เคยแต่งเรื่องสั้นส่งไปขายหัวเราะแต่ไม่ผ่าน ทิ้งไว้นาน วันนี้เพิ่งรื้อไฟล์ในคอมเจอเลยเอามาลงให้ได้อ่านกันค่ะ เรื่องแรกและเรื่องเดียวที่เคยเขียนเลย
บันทึกวิเศษ
“พี่ทองย้อย ๆ มาดูนี่สิ เจ๋งๆเลยพี่ ผมว่าแล้ว เมื่อคืนฝันดีขนาดนี้ต้องถูกลอตเตอรี่แหงมๆ” เจ้าชิดหลานชายอาแปะแผงหนังสือข้างบ้านวิ่งรี่พร้อมเสียงโหวกเหวกเข้ามาหาผมเพราะถูกเลขเด็ดสองตัวท้าย ที่ดีใจจนออกนอกหน้าขนาดนี้ก็คงเพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเจ้าชิดเลยก็ว่าได้ที่ถูกลอตเตอรี่ แต่สำหรับผมเองนั้นก็แค่แกล้งทำเป็นดีใจกับมันนิดหน่อยพอเป็นพิธีเท่านั้นละครับ เพราะเรื่องนี้ผมเป็นคนจัดให้มันเองก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นดีใจอะไรไปกับมันด้วย แหม...ก็เจ้าชิดมันก็สนิทชิดเชื้อกับผมอยู่พอสมควร ยิ่งอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงมีอะไรก็ไหว้วานกันได้ พอดีช่วงก่อนผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดติดๆกันสามสี่วัน เจ้าปอร์เช่ย์ กับเบนท์เล่ย์ของผมเลยไม่มีใครดูแล ก็ได้เจ้าชิดนี่ละครับที่ผมพอจะฝากฝังให้ดูแลเจ้าลูกหมาน้อยๆทั้งสองของผมได้ ผมก็เลยตอบแทนมันสักหน่อยด้วยการให้มันถูกเลขเด็ดสักงวด
แต่คุณผู้อ่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมเป็นพวกเจ้าพ่อใบ้หวยนะครับ เรื่องแบบนี้ผมไม่ถนัดและไม่สามารถเลยจริงๆ แต่ว่า...ผมมีทีเด็ดครับ ผมไม่อยากจะบอกเลยจริงๆนะว่าสิ่งที่ผมได้ครอบครองอยู่ตอนนี้นั้นมันช่างวิเศษประมาณพระเจ้ายอดมันจอร์ชมากเลยทีเดียว ก็จะไม่เรียกว่าวิเศษได้ยังไงละครับก็ในเมื่อตอนนี้ผมสามารถทำให้ทุกอย่างที่ผมต้องการเป็นความจริงขึ้นมาได้ อ๊ะๆ อันนี้เรื่องจริงนะครับ ไม่ได้โม้ ไอ้เจ้าของวิเศษสิ่งนี้ก็คือสมุดบันทึกที่ดูหน้าตาธรรมดาๆเล่มหนึ่งครับ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันเป็นสมุดธรรมดาทั่วๆไปที่คนเขาทำตกไว้ แล้วก็กะว่าจะเลยผ่านไปแต่ก็เกิดเอะใจอะไรบางอย่างเลยอดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมา เผื่อจะมีชื่อเจ้าของเขียนอยู่ แล้วข้อความในนั้นอาจเป็นเรื่องสำคัญ ผมจะได้สามารถนำไปคืนเจ้าของได้ แต่ก็เปล่าเลย ผมแอบผิดหวังเล็กๆที่ไม่ได้แอบอ่านข้อความข้างในเพราะว่ามันว่างเปล่า ไม่มีอะไรบันทึกไว้เลย แต่ผมก็เก็บมันกลับมาบ้านเพราะเห็นว่ามันยังดูเหมือนใหม่อยู่เลย น่าจะเอามาใช้ได้ แล้วก็คงเป็นเพราะความตั้งใจดีของผมในวันนั้นเลยส่งผลบุญมาถึงผมในวันนี้
