สวัสดีค่ะ จขกท ตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์ การฝึก ภาษาอังกฤษ และการสอบไอเอล สำหรับใครที่อาจจะกำลังท้อแท้อยู่ อยากให้อ่านกระทู้นี้ก่อนนะคะ จขกท สอบทั้งหมด 2ครั้ง ครั้งแรกได้ 6 ครั้งที่สองได้ 6.5 ตอนนี้จขกทก็ยังไม่ได้เก่งนะคะ
แต่ก็อยากจะแบ่งปันเทคนิคต่างๆจากใจจริง จขกท เข้าใจความรู้สึกของคนที่กำลังเตรียมสอบนะคะ รู้ว่ามันเครียดแค่ไหน โดยเฉพาะกับคนที่อ่อนภาษาอังกฤษ
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย จขกท ทำได้คุณก็ต้องทำได้แน่นอนค่ะ
เขียนจากประสบการณ์ตัวเอง หากผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยค่ะ จขกท ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ
พื้นฐาน ข้ามได้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย ลงเรียนพิเศษมาหลายที่ตั้งแต่มัธยม จนมหาวิทยาลัย เข้าเรียนสม่ำเสมอ แต่ไม่พยายามทำความเข้าใจ ดังนั้นระดับความเข้าใจเรื่อง Grammar และ Vocab อยู่ที่ 3 เต็ม 10 อ่านได้ แต่ไม่เข้าใจ เขียนได้แต่ไม่ถูก ส่วนพูดและฟัง ก็อ่อนพอๆกัน
เราเคยเข้าโครงการ Work&Travel ตอนนั้นก็หวังว่าจะได้ภาษาอังกฤษกลับมาบ้าง สรุป ได้น้อยมากกก ส่วนใหญ่จะได้เรื่องฟัง ดังนั้นหากน้องๆคนไหนคิดอยากเอาภาษาจากการไปเวิร์ค เราคิดว่าต้องเสี่ยงดวง บางคนได้งานที่ต้องใช้ภาษา แต่บางคนได้งานแบบ ใช้แรงงานงี้ ถ้าเอาชัวร์ก็ลงคอร์สภาษาสั้นๆไปเลยดีกว่า
ปูพื้นภาษาอังกฤษใหม่
หลังจากตระหนักได้ว่า ต้องตั้งใจแล้วล่ะ ภาษาอังกฤษมันสำคัญนะ เราเลยเริ่มหาข้อมูลการฝึกภาษาอังกฤษ จนได้ไปอ่านกระทู้ ตีแตก 10 สถาบัน กวดวิชาภาษาอังกฤษ ของเจ้าของLogin ผมเป็นแฟนคุณหมอ
http://topicstock.ppantip.com/klaibann/topicstock/2012/05/H12150063/H12150063.html ทำให้มีแรงบันดาลใจจะฝึกฝนอย่างจริงจัง ต้องขอบคุณกระทู้นั้นจริงๆ
หลังจากได้อ่านกระทู้นั้นเราตัดสินใจลงเรียนคอร์ส Intensive ของ BB&C คอร์สนี้สอนแกรมม่าล้วนๆ หลังเรียนจบเราก็อ่านทบทวนและจดโน้ตเป็นภาษาของเราเอง ถ้าสงสัยเรื่องแกรมม่าเมื่อไหร่ ก็เปิดอ่านได้ตลอด
Tips: เราเริ่มเปลี่ยนมาดูรายการภาษาอังกฤษ อย่างง่ายก่อน เราดู English Breakfast (ดูย้อนหลังใน App TV Thailand) นอกจากนี้ หาสิ่งที่ตัวเองชอบ จะทำให้เราอยากเข้าใจว่าเขาพูดว่าอะไร เช่น เราชอบดู How to แต่งหน้า ก็จะดูของ blogger ต่างชาติ อย่าง Pixiwoo หรือ Michelle phan เวลาว่างๆก็เปิดดู อย่าเคร่งครัดมาก จะเครียดเกิน
