ถ้าหาก ธอส. ยินยอมแล้ว ธอส. จะเป็นผู้ถือโฉนดที่ดินพร้อมเอกสารอื่นที่เกึ่ยว
ข้อง ไปจดทะเบียนให้ที่สำนักงานที่ดิน  ซึ่งอาจจะออกมา ๒ ทาง คือ
๑. ธอส. ยินยอมเป็นหนังสือให้จดทะเบียนขายที่ดินเฉพาะส่วน (ระหว่างจำนอง)
๒. ธอส. จะให้ทำการผู้จำนองทั้งสองไถ่ถอนจำนอง  แล้ว น้องสาวจดทะเบียนขาย
ที่ดินเฉพาะส่วน  สุดท้าย จขกท. จดทะเบียนจำนองที่ดินต่อ ธอส. เหมือนเดิม

แต่เนื่องจากมีการแก้ไขเพิ่มเติม ปพพ. เรื่องการค้ำประกัน และการจำนองใหม่ ซึ่ง
มีผลใช้บังคับ ๑๑ กพ.๒๕๕๘ ที่ผ่านมา หากต้องการจะทำเรื่องดังกล่าว ธอส.จะ
ต้องใช้ วิธีที่ ๒. เพื่อไม่ให้ข้อสัญญาต่าง ๆ ในสัญญาจำนองขัดกับกฎหมายที่ได้
แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นใหม่ด้วย  สำหรับค่าใข้จ่ายที่ต้องจ่าย ณ สำนักงานที่ดิน จะมี
ดังนี้

๑. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนไถ่ถอน แปลงละ ๕๐ บาท

๒. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนขายที่ดินเฉพาะส่วน จะมีค่าใช้จ่ายตามนี้
      ๒.๑ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนขาย ร้อยละ ๒ ของราคาประเมินทุนทรัพย์ (คิดตามส่วนกรรมสิทธิ์ของน้องที่จะโอน คือ กึ่งหนึ่ง)
      ๒.๒ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย คิดจากราคาประเมินทุนทรัพย ตามหลักเกณฑ์
และอัตราที่กรมสรรพากรกำหนด์
       ๒.๓  อากร ร้อยละ ๐.๕ จากราคาประเมินทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์
ที่ผู้ขอแสดง แล้ว แต่ว่าราคาไหนสูงกว่า ก็ให้คิดจากราคานั้น (คิดตามส่วนกรรม
สิทธิ์ของน้องที่จะโอน คือ กึ่งหนึ่ง)

- จขกท. ให้ข้อมูลมาว่า "จขก และน้องสาวได้กู้ร่วมซื้อบ้านมือสอง เมื่อปี 2550"
เมื่อได้ขายอสังหาริมทรัพย์เมื่อพ้นระยะเวลา ๕ ปี นับแต่วันได้มาแล้ว จะได้รับการ
ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

- ราคาประเมินทุนทรัพย์ คือ ราคาประเมินที่ดิน + ราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง
(ถ้ามี) หลังหักค่าเสื่อมแล้ว

- ราคาประเมินที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และบัญชีค่าเสื่อมโรงเรือน ค้นหาได้จากที่นี่
http://property.treasury.go.th/pvmwebsite/ หากไม่พบหรือไม่ครอบคลุม
พื้นที่ของ จขกท. ให้โทรศัพท์สอบถามไปยังสำนักงานที่ดินเขตพื้นที่รับผิดชอบ

๓. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนจำนอง ร้อยละ ๑ ของจำนวนเงินที่จำนอง (ไม่ต่ำกว่า
หรือเท่ากับวงเงินกู้)