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนอยู่ดีๆผมก็เกิดอยากบันทึกอะไรเล่นๆดูก็เลยเอาสมุดวิเศษเล่มนี้มาใช้ เนื่องจากยายหอมแม่ค้าขายขนมในตลาดแกโดนฉกกระเป๋า เงินที่ขายของทั้งหมดในวันนั้นเลยหายเกลี้ยง แล้วแกก็ได้แต่นั่งร้องห่มร้องไห้เพราะไอ้ขโมยนั่นมันวิ่งเร็วมาก คนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ก็วิ่งไล่ตามไม่ทัน ก็ได้แต่แจ้งความไปตามมีตามเกิด วันนั้นผมสงสารยายหอมมากเลยเลี้ยงข้าวแกไปหนึ่งมื้อ ตกเย็นผมก็เลยเขียนบันทึกเรื่องยายหอมถูกฉกกระเป๋านี่แหละ พร้อมทั้งแอบแช่งไอ้ขี้ขโมยนั่นให้มันโดนกระทืบตายในสามวันเจ็ดวัน เท่านั้นละครับ เป็นเรื่องเลย อีกสามวันต่อมาก็มีคนพบศพมันอยู่ไม่ไกลจากละแวกซอยบ้านผมสักเท่าไหร่ ดูท่าทางพวกมันคงทะเลาะกันเองเลยกระทืบกันตายจริงๆอย่างที่ผมเขียนไว้ ตอนนั้นผมขนลุกเกรียวเลยทีเดียวที่เห็นว่าสิ่งที่ผมเขียนไว้เล่นๆกลับกลายเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ ก็เลยต้องทำการพิสูจน์อีกถึงสองครั้งสองครา
การท้าพิสูจน์ครั้งแรกก็คือเรื่องของน้องแนนคนงามที่อยู่ในหมู่บ้านถัดไปอีกสองซอย คือผมเองแอบปิ๊งเธอมานานสองนานแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปคุยด้วยเนื่องจากพ่อของเธอดุมากแล้วเธอก็ดูสวย เริด เชิด หยิ่งตามสไตล์คุณหนูไฮโซ ผมก็เลยเริ่มเขียนบันทึกอีกครั้งโดยอยากให้เธอประทับใจในตัวผมและขอให้เราได้มีโอกาสพูดคุยกัน อีกสองวันต่อมาอยู่ดีๆวันนั้นผมก็เห็นเจ้าแมวเปอร์เซียตัวโปรดของน้องแนนมานอนเล่นหน้าบ้านผมซะอย่างนั้น ที่ผมจำได้ก็เพราะว่าน้องแนนเธอชอบอุ้มเจ้าเหมียวนี่ออกมาเดินเล่นอยู่บ่อยๆ ผมจึงนำตัวเจ้าเหมียวไปส่งที่บ้านเธอ ตอนนั้นสีหน้าเธอดีใจมากแล้วขอบคุณผมต่างๆนานาเพราะเธอกำลังตามหาเจ้าเหมียวน้อยอยู่พอดี ตอนนั้นหัวใจของผมพองโต แล้วก็ได้แต่คิดว่าถ้าไม่มีสมุดวิเศษเล่มนี้ ผมคงไม่ได้มีโอกาสดีๆอย่างนี้แน่
หลังจากนั้นอีกสองวันผมก็เริ่มทำการพิสูจน์อีกครั้งโดยการเขียนให้เจ้าชัยน้องชายเจ้าชิดที่สอบตกภาษาอังกฤษทุกเทอมสอบผ่านในเทอมนี้ ถ้าหากเจ้าชัยสอบผ่านขึ้นมาจริงๆคราวนี้ผมเชื่อแน่ๆว่าสมุดเล่มนี้มันเป็นของวิเศษจริงๆ เพราะคนแถวนี้ต่างก็รู้ดีถึงความอัจฉริยะทางด้านภาษาของเจ้าชัย พอผลสอบออกเจ้าชัยก็สอบผ่านจริงๆเสียด้วย คราวนี้ผมถึงกับกระโดดดีใจจนตัวลอย ไม่ใช่เพราะเจ้าชัยมันสอบผ่านหรอกครับ แต่เพราะผมมั่นใจแล้วว่าสมุดบันทึกนี่เป็นสมุดวิเศษจริงๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าผมจะเขียนอะไรลงไปตามใจของผมก็ได้แล้วทุกอย่างก็จะเป็นจริง ก็เท่ากับว่าผมนี่แหละคือผู้วิเศษที่สามารถลิขิตชีวิตตัวเองและผู้อื่นได้ มันช่างน่าเหลือเชื่ออะไรขนาดนี้ ท่าทางชาติที่แล้วผมคงทำบุญมาเยอะแน่ๆ
