สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
เท่าที่เคยตามเรื่องช่วง 2-3 ปีก่อน ช่วงจากำลังสร้างหนัง "ไอ้หนุ่มกังนัม " เรื่อง หนี้ 26 ล้าน.. มายังไง ทำไม จา ไม่รู้เรื่อง..
จา น่าจะรู้เห็น ขนาด ทนไม่ไหว หนีไปบวชอยู่พักเลยแหละ...
ลองไล่ดู ข่าวช่วงนั้นมา ปะติดปะต่อ เอาได้
เข้าใจว่า หลังบวชแล้ว คงได้ สติ และ ปลง อะไรๆ ได้หลายอย่าง จึงกลับมา.. ค่อยๆ จัดการ.. ยกทรัพย์สมบัติให้ พ่อ น้องสาว น้องเขย ยก บริษัทฯ (ไอยรา) และ อำนาจทางกฎหมายให้.. เริ่มตัดช่องทางการสื่อสารกับคนใกล้ตัว..
ไปอยู่บ้านกับเมีย(บ้านยังชื่อเมียเลย) ที่เหลือเพียงหลังเดียว ปัญหา ทั้งหมด พยายามเก็บ ไม่บอกใคร..
เรียกได้ว่า เหลือแต่ตัวจริงๆ จังหวะ มาเลยตัดสินใจ ไปตายเอาดาบหน้า พุ่งไปสู่ ฮอลลีวูด เต็มตัว แบบไม่มีอะไรต้องเสีย ภาษา ก็ไปหาเรียนเอา งานก็ไปทำหลายๆ อย่างเท่าที่เขาจะมีให้ทำ ลองหาคลิปพวก ออกกำลังกาย ในท่อได้ ช่วงนั้น หน้าตาจา ดูเคร่งๆ พอควร.. (น่าจะอยู่แบบลำบากพอตัว เพราะไปกับภรรยากันสองคน)
ฝ่ายนี้น่าจะ ระแคะระคาย เรื่อง ไม่ต่อสัญญา เลยให้ ฝ่ายพ่อ น้องสาว น้องเขย เล่นปาหี่ เรื่อง ลูกอกตัญญู.
ส่วนพี่สาว อยู่ ในฐานะ คนกลาง พูดไม่ออก เช่นกัน.
เพราะ ไม่รู้ จะช่วยกันหาทางออก อย่างไร...
เรื่อง ทำหนัง จริงๆ ในมุมคนทำ เท่าที่ตามดู หนังสร้างไปได้ราวๆ 1/3 เองมั้ง แต่บริษัทฯ (น้องเขยตัวแสบ) เอาเงินเสี่ยมา แต่ใช้อย่างอื่นจนหมด(ช่วงนั้น มีสื่อแกะ ลองไปไล่ดู ข่าวได้) หนังเลยเดินหน้าต่อไม่ได้ ครั้นจะไปเอาเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะ เอามาล่วงหน้าเกือบ 100% แล้ว.. นี้คือชนวนใหญ่ ที่ทำให้ จา ถึงกับหนี บวช เลย.. ครั้งจะให้ จา แบกหน้าไปขอเงินเสี่ย คิดว่า จา ไม่ทำแน่ๆ เพราะว่า ตัวจาและเมียน่าจะเคยคุยแล้ว ว่าจะไม่ต่อสัญญา ดังนั้น ไม่อยากสร้าง ห่วงผูกคอ ตัวเองอีก..
จา น่าจะรู้เห็น ขนาด ทนไม่ไหว หนีไปบวชอยู่พักเลยแหละ...
ลองไล่ดู ข่าวช่วงนั้นมา ปะติดปะต่อ เอาได้
เข้าใจว่า หลังบวชแล้ว คงได้ สติ และ ปลง อะไรๆ ได้หลายอย่าง จึงกลับมา.. ค่อยๆ จัดการ.. ยกทรัพย์สมบัติให้ พ่อ น้องสาว น้องเขย ยก บริษัทฯ (ไอยรา) และ อำนาจทางกฎหมายให้.. เริ่มตัดช่องทางการสื่อสารกับคนใกล้ตัว..
ไปอยู่บ้านกับเมีย(บ้านยังชื่อเมียเลย) ที่เหลือเพียงหลังเดียว ปัญหา ทั้งหมด พยายามเก็บ ไม่บอกใคร..
