ขอเล่ายาวๆ หน่อยนะค่ะ เกิดกับตัวเองเรื่องประกันสังคม เนื่องจากตัวเองเป็นริดสีดวงทวารมาหลายปีแล้ว และระยะล่าสุดคือ เป็นขั้น 3 และไปขั้น 4 แร้ว (คือเจ็บปวดมากที่ก้นปวดตุ๊บๆ ตลอด มีเนื้อยื่นออกมาด้านนอกก้น และในท่ออุจจาระ เวลาถ่ายมีเลือดไหลหยดติ๋งๆ เวลาถ่ายเสร็จต้องดันกลับเข้าไป ซึ่งจะใช้เวลาในห้องน้ำนานมากๆๆ กว่าจะดันกลับเข้าไปได้ มันต้องจัดระเบียบเพราะมีหลายหัว) เรยไปหาหมอที่ รพ.บางประกอก 8 ซึ่งเป็นรพ.ที่เข้าได้ตามสิธิ์ วันแรกไปเจอหมอทั่วไปคุณหมอเรยนัดให้มาในวันรุ่งขึ้นเพื่อมาพบหมอศัลยกรรมโดยตรง ซึ่งเราขอเรียกหมอท่านนี้เพื่อกันความสับสนว่า "หมอ น." พอพบเราก็เล่าอาการให้ฟัง เราเคยเป็นริดสีดวงมานานแล้วก้อกำเริบบ้างไรบ้าง กินยาเหน็บยาก้อดีขึ้นแต่คราวนี้ก่อนมาหาหมอก้อกินยาเหน็บยามา 1 สัปดาห์แล้วยังไม่ดีขึ้นเรยและเจ็บปวดทรมารมากๆ นอนไม่หลับ หมอบอกว่าไปแช่น้ำอุ่นเอา ยาที่กินก่อนมาหาหมอก้อกินก้อได้ไม่กินก้อได้ เพราะยานั้นจากประสบกาณ์ที่เค้ารักษามา ใน 300 คน คนที่ไม่กินยาจะหายกว่าคนกินยา (อืมเค้าเป็นหมอเน๊อะคงจะจริง) "หมอ น." บอกว่าเรามีหัวใหญ่ 1 หัว ไม่ต้องผ่าแล้วไม่ดูแลตัวเองเดี๋ยวมันก้อเป็นอีก ประมาณว่าไม่ต้องผ่าเอาก้นแช่น้ำอุ่นไปเรื่อยๆ หมอพูดว่าให้แช่แบบร้อนทนได้นะไม่งั้นเด่ว "จิ๋...สุก" (อืมแกกันเองเน๊อะ) จากวันที่ไปหาหมอ น. วันแรกถัดไปอีก 4 วัน เราก้อไม่ไหวมันนอนไม่หลับเจ็บปวดมาก เช้าแช่น้ำอุ่นก่อนไปทำงาน ตอนเย็นกลับมาช่วงกลางคืนแช่ 3-4 ครั้ง รู้สึกยังเจ็บปวดทรมารอยู่มาก เลยไปหาอีกเจอหมออีกท่านนึงขอใช้ชื่อว่า "หมอ ส." เค้าก้อให้ยามากินมาเหน็บ แล้วก้อนัดอีก 1 สัปดาห์ เราก็กินยาและแช่น้ำอุ่นรอ 1 สัปดาห์ก้อไปพบ"หมอ ส." ตามที่แกนัด (นี่คือที่ รพ.บางประกอก 8 นะ) "หมอ ส." บอกว่าเรามีเส้นเลือดขอดซ้ำซ้อนในหัวริดสีดวง 1 หัวจากที่มีอยู่หลายหัว มันเรยปวดมาก ท่านว่าควรต้องกรีดออก เราก้อโอเครเพราะอยากให้ดีขึ้น หมอก้อฉีดยาชาให้แล้วเอามีดกรีด จากนั้นรับยาและกลับบ้าน "หมอ ส." นัดดูอาการอีก 2 สัปดาห์เพราะแกเป็นหมอไม่ประจำจะมาเฉพาะวันศุกร์ จากระยะเวลาที่รอ "หมอ ส." นัดเราก้อไม่ไหวจริงๆ มันนอนไม่หลับ ปวดมากๆ เลยไปหาหมอที่รพ.