หลายๆคนที่เป็นแฟนบอลไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบสไตน์บอลติกีตาก้ากัน เพราะมันสวยงามและแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าคู่ต่อสู้ได้ชัดเจน เราต่างก็ติดภาพเหล่านั้นมาจาก AFF suzuki cup 2014 ที่ทีมชาติเราที่ไปวาดลวดหลายเอาไว ทำให้คนไทยตั้งความหวังว่าต่อไปนี้เราต้องเล่นแบบนั้นอย่างเดียว จนกระทั่งช่วงแห่งการอุ่นเครื่องทั้งบอล U22 และชุดใหญ่ช่วงที่ผ่านมากลับไม่ได้เล่นแบบที่หลายคนคาดหวัง บางก็ว่าบอลโบราณบ้าง ถอยหลังบ้าง กลับมาที่เดิมบ้าง ฟอร์มช่วงAFF มันหายไปไหนบ้าง แต่ทุกๆอย่างมันมีเหตุผลของมัน เราไม่ควรมองเฉพาะผลลัพธ์ที่มันเกิด แต่ต้องมองลงไปถึงเหตุของมันด้วย
เอาละเรามาลองย้อนเวลาไปดูเหตุการต่างๆที่ผ่านมากันสักหน่อยกับทีมชาติชุดที่ได้แชมป์ AFF ครั้งล่าสุดมา ชุดที่แฟนบอลไทยกล่าวว่าเล่นบอลสไตร์ติกีตาก้าได้เนียนตาที่สุดเท่าที่ไทยเคยมีมา แต่กว่าจะมาเป็นวันนี้ได้เราต้องย้อนกลับไปไกลถึง 2 ปี และจุดเริ่มต้นครั้งแรกมันเริ่มมาจากการรวมตัวเพื่ออุ่นเครื่องกับ อยุธยาโดยทีมชายไทยชุดนั้นบุกไปชนะได้ 1 ประตู และ
ถือว่านี้เป็นรวมทีมอุ่นเครื่องครั้งแรกของสตาร์ดัง AFF ในฐานะลูกทีมของซิกโก้
รูปที่ 1 เกมอุ่นเครื่องกับอยุธยา วันที่ 13 มกราคม 2556 ชนะ 1-0เกมนั้นบอกตรงฟอร์มป่วยมาก
หลังจากนั้นทีมนี้ก็ใช้เวลาอุ่นเครื่องมาตลอดต่อเนื่องเกือบ 10 เดือน จนถึงพฤษจิกายน 2556 ที่ต้องเดินทางไปทำศึกซีเกมส์ที่พม่า เกมที่เป็นทางการครั้งแรกของชุดนี้ แต่เมื่อดูผลงานในซีเกมส์และรูปแบบการเล่นต้องบอกว่า "บ่ถืกใจแปนบอลไทยเลย" เล่นบอลกันช้า ต่อบอลกันน้อยมีแต่บอลโยนจากหลังขึ้นหน้า หลายคนในพันทิบต่างก็ด่า บอลเน้นผลน่าเบื่อ ซิกโก้กาก แต่หนูมองว่าข้อดีคือทีมชุดนี้เพรสชิ่งกันดีมาก แรงดีไม่มีตก ส่วนผลงานรอบแบ่งกลุ่ม ก็ชนะ 2 เสมอ 2 แถมเสมอกัมพูชาอีกต่างหาก ทั้งทีชุดนี้มีดาวดังมากมาย
แต่ตอนนั้นยังไม่ดังประกอบด้วย อดิศักดิ์ ชนานันท์ ชนาธิป ชับปุย สารัส ธีราทร พีระพัฒน์ นฤบดินทร์ ธนบูรณ์ ฐิติพันธ์ ปกเกล้า ศราวุฒิ เกริกฤทธิ์ ดูๆแล้วดาวดัง AFF ทั้งนั้น
รูปที่ 2 ตารางคะแนนรอบแบ่งกลุ่มซีเกมส์
จากนั้น ซิกโก้ใช้ชุดนี้ต่อเนื่องเพื่อไปเล่นเอเชียนเกมส์ที่เกาหลีที่เริ่มแข่งกันกลางเดือน กันยายน 2557 นับจากจบซีเกมส์ไปก็ 10 เดือน หรือนับจากจุดเริ่มต้นที่พวกเขามาร่วมงานกับซิกโก้ก็เป็นเวลา 20 เดือน นัดแรกเปิดหัวชนะติมอร์เลสเต้เพียงแค่ 2-0 แต่พวกเขาก็แสดงติกีตาก้าซิกโก้สไตน์ให้เห็นออกมาขาดแต่ว่าเกมนั้นยิงได้น้อย หลังจากนั้นฟอร์มเทพก็มาแสดงให้เห็นได้อย่างเต็มที่ในนัดที่เราชนะอินโดไป 6-0 การเล่นที่รวดเร็วและแข็งแกร่งก็พาทีมชาติไทยไปไกลถึง ถึงที่ 4 เอเชียนเกมส์เลยทีเดียว แล้วก็ต่อเนื่องมาจนเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่คับจักรวาลในถ้วย AFF suzaki cup 2014 ด้วยติกิตาก้าซิกโก้สไตน์อันเลื่องลือ
