เย่ๆ ปิดเทอมกันแล้ว แม้จะเป็นปิดเทอมสั้นๆ แต่สำหรับใครหลายคนถือว่ามีค่ามาก เพราะเหนื่อยกับการเรียนมาเป็นเทอมๆ แต่อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลยค่ะ ปิดเทอมทั้งทีมัวแต่นอนอยู่บ้านก็ดูจะน่าเบื่อเกินไป พี่มิ้นท์เลยขอรวบรวมกิจกรรมเด็ดๆ มาฝากน้องๆ เพื่อพัฒนาตัวเองในช่วงปิดเทอมนี้
เกริ่นมาแบบนี้ ไม่ต้องทำหน้าเบื่อเซ็งโลกค่ะ เพราะไม่ได้พาไปนั่งสมาธิ อ่านหนังสือแน่นอน ลองไปดูกันว่า 8 กิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมที่น้องๆ ชอบบ้างหรือเปล่า อิอิ
1. ทำอาหาร ฝึกปลายจวัก + ภาษา
หลายครั้งที่เราไปตามร้านอาหารหรือร้านขนม จะมีความคิดแว๊บเข้ามาว่า "ถ้าเราทำขนมหรืออาหารแบบนี้เป็นบ้างก็ดีสิ" เพราะจะได้กินของอร่อยๆ ในราคาย่อมเยา แถมยังเป็นฝีมือตัวเองด้วย น้องๆ ที่ไม่เคยเข้าครัวเลย พี่มิ้นท์แนะนำเลยค่ะ การทำอาหารเป็นเรื่องสนุกจริงๆ เพราะเราจะได้หยิบจับส่วนผสม มีการตักตวงส่วนผสมอย่างสนุกสนาน และทั้งหญิงทั้งชายก็สามารถทำได้
ถ้าเห็นว่ายังได้สาระไม่พอ ให้ใส่เรื่องภาษาไปในการทำอาหารด้วย เช่น พยายามนึกชื่อวัตถุดิบเป็นภาษาอังกฤษ ดูคลิปการทำอาหารเป็นภาษาอังกฤษ หรือง่ายๆ ก็ทำอาหารเมนูต่างชาติไปเลย รับรองว่าได้ฝึกภาษา ได้รู้วัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ด้วย
2. โกอินเตอร์ด้วยหนัง Soundtrack
กิจกรรมที่ 2 ที่พี่มิ้นท์แนะนำให้ทำช่วงปิดเทอม คือ ดูภาพยนตร์ soundtrack ค่ะ ไม่มีอะไรจะฝึกภาษาได้ดีกว่าการฟังเสียงของเจ้าของภาษาโดยตรงแล้วล่ะค่ะ ฉะนั้นปิดเทอมนี้ ลองเช่าหรือซื้อแผ่นหนังที่ชอบมาดู หรือจะไปดูในโรงแบบซาวน์แทรกก็ได้ แม้ผลออกมาจะยังไม่เก่งภาษาอังกฤษทันทีทันใด แต่เชื่อว่าจะปลูกฝังนิสัยการเรียนรู้แบบนี้ให้ติดเป็นนิสัย ถ้าทำติดต่อกันเรื่อยๆ ผลก็จะตามมาเองค่ะ อ้อ! จะบอกให้ว่าดูหนังแบบซาวน์แทรกสนุกกว่าพากษ์ไทยเยอะเลย
3. ฝึกคิดเลขเร็ว เกม 24
เวลานั่งรถออกนอกบ้านก็อย่าปล่อยให้เวลาว่างผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ พี่มิ้นท์ชวนน้องๆ เล่นเกมแข่งกับตัวเอง โดยการเล่นเกม 24 กับทะเบียนรถคันอื่นๆ บนท้องถนน
วิธีการเล่นก็คือ เห็นป้ายทะเบียนรถแล้ว พยายามเอาเลข 4 หลักบนทะเบียนมา บวก ลบ คูณ หาร ยังไงก็ได้ให้ได้ 24 การันตีว่าสนุกมากๆ ช่วยฝึกให้น้องๆ คิดเลขเร็ว กระตุ้นให้สมองทำงาน และยังช่วยให้การเดินทางของน้องๆ ไม่น่าเบื่อด้วย
4. จัดสวนถาด ฝึกสมาธิ ฝึกจินตนาการ
สวนถาด คือ การปลูกต้นไม้ลงในภาชนะเล็กๆ ซึ่งไม่เพียงแต่เอาต้นไม้มาปลูกเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่เรายังต้องออกแบบว่า ตั้งแต่การเลือกต้นไม้เลยล่ะ ว่าจะเอาต้นอะไรมาปลูก ต้นนี้จะเข้ากับต้นนั้นหรือเปล่า แล้วนอกจากต้นไม้จะเอาอะไรมาประดับให้สวนถาดเราสวยขึ้น อาจจะดูเป็นเรื่องง่าย แต่พอลงมือทำจริงๆ ยากเอาการเลยค่ะ น้องๆ จะได้ฝึกจินตนาการขั้นเทพ ลองผิดลองถูกจนกว่ามันจะสวย แต่พอทำเสร็จแล้ว จะภูมิใจกับสวนถาดของเรามากๆ
น้องๆ ที่สนใจ พี่มิ้นท์แนะนำให้เริ่มด้วยการไปเดินดูสถานที่ที่ขายต้นไม้เยอะๆ เดินดูสัก 1-2 รอบเพื่อดูว่ามีต้นไม้ขนาดเล็กชนิดไหนที่สวยและน่าปลูกบ้าง จากนั้นก็หาซื้อกระถางเล็กๆ แล้วเดินเลือกซื้อต้นไม้เลยค่ะ ขั้นตอนต่อมาก็หาซื้อของประดับตกแต่ง และสุดท้ายก็ลงมือจัดสวนกันเลย ขอบอกว่ากิจกรรมนี้ได้ฝึกสมาธิสุดๆ รวมถึงได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย ผลงานที่ออกมาก็ไม่ซ้ำใคร และการจัดการสวนถาดนี่ไม่ใช่จัดเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวนะ ต้นไม้ในสวนของเรามันสามารถเติบโตขึ้นได้จริงๆ ถ้าเราดูแลมันเป็นอย่างดีค่ะ
5. ร้องคาราโอเกะ
เดี๋ยวนี้เวทีประกวดความสามารถด้านการร้องเพลงมีเยอะมากก มาทุกเดือน มีทุกช่อง ดังนั้นใครที่มีความฝันอยากเป็นนักร้อง การฝึกร้องเพลงในคาราโอเกะเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ นอกจากนี้การร้องคาราโอเกะยังช่วยฝึกพัฒนาในด้านบุคลิกภาพ ให้กล้าแสดงออกอีกด้วย
6. เดินงานนิทรรศการ
น้องๆ คงเคยได้ยินแล้วว่า ความรู้ไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียน ยิ่งเดี๋ยวนี้หน่วยงานกลางทั้งรัฐและเอกชน ขยันจัดกิจกรรมนอกสถานที่ บอกเลยว่ามีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นงานนิทรรศการ งานการแสดง งานศิลปะ กิจกรรมค่าย และอีกสารพัดกิจกรรมที่เชิญชวนให้ทุกคนออกจากบ้านมาร่วมกิจกรรมกับภายนอก ได้เจอเพื่อน ได้เจอบรรยากาศจริงๆ ที่จะช่วยให้เก็บเกี่ยวความรู้ได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคลายเครียดด้วยค่ะ เพราะเรามาดูงานพวกนี้ก็เหมือนได้มาเที่ยวเนอะ ว่างๆ ลองออกมากันดูค่ะ ได้สาระความรู้ ความบันเทิงแบบเต็มอิ่ม
7. ติดตามข่าวสารการประกวด และส่งประกวดโลด
อีกกิจกรรมที่ไม่อยากให้น้องๆ พลาด นั่นก็คือ พวกข่าวสารการประกวดต่างๆ เดี๋ยวนี้มีเยอะกว่าแต่ก่อนมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการประกวดเขียนเรียงความ ประกวดวาดภาพ แต่งคำขวัญ ประกวดแสดงความสามารถ และอีกสารพัดประกวด แนะนำให้น้องๆ ลองส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรมพวกนี้ดู แม้เราจะไม่ได้รางวัลก็ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ฝึกทักษะความสามารถเราให้ออกสู่สายตาคนภายนอกบ้าง แต่ถ้าผลงานเจ๋งจริงจนเข้าตากรรมการแล้วล่ะก็ อาจได้รับรางวัลก้อนโตเป็นเงินสดหลายหมื่นบาท หรือได้ไปท่องเที่ยวต่างประเทศนะ (แล้วแต่รางวัลแต่ละกิจกรรม)
ในเว็บเด็กดีเองก็มีหมวดข่าวกิจกรรมอยู่ด้วยนะคะ ว่างๆ ลองเข้าไปดูได้เลย มีทั้งประกวด งานค่าย งานติว ชอบอันไหนกดอ่านรายละเอียดเลยค่ะ
8. เรียนออนไลน์
สุดท้ายแล้ว สำหรับคนที่ไม่ชอบกิจกรรมอะไรสักอย่าง แต่ยังอยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อยู่ ขอแนะนำการเรียนออนไลน์ตาม Youtube หรือเว็บไซต์เรียนออนไลน์ที่เดี๋ยวนี้มีเยอะมากๆ แถมเรียนฟรีอีกด้วยนะ บอกเลยว่า อิจฉาน้องๆ สมัยนี้มากๆ ค่ะ อยากเรียนอะไรก็หาได้ดูได้ทันที
# 8 อย่างที่ว่านี้คัดมาแล้วเพื่อน้องๆ เลยนะคะ เพราะเห็นว่าปิดเทอมนี้เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ก็เลยหาเฉพาะกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้เวลามาก แต่ถ้ายังไม่ถูกใจน้องๆ ก็อาจจะลองดัดแปลงดูก็ได้ค่ะ จะไปเล่นกีฬา เล่นดนตรี หรือ นั่งดูรายการภาษาอังกฤษอยู่บ้านก็ได้ เอาเป็นว่าชอบอะไรก็ทำในสิ่งนั้น แล้วก็เผื่อวันว่างพักผ่อนก่อนปิดเทอมด้วยนะ จะได้ไม่เบื่อเกินไป
ปล. ใครมีกิจกรรมอะไรแนะนำเพื่อนๆ มาช่วยกันคอมเม้นได้เลยจ้า
Cr. พี่มิ้น @Dek-D
ปิดเทอม 1 เดือน อย่าปล่อยให้เวลาว่างไร้ประโยชน์ !!
เกริ่นมาแบบนี้ ไม่ต้องทำหน้าเบื่อเซ็งโลกค่ะ เพราะไม่ได้พาไปนั่งสมาธิ อ่านหนังสือแน่นอน ลองไปดูกันว่า 8 กิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมที่น้องๆ ชอบบ้างหรือเปล่า อิอิ
1. ทำอาหาร ฝึกปลายจวัก + ภาษา
หลายครั้งที่เราไปตามร้านอาหารหรือร้านขนม จะมีความคิดแว๊บเข้ามาว่า "ถ้าเราทำขนมหรืออาหารแบบนี้เป็นบ้างก็ดีสิ" เพราะจะได้กินของอร่อยๆ ในราคาย่อมเยา แถมยังเป็นฝีมือตัวเองด้วย น้องๆ ที่ไม่เคยเข้าครัวเลย พี่มิ้นท์แนะนำเลยค่ะ การทำอาหารเป็นเรื่องสนุกจริงๆ เพราะเราจะได้หยิบจับส่วนผสม มีการตักตวงส่วนผสมอย่างสนุกสนาน และทั้งหญิงทั้งชายก็สามารถทำได้
ถ้าเห็นว่ายังได้สาระไม่พอ ให้ใส่เรื่องภาษาไปในการทำอาหารด้วย เช่น พยายามนึกชื่อวัตถุดิบเป็นภาษาอังกฤษ ดูคลิปการทำอาหารเป็นภาษาอังกฤษ หรือง่ายๆ ก็ทำอาหารเมนูต่างชาติไปเลย รับรองว่าได้ฝึกภาษา ได้รู้วัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ด้วย
2. โกอินเตอร์ด้วยหนัง Soundtrack
กิจกรรมที่ 2 ที่พี่มิ้นท์แนะนำให้ทำช่วงปิดเทอม คือ ดูภาพยนตร์ soundtrack ค่ะ ไม่มีอะไรจะฝึกภาษาได้ดีกว่าการฟังเสียงของเจ้าของภาษาโดยตรงแล้วล่ะค่ะ ฉะนั้นปิดเทอมนี้ ลองเช่าหรือซื้อแผ่นหนังที่ชอบมาดู หรือจะไปดูในโรงแบบซาวน์แทรกก็ได้ แม้ผลออกมาจะยังไม่เก่งภาษาอังกฤษทันทีทันใด แต่เชื่อว่าจะปลูกฝังนิสัยการเรียนรู้แบบนี้ให้ติดเป็นนิสัย ถ้าทำติดต่อกันเรื่อยๆ ผลก็จะตามมาเองค่ะ อ้อ! จะบอกให้ว่าดูหนังแบบซาวน์แทรกสนุกกว่าพากษ์ไทยเยอะเลย
3. ฝึกคิดเลขเร็ว เกม 24
เวลานั่งรถออกนอกบ้านก็อย่าปล่อยให้เวลาว่างผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ พี่มิ้นท์ชวนน้องๆ เล่นเกมแข่งกับตัวเอง โดยการเล่นเกม 24 กับทะเบียนรถคันอื่นๆ บนท้องถนน
วิธีการเล่นก็คือ เห็นป้ายทะเบียนรถแล้ว พยายามเอาเลข 4 หลักบนทะเบียนมา บวก ลบ คูณ หาร ยังไงก็ได้ให้ได้ 24 การันตีว่าสนุกมากๆ ช่วยฝึกให้น้องๆ คิดเลขเร็ว กระตุ้นให้สมองทำงาน และยังช่วยให้การเดินทางของน้องๆ ไม่น่าเบื่อด้วย
4. จัดสวนถาด ฝึกสมาธิ ฝึกจินตนาการ
สวนถาด คือ การปลูกต้นไม้ลงในภาชนะเล็กๆ ซึ่งไม่เพียงแต่เอาต้นไม้มาปลูกเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่เรายังต้องออกแบบว่า ตั้งแต่การเลือกต้นไม้เลยล่ะ ว่าจะเอาต้นอะไรมาปลูก ต้นนี้จะเข้ากับต้นนั้นหรือเปล่า แล้วนอกจากต้นไม้จะเอาอะไรมาประดับให้สวนถาดเราสวยขึ้น อาจจะดูเป็นเรื่องง่าย แต่พอลงมือทำจริงๆ ยากเอาการเลยค่ะ น้องๆ จะได้ฝึกจินตนาการขั้นเทพ ลองผิดลองถูกจนกว่ามันจะสวย แต่พอทำเสร็จแล้ว จะภูมิใจกับสวนถาดของเรามากๆ
น้องๆ ที่สนใจ พี่มิ้นท์แนะนำให้เริ่มด้วยการไปเดินดูสถานที่ที่ขายต้นไม้เยอะๆ เดินดูสัก 1-2 รอบเพื่อดูว่ามีต้นไม้ขนาดเล็กชนิดไหนที่สวยและน่าปลูกบ้าง จากนั้นก็หาซื้อกระถางเล็กๆ แล้วเดินเลือกซื้อต้นไม้เลยค่ะ ขั้นตอนต่อมาก็หาซื้อของประดับตกแต่ง และสุดท้ายก็ลงมือจัดสวนกันเลย ขอบอกว่ากิจกรรมนี้ได้ฝึกสมาธิสุดๆ รวมถึงได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย ผลงานที่ออกมาก็ไม่ซ้ำใคร และการจัดการสวนถาดนี่ไม่ใช่จัดเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวนะ ต้นไม้ในสวนของเรามันสามารถเติบโตขึ้นได้จริงๆ ถ้าเราดูแลมันเป็นอย่างดีค่ะ
5. ร้องคาราโอเกะ
เดี๋ยวนี้เวทีประกวดความสามารถด้านการร้องเพลงมีเยอะมากก มาทุกเดือน มีทุกช่อง ดังนั้นใครที่มีความฝันอยากเป็นนักร้อง การฝึกร้องเพลงในคาราโอเกะเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ นอกจากนี้การร้องคาราโอเกะยังช่วยฝึกพัฒนาในด้านบุคลิกภาพ ให้กล้าแสดงออกอีกด้วย
6. เดินงานนิทรรศการ
น้องๆ คงเคยได้ยินแล้วว่า ความรู้ไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียน ยิ่งเดี๋ยวนี้หน่วยงานกลางทั้งรัฐและเอกชน ขยันจัดกิจกรรมนอกสถานที่ บอกเลยว่ามีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นงานนิทรรศการ งานการแสดง งานศิลปะ กิจกรรมค่าย และอีกสารพัดกิจกรรมที่เชิญชวนให้ทุกคนออกจากบ้านมาร่วมกิจกรรมกับภายนอก ได้เจอเพื่อน ได้เจอบรรยากาศจริงๆ ที่จะช่วยให้เก็บเกี่ยวความรู้ได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคลายเครียดด้วยค่ะ เพราะเรามาดูงานพวกนี้ก็เหมือนได้มาเที่ยวเนอะ ว่างๆ ลองออกมากันดูค่ะ ได้สาระความรู้ ความบันเทิงแบบเต็มอิ่ม
7. ติดตามข่าวสารการประกวด และส่งประกวดโลด
อีกกิจกรรมที่ไม่อยากให้น้องๆ พลาด นั่นก็คือ พวกข่าวสารการประกวดต่างๆ เดี๋ยวนี้มีเยอะกว่าแต่ก่อนมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการประกวดเขียนเรียงความ ประกวดวาดภาพ แต่งคำขวัญ ประกวดแสดงความสามารถ และอีกสารพัดประกวด แนะนำให้น้องๆ ลองส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรมพวกนี้ดู แม้เราจะไม่ได้รางวัลก็ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ฝึกทักษะความสามารถเราให้ออกสู่สายตาคนภายนอกบ้าง แต่ถ้าผลงานเจ๋งจริงจนเข้าตากรรมการแล้วล่ะก็ อาจได้รับรางวัลก้อนโตเป็นเงินสดหลายหมื่นบาท หรือได้ไปท่องเที่ยวต่างประเทศนะ (แล้วแต่รางวัลแต่ละกิจกรรม)
ในเว็บเด็กดีเองก็มีหมวดข่าวกิจกรรมอยู่ด้วยนะคะ ว่างๆ ลองเข้าไปดูได้เลย มีทั้งประกวด งานค่าย งานติว ชอบอันไหนกดอ่านรายละเอียดเลยค่ะ
8. เรียนออนไลน์
สุดท้ายแล้ว สำหรับคนที่ไม่ชอบกิจกรรมอะไรสักอย่าง แต่ยังอยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อยู่ ขอแนะนำการเรียนออนไลน์ตาม Youtube หรือเว็บไซต์เรียนออนไลน์ที่เดี๋ยวนี้มีเยอะมากๆ แถมเรียนฟรีอีกด้วยนะ บอกเลยว่า อิจฉาน้องๆ สมัยนี้มากๆ ค่ะ อยากเรียนอะไรก็หาได้ดูได้ทันที
# 8 อย่างที่ว่านี้คัดมาแล้วเพื่อน้องๆ เลยนะคะ เพราะเห็นว่าปิดเทอมนี้เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ก็เลยหาเฉพาะกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้เวลามาก แต่ถ้ายังไม่ถูกใจน้องๆ ก็อาจจะลองดัดแปลงดูก็ได้ค่ะ จะไปเล่นกีฬา เล่นดนตรี หรือ นั่งดูรายการภาษาอังกฤษอยู่บ้านก็ได้ เอาเป็นว่าชอบอะไรก็ทำในสิ่งนั้น แล้วก็เผื่อวันว่างพักผ่อนก่อนปิดเทอมด้วยนะ จะได้ไม่เบื่อเกินไป
ปล. ใครมีกิจกรรมอะไรแนะนำเพื่อนๆ มาช่วยกันคอมเม้นได้เลยจ้า
Cr. พี่มิ้น @Dek-D