บางประกอกอีก คราวนี้เจอ"หมอ น." หมอให้ขึ้นไปนอนดูก้น หมอก็บอกว่า "มันเนื้อริดสีดวงดันเข้าไปในก้นได้หมดไม่น่าเจ็บ" เราบอกว่ามันเจ็บมากๆ จริงๆ "หมอ ส." บอกว่า "ผมไม่เชื่อ" เราก็บอกคุณหมอว่าถ้าเราไม่เจ็บเราจะลางานมาเปิดก้นให้หมอดูทำไมล่ะ ช่วงกลางคืนต้องแช่น้ำอุ่น 3-4 ครั้ง บางทีนั่งหลับในกาลามัง มันเครียดมันไม่ไหว เราก็เอายาไปด้วยไปให้ "หมอ น." ดูว่าเรากินยาอะไรอยู่เป็นยาที่ "หมอ ส." ให้ไว้ "หมอ น." ดูและพูดว่าโหให้ยาแพงเรยนะ "หมอ ส." ให้ยาแพงงี้เรยหร๋า จากนั้นก็บอกว่ายาเรามีแล้วจาก"หมอ ส." ให้ก้อกินอันนั้นเข้าไป ไม่นัดมาดูไม่อะไร ให้กลับบ้าน เราก้อรู้สึกว่ามันไม่โอเครแล้ว แถมตอนดูก้นเราก้อไม่เก็บเนื้อที่ยื่นออกมาตอนที่แกเอาอุปกรณ์เข้าไปแหวกดูด้วย มันก้อยื่นออกมาเวลาเดินเจ็บมาก จะกลับบ้านแล้วยืนรอที่ป้ายรถเมล์นึกในใจ ต้องเปลี่ยนรพ.แล้วมั๊ง เราเรยกลับไปปรึกษาทางรพ.(คือทาง รพ.มีบริการทำเรื่องเปลี่ยนสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ์จากตอนแรก รพ.ตามบัตรเป็นรพ.บางประกอก 3 ซึ่งมันใช้ในเครือบางประกอกได้ แต่ปีนี้ทาง รพ.บางประกอก 8 เค้าจะเข้าเป็นรพ.ที่รับประกันสังคม เราบอกว่าถ้าจะเปลี่ยนมาเป็น รพ.บางประกอก 8 เลยได้ให้กรอกเอกสารที่รพ.ได้เลยเด่วเค้าดำเนินการให้ ) เราเลยกลับเข้าไปขอบัตรประกันสังคมคืน ว่าจะลองไปใช้บริการที่อื่นดู ว่าคุณหมอที่รพ.อื่นอาจมีข้อวินิฉัยในการรักษาริดสีดวงเราเป็นอย่างอื่น เราจะได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองรักษากับ รพ.อื่นบ้าง ทางเจ้าหน้าที่รพ.เลยถามว่าเพราะอะไร เราเลยเล่าให้ฟัง เราก้อบอกว่าเราไม่อยากเป็นเรื่องนะ แค่ขอบัตรประกันสังคมคืน เค้าก้อโทรเรียกเจ้าหน้าที่มาคุยกับเรา แล้วบอกว่าไม่เป็นไรเค้าขอทราบข้อมูล พอตอนหลัง เจ้าหน้าที่ รพ.ฟัง ดันเรียก"หมอ น." มาคุยกับเรา พอ"หมอ น."ถามเราว่าจะให้รักษายังงัย (เออง่ายดี) เราก้อบอกว่าเราไม่รู้ซิ ไม่ได้เรียนมา หมอบอกว่าคุณจะผ่านตัดมั๊ยถ้าผ่าตัดมันเจ็บมากนะ แต่เราก้อบอกว่าตอนนี้เราก้อเจ็บมากเหมือนกัน ถ้าต้องเจ็บยังงัยก้อเจ็บเราเลือกผ่าตัด หมอบอกว่างั้นพรุ่งนี้คุณมาเลย เราก้อบอกว่าเราต้องเคลียร์ภาระที่บ้านก่อนนะ เพราะต้องนอนรพ.