โค้ชซิโก้กับเมสซี่เจได้ค่าโฆษณาเป็นสิบล้าน
สร้างคุณค่าให้ตัวเอง
26/03/2015 8:13:51 น.
ชั่วโมงนี้และนาทีนี้ ณเดชน์ คูกิมิยะ, บอย-ปกรณ์ หรือใครต่อใครไม่มีทางฮอตสู้คนคู่ในวงการลูกหนังไทยอย่าง ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ ''เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้อย่างแน่นอน
ลองขับรถไปบนท้องถนนในกรุงเทพฯแล้วมองไปรอบๆ ตัวตามป้ายบนตึก หรือ ป้ายรถเมล์ก็ตาม ไม่เกิน 5 นาที ท่านจะต้องเห็น 2ขุนพล โค้ชและนักเตะทีมชาติไทยนี้อยู่บนโฆษณาไม่สินค้าชนิดใดก็ชนิดหนึ่ง
ลองนั่งนับนิ้วดูเล่นๆนะครับ "ซิโก้" เป็น พรีเซนเตอร์ ซุปไก่สกัดแบรนด์, เครื่องดื่มสปอนเซอร์, นาฬิกา, กระเป๋า และล่าสุดคือ จักรยานยนต์ซูซูกิ เรียกว่าอะไรที่ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นยันนอน "ซิโก้" คือตัวเลือกแรกในการเป็นพรีเซนเตอร์
ไม่เคยถามนะครับว่าเขาได้เงินค่าจ้างในการเป็นพรีเซนเตอร์ ตัวละเท่าไหร่ หรือถามเขาก็คงไม่บอก แต่เดาเอาจากเกรดของสินค้า ชื่อชั้นของ ซิโก้ และการต่อรองของภรรเมีย ที่เป็น ผจก.ส่วนตัว เข้าใจว่าเบ็ดเสร็จทั้ง 5 ชนิด ซิโก้จะโกยเงินจากตรงนี้ไม่น้อยกว่า 15-20 ล้านบาท
"ซิโก้" เข้าข่ายซูเปอร์สตาร์ตัวพ่ออยู่แล้ว แต่การเป็นพรีเซนเตอร์เยอะขนาดนี้ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเจ้าตัวและวงการการกีฬา เพราะขนาดช่วงฮอตๆ เป็นผู้เล่นยังไม่มากขนาดนี้เลย
"เมสซี่เจ" ลูกทีมที่เป็นดาวเด่นมาด้วยกันก็ไม่ธรรมดา ร่วมเป็นพรีเซนเตอร์กับโค้ชแทบจะทุกตัว โกยเงินไปไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทเหมือนกันนี่ไม่นับผลงานในการขึ้นปกหนังสือนะครับ วันนี้ไม่ใช่แค่หนังสือกีฬาแต่ลามไปถึงหนังสือแฟชั่น แม็กกาซีนวัยรุ่นที่แทบจะขึ้นปกทุกเล่มที่วางแผงในเมืองไทย
ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ใช่แค่ความเก่งความดังอย่างเดียวที่ทำให้เขาถูกเลือกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ แต่ภาพลักษณ์และแคแรกเตอร์ส่วนตัวของทั้งคู่เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจจ้างของเหล่าสินค้า
"ซิโก้" ฉายภาพของความเป็นผู้นำสูงมาก เป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์แคแรกเตอร์ส่วนตัว แฟนบอลสามารถเข้าถึงได้ ไม่เย่อหยิ่ง มีระเบียบวินัย ประวัติขาวสะอาด เรื่องส่วนตัวเป็นคนรักครอบครัวดูแลลูกและภรรยาเป็นอย่างดี สินค้าอะไรไม่อยากจะได้เป็นพรีเซนเตอร์ล่ะครับ ยิ่งการได้รับการเซ็นสัญญากับ สมาคมฟุตบอลฯ ยาวถึง 5 ปีตลอดเวลา 5 ปีจากนี้ หน้าและชื่อของ "ซิโก้" ยังไงก็อยู่บนสื่อทุกสื่อในเมืองไทยแทบจะทุกวัน
