ถ้าตาม กม เงื่อนไข รายละเอียดมันเยอะครับ
คำตอบ คือ ได้  
ต่อเมื่อ บุคคลผู้บริจาค มีใบรับรองแพทย์ หรือความเห็นของแพทย์เจ้าของไข้ ที่พอจะคาดการณ์การสิ้นอายุของผู้บริจาคได้ กรณีนี้จะทำได้เมื่อผู้บริจาค สิ้นอายุขัยในเวลาที่ไม่มีผลต่ออวัยวะที่บริจาค

การบริจาคนั้น ไม่มีผล ต่อการใช้ชีวิตปกติของผู้บริจาค หรือ การสูญเสียไปของอวัยวะนั้น ยังทำให้ผู้บริจาค ดำรงชีวิตอยู่ได้ดัวยประสิทธิภาพ 50% (หมายถึง 50%  ของอวัยวะที่บริจาค)  เป็นต้นไป กรณีนี้อนุโลม ให้กับผู้บริจาคที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผู้รับบริจาค เท่านั้น เช่น การบริจากไต ข้างนึง ของพ่อให้ลูก  น้าให้หลาน เป็นต้น

แต่ไม่ใช่ว่า ผู้เป็นพ่อจะบริจาคตา ให้ลูกได้กรณีลูกตาบอดสองข้าง พ่อต้องการบริจาคข้างนึงให้ อันนี้ไม่ได้ครับ เพราะแพทย์จะคิดไปไกลกว่านั้น คือถ้ายอม แล้วตาที่เหลืออยู่ข้างนึง ของพ่อเกิดเสียจากอุบัติเหตุหรืออายุการใช้งาน(ด้อยประสิทธิภาพตามวัย)
หรือลูกแขนขาดมา แต่เนื้อเยื่อจุดที่ขาด ยังไม่เสีย แต่หาแขนที่ขาดไปไม่เจอ พ่อจะมาแสดงเจตจำนง ให้ตัดแขนตน ไปให้ลูกอันนี้ไม่ได้ครับ

พูดง่าย ๆ ในมุมของแพทย์ จะยอมให้มีคนป่วยแต่คนเดึยว แต่ไม่ยอมให้เกิดคนป่วยถึงสองคน(ซึ่งบนเงื่อนไขนี้จะรองรับเงื่อนไขหนึ่งโดยปริยาย นั่นคือ ปัจจุบัน ก็มีคนป่วยสองคนอยู่แล้ว คือผู้บริจาค และผู้รับบริจาค)

อยาก รณรงค์บริจาคร่างกาย แสดงเจตจำนงค์ กับโรงพยาบาลครับ
อย่างครอบครัวผม บริจาคทั้งบ้าน เราแสดงเจตจำนงค์ได้ เพื่อเป็น อ.หมอให้กับ นศ. แพทย์และ ใช้อวัยวะของเราที่คนอื่นเขาต้องการ
ในวันที่เราหมดอายุขัย  ส่วนที่เหลือ นำร่างไปให้ นศ. แพทย์