแรก แผงเทปคาสเซ็ทของเหล่าศิลปินแนวอัลเทอร์เนทีฟ และแนวป็อป(โดยเฉพาะเทปของวงบอยแบนด์ที่มีสมาชิกคนหนึ่งซึ่งปัจจุบันเป็น...) หนังสือพิมพ์รายวันราคา 5 บาทที่พาดหัวข่าวอุบัติเหตุ(เพราะปีนั้นมีดาราดังหลายคนตายด้วยอุบัติเหตุกันทั้งนั้น) เบอร์โทรศัพท์ที่มีแค่ 7 หลัก และสิ่งที่สำคัญที่สามารถเปลี่ยนชีวิตสู่อดีตหรือสู่อนาคตได้คือ ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ นั่นเอง
ส่วนเรื่องดนตรีก็มีเพลงประกอบมากมายทั้งเก่าทั้งใหม่ และยังได้วงพราว(ตัวจริงเสียงจริง)มาเข้าฉาก จนคนดูบ่นว่าหน้าดูแก่ไปสักหน่อย เลยได้ฟังเพลง เธอคือความฝัน(ที่เคยประกอบหนังเรื่อง HBD ของโมโนฟิล์มอีกนั่นแหละ) กันอย่างซาบซึ้ง
มีหนังไทยสุดฮอตอย่าง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว และโปสเตอร์หนังไทยเรื่องต่างๆ จากค่ายต่างๆ ที่ฉายในช่วงปี 2538 กระทั่งสื่อโทรทัศน์ที่มีละครยอดฮิตอย่าง มนต์รักลูกทุ่ง วาไรตี้ดังอย่าง สี่ทุ่มสแควร์ แต่เสียดายที่ไม่มีเรื่อง เปาบุ้นจิ้น จากช่องคู่แข่งให้ได้เห็นกัน มิฉะนั้นก็จะถือว่าเต็มอรรถรสแน่นอน
สิ่งที่น่าจะเติมเต็มให้ในเรื่องนี้น่าดูยิ่งขึ้นก็ยังมี คอมแพ็คดิสก์ หรือ ซีดี ที่เพิ่งขยายตลาด คนยุคนั้นต้องหันไปสนใจซื้อซีดีแทนเทปคาสเซ็ตแล้ว หนังสือการ์ตูนตาโต บะหมี่กุ๊งกิ๊ง(ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ก็ต้องฟรุ้งฟริ้ง) หรือจะเป็นเหตุการณ์ระดับชาติอย่าง น้ำท่วมทะลักเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งคงจะเป็นไปได้ยากในการสร้าง หรือพระเอกกับนางเอกควงแขนดูสุริยุปราคาเต็มดวง กระทั่งดารารับเชิญที่ทางผู้สร้างเคยจะชวน ป้าง นครินทร์ กับ ป๊อด โมเดิร์นด็อก ไว้ตั้งต้น ก็มาแค่เสียงร้องจากในเทปเพียงเท่านั้น อาจเป็นเพราะต้องประหยัดต้นทุนหรืออย่างไรก็ไม่แน่ใจ
และที่ยังขาดหายไปในหนังเรื่องนี้ก็คือ เครดิตที่ปรากฏท้ายเรื่อง ก็น่าจะให้เครดิตขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของส่วนประกอบต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ด้วย จะถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
โปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้(ตามภาพ) จัดวางได้อย่างลงตัวดีจริงๆ ไม่ต้องชมมากชมมายอะไรหรอก เห็นอย่างนี้ก็สุขใจแล้ว
นี่คือสิ่งที่ได้จาก 2538 อัลเทอร์มาจีบ บทบันทึกระหว่างยุคสมัยที่ควรค่าแก่การชม ก็ต้องคอยติดตามท่าทีของเรื่องต่อไปจากค่ายนี้ว่าจะโปรโมทมากมายเพียงใด หรือมีอะไรให้เราโดด/ดาวน์โหลดกันบ้าง...สวัสดี.