สิ่งหนึ่งที่ "ซิโก้" พิสูจน์ให้สปอนเซอร์ส่วนตัวเห็นมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมานั่นคือการเคารพ และให้เกียรติสปอนเซอร์ของตัวเองอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการกิน การอยู่การใช้ชีวิต รับรองไม่มีหลุดไปใช้ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งให้เสียความรู้สึก
เมสซี่เจ ที่ปีนี้เป็นปีทองของเขาก็เช่นเดียวกัน เพราะ ชนาธิป มีครอบครัวที่ดี มีคุณพ่อคอยดูแลและสกรีน เรื่องผลประโยชน์ให้มี "ซิโก้" ทีประสบการณ์มากกว่าคอยให้คำแนะนำอีกชั้น
ความน่ารักของทั้งคู่ คือไม่ใช่รับงานแค่ที่ได้ตังค์ แต่งานการกุศลของราชการของสาธารณประโยชน์ก็เห็นหน้าทั้งคู่เป็นประจำเหมือนกัน แม้กระทั่งรณรงค์คัดเลือกทหารก็ยังมีเมสซี่เจ
"ซิโก้" เล่าให้ผมฟังว่า เขาโชคดีที่เคยผ่านช่วงเวลาแสนดี และแสนเลวร้ายบนถนนสายลูกหนังมาหมดแล้ว เคยดังสุดๆแล้วดับ การกลับมาดังเป็นพลุอีกครั้งในวันนี้จึงไม่ได้รู้สึกยินดียินร้าย ครองสติได้อย่างมั่นคงไม่มีเหลิง ไม่มีแอ็กต์และรู้ดีว่าจะต้องวางตัวในสังคม ในวงการอย่างไรใครเป็นลูกทีม "ซิโก้" ยุคนี้โชคดีครับ
เพราะเขาสอนทุกอย่าง ผมเคยไปยืนฟังหลังการซ้อมที่นักเตะเข้าแถวประชุม "ซิโก้" สอนแม้กระทั่งวิธีในการรับงาน ว่าอย่าเห็นแก่เล็กแก่น้อยเลือกงานที่ได้เงินเหมาะสมและไม่สิ้นเปลืองเวลาในการเป็นนักกีฬาที่ดี สอนวิธีการรับมือกับชื่อเสียงเงินทองที่ถาโถมเข้ามา แนะนำการใช้ชีวิตนอกสนาม ถ้านักเตะเก็บไปคิดก็จะเจริญรอยตาม "ซิโก้"
ในบรรดานักเตะไทยทั้งหมด ผมเสียดาย ชาริล ชัปปุยส์ ครับ ปีที่ผ่านมาไม่มีใครปฏิเสธว่านี่คือ ซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่ของวงการฟุตบอลไทย ที่ครบเครื่อง ทั้งเก่ง หล่อ จังหวะชีวิต มีสิ่งเดียวที่เขาผิดพลาดนั่นคือ คนข้างกายที่ฉุดให้เขาหายไปจากวงการ ไม่เอาสื่อ สื่อไม่เอา เหลือเชื่อที่วันนี้ไม่มีโฆษณาแม้แต่ตัวเดียว นี่แหละหนอ ชีวิตดาว พุ่งขึ้น และตกลงภายในเสี้ยวพริบตาจริงๆ
http://www.siamsport.co.th/Column/150326_110.html
ปล. นักข่าว SS บอกชัปปุยส์ มันไม่มีโฆษณา อยากบอกว่าชัปปุยส์มันมีนะ แต่อาจจะยังไม่ออก รู้สึกจะเป็น NIVIE for men นะ อย่างน้อยก้อนาจะ 2 ตัวนะ เผลอๆแค่ 2 ตัวจะได้เงินเยอะกว่าเจ้า เจ ตระเวรออกงานรับงานทั่วราชอาณาจักรด้วยมั้ง
โค้ชซิโก้กับเมสซี่เจได้ค่าโฆษณาเป็นสิบล้าน
สร้างคุณค่าให้ตัวเอง
26/03/2015 8:13:51 น.