หลายวัน หมอก้อทำมองปฏิทินแล้วทำเป็นถอนใจประมาณว่าจะผ่าให้แล้วยังเรื่องมากอีก (อาการเป็นแบบนั้นจริงๆ เราบอกว่าขอเวลาอีก 2 วันได้มั๊ย "หมอ น." บอกว่าได้ประกันสังคมอยากได้อะไรก้อได้ (อ้าวนึกในใจกูผิดตรงไหนว่ะที่ใช้สิทธิ์ตามที่ตัวเองมี) พอกลับมาบ้าน เราก้อคิดไปคิดมา เรยโทรไปแจ้งที่ รพ.ว่าไม่ผ่าแล้วเพราะไม่สบายใจจะฝากชีวิตไว้ยังงัยกับหมอที่ไม่พอใจที่จะรักษา แถมถ้าให้รักษาให้ก้อต้องไปปะคารมกับหมอ หมอจะมีทัศนคติกับคนไข้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคมรึเปล่า เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเราจะได้รับการรักษาที่ดีและปลอดภัย
ตอนนี้เราผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ไปผ่าตัดที่ รพ.ทหารผ่านศึก (จะบอกว่าใครมีปัญหาเรื่องริดสีดวงปรึกษาได้ ไปผ่านที่ รพ.ทหารผ่านศึก โอเครมากๆๆ ผ่าแบบธรรมดานะ) ขนาดชิ้นเนื้อที่ผ่าออก 2 ชิ้นใหญ่ คือ 2.8x1.8x1.3 cm. และ 2.5x1.7x1.2 cm. ส่วนหัวเล็ก ๆ หมอใช้เลเซอร์จี้ออกไปบ้าง เราจำลองชิ้นเนื้อดูว่าขนาดนั้นมันใหญ่แค่ไหน 2 ก้อนใหญ่ขวางกลางท่ออุจจาระ แล้วยังมีหัวเล็กๆ อีก มันอักเสบเจ็บปวดมาก (ใครอยากรู้ว่าชิ้นเนื้อริดสีดวงเราใหญ่แค่ไหนลองพับกล่องกระดาษและลองวางใส่ก้นดู จะรู้ว่าชิ้นเนื้อพวกนั้นถ้ามันขวางที่ก้นทำมัยเวลาถ่ายถึงมีเลือดออกมา) ตอนผ่านี้มันก้อยุบลงไปบ้างแล้วจากตอนที่เป็นแรก ๆ
สิทธิประกันสังคมหากมีมันก้อต้องใช้เพราะแต่ละเดือนๆ จ่ายเงินไปจะไม่ให้ใช้หร๋า หรือจะเลือกรักษาจ่ายยาเฉพาะเป็นไข้ เป็นหวัด ตามกฎหมายกำหนดและบังคับไว้ก็ต้องจ่ายเงินประกันสังคม ปีๆ ก้อหลายพันบาทนะ อีกอย่าง ริดสีดวงทวารเป็นอาการเรื้อรัง เราเคยถามประกันสุขภาพแล้วว่าถ้าแบบนี้เราซื้อประกันแล้วถ้าต้องผ่าทางประกันจะผ่านให้มั๊ย เค้าบอกว่าถ้าเป็นโรคที่เป็นมาก่อนที่จะทำประกันเค้าไม่ประกัน
เรามองว่าในส่วนของเรา ทาง รพ. หรือ ทางหมอ อาจจะ save ต้นทุนรึป่าว ถึงไม่อยากจะผ่าตัดให้ เพื่อให้แฟร์ ๆ และไม่ได้กล่าวหาเราไม่คิดว่าเราซึ่งเป็นคนไข้ต้องไปโต้เถียงกับหมอเพื่อให้หมอทำการรักษาเรา แต่หมอน่าจะเสนอทางเลือกในการรักษาไม่ใช่ให้คนไข้ที่คิดว่าพึ่งพาการรักษาจากหมอต้องโต้เถียงเพื่อให้ตัวเองได้รับการรักษา ถึงการโต้เถียงนั้น หมอ น. แห่ง รพ.บางประกอก 8 จะนัดจะผ่าให้แล้ว แต่เราก็รู้สึกไม่สบายใจและไม่ไว้ใจกับหมอแล้ว