ว่าแล้วผมก็ได้แต่นั่งคิด นอนคิดอยู่ว่าจะเขียนอะไรต่ออีกดี เนื่องจากสมุดเล่มนี้ก็เป็นแค่สมุดเล่มบางๆ ขืนเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยมากเกินไป สมุดหมดขึ้นมาจะยุ่ง ถ้าจะเขียนต้องเขียนให้มันเจ๋งๆจริงๆ หลังจากที่นั่งครุ่นคิดมาตลอดสัปดาห์ว่าจะเขียนอะไรลงไปอีกดี ผมก็เริ่มต้นเขียนอีกครั้ง
เนื่องจากพ่อแม่ผมเสียไปนานแล้วก็เลยต้องพึ่งพาตัวเองมาตลอด ผมอยากสบายอย่างคนอื่นๆเขาบ้าง เลยเขียนบันทึกลงไปว่า ต่อไปนี้ผมขอมีอยู่มีกิน มีคนดูแลบริการทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องทำงาน จะได้สบายเสียที หลังจากที่เขียนบันทึกลงไป ผมก็ได้แต่รอผล สามวันก็แล้ว อาทิตย์หนึ่งก็แล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย ผมก็เลยเขียนประโยคเดิมซ้ำลงไปโดยต่อท้ายว่าขอให้เป็นจริงภายในสามวัน คราวนี้แหละจะได้ไม่ต้องรอนานแล้วผมก็จะได้สบายจริงๆเสียที
หลังๆมานี้ผมไปไหนมาไหนก็จะต้องระมัดระวังเอาสมุดเล่มนี้ติดตัวเสมอ เพราะกลัวว่ามันจะหายหรือมีคนแอบหยิบไปเขียนเล่นแล้วจะเจอความลับสวรรค์แบบผม ก็เรื่องอะไรผมต้องให้คนอื่นมาเป็นผู้วิเศษแทนผมละ จริงไหม ระหว่างที่ผมกำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกหนักลงมาทั้งๆที่ไม่มีเค้ามาก่อน และในช่วงที่ผมกำลังวิ่งหาที่หลบฝนนั่นเอง เจ้าสมุดวิเศษของผมก็ปลิวหล่นลงไปในแอ่งน้ำ กว่าผมจะรู้ตัวแล้ววิ่งกลับไปเอามันก็เปื่อยยุ่ยไปหมดแล้ว
นี่มันเรื่องบ้าอะไรนี่ ผมแทบจะคลั่งตายเมื่อเห็นสมุดวิเศษกำลังยุ่ยสลายไปต่อหน้าต่อตา ไม่นะ ไม่ !!! ผมยังมีอะไรต่อมิอะไรที่ต้องการอีกเยอะแยะ ทำไมพระเจ้าต้องกลั่นแกล้งกันอย่างนี้ด้วย ผมยังไม่ได้ขอพรให้ตัวเองเลย ผมได้แต่ร้องโวยวายอยู่ท่ามกลางสายฝนนานนับชั่วโมง หลังจากนั้นผมก็รู้สึกวูบไป
**************
“ทองย้อย เอ๊ย ทองย้อย ไม่น่าเลย ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆเชียว” ยายหอมพูดขึ้นอย่างปลงอนิจจัง
“นั่นสิยาย พี่ทองย้อย ไม่น่าเลย เห็นกันอยู่หลัดๆ ตอนนี้ต้องเข้าศรีธัญญาไปเสียแล้ว” เจ้าชัยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจ
“นี่แหนะ ไอ้น้องบ้า” เจ้าชิดพูดพลางเขกกะโหลกน้องชายไปหนึ่งที “ไม่ใช่เพราะแกหรอกหรือ ที่ทำให้พี่ทองย้อยต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้าอย่างนี้”
“แหม พี่ พี่ก็เล่นด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรอ ผมก็แค่แอบอ่านสมุดบันทึกพี่ทองย้อยแล้วก็แกล้งทำฝันของพี่ทองย้อยให้เป็นจริงเท่านั้นเอง ไม่นึกว่าพี่ทองย้อยจะคิดจริงจังเป็นตุเป็นตะจนเป็นบ้าได้ขนาดนี้ ยิ่งหลังๆชอบบอกว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ ผมยิ่งกลัวจนเลิกเล่นแล้วนะ” เจ้าชัยพูดอย่างสำนึกผิด
“นั่นสินะ อาจจะเป็นเวรกรรมของเขาเองก็ได้ที่เชื่อว่าไอ้ขี้ขโมยที่บังเอิญโดนกระทืบตายไปนั่นเป็นเพราะบันทึกของเขา หลังจากนั้นแกก็ไปแอบอ่านบันทึกพี่เขาเรื่อยๆแล้วก็วางแผนให้อะไรๆเป็นไปตามที่พี่เขาเขียนไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจับเจ้าเหมียวมาวางไว้หน้าบ้านพี่เขา หรือปลอมเกรดว่าสอบผ่าน รวมถึงที่ฉันแกล้งดีใจว่าถูกลอตเตอรี่ด้วย” เจ้าชิดพูดย้อนถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา
“แต่มันก็มีเรื่องหนึ่งที่เป็นจริงนะพี่” เจ้าชัยพูดอย่างนึกขึ้นมาได้ “เรื่องอะไรล่ะ” เจ้าชิดถามขึ้นอย่างสงสัย “ก็คำขอสุดท้ายของพี่ทองย้อยเขายังไงละที่บอกว่าจะมีอยู่ มีกิน แถมมีคนคอยบริการดูแลโดยที่ไม่ต้องทำงานไง ตอนนี้พี่ทองย้อยเขาสบายแล้วนะพี่” เจ้าชัยพูดพร้อมทำสีหน้าทะเล้น
นั่นสินะพี่ทองย้อย ตอนนี้พี่ก็ได้สิ่งที่พี่ต้องการจริงๆแล้ว ขอให้พี่อโหสิให้พวกผมด้วยเถอะนะ แล้วพวกผมจะเอาขนมไปเยี่ยมพี่บ่อยๆก็แล้วกันนะคร้าบบบบ
เรื่องสั้นที่แต่งไว้เมื่อเจ็ดปีที่แล้วแนวที่ลงตามขายหัวเราะ อ่านแล้วติชมกันได้นะคะ
บันทึกวิเศษ
“พี่ทองย้อย ๆ มาดูนี่สิ เจ๋งๆเลยพี่ ผมว่าแล้ว เมื่อคืนฝันดีขนาดนี้ต้องถูกลอตเตอรี่แหงมๆ” เจ้าชิดหลานชายอาแปะแผงหนังสือข้างบ้านวิ่งรี่พร้อมเสียงโหวกเหวกเข้ามาหาผมเพราะถูกเลขเด็ดสองตัวท้าย ที่ดีใจจนออกนอกหน้าขนาดนี้ก็คงเพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเจ้าชิดเลยก็ว่าได้ที่ถูกลอตเตอรี่ แต่สำหรับผมเองนั้นก็แค่แกล้งทำเป็นดีใจกับมันนิดหน่อยพอเป็นพิธีเท่านั้นละครับ เพราะเรื่องนี้ผมเป็นคนจัดให้มันเองก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นดีใจอะไรไปกับมันด้วย แหม...ก็เจ้าชิดมันก็สนิทชิดเชื้อกับผมอยู่พอสมควร ยิ่งอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงมีอะไรก็ไหว้วานกันได้ พอดีช่วงก่อนผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดติดๆกันสามสี่วัน เจ้าปอร์เช่ย์ กับเบนท์เล่ย์ของผมเลยไม่มีใครดูแล ก็ได้เจ้าชิดนี่ละครับที่ผมพอจะฝากฝังให้ดูแลเจ้าลูกหมาน้อยๆทั้งสองของผมได้ ผมก็เลยตอบแทนมันสักหน่อยด้วยการให้มันถูกเลขเด็ดสักงวด
แต่คุณผู้อ่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมเป็นพวกเจ้าพ่อใบ้หวยนะครับ เรื่องแบบนี้ผมไม่ถนัดและไม่สามารถเลยจริงๆ แต่ว่า...ผมมีทีเด็ดครับ ผมไม่อยากจะบอกเลยจริงๆนะว่าสิ่งที่ผมได้ครอบครองอยู่ตอนนี้นั้นมันช่างวิเศษประมาณพระเจ้ายอดมันจอร์ชมากเลยทีเดียว ก็จะไม่เรียกว่าวิเศษได้ยังไงละครับก็ในเมื่อตอนนี้ผมสามารถทำให้ทุกอย่างที่ผมต้องการเป็นความจริงขึ้นมาได้ อ๊ะๆ อันนี้เรื่องจริงนะครับ ไม่ได้โม้ ไอ้เจ้าของวิเศษสิ่งนี้ก็คือสมุดบันทึกที่ดูหน้าตาธรรมดาๆเล่มหนึ่งครับ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันเป็นสมุดธรรมดาทั่วๆไปที่คนเขาทำตกไว้ แล้วก็กะว่าจะเลยผ่านไปแต่ก็เกิดเอะใจอะไรบางอย่างเลยอดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมา เผื่อจะมีชื่อเจ้าของเขียนอยู่ แล้วข้อความในนั้นอาจเป็นเรื่องสำคัญ ผมจะได้สามารถนำไปคืนเจ้าของได้ แต่ก็เปล่าเลย ผมแอบผิดหวังเล็กๆที่ไม่ได้แอบอ่านข้อความข้างในเพราะว่ามันว่างเปล่า ไม่มีอะไรบันทึกไว้เลย แต่ผมก็เก็บมันกลับมาบ้านเพราะเห็นว่ามันยังดูเหมือนใหม่อยู่เลย น่าจะเอามาใช้ได้ แล้วก็คงเป็นเพราะความตั้งใจดีของผมในวันนั้นเลยส่งผลบุญมาถึงผมในวันนี้
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนอยู่ดีๆผมก็เกิดอยากบันทึกอะไรเล่นๆดูก็เลยเอาสมุดวิเศษเล่มนี้มาใช้ เนื่องจากยายหอมแม่ค้าขายขนมในตลาดแกโดนฉกกระเป๋า เงินที่ขายของทั้งหมดในวันนั้นเลยหายเกลี้ยง แล้วแกก็ได้แต่นั่งร้องห่มร้องไห้เพราะไอ้ขโมยนั่นมันวิ่งเร็วมาก คนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ก็วิ่งไล่ตามไม่ทัน ก็ได้แต่แจ้งความไปตามมีตามเกิด วันนั้นผมสงสารยายหอมมากเลยเลี้ยงข้าวแกไปหนึ่งมื้อ ตกเย็นผมก็เลยเขียนบันทึกเรื่องยายหอมถูกฉกกระเป๋านี่แหละ พร้อมทั้งแอบแช่งไอ้ขี้ขโมยนั่นให้มันโดนกระทืบตายในสามวันเจ็ดวัน เท่านั้นละครับ เป็นเรื่องเลย อีกสามวันต่อมาก็มีคนพบศพมันอยู่ไม่ไกลจากละแวกซอยบ้านผมสักเท่าไหร่ ดูท่าทางพวกมันคงทะเลาะกันเองเลยกระทืบกันตายจริงๆอย่างที่ผมเขียนไว้ ตอนนั้นผมขนลุกเกรียวเลยทีเดียวที่เห็นว่าสิ่งที่ผมเขียนไว้เล่นๆกลับกลายเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ ก็เลยต้องทำการพิสูจน์อีกถึงสองครั้งสองครา
