สวัสดีจ้าา เราเป็นเจ้าของกระทู้นี่เองพึ่งมาเป็นสมาชิกใหม่เพื่ออยากจะถามว่า การมีทักษะที่เยอะๆแต่ไม่ค่อยเก่งในด้านนั้นๆสักเท่าไหร่เราจะสามารถไปประกอบร่วมกับอาชีพที่เราฝันไว้ได้หรือป่าว เรื่องอาจจะยาวไปสักหน่อยแต่ก้ออยากขอทุกท่านอ่านนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าตอนเด็กทั้งคุณครูทั้งเพื่อนก็จะถามกันเยอะมากว่าอนาคตอยากเป็นอะไร ขออภัยลืมแนะนำตัวค่ะ ชื่อ ขวัญ นะค้า อายุ 14 เองตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมของม.2 และก็จะขึ้นม.3 แล้วซึ่งก็จะควรเลือกเรียนแผนในม.ปลายได้แล้วเนอะ ซึ่งตอนนี้เราเรียนแผน mini english program ค่ะ ตอนแรกตอนสอบเข้าม.1 เราอยากอยู่วิทย์-คณิตมาก แต่หัวไม่ถึงได้แค่ ติดสำรอง แต่ติดตัวจริง mep ซะงั้น เราก็เลยเรียนค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับโปรแกรมนี้เนี่ย หลักหมื่นต่อเทอมค่ะ แต่เพราะเป็น mep ทำให้เรียนแต่วิชาหลักเป็นภาษาอังกิดเท่านั้น (ก้อ mini จริงๆแหละค่ะ) และตอนนี้เราก็ถามรุ่นพี่ที่เคยอยู่โปรแกรมเดียวกันว่า เกรดที่ต้องใช้ในการสอบเข้า ม.4 เนี่ย ซึ่งเราคิดว่าเราจะต่อโรงเรียนเดิมนี่แหละไม่อยากไปไหนไกลเป็นห่วงแม่ เพราะพี่ชายก็จบม.6 ต้องไปต่อกรุงเทพแล้วค่ะ ส่วนป๊าก็ชอบเฮฮาสังสรรค์กะเพื่อนเลยไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนเราพึ่งมารุ้ที่หลังว่าการที่เราเรียนโปรแกรมเนี้ยมันจะกดเกรดของเราเองจากการที่มีปัญหากะครูไทยมั่งเพราะเค้าชอบว่าเราติดนิสัยชาวต่างชาติมา และวิชาหลักก็เปนภาษาอังกิดเลยไม่ค่อยจะรุ้เรื่องเหมือนเรียนห้องธรรมดานัก ตอนแรกเราก็ดีใจว่าได้ข่าวมาว่าจะดูเกรดจากห้องพิเศษไปก่อน แต่มารู้อีกทีเกรดนี่ก็ต้องไปเทียบกะห้องธรรมดาแล้วค่ะ ซึ่งเกรดในห้องของเราจะน้อยมากคนที่มากที่สุดในห้องจะอยู่ที่ประมาณ 3.8 (ไม่ใช่เกรดเฉลี่ยนะคะเพราะยังไม่เข้าม.3เลย) ส่วนพวกที่เรียนไม่ค่อยเก่งก็จะอยู่ต่ำกว่า 3 ไป เกรด 2กว่ากันตั้งครึ่งห้อง ส่วนเราตอนม.1 เทอม1 = 3.28 เทอม2= 3.40 ม.2 เทอม1 =3.24 คะ แต่ตอนนี้เกรดเทอม2 ยังไม่ออก เราได้ข่าวมาจากครูคณิตบ้าง รุ่นพี่บ้าง พี่รหัสป้ารหัสบ้าง ว่าเกรดที่เค้ารับและน่าจะมีสิทธิได้คือ 3ขึ้นไป