ขอระบายค่ะ กว่าจะได้บ้านมา 1 หลังนี่ เสียน้ำตา เสียใจ เสียความรู้สึกกันไปเท่าไรคะ ?
ตอนนี้เราโดนผู้รับเหมาแจ้งยกเลิกงานมา 2 เจ้าแล้วค่ะ เล่าพื้นฐานก่อน เราจะปลูกบ้านเพื่อเป็นเรือนหอ โดยมีพ่อซึ่งเป็นวิศวกร จบงานช่าง มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านอยู่เองมา 2 หลังแล้ว เป็นคนคอยควบคุมงาน พ่อเราเป็นคนละเอียด ดูแลในทุกดีเทลค่ะ ของที่จะใช้เป็นวัสดุปลูกสร้างก็มีคอนเนคชั่นซื้อได้ถูกกว่าทั่วไป
ผู้รับเหมาเจ้าแรกที่เข้ามารับงาน คุยกันดิบดี มีช่างฝีมือ มีประสบการณ์ ถามในดีเทลงานก็ตอบได้เป็นฉากๆ ตอนคุยกันเรื่องของที่จะซื้อก็คุยกันว่าบางส่วนที่ ผรม.คิดมาก็ตามนนั้น แต่วัสดุบางส่วนที่เราซื้อได้ถูกกว่าก็เอามาหักลบในงวดงานแต่ละงวดได้มั้ย ประมาณว่าค่าแรงค่าของคิดมาเถอะ แต่ค่าของถ้าฉันซื้อได้ถูกกว่าฉันขอเป็นส่วนลดนะ ผรม.ก็โอเค เตรียมสัญญากันเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้เซ็นต์ เราน่ะรีบอย่างจะเซ็นต์สัญญาเพราะว่าจะได้เอาไปยื่นกู้ แต่ ผรม.บอกไม่เป็นไร ขึ้นเสาให้เรียบร้อยค่อยมาเซ็นต์กันก็ได้
พอจะขึ้นเสาเอกเสาโท ช่างก็มาเตรียมหน้างาน เตรียมเหล็กที่ฐานเสา ก่อบล๊อกเตรียมหล่อ (ใช้ไม้แผ่นๆ) พอทางเราตรวจเช็คงานก่อนทำจริง หลายเสาวางเหล็กที่เตรียมไว้เบี้ยวเอียงไม่ได้ฉาก บล๊อกไม้ก็ไม่ฉากเหมือนกัน ก็ท้วงติงไป ช่างก็แบบ เดี๋ยวฉาบได้ เดี๋ยวแก้ได้ นี่นั้นๆ ปูนที่จะมาเทคานคอดิน เราระบุเป็นซีแพคผสมสำเร็จไป แต่ ผรม.บอกว่าใช้ปูนผสมหน้างานก็ได้ สั่งปูนไม่ทัน อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็เอ๊ะ งานฐานรากไม่ทำให้ดีแต่แรก ที่เหลือมันจะยังไง พ่อเลยบอกว่างั้นแค่ขึ้นเสาไว้ยังไม่ต้องเทปูน ค่อยสั่งมาเทตามหลัง แค่ทำพิธีตามฤกษ์ก่อน พอถึงวันขึ้นเสาเอก ก็ได้ทำพิธีแค่ยกเหล็กเสาขึ้นไปผูกไว้เท่านั้น วันต่อมา ผรม.โทรมาบอกว่าคงมาทำต่อไม่ได้แล้ว คนงานที่มีเยอะแยะทั้งหมดต้องไปเกี่ยวข้าว??? จุดนั้นได้แต่อึ้ง...มันคืออะไร?? เลยสรุปใจความได้ตอนหลังว่า เค้าคงได้งานที่กำไรดีกว่า และเจ้าของคงไม่ดูแลทุกดีเทลแบบบ้านเรา โชคดีที่ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญาไม่งั้นต้องเสียงวดแรก (จ่ายหลังเซ็นต์สัญญา) ข้าวของเหล็กอะไรที่ ผรม. มาเตรียมไว้ก็ไม่เอาเลยให้มาถอนไปให้หมด ไม่ได้จ่ายอะไร (มีแต่ค่าเคลียร์หน้างานตอนแรกที่ต้องเอารถมาไถแค่นั้น)
ผ่านไป 2 เดือนกับการตระเวนหา ผรม. รายใหม่ มาได้ ผรม. ที่ทำบ้านอยู่ซอยข้างๆ เห็นฝีก่อฉาบหน้างานแล้วพอใจ ผรม. เป็นรุปแบบบริษัทรับเหมา เน้นงานโรงงาน ตึก 3 ชั้น อพาร์ทเมนท์ แม้ว่าจะคิดราคามาแพงกว่าเจ้าอื่นๆ แต่ด้วยฝีมือที่เห็นแล้วเราไม่ได้ต่อราคาเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็ยังขอเงื่อนไขเดิมคือถ้าของไหนเราซื้อได้ถูกกว่า เราขอลดราคาในงวดงานนั้นๆ ซึ่งก็ตกลงทำสัญญากัน ช่างที่มาทำก็ดี ไม่มีปัญหารบกวนกับบ้านข้างเคียง ซึ่งก็เหมือนเดิมพ่อเราเป็นคนตรวจคุมงานด้วยในทุกวัน อันไหนที่ดูไม่เหมาะไม่สม ก็ทักท้วงไป ตัวอย่างจะเทคาน เทเสา ช่างวัดดิ่งแค่ข้างเดียว ก่อเหล็กแบบจะเทเสา ตัวเหล็กมาแนบกับเหล็กแบบไม่ได้ฉาก พ่อเราก็ท้วงติงไป ช่วงแรกๆ ผรม ก็แก้ไขตามอยู่ สักพักเริ่มมีแบบว่า ทำแบบนี้ได้ เป็นมาตรฐานการทำงานของเขา ถ้าเราจู้จี้มาก เค้าก็ไม่ค่อยโอเค สุดท้ายงานเดินไปจนเทเสาชั้น 1 เสร็จ กำลังจะขึ้นชั้น 2 ผรม. มาบอกว่า เค้าไม่โอเคกับการตรวจงานของเรา ไม่เหมาะสมกับราคางาน ทั้งที่เราไม่ได้ต่อราคาที่เค้าเสนอราคามาสักบาท ขอยกเลิกงาน โดยจะทำให้จบถึงโครงสร้างชั้น 2
สุดท้ายสรุปใจความกลายเป็นว่าทางเราจู้จี้มากไป เราเลยไม่เข้าใจว่า การสร้างบ้านสักหลังนี้ เจ้าของงานไม่สามารถออกความเห็น ติดตามตรวจสอบการทำงานของ ผรม ให้เป็นไปตามมาตรฐานของเราเหรอ คุณมีมาตรฐานก่อสร้างของคุณ เราก็มีของเราเหมือนกัน ทำไมเราไม่จูนกัน เอะอะๆก็ทิ้งงาน บางทีเราก็คิดนะ งานบ้านหลังเล็กๆ ราคาไม่ถึง 3 ล้านบาทนี่มันกระจอกสำหรับ ผรม. รึเปล่า เค้าเลยทิ้งงานทิ้งเงินกันได้ง่ายๆ แบบนี้ เราเสียใจเสียความรู้สึก ยังไม่เท่ากับที่ต้องเห็นพ่อแม่มาเครียดกับเราไปด้วยกับเรื่องแบบนี้เลยค่ะ
ใครมีประสบการณ์แบบนี้มาแชร์กันบ้างนะคะ อยากรู้ว่าทำกันยังไง รับมือกับ ผรม กันยังไงค่ะ
ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน ใช้คตินี้กับผู้รับเหมาไม่ได้?
ตอนนี้เราโดนผู้รับเหมาแจ้งยกเลิกงานมา 2 เจ้าแล้วค่ะ เล่าพื้นฐานก่อน เราจะปลูกบ้านเพื่อเป็นเรือนหอ โดยมีพ่อซึ่งเป็นวิศวกร จบงานช่าง มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านอยู่เองมา 2 หลังแล้ว เป็นคนคอยควบคุมงาน พ่อเราเป็นคนละเอียด ดูแลในทุกดีเทลค่ะ ของที่จะใช้เป็นวัสดุปลูกสร้างก็มีคอนเนคชั่นซื้อได้ถูกกว่าทั่วไป
ผู้รับเหมาเจ้าแรกที่เข้ามารับงาน คุยกันดิบดี มีช่างฝีมือ มีประสบการณ์ ถามในดีเทลงานก็ตอบได้เป็นฉากๆ ตอนคุยกันเรื่องของที่จะซื้อก็คุยกันว่าบางส่วนที่ ผรม.คิดมาก็ตามนนั้น แต่วัสดุบางส่วนที่เราซื้อได้ถูกกว่าก็เอามาหักลบในงวดงานแต่ละงวดได้มั้ย ประมาณว่าค่าแรงค่าของคิดมาเถอะ แต่ค่าของถ้าฉันซื้อได้ถูกกว่าฉันขอเป็นส่วนลดนะ ผรม.ก็โอเค เตรียมสัญญากันเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้เซ็นต์ เราน่ะรีบอย่างจะเซ็นต์สัญญาเพราะว่าจะได้เอาไปยื่นกู้ แต่ ผรม.บอกไม่เป็นไร ขึ้นเสาให้เรียบร้อยค่อยมาเซ็นต์กันก็ได้
