สีแดงเป็นสีที่ทรงพลัง

คาราเกอร์ ผู้ซึ่งเป็นคอมเมนเตเตอร์อยู่ที่ช่อง Sky Sport ได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่ สตีวี่เพื่อนรัก เจอใบแดงในเกมแดงเดือดนัดสุดท้ายของเขาเอง และ หลังจากลงไปเล่นไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำว่า

"สตีวี่เป็นนักเตะที่เล่นฟุตบอลด้วยหัวใจและอารมณ์ความรู้สึกเสมอ 4 ใบแดงในการเล่นฟุตบอลพรีเมียร์ชิพของเขา เกิดขึ้นตอนพบแมนฯยูและเอฟเวอร์ตันเท่านั้น"

อันที่จริงความเชื่อมโยงที่ คาร่าพูดถึงก็ฟังดูลึกซึ้งดีสำหรับความเป็นเด็กท้องถิ่นที่เติบโตมาในเมืองลิเวอร์พูล เกลียดแมนฯยูฯเข้าใส้ เกลียดเอฟเวอร์ตันยิ่งกว่าอะไร ในทุกเกมดาร์บี้ และเกมแดงเดือด จึงมักเห็นความมุ่งมั่นมากกว่าเกมทั่วไปอยู่เสมอ

แต่เราไม่สามารถใช้เหตุผลนั้นอ้างกับใบแดงในนัดนี้ได้
มันเกิดขึ้นแบบ เร็วเกินไป และ ง่ายเกินไป




หลายคนมองว่า เจอร์ราร์ดไม่ควรเสียฟาล์วในลักษณะนี้เลยด้วยซ้ำ เขาเล่นบอลมานานเกินพอที่จะรู้ว่า นั่นไม่ใช่จังหวะอันตรายที่จำเป็นต้องเข้าบอลหนักหรือถึงขั้นต้องย่ำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ แต่มันก็เกิดขึ้น ในนัดที่เกือบจะเป็นนัดที่กดดันที่สุดในชีวิตของเขากับลิเวอร์พูล

เจอร์ราร์ดให้สัมภาษณ์ในท้ายเกม ยอมรับคำตัดสินที่เขาได้ใบแดง และกล่าวขอโทษทุกๆคน รวมทั้งยอมรับความผิดทั้งหมด ความพ่ายแพ้ในนัดนี้ เป็นความผิดของเขาเพียงคนเดียว นั่นคือสิ่งที่คนเป็นกัปตันพอจะทำได้ และเจอร์ราร์ดก็ทำแล้ว

เขาบอกว่า ไม่รู้ว่าทำไมมึนถึงเกิดขึ้นได้ และเขาไม่ได้ตั้งใจ เจอร์ราร์ดบอกว่ามันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อเนื่องขณะที่เข้ากระแทกกัน

อันที่จริง ใบแดงหรือฟาล์วหนนี้ก็จัดเป็นการทำฟาล์วที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ มันไม่เขย่าโลกแบบตอนที่ซีดานโขกมาเตรัซซี่ เพียงแต่ ว่านี่เป็นใบแดงที่สำคัญมากๆในเชิงนัยยะของเหตุการณ์



ก่อนลงสนาม ไม่มีใครคนไหนแน่นอนที่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น
ตัวเราเองก็ไม่มีภาพนี้ในหัวมาก่อนเลย ภาพที่กัปตันต้องมาถอดปลอกแขนกัปตันทีม
ในเกมแดงเดือดนัดสุดท้ายแบบนี้
ใบแดง ใน 40 วินาที นัดสุดท้ายในเกมที่ยิ่งใหญ่ประจำของสโมสรและเมือง
จากนักเตะที่เป็นทั้งตำนาน ทั้งเด็กท้องถิ่น และเป็นสัญลักษณ์ของลิเวอร์พูลมาโดยตลอด

Captain Fantastic ผู้เป็นที่รักของแฟนบอล



เกมนี้เป็นเกมที่เจอร์ราร์ดเจอทั้งแฟนบอลทีมตรงข้ามและทีมตัวเอง วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ด้วยนัยยะความเป็นแดงเดือด ความเป็นกัปตัน และความเป็นนัดสุดท้ายของตัวเขาเองนั่นแหละ
ใบแดงใบนี้ ไม่ได้มีความหมายแค่ ทำให้ทีมเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน
หรือ ทำให้นัดต่อไปถูกห้ามลงสนาม

ความหมายของมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก
มากจนเราเสียใจ และปวดใจ
มันน่าเสียดายและบังเอิญเกินไป

ต่อให้ไม่มีใบแดงใบนี้
แฟนๆก็รู้ดีว่า เวลาที่ลิเวอร์พูลของกัปตันเหลือน้อยเต็มที่



ใบแดงของแอ็ตกินสันใบนี้
คือ คำบอกลาสุดท้ายในแดงเดือด
หมดเวลาของ สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ สงครามสีแดงแล้ว
เวลาในสนามสำหรับเกมแดงเดือดหนสุดท้ายของเขาคือ 40 กว่าวินาทีเท่านั้น

ในสถานการณ์ปกติมันก็เศร้ามากพออยู่แล้ว
แต่พอมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า แม้ทุกคนรู้ดีว่ามันมาจากการกระทำของตัวกัปตันเอง
แต่เราก็อดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกว่า มันเศร้า และ มันแย่มากจริงๆสำหรับแฟนลิเวอร์พูล

ไม่ว่าใครก็หวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด ผลที่ดีที่สุดให้กับทีมตัวเอง
แฟนๆหลายคน ไม่หวังให้ทีมชนะด้วยซ้ำ เมื่อได้เห็นรูปเกมครึ่งแรก แค่ขออย่าให้มีอะไรผิดพลาด
อย่างการลื่น การเงิบ หรือ การสกัดบอลพลาด (เน้นย้ำที่กัปตันโดยเฉพาะ)
สุดท้ายแล้ว ถ้าผลออกมาเราแพ้ยูไนเต็ดในบ้านจริงๆ ก็ขอสักโมเมนท์ได้เห็นกัปตันเดินออกนอกสนาม
เดินออกจากสนามหญ้าของแอนฟิลด์ พร้อมกับเสียงปรบมือของแฟนๆหลังจบเกม

ที่จริงมันไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดหวังอะไรเลย
แต่เราก็ไม่มีโอกาสได้เห็นภาพนั้น

ซึ่งมันน่าเสียดายจริงๆ..

แต่ก็นั่นแหละ มันคือฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
และคุณคาดเดาอะไรจากมันไม่ได้อยู่แล้ว