เคสเราทางสำนักงานประกันสังคมไม่จ่ายเงินชดเชยให้ เพราะเราไปรักษา รพ.อื่นที่ไม่ใช่รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิ์ ทางประกันสังคมบอกว่า ถ้าอยากได้เงินชดเชยต้องทำคำร้องแล้วก้อมีประวัติการรักษาจาก รพ.ตามสิทธิ์ ว่าอะไรยังงัยถึงไม่รักษาให้ประมาณนั้น ซึ่งเราคิดว่า ตอนนี้เราผ่าตัดแล้วสุขภาพก้นดีขึ้นมาก สุขภาพจิตก็ดีขึ้นเยอะมาก ตอนที่เจ็บปวดเอาหัวใจไปอยู่ที่ก้นเรย จะกินอะไรจะใช้ชีวิตยังงัยก็พยายามดำเนินชิวิตให้ไม่เป็นภาระกับก้น ตอนที่อักเสบหัวเราะยังต้องกลั้นไว้เลย เพราะมันสะเทือนกล้ามเนื้อก้น เจ็บปวดมากทีเดียว
บางทีการไม่พยายามรักษาตามอาการและมองว่าคนไข้คนไหนใช้สิทธิ์ คนไข้คนไหนจ่ายเงินเอง คนเป็นหมอไม่น่าคิดแบบนั้นนะ เราแค่ใช้สิทธิ์ตามที่ตัวเองมี มันก้อไม่ได้เลวร้ายตรงไหน ง่ายดีนะ รพ.ตามบัตรก็ไม่ต้องเสียต้นทุนกับเรา แค่ปัดการรักษาเด่วคนไข้ก็หาทางเอาเอง ก็คนเจ็บปวดมันไม่ใช่หมอ ไม่ใช่รพ. แต่เป็นเรา เราจึงต้องหาทางเอาเอง ใช่ม้าา
ที่บอกชื่อ รพ. ไม่ได้มีความประสงค์จะทำให้ รพ.นั้นเสียชื่อเสียง แต่เป็นการเล่าให้ฟัง ไม่ได้คิดจะใส่ร้ายเพราะสามารถเช็คดูได้ว่าเป็นคนไข้ที่ไปรับการรักษาจริงๆ ที่อยากให้ปรับปรุงคือทัศนคติของหมอที่มีกับคนไข้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ถึงไม่ได้รวยหอบเงินมารักษาแบบลูกค้า VIP แต่เราก็ไม่ได้ผิดอะไรแค่ใช้สิทธิ์ตามที่ตัวเองมี
ประสบการณ์ที่เจ็บปวด กับสิทธิ์ประกันสังคม
ตอนนี้เราผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ไปผ่าตัดที่ รพ.ทหารผ่านศึก (จะบอกว่าใครมีปัญหาเรื่องริดสีดวงปรึกษาได้ ไปผ่านที่ รพ.ทหารผ่านศึก โอเครมากๆๆ ผ่าแบบธรรมดานะ) ขนาดชิ้นเนื้อที่ผ่าออก 2 ชิ้นใหญ่ คือ 2.8x1.8x1.3 cm. และ 2.5x1.7x1.2 cm. ส่วนหัวเล็ก ๆ หมอใช้เลเซอร์จี้ออกไปบ้าง เราจำลองชิ้นเนื้อดูว่าขนาดนั้นมันใหญ่แค่ไหน 2 ก้อนใหญ่ขวางกลางท่ออุจจาระ แล้วยังมีหัวเล็กๆ อีก มันอักเสบเจ็บปวดมาก (ใครอยากรู้ว่าชิ้นเนื้อริดสีดวงเราใหญ่แค่ไหนลองพับกล่องกระดาษและลองวางใส่ก้นดู จะรู้ว่าชิ้นเนื้อพวกนั้นถ้ามันขวางที่ก้นทำมัยเวลาถ่ายถึงมีเลือดออกมา) ตอนผ่านี้มันก้อยุบลงไปบ้างแล้วจากตอนที่เป็นแรก ๆ