ถึงตรงนี้แฟนบอลไทยมองเห็นอะไรบ้างไหมค่ะในช่วงเดือนที่ผ่านมา U22 ร่วมตัวกัน 15 วันก่อนปรีโอลิมปิก จริงๆเรารวมกันตั้งแต่ไปแข่งถ้วยพิเศษที่บังคลาเทศกันแล้ว แต่ระยะเวลาการรวมตัวเมื่อเทียบกับชุดซีเกมส์ถือว่าน้อยกว่ามาก แต่ก็ยังพอบอกได้ว่าบอลมีทรงกว่าชุดซีเกมส์ชุดนั้นอีก และสิ่งหนึ่งที่ทั้ง 2 ชุดแสดงให้เห็นว่าเหนือกว่า คือเข้าใจการเพรสชิ่งได้เร็ว บีบพื้นที่ได้ดีวิ่งได้ไม่มีหมด ขาดแต่เพิ่งการส่งบอล เชื่อมบอลกันในเกมเท่านั้น โดยใช้เวลาอันน้อยนิดในการเรียนรู้บอลซิกโก้ แม้กระทั่งชุดใหญ่ที่แข่งกับสิงค์โปร์เมื่อวานนี้ที่มีเวลาร่วมตัวเรียนรู้แทคติกใหม่แค่ 3 วัน บางคนเพิ่งติดทีมชาติครั้งแรกเลยดูอึดอัดพอสมควร พอผ่านครึ่งหลังได้ก็เริ่มปรับเกมได้ไหลลื่นถึงจะยังมีขาดๆเกินๆ แต่ยังยังเอาชนะไปได้2-0 แสดงถึงความเก๋าของนักเตะถึงแม้เพิ่งรวมกัน แต่ก็ยังเอาตัวรอดได้หนูมองว่าทีมชุดนี้ดูดีมีอนาคตและถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของฟุตบอลไทย และที่สำคัญเราเพิ่งได้เห็นชุดใหญ่จริงๆในรอบเกือบสองปีนี่และนี้ยังเป็นฟีฟ่าเดย์ยังเป็นทางการครั้งแรกในรอบปีเลยที่เดียวค่ะ
สรุปทีมชาติไทยในฝันของใครหลายๆคน ยังต้องใช้เวลาถึง 2 ปีเผื่อที่จะแสดงความเทพออกมา ขณะที่ชาติไทย U22 กับชุดใหญ่หลายคนเพิ่งมาร่วมตัวครั้งแรกกันไม่กี่วัน แฟนบอลไทยโปรไลน์เซ็นบางคนก็ไล่เขาอย่างกับหมูกับหมาเสียแล้ว
เพราะฉนั้นคำกล่าวที่ว่า
"กรุ่งโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่ขนมโตเกียวเสร็จใน 5 นาที" ยังใช้ได้จริง
รูปที่ 3 ซิกโก้โค้ชที่ชาติไทย
ปล 1. หนูเชื่อแฟนบอลไทยหลายคนเพิ่งมาเชียร์บอลไทยกันตอน AFF ที่ผ่านมานี้เอง จึงไม่เข้าใจกว่าจะมาเป็นวันนี้ได้ต้องใช้เวลา ฉนั้นเราจึงควรให้เวลากับเด็กใหม่ที่เพิ่งติดเข้ามาบ้าง อย่างดูเพียงผลลัพธ์อย่างเดียวแต่ต้องดูเหตุของมันด้วย
ปล 2. อย่าเพิ่งเอาไทยไปเทียบกับชาติใหญ่ๆในโลกฟุตบอล ว่าาเขาร่วมกัน 3 วันทำไมเขายังเล่นได้ อันนั้นนักเตะเข้าแทบจะไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก นักเตะเขารู้วิธีการเพรสชิ่งที่เป็นระบบ การวิ่งหาพื้นที่ขณะไม่มีบอล การคิดก่อนว่าจะให้บอลไปไหนส่งหรือเลี้ยงก่อนที่บอลจะมาถึงตัวนักเตะแบบนี้จับมาใส่แทตติกได้เลยไม่ต้องเรียนรู้มาก แต่นักบอลไทยที่มาจากหลากทีม ถ้าไม่ใช้นักบอลที่มาจากทีมใหญ่ความรู้ความเข้าใจการเพรสชิ่ง การวิ่งเมื่อไม่มีบอล และความฟิตยังมีน้อยทีมเล็กๆกลางๆ ไทยลีกวิ่งกันประมาณ7-8กิโลต่อเกมขณะที่ทีมใหญ่วิ่งกัน8-10กิโลต่อเกม ต่อคน มันยังมีความต่างกันอยู่