แต่เกรดวิชาหลักจะรับเกรดเฉลี่ย ประมาณไม่ต่ำกว่า 2.5 มั้งคะไม่แน่ใจ ซึ่ง จะมีโควต้าตอนม.3 ที่จะให้เลือกแผนเรียนเราว่าจะลงแผนวิทย์-คณิตธรรมดาซึ่งเกรดน่าจะถึง ซึ่งเาค่อนข้างมั่นใจสูงคะเพราะว่าถ้าเราไม่ติดโควต้าจะมีสิทธิสอบซึ่งพี่เรากลัวไม่ติดเลยไปเลือกแผนจีนแต่พอคะแนนออกมากับถึงซะงั้นแต่ไม่ได้เลือกคืออดอะค่ะ ซึ่งเราบอกเลยว่าพี่เราต้องไปอยู่ห้อง8 และเราก็มั่นใจว่าขนาดพี่เรายังสอบติดแล้วทำไมเราจะไม่ติดถ้าสมมุติว่าไม่ได้โควต้า แล้วเราก็จะกังวลมากคะ ว่าจะติดโควต้ารึเปล่า ซึ่งจะมีสอบรอบพิเศษคือห้องวิทย์-คณิตพิเศษ (ห้อง1) ส่วนธรรมดาจะ(ห้อง2-4) ห้องที่ 5 จะเป็นศิลป์คำนวณคะ ซึ่งเราคิดว่าจะเลือกโควต้า วิทย์คณิตกะศิลป์คำนวณ ส่วน วิทย์คณิตพิเศษต้องสอบเอาเท่านั้นค่ะซึ่งจะดูจากเกรดเฉลี่ย คือเมื่อก่อนตอนเด็กเราก็ฝันว่าอยากเป็นหมอ ไม่ใช่ทางสุดๆคะ ทนายความบ้างเพราะอาเป็นแล้วเห็นสภาพทางการณ์เงินดีค่ะ เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนถอดใจและคิดว่าจะไม่เลือกไว้ก่อนดีกว่าเพราะเลือกแล้วไม่ได้เรียนกลัวผิดหวังแต่แม่บอกเราว่าอะไรกันป่านนี้มีฝันได้แล้วมั้ง เราก็บอกค่ะว่า ไม่เอาอะเดี๋ยวอนาคตเลือกไว้แล้วเข้าสายนั้นไม่ได้จะเสียใจ แต่แม่ก็บอกเราคะว่าหัวไม่ดีเหมือนพี่ก็ก้อว่าไปอย่างควรจะเลือกได้แล้ว กรี๊ดแม่หาว่าเราไม่โง่55555 เราก็ดูหนังไปเรื่อยๆคะจนมีไอดอลเป็นนักธุรกิจชื่อดังต่างๆ เช่นพี่ต๊อบเถ้าแก่น้อย พี่ปลื้มVRZO ลุงตันอิชิตัน เราภูมิใจในตัวเค้ามากค่ะ ว่าเค้าลำบากมามากจนเค้ามีวันนี้ได้มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากคะ เราก็เลยเลือกที่จะฝันในอนาคตว่าอยากเป็นนักธุรกิจ แต่พอเราลองหาในgoogle ดูนักธุรกิจมันมีหลายแบบ ทั้งทางการตลาด บัญชี ซึ่งตอนแรกเราอยากเรียนบัญชีคะเพราะรายได้คิดว่าน่าจะมาให้พ่อแม่ได้ค่ะ แต่ในความคิดเราอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากเล่นหุ้น เราก็ไปถามป้าเราป้าเราบอกว่า ถ้าจะมาสายนี้ลองเรียนการตลาดสิ เพราะเดี๋ยวนี้อะไรก็เริ่มจากการค้าขายแล้ว ซึ่งตอนที่ก่อนเราจะเข้า ม.1 เนี่ยเราบอกกับแม่ว่าถ้าเราสอบติดห้องพิเศษเนี่ยเราอยากได้โต๊ะปิงปอง (ตอนนั้นเราเน้นออกกำลังกายด้วยกีฬาชนิดนี้คะซึ่งปัจจุบันก็อ้วนมากอยู่ดี มีน้ำหนักตัวน่าจะเกิน 110 แล้วคะ เราก็กลับมาเครียดเรื่องนี้อีกเพราะตอนเราอยู่ในท้องแม่เป็นหัวใจรั่วทำให้เราสุขภาพไม่แข็งแรงแต่เด็ก และปัจจุบันก็เป็นโรคสะเก็ดเงินอยู่คะ มันน่ากลัวมากเลยนะเพื่อนก็ไม่ค่อยคบเป็นที่รังเกียจของสังคม