พอจะขึ้นเสาเอกเสาโท ช่างก็มาเตรียมหน้างาน เตรียมเหล็กที่ฐานเสา ก่อบล๊อกเตรียมหล่อ (ใช้ไม้แผ่นๆ) พอทางเราตรวจเช็คงานก่อนทำจริง หลายเสาวางเหล็กที่เตรียมไว้เบี้ยวเอียงไม่ได้ฉาก บล๊อกไม้ก็ไม่ฉากเหมือนกัน ก็ท้วงติงไป ช่างก็แบบ เดี๋ยวฉาบได้ เดี๋ยวแก้ได้ นี่นั้นๆ ปูนที่จะมาเทคานคอดิน เราระบุเป็นซีแพคผสมสำเร็จไป แต่ ผรม.บอกว่าใช้ปูนผสมหน้างานก็ได้ สั่งปูนไม่ทัน อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็เอ๊ะ งานฐานรากไม่ทำให้ดีแต่แรก ที่เหลือมันจะยังไง พ่อเลยบอกว่างั้นแค่ขึ้นเสาไว้ยังไม่ต้องเทปูน ค่อยสั่งมาเทตามหลัง แค่ทำพิธีตามฤกษ์ก่อน พอถึงวันขึ้นเสาเอก ก็ได้ทำพิธีแค่ยกเหล็กเสาขึ้นไปผูกไว้เท่านั้น วันต่อมา ผรม.โทรมาบอกว่าคงมาทำต่อไม่ได้แล้ว คนงานที่มีเยอะแยะทั้งหมดต้องไปเกี่ยวข้าว??? จุดนั้นได้แต่อึ้ง...มันคืออะไร?? เลยสรุปใจความได้ตอนหลังว่า เค้าคงได้งานที่กำไรดีกว่า และเจ้าของคงไม่ดูแลทุกดีเทลแบบบ้านเรา โชคดีที่ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญาไม่งั้นต้องเสียงวดแรก (จ่ายหลังเซ็นต์สัญญา) ข้าวของเหล็กอะไรที่ ผรม. มาเตรียมไว้ก็ไม่เอาเลยให้มาถอนไปให้หมด ไม่ได้จ่ายอะไร (มีแต่ค่าเคลียร์หน้างานตอนแรกที่ต้องเอารถมาไถแค่นั้น)
ผ่านไป 2 เดือนกับการตระเวนหา ผรม. รายใหม่ มาได้ ผรม. ที่ทำบ้านอยู่ซอยข้างๆ เห็นฝีก่อฉาบหน้างานแล้วพอใจ ผรม. เป็นรุปแบบบริษัทรับเหมา เน้นงานโรงงาน ตึก 3 ชั้น อพาร์ทเมนท์ แม้ว่าจะคิดราคามาแพงกว่าเจ้าอื่นๆ แต่ด้วยฝีมือที่เห็นแล้วเราไม่ได้ต่อราคาเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็ยังขอเงื่อนไขเดิมคือถ้าของไหนเราซื้อได้ถูกกว่า เราขอลดราคาในงวดงานนั้นๆ ซึ่งก็ตกลงทำสัญญากัน ช่างที่มาทำก็ดี ไม่มีปัญหารบกวนกับบ้านข้างเคียง ซึ่งก็เหมือนเดิมพ่อเราเป็นคนตรวจคุมงานด้วยในทุกวัน อันไหนที่ดูไม่เหมาะไม่สม ก็ทักท้วงไป ตัวอย่างจะเทคาน เทเสา ช่างวัดดิ่งแค่ข้างเดียว ก่อเหล็กแบบจะเทเสา ตัวเหล็กมาแนบกับเหล็กแบบไม่ได้ฉาก พ่อเราก็ท้วงติงไป ช่วงแรกๆ ผรม ก็แก้ไขตามอยู่ สักพักเริ่มมีแบบว่า ทำแบบนี้ได้ เป็นมาตรฐานการทำงานของเขา ถ้าเราจู้จี้มาก เค้าก็ไม่ค่อยโอเค สุดท้ายงานเดินไปจนเทเสาชั้น 1 เสร็จ กำลังจะขึ้นชั้น 2 ผรม. มาบอกว่า เค้าไม่โอเคกับการตรวจงานของเรา ไม่เหมาะสมกับราคางาน ทั้งที่เราไม่ได้ต่อราคาที่เค้าเสนอราคามาสักบาท ขอยกเลิกงาน โดยจะทำให้จบถึงโครงสร้างชั้น 2
สุดท้ายสรุปใจความกลายเป็นว่าทางเราจู้จี้มากไป เราเลยไม่เข้าใจว่า การสร้างบ้านสักหลังนี้ เจ้าของงานไม่สามารถออกความเห็น ติดตามตรวจสอบการทำงานของ ผรม ให้เป็นไปตามมาตรฐานของเราเหรอ คุณมีมาตรฐานก่อสร้างของคุณ เราก็มีของเราเหมือนกัน ทำไมเราไม่จูนกัน เอะอะๆก็ทิ้งงาน บางทีเราก็คิดนะ งานบ้านหลังเล็กๆ ราคาไม่ถึง 3 ล้านบาทนี่มันกระจอกสำหรับ ผรม. รึเปล่า เค้าเลยทิ้งงานทิ้งเงินกันได้ง่ายๆ แบบนี้ เราเสียใจเสียความรู้สึก ยังไม่เท่ากับที่ต้องเห็นพ่อแม่มาเครียดกับเราไปด้วยกับเรื่องแบบนี้เลยค่ะ
ใครมีประสบการณ์แบบนี้มาแชร์กันบ้างนะคะ อยากรู้ว่าทำกันยังไง รับมือกับ ผรม กันยังไงค่ะ