เมื่อได้แกรมม่าแล้ว ก็ควรเพิ่มคลังคำศัพท์ เราลงคอร์ส Vocab ของอ.สงวน วงศ์สุชาติ อ.ท่านเก่งมากๆๆ ทำให้เรามีคลังคำศัพท์เพิ่มขึ้น และยังได้ศัพท์สวยๆมาด้วย อย่างไรก็ตาม เราต้องคอยทบทวน เพราะคอร์สนี้สอนแต่ศัพท์จริงๆ แต่อย่างน้อยการตั้งใจเรียนก็ช่วยให้ซึมซับไปแบบอัตโนมัติ เพราะอ.จะคอยย้ำกลุ่มศัพท์ที่สำคัญอยู่เรื่อยๆ
Tips: หาแหล่งความรู้ออนไลน์ search google เอาได้เลย เช่น Engvid.com / รายการ Ted talk (มีซับอังกฤษให้ด้วย) / รายการ 6 minute english ของ BBC ทำให้สม่ำเสมอ เราจะได้ทักษะเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัวเลย แต่!! เวลาดูคือตั้งใจดูนะ ไม่ใช่เปิดทิ้งได้ยินแต่ไม่ได้ฟัง
ช่วงเตรียมสอบ IELTS
พอเราเริ่มเข้าใจภาษาอังกฤษ เราก็อยากไปเรียนต่อป.โท ที่ต่างประเทศ ซึ่งต้องสอบ IELTS ตอนนั้นกลัวมาก เพราะเกิดมานี่ไม่เคย ทำงานหรือเขียน essay เป็น ภาษาอังกฤษเองเลยสักครั้ง ให้เพื่อนช่วยตลอด
เราลงเรียน Writing เพิ่มเติม เพราะคิดว่า skills อื่นสามารถฝึกเองได้ แต่ writing นี่มืดแปดด้านจริงๆ คอร์ส writing ที่รร.สอนภาษาอาจารย์ดวงใจ คอร์สนี้สอนให้เราได้ pattern ในการเขียน และ สอนให้คิดแตกประเด็น ทำให้เราเขียน task 2ได้เร็วขึ้น เป็นระบบมากขึ้น ตัวคอร์สไม่มีการสอน grammar และ vocab นะคะ อาจมีสอดแทรกเล็กน้อย อ.จะเน้นเขียน essay ตามหัวข้อของแต่ละคาบ
เราฝึกทำข้อสอบจริง ปริ้นของ Cambridge เล่ม 5-9 มาทำ ในตัวหนังสือจะมีข้อสอบทั้งหมด 4 ชุด มี Tapescripts และตัวอย่างงานเขียนทั้ง Task 1และ 2 ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เดี๋ยวเราจะกล่าวต่อไป
ระยะเวลาในการฝึกขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะ เราเองลาออกจากงานแล้ว มีเวลาเต็มวัน แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ทำทั้งวันหรอก เราฝึกทำข้อสอบไอเอลอยู่ประมาณ 2 เดือน (เสาร์อาทิตย์ไม่ได้ฝึก) ตารางของเราคร่าวๆคือ ช่วงเช้า ทำข้อสอบ Listening กับ Reading ช่วงบ่าย review Listening และ Reading ช่วงเย็น Writing ช่วงดึก Speaking เราจะขออธิบายแยกแต่ละพาร์ท ขออนุญาตใส่สปอยล์ ให้ง่ายต่อการเลือกอ่านนะคะ
Listening
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วิธี: หาฟังคลิปจาก youtube ได้เลยโดย search Cambridge IELTS เล่ม และ test (เช่น cambridge IELTS 9 test 4 ) พอฟังจบ ก็จับเวลา 10นาที เหมือนเวลาสอบจริง เพื่อย้ายคำตอบลงในกระดาษคำถาม จากนั้นอย่าเพิ่งตรวจคำตอบ ให้ฟังเทปอีกครั้ง (review Listening) และตอบอีกครั้ง ดูว่าเราเปลี่ยนคำตอบไหม จากนั้นให้ตรวจคำตอบและ ฟังเทปรอบสุดท้าย พร้อมกับอ่าน Tapescript ไปด้วย ตรงไหนที่ฟังไม่เข้าใจให้ถอยกลับฟังจนเข้าใจ ข้อไหนที่ตอบผิด ให้ฟังจนเข้าใจว่าเออ จริงๆแล้วมันต้องตอบข้อนี้นะ