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99 ลองไปอ่านอาการของโรคนี้ดูคะแล้วจะเข้าใจเรา) ตอนนี้เราพยายามลดน้ำหนักอยู่คะแต่ก็ทำไม่ได้เพราะถ้าเราคุมอาหารเราก็จำเป็นต้องใช้เงินในการปรุงอาหารเองซึ่งเราเข้าครัวกว่าจะเสร้จก็เป็น ชม. แหละ ซึ่งมันลำบากมากและอยู่ในชนบทบางอย่างก็ไม่มี เราเลิกล้มความตั้งใจ ซึงตอนนี้ยังหาทางออกไม่ได้อยู่ดี ไปไหนก็มีแต่คนด่าอีอ้วน ไม่มีใครเข้าใจความรุ้สึกเราเลยคะว่าเราจะเก็บไปคิดรึเปล่า เป็นอะไรรึเปล่า แต่ชั้งมันเถอะค่ะเราจะพยายามเนอะ พอเราสอบติดเราก็ไม่ได้นะคะเพราะไม่มีพื้นที่และป๊าเราไม่ค่อยโอ (ป๊าเรามีเชื้อจีนคะขี้งกไปหน่อย ต้องหาเหตุผลมาอธิบายให้เข้าใจกว่าจะได้อะไรแต่ละอย่าง) และตอนช่วงม.1 เทอม2 เรามีเพื่อนเป็นเด็กศิลป์คะจะมีกล้องไว้คอยช่วยงานที่ตึกศิลปะตลอด ซึ่งบอกได้เลยคะว่าอาจารย์คนนี้ปั้นเด็กให้ไปไกลมาหลายคนแล้ว ซึ่งเราก็เริ่มสนใจเรื่องกล้องดูคะตอนแรกอยากเรียนนิเทศแต่ก็คิดว่าการมีกล้องเราชอบการถ่ายภาพมากมันเป็นอะไรที่อธิบายไม่ถูก แต่ก็คิดว่าสามารถนำมาเป็นงานอดิเรกได้เพราะเราไม่จริงจังมากแค่อยากช่วยงานอาจารย์อยากเป็นเด็กศิลป์เพราะเมื่อก่อนเราวาดรูปค่อนข้างสวยมีแต่คนชม แต่ตอนนี้ก็เอางานวาดรูปและการเป็นตากล้องมาเป็นงานอดิเรกแต่แค่ไม่มีกล้องเท่านั้นเอง ซึ่งตอนม.4 ถ้าเราสอบติดเราจะขอกล้องคะ ซึ่งการที่เราอยากเป็นเด็กศิลป์นั้นไม่ช่วยให้อาจารย์มาสนใจเราเลยคะ เพราะเพื่อนเราเป็นลูกศิษย์สุดรักไปแล้ว ซึ่งเราก็ไปเรียนพิเศษกะเค้า แล้วเค้าจะดูพื้นฐานเราก่อนว่าได้แค่ไหน จนเราเรียนไปเรื่อยๆ อาจารย์เค้าถามคะว่าพวกรูปทรงก็ดีนะเนี่ยสนใจเรียนออกแบบมั้ย แล้วเค้าก็พูดคะว่าสงสัยเราจะได้เป็นลูกศิษย์เค้าตอนม.