เรียกได้ว่า เหลือแต่ตัวจริงๆ จังหวะ มาเลยตัดสินใจ ไปตายเอาดาบหน้า พุ่งไปสู่ ฮอลลีวูด เต็มตัว แบบไม่มีอะไรต้องเสีย ภาษา ก็ไปหาเรียนเอา งานก็ไปทำหลายๆ อย่างเท่าที่เขาจะมีให้ทำ ลองหาคลิปพวก ออกกำลังกาย ในท่อได้ ช่วงนั้น หน้าตาจา ดูเคร่งๆ พอควร.. (น่าจะอยู่แบบลำบากพอตัว เพราะไปกับภรรยากันสองคน)
ฝ่ายนี้น่าจะ ระแคะระคาย เรื่อง ไม่ต่อสัญญา เลยให้ ฝ่ายพ่อ น้องสาว น้องเขย เล่นปาหี่ เรื่อง ลูกอกตัญญู.
ส่วนพี่สาว อยู่ ในฐานะ คนกลาง พูดไม่ออก เช่นกัน.
เพราะ ไม่รู้ จะช่วยกันหาทางออก อย่างไร...
เรื่อง ทำหนัง จริงๆ ในมุมคนทำ เท่าที่ตามดู หนังสร้างไปได้ราวๆ 1/3 เองมั้ง แต่บริษัทฯ (น้องเขยตัวแสบ) เอาเงินเสี่ยมา แต่ใช้อย่างอื่นจนหมด(ช่วงนั้น มีสื่อแกะ ลองไปไล่ดู ข่าวได้) หนังเลยเดินหน้าต่อไม่ได้ ครั้นจะไปเอาเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะ เอามาล่วงหน้าเกือบ 100% แล้ว.. นี้คือชนวนใหญ่ ที่ทำให้ จา ถึงกับหนี บวช เลย.. ครั้งจะให้ จา แบกหน้าไปขอเงินเสี่ย คิดว่า จา ไม่ทำแน่ๆ เพราะว่า ตัวจาและเมียน่าจะเคยคุยแล้ว ว่าจะไม่ต่อสัญญา ดังนั้น ไม่อยากสร้าง ห่วงผูกคอ ตัวเองอีก..
แสดงความคิดเห็น
เห็นทนายสุวัตรบอกว่าจา พนม เอาเงินเสี่ยไป 26 ล้าน คิดว่าจาเอาเงินเสี่ยไปจริง ๆ หรือเปล่าครับ ?
ทีนี้มันดันมีอีกเรื่องที่ว่าจาเบี้ยวเงินเสี่ยไป 26 ล้าน และเสี่ยให้เงินจาใช้ทุกเดือน ๆ ละ 50,000 บาท ตรงนี้ผมไม่รู้ว่าจาผิดจริงหรือเปล่า สมมุติว่าเบี้ยวไปจริง ๆ ก็ได้เอ้า ! ยังไงเสี่ยก็ต้องไปฟ้องร้องเรียกเอาค่าเสียหายกะจาเอาเอง ไม่ใช่ไปฟ้องศาลให้แบนหนังงดฉายแบบนี้ และเหมือนกับว่าทนายของเสี่ยนี่ก็จับแพะชนแกะมั่วไปหมดเลยนะครับ ทั้งเรื่องผิดสัญญา ทั้งเรื่องที่จา เอาเงินเสี่ยไป ให้มาอยู่ในเรื่องเดียวกัน ถ้าจาเบี้ยวเงินจริง ทำไมไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับจาเอง โดยที่ไม่เกี่ยวกับตัวหนัง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างจากับเสี่ย
ส่วนเรื่องสัญญายังคิดว่าการทำสัญญาต่ออัตโนมัติไปอีก 10 ปี โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เซ็นตกลงเลย ถือเป็นการผิดสัญญาด้วยหรือนี่ มันบัดซบมาก
ถ้าความคิดเห็นส่วนตัว เรื่องที่เสี่ยหาว่าจาเบี้ยวเงิน ผมว่าไม่น่าจะเบี้ยว เพราะถ้าเบี้ยวเงินจริง ทำไมเพิ่งมาฟ้องเอาป่านนี้ เงินก็ไม่ใช่น้อย ๆ ตั้ง 26 ล้าน นี่ปล่อยให้จาเอาเงิน 26 ล้านไปเป็นปี ๆ พอหนังจะเข้าฉายก็มาฟ้องเหรอ ผมว่ามันแปลก ๆ ผมอยากให้จาออกมาแก้ข่าวตรงนี้มาก ๆ
แล้วไม่ทราบว่าพวกท่านคิดว่าจาเบี้ยวเงินเสี่ยไป 26 ล้าน จริงหรือเปล่าครับ ? ในฐานะที่ชื่นชอบจา พนม ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน