คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
1.เปรียบเทียบกับตัวอย่างนี้นะครับ ( ข้อมูลจาก IMDB )
- เจสัน สเตแธม เกิด 26 ก.ค. 1967 ( พ.ศ.2510 ) ปีนี้อายุจะ 48 )
- ดเวย์น จอห์นสัน ( เดอะร็อค ) เกิด 2 พ.ค. 1972 ( พ.ศ.2515 ) ปีนี้จะอายุ 43
- เฉินหลง เกิด 7 เม.ย. 1954 ( พ.ศ.2497 ) ปีนี้จะอายุ 61 ปี
เอาแค่นี้ก่อน สิ่งที่เห็นอย่างนึง คือดารากลุ่มนี้หลังๆ เริ่มบู๊น้อยลง หันไปเล่นบทที่ต้องใช้สายตา ใช้อารมณ์หนักๆ มากขึ้น ( เดอะร็อคใน Snitch , สเตแธมใน Hummingbird , เฉินหลงใน Shinjuku Incident ) ดังนั้นสันนิษฐานว่าพอวัยขึ้นเลข 4 ถึงร่างกายจะฟิตอย่างไรก็คงไม่เท่าสมัยหนุ่มๆ แล้ว
2.คงเล่นได้ แต่จะให้เก่งเท่าตอนหนุ่มๆ คงยาก ดังเหตุผลในข้อแรก
3.หนังไทยบ้า Stunt Show จนเกินงามครับ ( ว่างๆ จะเขียนถึงเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งมันทำให้หนังไทยแนวนี้ไม่โกอินเตอร์เสียที ทั้งๆ ที่นักแสดงไทยเก่งๆ ทางนี้มีหลายคน ) มีอะไรก็จับยัดๆ เข้ามาอย่างเดียวโดยไม่ดูความสมเหตุสมผล
4.จะยืนในวงการให้ได้ยาวๆ ต้องเล่นแอ็คติ้งให้ได้หลายๆ แนวครับ ( นึกถึงเดอะร็อคกับเฉินหลง ที่เล่นแอ็คชั่นเครียดๆ ก็ได้ แอ็คชั่นตลกรั่วๆ ก็ดี )
5.อย่าเอาไทยไปเทียบฮอลลีวู้ดเลยครับ ทุนสร้างหนังเขาเรื่องนึงนี่หลักหลายร้อยล้าน ถ้าเงินถึงคุณภาพงานก็เนี้ยบไปด้วย ( ค่ายหนังบางค่ายบ้านเรา ทำหนังไทยได้กากมาก แต่ได้รับความไว้วางใจ จ้างไปทำ CG ทำ Production หนังฟอร์มยักษ์ของฮ่องกง ของจีน คิดดูละกัน )
6.มีมาแล้วครับ หนังเรื่อง Skin Trade ประกบคู่ดอล์ฟ ลุนด์เกร็น ดาราแอ็คชั่นของฮอลลีวู้ดเสียด้วย ( แต่คนไทยคงไม่ได้ดู เพราะคงโดนใครบางคนฟ้องให้แบนตามเคย )
บอกตรงๆ จาไปโกอินเตอร์หนนี้ คุ้มสุดๆ ครับ แต่จะยืนระยะได้นานไหม? ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างต้นนั่นแหละ
ปล.ตัวอย่าง Skin Trade ครับ
- เจสัน สเตแธม เกิด 26 ก.ค. 1967 ( พ.ศ.2510 ) ปีนี้อายุจะ 48 )
- ดเวย์น จอห์นสัน ( เดอะร็อค ) เกิด 2 พ.ค. 1972 ( พ.ศ.2515 ) ปีนี้จะอายุ 43
- เฉินหลง เกิด 7 เม.ย. 1954 ( พ.ศ.2497 ) ปีนี้จะอายุ 61 ปี
เอาแค่นี้ก่อน สิ่งที่เห็นอย่างนึง คือดารากลุ่มนี้หลังๆ เริ่มบู๊น้อยลง หันไปเล่นบทที่ต้องใช้สายตา ใช้อารมณ์หนักๆ มากขึ้น ( เดอะร็อคใน Snitch , สเตแธมใน Hummingbird , เฉินหลงใน Shinjuku Incident ) ดังนั้นสันนิษฐานว่าพอวัยขึ้นเลข 4 ถึงร่างกายจะฟิตอย่างไรก็คงไม่เท่าสมัยหนุ่มๆ แล้ว
2.คงเล่นได้ แต่จะให้เก่งเท่าตอนหนุ่มๆ คงยาก ดังเหตุผลในข้อแรก