การท้าพิสูจน์ครั้งแรกก็คือเรื่องของน้องแนนคนงามที่อยู่ในหมู่บ้านถัดไปอีกสองซอย คือผมเองแอบปิ๊งเธอมานานสองนานแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปคุยด้วยเนื่องจากพ่อของเธอดุมากแล้วเธอก็ดูสวย เริด เชิด หยิ่งตามสไตล์คุณหนูไฮโซ ผมก็เลยเริ่มเขียนบันทึกอีกครั้งโดยอยากให้เธอประทับใจในตัวผมและขอให้เราได้มีโอกาสพูดคุยกัน อีกสองวันต่อมาอยู่ดีๆวันนั้นผมก็เห็นเจ้าแมวเปอร์เซียตัวโปรดของน้องแนนมานอนเล่นหน้าบ้านผมซะอย่างนั้น ที่ผมจำได้ก็เพราะว่าน้องแนนเธอชอบอุ้มเจ้าเหมียวนี่ออกมาเดินเล่นอยู่บ่อยๆ ผมจึงนำตัวเจ้าเหมียวไปส่งที่บ้านเธอ ตอนนั้นสีหน้าเธอดีใจมากแล้วขอบคุณผมต่างๆนานาเพราะเธอกำลังตามหาเจ้าเหมียวน้อยอยู่พอดี ตอนนั้นหัวใจของผมพองโต แล้วก็ได้แต่คิดว่าถ้าไม่มีสมุดวิเศษเล่มนี้ ผมคงไม่ได้มีโอกาสดีๆอย่างนี้แน่
หลังจากนั้นอีกสองวันผมก็เริ่มทำการพิสูจน์อีกครั้งโดยการเขียนให้เจ้าชัยน้องชายเจ้าชิดที่สอบตกภาษาอังกฤษทุกเทอมสอบผ่านในเทอมนี้ ถ้าหากเจ้าชัยสอบผ่านขึ้นมาจริงๆคราวนี้ผมเชื่อแน่ๆว่าสมุดเล่มนี้มันเป็นของวิเศษจริงๆ เพราะคนแถวนี้ต่างก็รู้ดีถึงความอัจฉริยะทางด้านภาษาของเจ้าชัย พอผลสอบออกเจ้าชัยก็สอบผ่านจริงๆเสียด้วย คราวนี้ผมถึงกับกระโดดดีใจจนตัวลอย ไม่ใช่เพราะเจ้าชัยมันสอบผ่านหรอกครับ แต่เพราะผมมั่นใจแล้วว่าสมุดบันทึกนี่เป็นสมุดวิเศษจริงๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าผมจะเขียนอะไรลงไปตามใจของผมก็ได้แล้วทุกอย่างก็จะเป็นจริง ก็เท่ากับว่าผมนี่แหละคือผู้วิเศษที่สามารถลิขิตชีวิตตัวเองและผู้อื่นได้ มันช่างน่าเหลือเชื่ออะไรขนาดนี้ ท่าทางชาติที่แล้วผมคงทำบุญมาเยอะแน่ๆ
ว่าแล้วผมก็ได้แต่นั่งคิด นอนคิดอยู่ว่าจะเขียนอะไรต่ออีกดี เนื่องจากสมุดเล่มนี้ก็เป็นแค่สมุดเล่มบางๆ ขืนเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยมากเกินไป สมุดหมดขึ้นมาจะยุ่ง ถ้าจะเขียนต้องเขียนให้มันเจ๋งๆจริงๆ หลังจากที่นั่งครุ่นคิดมาตลอดสัปดาห์ว่าจะเขียนอะไรลงไปอีกดี ผมก็เริ่มต้นเขียนอีกครั้ง
เนื่องจากพ่อแม่ผมเสียไปนานแล้วก็เลยต้องพึ่งพาตัวเองมาตลอด ผมอยากสบายอย่างคนอื่นๆเขาบ้าง เลยเขียนบันทึกลงไปว่า ต่อไปนี้ผมขอมีอยู่มีกิน มีคนดูแลบริการทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องทำงาน จะได้สบายเสียที หลังจากที่เขียนบันทึกลงไป ผมก็ได้แต่รอผล สามวันก็แล้ว อาทิตย์หนึ่งก็แล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย ผมก็เลยเขียนประโยคเดิมซ้ำลงไปโดยต่อท้ายว่าขอให้เป็นจริงภายในสามวัน คราวนี้แหละจะได้ไม่ต้องรอนานแล้วผมก็จะได้สบายจริงๆเสียที
หลังๆมานี้ผมไปไหนมาไหนก็จะต้องระมัดระวังเอาสมุดเล่มนี้ติดตัวเสมอ เพราะกลัวว่ามันจะหายหรือมีคนแอบหยิบไปเขียนเล่นแล้วจะเจอความลับสวรรค์แบบผม ก็เรื่องอะไรผมต้องให้คนอื่นมาเป็นผู้วิเศษแทนผมละ จริงไหม ระหว่างที่ผมกำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกหนักลงมาทั้งๆที่ไม่มีเค้ามาก่อน และในช่วงที่ผมกำลังวิ่งหาที่หลบฝนนั่นเอง เจ้าสมุดวิเศษของผมก็ปลิวหล่นลงไปในแอ่งน้ำ กว่าผมจะรู้ตัวแล้ววิ่งกลับไปเอามันก็เปื่อยยุ่ยไปหมดแล้ว
