คุณพ่อได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งแบ่งเพื่อนอยู่คนละครึ่ง แบบไม่ได้แบ่งเขตแดน ต่อมาน้องเขยของเพื่อนคุณพ่อได้ขอเข้ามาปลูกบ้านอยู่อาศัยพร้อมทำนา โดยจ่ายค่าเช่าให้จำนวนหนึ่ง หลายปีต่อมาเพื่อนคุณพ่อได้มายืมเงินไป และท้ายที่สุดขอใช้คืนด้วยการขายที่แปลงที่ครองกรรมสิทธิ์ร่วมกันอยู่ให้ เท่ากับว่าคุณพ่อเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวอย่างเต็มตัว และสัญญาเช่าอยู่ของน้องเขยของเพื่อนท่านนี้กำลังจะหมดลงเร็วๆนี้ ประกอบกับคุณพ่อมีแผนจะขายที่แปลงนี้ ทางน้องเขยจึงบอกว่าจะไม่ขอต่อสัญญา (ซึ่งเท่ากับว่าไม่จ่ายค่าเช่า) เพราะจะไม่อยู่อาศัยอยู่แล้ว แต่จะขอเอาให้บ้านคนอื่นเช่า(เพื่อเก็บค่าเช่าเอง) จนกว่าทางคุณพ่อจะขายที่ได้
ดิฉันคิดว่าไม่ถูกต้องเพราะถ้าทางคุณพ่อใช้เวลานาน หลายปีกว่าจะขายที่ได้ เท่ากับว่าคุณพ่อให้คนอื่นเข้ามาครอบครองที่โดยพละการ ดิฉันไม่แน่ใจว่าเผลอๆกรรมสิทธิ์อาจจะตกเป็นของบุคคลอื่นโดยปริยาย เพราะไม่มีหนังสือสัญญาระบุหรือไม่
ดิฉันควรเจรจาอธิบายอย่างไร เพื่อไม่ให้ทางคุณพ่อและเพื่อนต้องขุ่นเคืองใจคะ?
หมายเหตุ บ้านนี้น้องเขยเป็นคนปลูกเองค่ะ ก็เข้าใจนะคะว่าเขาลงเงินลงทุนไปกับบ้านหลังนี้ ไม่แน่ใจว่ามูลค่าบ้านเท่าไหร่ แต่ค่าเช่าที่กำหนดราคาต่ำมากค่ะ ไม่ถึงกี่หมื่นต่อปี กับที่ดินเชิงเกษตรเป็นสิบๆไร่ (จังหวัดติดกับกรุงเทพฯค่ะ)
คนกันเอง : สัญญาเช่าหมด แต่ขอให้คนอื่นเช่าต่อและเก็บค่าเช่าเอง
ดิฉันคิดว่าไม่ถูกต้องเพราะถ้าทางคุณพ่อใช้เวลานาน หลายปีกว่าจะขายที่ได้ เท่ากับว่าคุณพ่อให้คนอื่นเข้ามาครอบครองที่โดยพละการ ดิฉันไม่แน่ใจว่าเผลอๆกรรมสิทธิ์อาจจะตกเป็นของบุคคลอื่นโดยปริยาย เพราะไม่มีหนังสือสัญญาระบุหรือไม่
ดิฉันควรเจรจาอธิบายอย่างไร เพื่อไม่ให้ทางคุณพ่อและเพื่อนต้องขุ่นเคืองใจคะ?
หมายเหตุ บ้านนี้น้องเขยเป็นคนปลูกเองค่ะ ก็เข้าใจนะคะว่าเขาลงเงินลงทุนไปกับบ้านหลังนี้ ไม่แน่ใจว่ามูลค่าบ้านเท่าไหร่ แต่ค่าเช่าที่กำหนดราคาต่ำมากค่ะ ไม่ถึงกี่หมื่นต่อปี กับที่ดินเชิงเกษตรเป็นสิบๆไร่ (จังหวัดติดกับกรุงเทพฯค่ะ)