ชั่วโมงนี้และนาทีนี้ ณเดชน์ คูกิมิยะ, บอย-ปกรณ์ หรือใครต่อใครไม่มีทางฮอตสู้คนคู่ในวงการลูกหนังไทยอย่าง ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ ''เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้อย่างแน่นอน
ลองขับรถไปบนท้องถนนในกรุงเทพฯแล้วมองไปรอบๆ ตัวตามป้ายบนตึก หรือ ป้ายรถเมล์ก็ตาม ไม่เกิน 5 นาที ท่านจะต้องเห็น 2ขุนพล โค้ชและนักเตะทีมชาติไทยนี้อยู่บนโฆษณาไม่สินค้าชนิดใดก็ชนิดหนึ่ง
ลองนั่งนับนิ้วดูเล่นๆนะครับ "ซิโก้" เป็น พรีเซนเตอร์ ซุปไก่สกัดแบรนด์, เครื่องดื่มสปอนเซอร์, นาฬิกา, กระเป๋า และล่าสุดคือ จักรยานยนต์ซูซูกิ เรียกว่าอะไรที่ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นยันนอน "ซิโก้" คือตัวเลือกแรกในการเป็นพรีเซนเตอร์
ไม่เคยถามนะครับว่าเขาได้เงินค่าจ้างในการเป็นพรีเซนเตอร์ ตัวละเท่าไหร่ หรือถามเขาก็คงไม่บอก แต่เดาเอาจากเกรดของสินค้า ชื่อชั้นของ ซิโก้ และการต่อรองของภรรเมีย ที่เป็น ผจก.ส่วนตัว เข้าใจว่าเบ็ดเสร็จทั้ง 5 ชนิด ซิโก้จะโกยเงินจากตรงนี้ไม่น้อยกว่า 15-20 ล้านบาท
"ซิโก้" เข้าข่ายซูเปอร์สตาร์ตัวพ่ออยู่แล้ว แต่การเป็นพรีเซนเตอร์เยอะขนาดนี้ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเจ้าตัวและวงการการกีฬา เพราะขนาดช่วงฮอตๆ เป็นผู้เล่นยังไม่มากขนาดนี้เลย
"เมสซี่เจ" ลูกทีมที่เป็นดาวเด่นมาด้วยกันก็ไม่ธรรมดา ร่วมเป็นพรีเซนเตอร์กับโค้ชแทบจะทุกตัว โกยเงินไปไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทเหมือนกันนี่ไม่นับผลงานในการขึ้นปกหนังสือนะครับ วันนี้ไม่ใช่แค่หนังสือกีฬาแต่ลามไปถึงหนังสือแฟชั่น แม็กกาซีนวัยรุ่นที่แทบจะขึ้นปกทุกเล่มที่วางแผงในเมืองไทย
ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ใช่แค่ความเก่งความดังอย่างเดียวที่ทำให้เขาถูกเลือกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ แต่ภาพลักษณ์และแคแรกเตอร์ส่วนตัวของทั้งคู่เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจจ้างของเหล่าสินค้า
"ซิโก้" ฉายภาพของความเป็นผู้นำสูงมาก เป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์แคแรกเตอร์ส่วนตัว แฟนบอลสามารถเข้าถึงได้ ไม่เย่อหยิ่ง มีระเบียบวินัย ประวัติขาวสะอาด เรื่องส่วนตัวเป็นคนรักครอบครัวดูแลลูกและภรรยาเป็นอย่างดี สินค้าอะไรไม่อยากจะได้เป็นพรีเซนเตอร์ล่ะครับ ยิ่งการได้รับการเซ็นสัญญากับ สมาคมฟุตบอลฯ ยาวถึง 5 ปีตลอดเวลา 5 ปีจากนี้ หน้าและชื่อของ "ซิโก้" ยังไงก็อยู่บนสื่อทุกสื่อในเมืองไทยแทบจะทุกวัน