3.หนังไทยบ้า Stunt Show จนเกินงามครับ ( ว่างๆ จะเขียนถึงเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งมันทำให้หนังไทยแนวนี้ไม่โกอินเตอร์เสียที ทั้งๆ ที่นักแสดงไทยเก่งๆ ทางนี้มีหลายคน ) มีอะไรก็จับยัดๆ เข้ามาอย่างเดียวโดยไม่ดูความสมเหตุสมผล
4.จะยืนในวงการให้ได้ยาวๆ ต้องเล่นแอ็คติ้งให้ได้หลายๆ แนวครับ ( นึกถึงเดอะร็อคกับเฉินหลง ที่เล่นแอ็คชั่นเครียดๆ ก็ได้ แอ็คชั่นตลกรั่วๆ ก็ดี )
5.อย่าเอาไทยไปเทียบฮอลลีวู้ดเลยครับ ทุนสร้างหนังเขาเรื่องนึงนี่หลักหลายร้อยล้าน ถ้าเงินถึงคุณภาพงานก็เนี้ยบไปด้วย ( ค่ายหนังบางค่ายบ้านเรา ทำหนังไทยได้กากมาก แต่ได้รับความไว้วางใจ จ้างไปทำ CG ทำ Production หนังฟอร์มยักษ์ของฮ่องกง ของจีน คิดดูละกัน )
6.มีมาแล้วครับ หนังเรื่อง Skin Trade ประกบคู่ดอล์ฟ ลุนด์เกร็น ดาราแอ็คชั่นของฮอลลีวู้ดเสียด้วย ( แต่คนไทยคงไม่ได้ดู เพราะคงโดนใครบางคนฟ้องให้แบนตามเคย )
บอกตรงๆ จาไปโกอินเตอร์หนนี้ คุ้มสุดๆ ครับ แต่จะยืนระยะได้นานไหม? ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างต้นนั่นแหละ
ปล.ตัวอย่าง Skin Trade ครับ
แสดงความคิดเห็น
ถามเกี่ยวกับ จา พนม และการทำงานในฮอลีวูด ของจา
1. ตอนนี้ จา อายุประมาณ30ปลายๆต่อ40ปี ถ้าเทียบกับดาราแอ๊คชั่นคนอื่นๆ ถือว่าอายุมากหรือน้อยครับ
2. ศิลปะการต่อสู้ของจา เป็นไปในลักษณะของโชว์ เพื่อการแสดงซึ่งหมายถึงว่าย่อมมีอายุงานมากกว่านักกีฬาที่กำลังกายหมายถึงผลการแข่งขัน แต่มวยไทยนั้นค่อนข้างใช้แรงเยอะ คิดว่าหากฟิตและดูแลร่างกายดีๆจายังสามารถเล่นบทแอคชั่นได้จนอายุ50มั้ย
3. คือในหนังไทยที่จาเล่น ผมว่าคิวบู๊สวยงามแต่ยังไม่เนียนเท่าไหร่คือยังติดแอ๊คเหมือนโชว์อยู่ แต่จากตัวอย่าง FF7 ฉากสู้กับพอล ถือว่าเนียนขึ้นเยอะ ท่านคิดว่าไงกันบ้าง
4. คิดว่าบทบาทการแสดงของของจาใน FF7 จะจุดติดในวงการฮอลีวูดมั้ย
5. ฉากบู๊ใน FF7 ในตัวอย่างดูพริ้วไหว รวดเร็ว สวยงามขึ้น มากกว่าเก่าที่ใช้แรงล้วนๆ
6.อันนี้ข้อเสนอแนะส่วนตัว มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ไม่กี่อย่างที่มีการใช้ประกอบอาวุธ ซึ่งหากจาไปได้ไกลอยากให้เสริมต้องคิวบู๊ประกอบอาวุธด้วย และอีกเรื่องคือผมคิวว่า จา มีความสามารถพอที่จะนำมวยไทยมาใช้ประยุกต์กับปืนสั้นได้ ซึ่งหากทำได้และสวยงามจะได้ลบภาพแปลกๆในหนังที่ว่าลูกน้องอาวุธครบมือแต่ไม่ชักปืนสู้ซักคน
ป.ล.ขอแท๊กมวยไทยด้วยนะครับ เพราะคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับมวยไทย