ทำไมสังคมชอบมองว่าการศึกษาไทยสอนแบบท่องจำ ไม่สอนให้คิดและใช้เหตุผล

ไม่ใช่เพิ่งสังเกต แต่ผมสังเกตมานานมาแล้ว ทั้งสื่อ ทั้งโซเชียล เว็บบอร์ดต่างๆ ชอบแสดงความเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าการศึกษาไทยสอนให้เด็กท่องจำแบบโง่ๆ ไม่ได้สอนให้ใช่ความคิด ใช้เหตุใช้ผล ตัวผมเข้า ป.1 ปีการศึกษา 2539 จบ ม.6 ปีการศึกษา 2550 ถือว่ายังไม่ห่างจากรุ่นปัจจุบันมาก คิดว่าการเรียนการสอนคงต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ตลอด 12 ปีที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเรียนแบบเน้นท่องจำตามที่สื่อประโคมเลย โดยเฉพาะกลุ่มวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ทุกๆสูตร ทุกๆทฤษฎีจะต้องมีคำอธิบาย มีการพิสูจน์ มีเหตุมีผล แม้แต่วิชาชีวะที่ต้องจำเยอะ แต่ก็จำอยู่บนพื้นฐานของหลักการและเหตุผล ไม่เคยท่องแบบตะพึดตะพือ

จาก ป.1 ถึง ม.6 ผมผ่านมาสองโรงเรียน ทั้งสองเป็นโรงเรียนรัฐบาลธรรมดาๆ ประถมค่าเทอมไม่กีพัน ม.ปลายค่าเทอมถึงพันด้วยซ้ำ ทุกคนที่สอบได้ล้วนมีสิทธิ์เรียน ไม้ใช่โรงเรียนอภิสิทธิ์อะไร หนังสือที่ใช้ก็หนังสือของกระทรวง (มีแค่บางวิชาที่โรงเรียนทำของตัวเอง) โรงเรียนไหนๆก็ใช้กัน ถ้าจะโทษว่าครูชอบสอนให้ท่อง แล้วทำไมไม่อ่านหนังสือเอง ผมก็ใช้เล่มเดียวกันนั่นแหละ ไม่เห็นจะมีการ ท่องจำแบบโง่ๆ ในตำราวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของกระทรวง (สมัยผม) เลย

ข้อสอบ ONET ก็อีกอย่างที่สื่อชอบประโคมว่าห่วย ไม่ได้มาตรฐาน วัดเด็กไม่ได้ ผมสอบONET ปี 2551 ข้อสอบทุกข้อก็มาจากตำรามาตรฐานของกระทรวง วิชาอย่างคณิตศาสตร์ ถ้าขยันหมั่นเพียรผมเชื่อว่าต่ำๆก็ต้องได้เกิน 50 เพราะเนื้อหาทุกอย่างอยู่ในตำรามาตรฐาน (เลขONET มีคนได้100เต็มทุกปี ปีละหลายคนด้วย) เด็กทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมในการอ่าน การที่ mean ต่ำเตี้ยติดดินขนาดนั้น เพราะการศึกษาห่วย หรือ เด็กไม่ใสใจ กันแน่

กระทู้นี้อยากจะชวนน้องๆแสดงความเห็น ว่าการศึกษามันแย่จริงๆอยากที่สื่อประโคมหรือสังคมชี้นำหรือเปล่า ตัวผมเองจบ ม.6 มา 7 ปี เวลาเพียงเท่านี้พลิกโฉมการศึกษาจาก (ที่ผมคิดว่า) ดี เป็นห่วยแตกได้ขนาดนี้เลยหรอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่