สิ่งที่ได้คือ เราจะชินกับข้อสอบ ฟังออกมากขึ้น
Tricks: เมื่อยามเข้าตาจน ถ้าข้อสอบchoice มี 4 ข้อ เรามั่นใจ 3ข้อแรกละ ตอบ A B A แล้วข้อ4 หลุดจริงๆ เราจะเลือก B หรือ choice 6 ข้อ 5 ข้อแรก A C B A C ข้อสุดท้ายเราจะตอบ B ลองสังเกตกระดาษคำตอบของ cambridge ดูนะ แต่!! เอาไว้ใช้เมื่อเข้าตาจนเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป
Tips: อ่านคำถามในsection สุดท้ายก่อน หรือ section ที่เป็น choice ในช่วงที่เทปยกตัวอย่างการตอบคำถาม และค่อยกลับมาอ่าน section แรกช่วงที่เทปบอกว่า Now we shall begin.You should answer ... เนื่องจากsection แรกค่อนข้างง่ายอ่านแปปเดียวก็เข้าใจแล้ว
Reading
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วิธี: เวลาทำให้จับเวลา 1ชม. และจดเวลาทุกครั้งที่ทำแต่ละพาร์ทเสร็จ เราจะชินกับระยะเวลามากขึ้น เวลาตอบ ให้เขียนลงในกระดาษคำตอบเลย เพราะพาร์ทนี้จะไม่มีเวลาให้ย้ายคำตอบเหมือน Listening เมื่อทำครบ 1ชม. ให้วางปากกา อย่า! เพิ่งเช็คคำตอบ ให้อ่านทั้งหมดซ้ำอีกครั้ง (review reading) รอบนี้ไม่จับเวลา แต่อ่านและลองดูว่าเราเปลี่ยนคำตอบไหม ระหว่างอ่านหากเจอศัพท์แปลไม่ออก ก็ไฮไลท์คำศัพท์ กับประโยคนั้น และหาความหมาย (อาจจดใส่สมุดคำศัพท์เราไว้ก็จะดี) อย่าลืมจดพวก synonym ด้วยนะ มีประโยชน์มากช่วยตอน writing ได้ด้วย จากนั้นค่อยเช็คคำตอบ และกลับไปดูว่าเราผิดข้อนี้ เพราะอะไร หาคำตอบให้เจอ
สิ่งที่ได้คือ เราจะอ่านเข้าใจขึ้น และเร็วขึ้น ได้คลังศัพท์เพิ่มขึ้น
Tricks: 1. แบบTrue False แน่นอนว่า ถ้ามีคำถาม 6 ข้อ จะมี True false Not Given อย่างละ2 นี่คือส่วนใหญ่นะ (ใช้ยามเข้าตาจน) ระวัง!! True False หรือ Yes No ดูดีๆ 2. แบบจับคู่ Heading ถ้าทำไม่ทันแล้วจริงๆ ให้อ่าน2ประโยคแรกและท้าย ของแต่ละ Paragraph Essay วิชาการเหล่านี้จะมีการเขียนที่เป็นระบบ ประโยคท้ายย่อหน้าแรก มักจะโยงเรื่องไป ย่อหน้าถัดไป อะไรทำนองนี้ 3. แบบเติมคำ ที่มีchoice เยอะๆให้เลือก แบบนี้ให้ดูหน้าที่ของคำ ว่าควรจะเปน N. ADJ. ฯลฯ
นอกจากนี้ เวลาเห็นคำในโจทย์มีคำนามเป็นตัวพิมพ์ใหญ่นำหน้า ชื่อคน ชื่อประเทศ หรือคำนามที่ค่อนข้างเฉพาะ เช่น ชื่อการทดลอง ให้เราวงไว้ พอกลับไปอ่านเราจะหาคำตอบได้เร็วขึ้น
Tips: ข้อสอบบางครั้งไม่ได้เรียงตามความยาก บางชุด passage 1 ยากสุดก็มี เพราะฉะนั้นอย่าจมกับการหาคำตอบนานจนเกินไป พาร์ทนี้ค่อนข้างยากสำหรับคนที่ไม่ชินกับการอ่าน แต่การรู้ลำดับคำตอบ จะช่วยให้เราหาคำตอบง่ายขึ้น คำตอบจะเรียงตาม ประเภทคำถาม เช่น passage แรก มีคำถามทั้งหมด 3 แบบ คือ True False , เติมคำ และ จับคู่ชื่อคน ให้เราอ่านคำถามข้อแรกของ แบบTrue False และไปอ่าน passage พอเจอคำตอบให้ตอบ แล้วค่อยอ่านข้อ 2 เช่นนี้ไป แต่บางครั้งอ่านไปเรื่อยๆมันอาจโดดไปเป็นคำตอบ ของแบบเติมคำข้อแรก และโดดกลับมา แบบTrue False ในข้อที่ 3 อีกครั้ง เมื่อฝึกเรื่อยๆเราจะสังเกต และจับทางข้อสอบได้ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่คำตอบจะเรียงข้อ
Writing
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เขียนวันละ 1 งาน ทั้งTask1 และ 2 จับเวลา 1 ชม. และควรจะเผื่อเวลาสำหรับการอ่านทั้งหมดอีกครั้ง เผื่อเขียนผิด สะกดผิด จะได้แก้ไขทัน การฝึกwriting ต้องมีคนตรวจแก้ให้นะ สำคัญจริงๆ** จะทำให้เรารู้ว่าเขียนผิดจุดไหน พาร์ทนี้เราได้อ่านกระทู้ของคุณ นายหะริด http://ppantip.com/topic/32492363 และ http://ppantip.com/topic/32574430 มีประโยชน์มากๆ อีกเว็บไซต์ที่แนะนำคือ http://ielts-simon.com/ielts-help-and-english-pr/ เวลาเราเขียนเสร็จเราจะเอาโจทย์ของพาร์ท 1 ไปพิมพ์ใน google และต่อท้ายด้วยคำว่า simon อ.คนนี้จะมีตัวอย่างการเขียนมาให้เราดู และมีเทคนิคต่างๆมาสอน ให้อ่านงานที่เขาเขียน ดูว่าเขาเลือกเขียนข้อมูลยังไง และใช้รูปประโยคกับคำศัพท์อะไร อะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ให้จดไว้ ส่วน Task 2 ให้อ่านตัวอย่างที่มากับหนังสือ cambridge และดู comment จาก examiner ว่าเขาfeedbackยังไง Task นี้การเขียนที่มีเหตุผล มีการ support main idea และยกตัวอย่าง สำคัญกว่าการใช้ grammar และ vocab แต่การเขียนรูปประโยคที่หลากหลาย และใช้ศัพท์สวยสัก2-3 คำก็สำคัญเช่นกัน ดังนั้น ฝึกเขียน และกะตัวอักษรให้ดี
Speaking
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราฝึกกับตัวเอง จำลองการสอบจริง จับเวลาในช่วง part2 1นาทีจดเรื่องที่จะพูด 2นาทีพูดต่อเนื่อง หาคำถามเพิ่มเติมจาก google นี่แหละ บางทีที่เราพูดไม่ได้ไม่ใช่เพราะเราพูดไม่เป็น แต่เราคิดเรื่องที่จะพูดไม่ออกก็มี ดังนั้นอย่างน้อยเราควรนึก เรื่องที่จะพูด ฝึกบ่อยๆ วันสอบอาจโชคดีได้เจอเรื่องที่เคยซ้อมก็ได้ เช่น ถ้าคนคุมสอบถามมาว่าชอบโบราณสถานของไทยที่ไหนบ้าง เพราะอะไร โอ.. แค่นึกเป็นไทยบางทียังยากเลยเพราะฉะนั้นหมั่นนึกคำตอบ และฝึกพูดเข้าไปจะพูดในใจ หรือพูดหน้ากระจกก็ได้
