แชร์ประสบการณ์ขับรถลุยน้ำท่วมครึ่งล้อ พร้อมคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ

วันนี้ ดูข่าว ผมเห็นภาพข่าวน้ำท่วมถนน คนขัยรถลุยน้ำ
ขอแชร์ประสบการณ์ขับผ่านที่ที่มีน้ำขังประมาณครึ่งล้อในอดีตของผม น่าสยดสยองมาก

ตอนนั้นประมาณปี 2556 น้ำท่วมขังที่เมืองทองธานี ท่วมแค่ครึ่งล้อ แต่คลื่นของน้ำที่รถวิ่งซัด ก็ตีซักประมาณล้อ
รถยนต์ผมเป็นรถเก่งสี่ล้อทั่วไปนะครับ เพิ่งออกมาก่อนน้ำท่วมซักเดือนนึงนี่เองครับ
น้ำซึมเข้ามาจำนวนมาก มาเปียกพรมพื้นในรถ ฉ่าไปด้วยน้ำ
พรมที่เปียก ไม่ใช่แค่พรมที่เรามาปูทับธรรมดา
แต่เป็นพรมที่เราไม่สามารถแกะออกมาเองได้ ถ้าไม่ใช่ร้านซักพรม หรือศูนย์บริการ

ตอนนั้นมาใช้ทุนที่รพ.สมเด็จพระสังฆราช อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
ท่วมมาปุ๊ป ก็ไม่มีเวลาไปจอดทิ้งไว้หลายวันที่ร้าน เพื่อให้เข้าถอดพรมมาซัก
ใช้วิธี
1.จอดรถ ตากแดด (ตากทุกวันที่มีแดด เปิดประตูรถทั้ง 4 บาน)
2.เอาผ้าขนหนูแห้งมากดซับน้ำออก ซับแล้วบิดๆ ซับใหม่ (น้ำยังคงซึมออกมาอย่างต่อเนื่อง)
3.เอาซิลิกาเจล มาดูดความชื้น (ดูดเท่าไหร่ก็ไม่หมด)
4.ไดร์เป่าผม เป่าเป็นระยะๆ
5. เครื่องเป่าลม เป่าตลอดๆ

ทั้งหมด ไม่ได้ผล พรมยังคงเปียกตลอดเวลา เริ่มส่งกลิ่นเหม็นอับจากราที่คีลคลานเข้ามา

สุดท้าย ผ่านไปสองสามเดือน
ต้องนำรถกลับมาศูนย์สั่งพรมชิ้นนั้นใหม่ รอของอีกเป็นเดือน

หมดเงินไป 2 พันกว่าบาท
เสียความรู้สึก เสียพลังงานไปกับความพยายามอีกมาก


ขอไว้อาลัยให้กับรถจำนวนมาก ในกทม.ที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน
เมื่อเปียก ขอให้ท่านไปพึ่งร้านซักพรมเถอะครับ จะได้จบๆ แต่ต้องเสียเวลา ถอดแกะเบาะนั่งออก แกะคอลโซลกลางออก เพื่อนำพรมออกมาซัก ใช้เวลาหลายวันครับ

สู้ๆ นะครับ คนกรุงเทพ
ป.ล. เวลาขับรถลุยน้ำ
1.ให้ปิดแอร์ เปิดกระจกหน้าต่างนะครับ เพราะว่าพัดลมของแอร์ จะพัดเอาเศษวัสดุ เข้ามาติดในห้องเครื่องรถนะครับ อันตราย และเสี่ยงไฟฟ้าช๊อตด้วยครับ
2.ให้ค่อยๆ ขับผ่านน้ำ ระวังคลื่นน้ำที่ซัดเข้ามาด้วยครับ เพราะนั่นมันหมายถึงระดับน้ำที่สูงขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่