ขอบคุณที่อ่านจนจบ ก่อนคอมเมนค่ะ
โดยส่วนตัวมองว่า ทีมไทยชุดใหญ่เมื่อวาน ทำได้ดีกว่าทีมชาติทีมชาติชุดแชมป์ AFF suzuki cup แต่บางอย่างมันมีเหตุผลของมัน
เอาละเรามาลองย้อนเวลาไปดูเหตุการต่างๆที่ผ่านมากันสักหน่อยกับทีมชาติชุดที่ได้แชมป์ AFF ครั้งล่าสุดมา ชุดที่แฟนบอลไทยกล่าวว่าเล่นบอลสไตร์ติกีตาก้าได้เนียนตาที่สุดเท่าที่ไทยเคยมีมา แต่กว่าจะมาเป็นวันนี้ได้เราต้องย้อนกลับไปไกลถึง 2 ปี และจุดเริ่มต้นครั้งแรกมันเริ่มมาจากการรวมตัวเพื่ออุ่นเครื่องกับ อยุธยาโดยทีมชายไทยชุดนั้นบุกไปชนะได้ 1 ประตู และถือว่านี้เป็นรวมทีมอุ่นเครื่องครั้งแรกของสตาร์ดัง AFF ในฐานะลูกทีมของซิกโก้
รูปที่ 1 เกมอุ่นเครื่องกับอยุธยา วันที่ 13 มกราคม 2556 ชนะ 1-0เกมนั้นบอกตรงฟอร์มป่วยมาก
หลังจากนั้นทีมนี้ก็ใช้เวลาอุ่นเครื่องมาตลอดต่อเนื่องเกือบ 10 เดือน จนถึงพฤษจิกายน 2556 ที่ต้องเดินทางไปทำศึกซีเกมส์ที่พม่า เกมที่เป็นทางการครั้งแรกของชุดนี้ แต่เมื่อดูผลงานในซีเกมส์และรูปแบบการเล่นต้องบอกว่า "บ่ถืกใจแปนบอลไทยเลย" เล่นบอลกันช้า ต่อบอลกันน้อยมีแต่บอลโยนจากหลังขึ้นหน้า หลายคนในพันทิบต่างก็ด่า บอลเน้นผลน่าเบื่อ ซิกโก้กาก แต่หนูมองว่าข้อดีคือทีมชุดนี้เพรสชิ่งกันดีมาก แรงดีไม่มีตก ส่วนผลงานรอบแบ่งกลุ่ม ก็ชนะ 2 เสมอ 2 แถมเสมอกัมพูชาอีกต่างหาก ทั้งทีชุดนี้มีดาวดังมากมาย
แต่ตอนนั้นยังไม่ดังประกอบด้วย อดิศักดิ์ ชนานันท์ ชนาธิป ชับปุย สารัส ธีราทร พีระพัฒน์ นฤบดินทร์ ธนบูรณ์ ฐิติพันธ์ ปกเกล้า ศราวุฒิ เกริกฤทธิ์ ดูๆแล้วดาวดัง AFF ทั้งนั้น
รูปที่ 2 ตารางคะแนนรอบแบ่งกลุ่มซีเกมส์
จากนั้น ซิกโก้ใช้ชุดนี้ต่อเนื่องเพื่อไปเล่นเอเชียนเกมส์ที่เกาหลีที่เริ่มแข่งกันกลางเดือน กันยายน 2557 นับจากจบซีเกมส์ไปก็ 10 เดือน หรือนับจากจุดเริ่มต้นที่พวกเขามาร่วมงานกับซิกโก้ก็เป็นเวลา 20 เดือน นัดแรกเปิดหัวชนะติมอร์เลสเต้เพียงแค่ 2-0 แต่พวกเขาก็แสดงติกีตาก้าซิกโก้สไตน์ให้เห็นออกมาขาดแต่ว่าเกมนั้นยิงได้น้อย หลังจากนั้นฟอร์มเทพก็มาแสดงให้เห็นได้อย่างเต็มที่ในนัดที่เราชนะอินโดไป 6-0 การเล่นที่รวดเร็วและแข็งแกร่งก็พาทีมชาติไทยไปไกลถึง ถึงที่ 4 เอเชียนเกมส์เลยทีเดียว แล้วก็ต่อเนื่องมาจนเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่คับจักรวาลในถ้วย AFF suzaki cup 2014 ด้วยติกิตาก้าซิกโก้สไตน์อันเลื่องลือ