วิธีการสมัครสอบ แนะนำกระทู้นี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/31797727 หากสอบของ British เราแนะนำให้เลือกสอบวันเสาร์นะ (ครั้งแรกเราสอบวันพฤหัส) ถึงแม้คนจะเยอะ แต่บรรยากาศการสอบมันเงียบกว่าวันพฤหัสที่คนสอบน้อย น่าจะเป็นเพราะห้องเปิดกว้างและโล่ง ไม่อึดอัด เสียงไม่อื้ออึง
วันก่อนสอบและวันสอบ
วันก่อนสอบ อย่าอ่านหักโหมและเครียดมากนัก ให้เราตั้งตารอการสอบอย่างตื่นเต้นดีกว่า ค่าสอบตั้ง6พันกว่า เราจะทำให้เต็มที่ ให้อ่านคำศัพท์ หรือ pattern ที่ได้จดมา ทานข้าวเย็นให้อิ่ม นอนเร็ว สวดมนต์ก่อนนอน คาถาชินบัญชรหรือคาถาไหนก็ได้ ให้เรามีสติ
วันสอบ ไปถึงไม่ควรเกิน 8โมง (กรณีสอบกับ British) กินให้อิ่มเกินกว่าปกตินิดนึง เพราะเราต้องใช้พลังงานสมอง และสอบยาวถึงเที่ยง ถ้าหิวตอน Writing อาจจะเขียนไม่ออกได้ อย่ากินน้ำเยอะและอย่าเครียดให้คิดสะว่าทำข้อสอบอยู่ที่บ้านเหมือนทุกๆวัน สวดมนต์สักนิดบทแผ่ส่วนกุศลสั้นๆก็ได้ "พุธธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ" เราจะได้มีสติในการทำข้อสอบ
แนะนำกระทู้เพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ ขอบคุณจขกท ด้วยค่ะ
http://ppantip.com/topic/32606777
ปล. อย่าหยุดที่จะฝึกฝนนะ ให้เราค่อยๆซึมซับมันไป ส่วนตัวเราตอนนี้ แนะนำ App British Radios ฟังช่อง 4 5 หรือ BBC world ฟังเพลงช่อง Capital FM ก็ได้ ส่วนใครที่ชอบดูซีรี่หาแบบที่มีซับอังกฤษ วิธีตามลิงค์นี้ค่ะ
http://ppantip.com/topic/33309765 หรือดูการ์ตูนญี่ปุ่นก็ได้ เราเองเปลี่ยนมาดู Onepiece ซับ Eng แทนที่เวบ www.watchop.eu
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
+++ แชร์ เทคนิคและประสบการณ์ การเตรียมตัวสอบ IELTS ของคน(เคย)อ่อนภาษาอังกฤษ +++
เขียนจากประสบการณ์ตัวเอง หากผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยค่ะ จขกท ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ
พื้นฐาน ข้ามได้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปูพื้นภาษาอังกฤษใหม่