สิ่งหนึ่งที่ "ซิโก้" พิสูจน์ให้สปอนเซอร์ส่วนตัวเห็นมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมานั่นคือการเคารพ และให้เกียรติสปอนเซอร์ของตัวเองอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการกิน การอยู่การใช้ชีวิต รับรองไม่มีหลุดไปใช้ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งให้เสียความรู้สึก
เมสซี่เจ ที่ปีนี้เป็นปีทองของเขาก็เช่นเดียวกัน เพราะ ชนาธิป มีครอบครัวที่ดี มีคุณพ่อคอยดูแลและสกรีน เรื่องผลประโยชน์ให้มี "ซิโก้" ทีประสบการณ์มากกว่าคอยให้คำแนะนำอีกชั้น
ความน่ารักของทั้งคู่ คือไม่ใช่รับงานแค่ที่ได้ตังค์ แต่งานการกุศลของราชการของสาธารณประโยชน์ก็เห็นหน้าทั้งคู่เป็นประจำเหมือนกัน แม้กระทั่งรณรงค์คัดเลือกทหารก็ยังมีเมสซี่เจ
"ซิโก้" เล่าให้ผมฟังว่า เขาโชคดีที่เคยผ่านช่วงเวลาแสนดี และแสนเลวร้ายบนถนนสายลูกหนังมาหมดแล้ว เคยดังสุดๆแล้วดับ การกลับมาดังเป็นพลุอีกครั้งในวันนี้จึงไม่ได้รู้สึกยินดียินร้าย ครองสติได้อย่างมั่นคงไม่มีเหลิง ไม่มีแอ็กต์และรู้ดีว่าจะต้องวางตัวในสังคม ในวงการอย่างไรใครเป็นลูกทีม "ซิโก้" ยุคนี้โชคดีครับ
เพราะเขาสอนทุกอย่าง ผมเคยไปยืนฟังหลังการซ้อมที่นักเตะเข้าแถวประชุม "ซิโก้" สอนแม้กระทั่งวิธีในการรับงาน ว่าอย่าเห็นแก่เล็กแก่น้อยเลือกงานที่ได้เงินเหมาะสมและไม่สิ้นเปลืองเวลาในการเป็นนักกีฬาที่ดี สอนวิธีการรับมือกับชื่อเสียงเงินทองที่ถาโถมเข้ามา แนะนำการใช้ชีวิตนอกสนาม ถ้านักเตะเก็บไปคิดก็จะเจริญรอยตาม "ซิโก้"
ในบรรดานักเตะไทยทั้งหมด ผมเสียดาย ชาริล ชัปปุยส์ ครับ ปีที่ผ่านมาไม่มีใครปฏิเสธว่านี่คือ ซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่ของวงการฟุตบอลไทย ที่ครบเครื่อง ทั้งเก่ง หล่อ จังหวะชีวิต มีสิ่งเดียวที่เขาผิดพลาดนั่นคือ คนข้างกายที่ฉุดให้เขาหายไปจากวงการ ไม่เอาสื่อ สื่อไม่เอา เหลือเชื่อที่วันนี้ไม่มีโฆษณาแม้แต่ตัวเดียว นี่แหละหนอ ชีวิตดาว พุ่งขึ้น และตกลงภายในเสี้ยวพริบตาจริงๆ
http://www.siamsport.co.th/Column/150326_110.html
ปล. นักข่าว SS บอกชัปปุยส์ มันไม่มีโฆษณา อยากบอกว่าชัปปุยส์มันมีนะ แต่อาจจะยังไม่ออก รู้สึกจะเป็น NIVIE for men นะ อย่างน้อยก้อนาจะ 2 ตัวนะ เผลอๆแค่ 2 ตัวจะได้เงินเยอะกว่าเจ้า เจ ตระเวรออกงานรับงานทั่วราชอาณาจักรด้วยมั้ง