นี่มันเรื่องบ้าอะไรนี่ ผมแทบจะคลั่งตายเมื่อเห็นสมุดวิเศษกำลังยุ่ยสลายไปต่อหน้าต่อตา ไม่นะ ไม่ !!! ผมยังมีอะไรต่อมิอะไรที่ต้องการอีกเยอะแยะ ทำไมพระเจ้าต้องกลั่นแกล้งกันอย่างนี้ด้วย ผมยังไม่ได้ขอพรให้ตัวเองเลย ผมได้แต่ร้องโวยวายอยู่ท่ามกลางสายฝนนานนับชั่วโมง หลังจากนั้นผมก็รู้สึกวูบไป
**************
“ทองย้อย เอ๊ย ทองย้อย ไม่น่าเลย ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆเชียว” ยายหอมพูดขึ้นอย่างปลงอนิจจัง
“นั่นสิยาย พี่ทองย้อย ไม่น่าเลย เห็นกันอยู่หลัดๆ ตอนนี้ต้องเข้าศรีธัญญาไปเสียแล้ว” เจ้าชัยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจ
“นี่แหนะ ไอ้น้องบ้า” เจ้าชิดพูดพลางเขกกะโหลกน้องชายไปหนึ่งที “ไม่ใช่เพราะแกหรอกหรือ ที่ทำให้พี่ทองย้อยต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้าอย่างนี้”
“แหม พี่ พี่ก็เล่นด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรอ ผมก็แค่แอบอ่านสมุดบันทึกพี่ทองย้อยแล้วก็แกล้งทำฝันของพี่ทองย้อยให้เป็นจริงเท่านั้นเอง ไม่นึกว่าพี่ทองย้อยจะคิดจริงจังเป็นตุเป็นตะจนเป็นบ้าได้ขนาดนี้ ยิ่งหลังๆชอบบอกว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ ผมยิ่งกลัวจนเลิกเล่นแล้วนะ” เจ้าชัยพูดอย่างสำนึกผิด
“นั่นสินะ อาจจะเป็นเวรกรรมของเขาเองก็ได้ที่เชื่อว่าไอ้ขี้ขโมยที่บังเอิญโดนกระทืบตายไปนั่นเป็นเพราะบันทึกของเขา หลังจากนั้นแกก็ไปแอบอ่านบันทึกพี่เขาเรื่อยๆแล้วก็วางแผนให้อะไรๆเป็นไปตามที่พี่เขาเขียนไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจับเจ้าเหมียวมาวางไว้หน้าบ้านพี่เขา หรือปลอมเกรดว่าสอบผ่าน รวมถึงที่ฉันแกล้งดีใจว่าถูกลอตเตอรี่ด้วย” เจ้าชิดพูดย้อนถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา
“แต่มันก็มีเรื่องหนึ่งที่เป็นจริงนะพี่” เจ้าชัยพูดอย่างนึกขึ้นมาได้ “เรื่องอะไรล่ะ” เจ้าชิดถามขึ้นอย่างสงสัย “ก็คำขอสุดท้ายของพี่ทองย้อยเขายังไงละที่บอกว่าจะมีอยู่ มีกิน แถมมีคนคอยบริการดูแลโดยที่ไม่ต้องทำงานไง ตอนนี้พี่ทองย้อยเขาสบายแล้วนะพี่” เจ้าชัยพูดพร้อมทำสีหน้าทะเล้น
นั่นสินะพี่ทองย้อย ตอนนี้พี่ก็ได้สิ่งที่พี่ต้องการจริงๆแล้ว ขอให้พี่อโหสิให้พวกผมด้วยเถอะนะ แล้วพวกผมจะเอาขนมไปเยี่ยมพี่บ่อยๆก็แล้วกันนะคร้าบบบบ