หลังจากตระหนักได้ว่า ต้องตั้งใจแล้วล่ะ ภาษาอังกฤษมันสำคัญนะ เราเลยเริ่มหาข้อมูลการฝึกภาษาอังกฤษ จนได้ไปอ่านกระทู้ ตีแตก 10 สถาบัน กวดวิชาภาษาอังกฤษ ของเจ้าของLogin ผมเป็นแฟนคุณหมอ http://topicstock.ppantip.com/klaibann/topicstock/2012/05/H12150063/H12150063.html ทำให้มีแรงบันดาลใจจะฝึกฝนอย่างจริงจัง ต้องขอบคุณกระทู้นั้นจริงๆ
หลังจากได้อ่านกระทู้นั้นเราตัดสินใจลงเรียนคอร์ส Intensive ของ BB&C คอร์สนี้สอนแกรมม่าล้วนๆ หลังเรียนจบเราก็อ่านทบทวนและจดโน้ตเป็นภาษาของเราเอง ถ้าสงสัยเรื่องแกรมม่าเมื่อไหร่ ก็เปิดอ่านได้ตลอด
Tips: เราเริ่มเปลี่ยนมาดูรายการภาษาอังกฤษ อย่างง่ายก่อน เราดู English Breakfast (ดูย้อนหลังใน App TV Thailand) นอกจากนี้ หาสิ่งที่ตัวเองชอบ จะทำให้เราอยากเข้าใจว่าเขาพูดว่าอะไร เช่น เราชอบดู How to แต่งหน้า ก็จะดูของ blogger ต่างชาติ อย่าง Pixiwoo หรือ Michelle phan เวลาว่างๆก็เปิดดู อย่าเคร่งครัดมาก จะเครียดเกิน
เมื่อได้แกรมม่าแล้ว ก็ควรเพิ่มคลังคำศัพท์ เราลงคอร์ส Vocab ของอ.สงวน วงศ์สุชาติ อ.ท่านเก่งมากๆๆ ทำให้เรามีคลังคำศัพท์เพิ่มขึ้น และยังได้ศัพท์สวยๆมาด้วย อย่างไรก็ตาม เราต้องคอยทบทวน เพราะคอร์สนี้สอนแต่ศัพท์จริงๆ แต่อย่างน้อยการตั้งใจเรียนก็ช่วยให้ซึมซับไปแบบอัตโนมัติ เพราะอ.จะคอยย้ำกลุ่มศัพท์ที่สำคัญอยู่เรื่อยๆ
Tips: หาแหล่งความรู้ออนไลน์ search google เอาได้เลย เช่น Engvid.com / รายการ Ted talk (มีซับอังกฤษให้ด้วย) / รายการ 6 minute english ของ BBC ทำให้สม่ำเสมอ เราจะได้ทักษะเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัวเลย แต่!! เวลาดูคือตั้งใจดูนะ ไม่ใช่เปิดทิ้งได้ยินแต่ไม่ได้ฟัง
ช่วงเตรียมสอบ IELTS
พอเราเริ่มเข้าใจภาษาอังกฤษ เราก็อยากไปเรียนต่อป.โท ที่ต่างประเทศ ซึ่งต้องสอบ IELTS ตอนนั้นกลัวมาก เพราะเกิดมานี่ไม่เคย ทำงานหรือเขียน essay เป็น ภาษาอังกฤษเองเลยสักครั้ง ให้เพื่อนช่วยตลอด เราลงเรียน Writing เพิ่มเติม เพราะคิดว่า skills อื่นสามารถฝึกเองได้ แต่ writing นี่มืดแปดด้านจริงๆ คอร์ส writing ที่รร.สอนภาษาอาจารย์ดวงใจ คอร์สนี้สอนให้เราได้ pattern ในการเขียน และ สอนให้คิดแตกประเด็น ทำให้เราเขียน task 2ได้เร็วขึ้น เป็นระบบมากขึ้น ตัวคอร์สไม่มีการสอน grammar และ vocab นะคะ อาจมีสอดแทรกเล็กน้อย อ.จะเน้นเขียน essay ตามหัวข้อของแต่ละคาบ
เราฝึกทำข้อสอบจริง ปริ้นของ Cambridge เล่ม 5-9 มาทำ ในตัวหนังสือจะมีข้อสอบทั้งหมด 4 ชุด มี Tapescripts และตัวอย่างงานเขียนทั้ง Task 1และ 2 ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เดี๋ยวเราจะกล่าวต่อไป
ระยะเวลาในการฝึกขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะ เราเองลาออกจากงานแล้ว มีเวลาเต็มวัน แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ทำทั้งวันหรอก เราฝึกทำข้อสอบไอเอลอยู่ประมาณ 2 เดือน (เสาร์อาทิตย์ไม่ได้ฝึก) ตารางของเราคร่าวๆคือ ช่วงเช้า ทำข้อสอบ Listening กับ Reading ช่วงบ่าย review Listening และ Reading ช่วงเย็น Writing ช่วงดึก Speaking เราจะขออธิบายแยกแต่ละพาร์ท ขออนุญาตใส่สปอยล์ ให้ง่ายต่อการเลือกอ่านนะคะ
Listening
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Reading
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Writing
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Speaking
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วิธีการสมัครสอบ แนะนำกระทู้นี้นะคะ http://ppantip.com/topic/31797727 หากสอบของ British เราแนะนำให้เลือกสอบวันเสาร์นะ (ครั้งแรกเราสอบวันพฤหัส) ถึงแม้คนจะเยอะ แต่บรรยากาศการสอบมันเงียบกว่าวันพฤหัสที่คนสอบน้อย น่าจะเป็นเพราะห้องเปิดกว้างและโล่ง ไม่อึดอัด เสียงไม่อื้ออึง
วันก่อนสอบและวันสอบ
วันก่อนสอบ อย่าอ่านหักโหมและเครียดมากนัก ให้เราตั้งตารอการสอบอย่างตื่นเต้นดีกว่า ค่าสอบตั้ง6พันกว่า เราจะทำให้เต็มที่ ให้อ่านคำศัพท์ หรือ pattern ที่ได้จดมา ทานข้าวเย็นให้อิ่ม นอนเร็ว สวดมนต์ก่อนนอน คาถาชินบัญชรหรือคาถาไหนก็ได้ ให้เรามีสติ
วันสอบ ไปถึงไม่ควรเกิน 8โมง (กรณีสอบกับ British) กินให้อิ่มเกินกว่าปกตินิดนึง เพราะเราต้องใช้พลังงานสมอง และสอบยาวถึงเที่ยง ถ้าหิวตอน Writing อาจจะเขียนไม่ออกได้ อย่ากินน้ำเยอะและอย่าเครียดให้คิดสะว่าทำข้อสอบอยู่ที่บ้านเหมือนทุกๆวัน สวดมนต์สักนิดบทแผ่ส่วนกุศลสั้นๆก็ได้ "พุธธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ" เราจะได้มีสติในการทำข้อสอบ
แนะนำกระทู้เพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ ขอบคุณจขกท ด้วยค่ะ
http://ppantip.com/topic/32606777
ปล. อย่าหยุดที่จะฝึกฝนนะ ให้เราค่อยๆซึมซับมันไป ส่วนตัวเราตอนนี้ แนะนำ App British Radios ฟังช่อง 4 5 หรือ BBC world ฟังเพลงช่อง Capital FM ก็ได้ ส่วนใครที่ชอบดูซีรี่หาแบบที่มีซับอังกฤษ วิธีตามลิงค์นี้ค่ะ http://ppantip.com/topic/33309765 หรือดูการ์ตูนญี่ปุ่นก็ได้ เราเองเปลี่ยนมาดู Onepiece ซับ Eng แทนที่เวบ www.watchop.eu
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