สิทธิประกันสังคมหากมีมันก้อต้องใช้เพราะแต่ละเดือนๆ จ่ายเงินไปจะไม่ให้ใช้หร๋า หรือจะเลือกรักษาจ่ายยาเฉพาะเป็นไข้ เป็นหวัด ตามกฎหมายกำหนดและบังคับไว้ก็ต้องจ่ายเงินประกันสังคม ปีๆ ก้อหลายพันบาทนะ อีกอย่าง ริดสีดวงทวารเป็นอาการเรื้อรัง เราเคยถามประกันสุขภาพแล้วว่าถ้าแบบนี้เราซื้อประกันแล้วถ้าต้องผ่าทางประกันจะผ่านให้มั๊ย เค้าบอกว่าถ้าเป็นโรคที่เป็นมาก่อนที่จะทำประกันเค้าไม่ประกัน
เรามองว่าในส่วนของเรา ทาง รพ. หรือ ทางหมอ อาจจะ save ต้นทุนรึป่าว ถึงไม่อยากจะผ่าตัดให้ เพื่อให้แฟร์ ๆ และไม่ได้กล่าวหาเราไม่คิดว่าเราซึ่งเป็นคนไข้ต้องไปโต้เถียงกับหมอเพื่อให้หมอทำการรักษาเรา แต่หมอน่าจะเสนอทางเลือกในการรักษาไม่ใช่ให้คนไข้ที่คิดว่าพึ่งพาการรักษาจากหมอต้องโต้เถียงเพื่อให้ตัวเองได้รับการรักษา ถึงการโต้เถียงนั้น หมอ น. แห่ง รพ.บางประกอก 8 จะนัดจะผ่าให้แล้ว แต่เราก็รู้สึกไม่สบายใจและไม่ไว้ใจกับหมอแล้ว
เคสเราทางสำนักงานประกันสังคมไม่จ่ายเงินชดเชยให้ เพราะเราไปรักษา รพ.อื่นที่ไม่ใช่รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิ์ ทางประกันสังคมบอกว่า ถ้าอยากได้เงินชดเชยต้องทำคำร้องแล้วก้อมีประวัติการรักษาจาก รพ.ตามสิทธิ์ ว่าอะไรยังงัยถึงไม่รักษาให้ประมาณนั้น ซึ่งเราคิดว่า ตอนนี้เราผ่าตัดแล้วสุขภาพก้นดีขึ้นมาก สุขภาพจิตก็ดีขึ้นเยอะมาก ตอนที่เจ็บปวดเอาหัวใจไปอยู่ที่ก้นเรย จะกินอะไรจะใช้ชีวิตยังงัยก็พยายามดำเนินชิวิตให้ไม่เป็นภาระกับก้น ตอนที่อักเสบหัวเราะยังต้องกลั้นไว้เลย เพราะมันสะเทือนกล้ามเนื้อก้น เจ็บปวดมากทีเดียว
บางทีการไม่พยายามรักษาตามอาการและมองว่าคนไข้คนไหนใช้สิทธิ์ คนไข้คนไหนจ่ายเงินเอง คนเป็นหมอไม่น่าคิดแบบนั้นนะ เราแค่ใช้สิทธิ์ตามที่ตัวเองมี มันก้อไม่ได้เลวร้ายตรงไหน ง่ายดีนะ รพ.ตามบัตรก็ไม่ต้องเสียต้นทุนกับเรา แค่ปัดการรักษาเด่วคนไข้ก็หาทางเอาเอง ก็คนเจ็บปวดมันไม่ใช่หมอ ไม่ใช่รพ. แต่เป็นเรา เราจึงต้องหาทางเอาเอง ใช่ม้าา
ที่บอกชื่อ รพ. ไม่ได้มีความประสงค์จะทำให้ รพ.นั้นเสียชื่อเสียง แต่เป็นการเล่าให้ฟัง ไม่ได้คิดจะใส่ร้ายเพราะสามารถเช็คดูได้ว่าเป็นคนไข้ที่ไปรับการรักษาจริงๆ ที่อยากให้ปรับปรุงคือทัศนคติของหมอที่มีกับคนไข้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ถึงไม่ได้รวยหอบเงินมารักษาแบบลูกค้า VIP แต่เราก็ไม่ได้ผิดอะไรแค่ใช้สิทธิ์ตามที่ตัวเองมี