ปลายแหงๆ เราก็ใจชื้นเลยคะมุ่งมั่นที่จะช่วยงานศิลป์มาตลอด แต่เหมือนว่าจะแพ้เพื่อนเราอยู่ดี ตอนนั้นเค้าเคยถามเราคะว่าอยากเรียนอะไรเราบอกอยากเรียนการตลาด ซึ่งไม่ค่อยเกี่ยวอะไรกับงานศิลป์เล๊ยย แต่เราชอบเรารักในวามเป็นมันมากคะ จนมาตอนนี้ ปกติเราจะเรียนพิเศษหนักมากไม่ว่าจะเปิดเทอมหรือปิดเทอม ตอนนี้เราเรียนปิดเทอม จ-ศ 2 วิชาค่ะวิทย์กับคณิต ส่วน ส-อาทิด จะเรียนอังกิดค่ะ และตอนเด็กๆจนถึงปัจจุบันเราชอบกีต้าร์มากๆ คนเล่นกีต้าแล้วเท่ เป็นตากล้องเท่ เด็กศิลป์ก็เท่ และสามารถเอามาเป็นงานอดิเรกให้เราได้เป็นความสามารพิเศษของเราได้ ซึ่งตอนนี้เพื่อนก็ชวนไปเรียนกีต้าร์ค่ะ ซึ่งเราสนใจมากเพราะมันเป็นสิ่งที่เราชอบ อีกแล้ว55555 เราก็เลยมาขอแม่คะว่าถ้าเกรดเทอม2 นี้ไม่ต่ำกว่า 3.2-3.3 เราจะขอ F310 คะ ซึ่งแม่เราก็ว่าเราว่าจะเรียนอะไรก็เอาให้แน่ ตอนนั้นก็ปิงปอง วาดภาพ อยากมีกล้องแล้วก็อยากเล่นกีต้าร์อีก เค้าบอกเราว่า กูเห็นเรียนก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว จะมีเวลาว่างที่ไหนไปเล่น ซึ่งเราก็ยังเถียงกันอยู่เลยว่ามันสามารถเอาไปเป็นงานอดิเรกได้นะ เค้าก็บอกเราว่าถ้าจะเล่นเป็นจริงเป็นจังกูซื้อให้ได้ ไปแข่งไรเงี้ย ซึ่งเราก็แบบอยากหาความเท่ ความสามารถให้เราเพิ่มอยู่แล้ว เพราะเราไม่ค่อยมีใครมาสนใจ เรามันก็แค่คนธรรมดาไม่มีไรดีมากมาย ซึ่งเราอยากจะถามว่าการที่เรามี skill ต่างๆแต่ไม่เก่งซักด้านใดด้านหนึ่งมันจะเป็นประโยชน์ให้เราในอนาคตมั้ย ซึ่งเมื่อก่อนเราเล่นกีฬา แล้วเกิดอุบัติเหตุทำให้หายใจไม่ออก และครูเข้าหาว่าเราเป็นโรคประจำตัวกำเริบซึ่งไม่มี เวลาเค้าเห็นเราเล่นกีฬาอะไรก็แล้วแต่ก็จะห้ามและก็ด่าๆๆ ทำให้เราเลิกเล่นกีฬามาตั้งแต่นั้น เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าเราอยากมีความสามารถเยอะๆ แต่เราอยากจะถามว่า ความสามารถต่างๆที่เราพยายามฝึกหรือขวนขวายมาเนี่ยมันจะเป็นประโยชน์ต่ออาชีพเรา อนาคตเราในทางการตลาดหรือนักธุรกิจรึเปล่า แต่เราเรียนพวกนี้ไว้เผื่อในอนาคตเราเปลี่ยนใจแต่ในปัจจุบันเราอยากถามทุกคนๆที่เคยมีประสบการณ์หรือสามารถแนะนำให้เราได้ ตอบคำถามเราหน่อยว่าการมี skill เยอะแต่ไม่เก่งไปในด้านใดด้านหนึ่งแต่ถนัดเยอะจะเป็นประโยชน์ต่อเราในอนาคตรึเปล่า ขอบคุณล่วงหน้าจ้า ^^
การมี skill เยอะแต่ไม่เก่งมากในแต่ละด้านสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคตได้หรือเปล่า?