ถึงตรงนี้แฟนบอลไทยมองเห็นอะไรบ้างไหมค่ะในช่วงเดือนที่ผ่านมา U22 ร่วมตัวกัน 15 วันก่อนปรีโอลิมปิก จริงๆเรารวมกันตั้งแต่ไปแข่งถ้วยพิเศษที่บังคลาเทศกันแล้ว แต่ระยะเวลาการรวมตัวเมื่อเทียบกับชุดซีเกมส์ถือว่าน้อยกว่ามาก แต่ก็ยังพอบอกได้ว่าบอลมีทรงกว่าชุดซีเกมส์ชุดนั้นอีก และสิ่งหนึ่งที่ทั้ง 2 ชุดแสดงให้เห็นว่าเหนือกว่า คือเข้าใจการเพรสชิ่งได้เร็ว บีบพื้นที่ได้ดีวิ่งได้ไม่มีหมด ขาดแต่เพิ่งการส่งบอล เชื่อมบอลกันในเกมเท่านั้น โดยใช้เวลาอันน้อยนิดในการเรียนรู้บอลซิกโก้ แม้กระทั่งชุดใหญ่ที่แข่งกับสิงค์โปร์เมื่อวานนี้ที่มีเวลาร่วมตัวเรียนรู้แทคติกใหม่แค่ 3 วัน บางคนเพิ่งติดทีมชาติครั้งแรกเลยดูอึดอัดพอสมควร พอผ่านครึ่งหลังได้ก็เริ่มปรับเกมได้ไหลลื่นถึงจะยังมีขาดๆเกินๆ แต่ยังยังเอาชนะไปได้2-0 แสดงถึงความเก๋าของนักเตะถึงแม้เพิ่งรวมกัน แต่ก็ยังเอาตัวรอดได้หนูมองว่าทีมชุดนี้ดูดีมีอนาคตและถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของฟุตบอลไทย และที่สำคัญเราเพิ่งได้เห็นชุดใหญ่จริงๆในรอบเกือบสองปีนี่และนี้ยังเป็นฟีฟ่าเดย์ยังเป็นทางการครั้งแรกในรอบปีเลยที่เดียวค่ะ
สรุปทีมชาติไทยในฝันของใครหลายๆคน ยังต้องใช้เวลาถึง 2 ปีเผื่อที่จะแสดงความเทพออกมา ขณะที่ชาติไทย U22 กับชุดใหญ่หลายคนเพิ่งมาร่วมตัวครั้งแรกกันไม่กี่วัน แฟนบอลไทยโปรไลน์เซ็นบางคนก็ไล่เขาอย่างกับหมูกับหมาเสียแล้ว
เพราะฉนั้นคำกล่าวที่ว่า "กรุ่งโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่ขนมโตเกียวเสร็จใน 5 นาที" ยังใช้ได้จริง
รูปที่ 3 ซิกโก้โค้ชที่ชาติไทย
ปล 1. หนูเชื่อแฟนบอลไทยหลายคนเพิ่งมาเชียร์บอลไทยกันตอน AFF ที่ผ่านมานี้เอง จึงไม่เข้าใจกว่าจะมาเป็นวันนี้ได้ต้องใช้เวลา ฉนั้นเราจึงควรให้เวลากับเด็กใหม่ที่เพิ่งติดเข้ามาบ้าง อย่างดูเพียงผลลัพธ์อย่างเดียวแต่ต้องดูเหตุของมันด้วย
ปล 2. อย่าเพิ่งเอาไทยไปเทียบกับชาติใหญ่ๆในโลกฟุตบอล ว่าาเขาร่วมกัน 3 วันทำไมเขายังเล่นได้ อันนั้นนักเตะเข้าแทบจะไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก นักเตะเขารู้วิธีการเพรสชิ่งที่เป็นระบบ การวิ่งหาพื้นที่ขณะไม่มีบอล การคิดก่อนว่าจะให้บอลไปไหนส่งหรือเลี้ยงก่อนที่บอลจะมาถึงตัวนักเตะแบบนี้จับมาใส่แทตติกได้เลยไม่ต้องเรียนรู้มาก แต่นักบอลไทยที่มาจากหลากทีม ถ้าไม่ใช้นักบอลที่มาจากทีมใหญ่ความรู้ความเข้าใจการเพรสชิ่ง การวิ่งเมื่อไม่มีบอล และความฟิตยังมีน้อยทีมเล็กๆกลางๆ ไทยลีกวิ่งกันประมาณ7-8กิโลต่อเกมขณะที่ทีมใหญ่วิ่งกัน8-10กิโลต่อเกม ต่อคน มันยังมีความต่างกันอยู่
ขอบคุณที่อ่านจนจบ ก่อนคอมเมนค่ะ