ชีวิตเหมือนผมเปี๊ยบเลย คบแฟนเป็นคริสต์ แต่ดันสงสัยจนต้องไปศึกษาเอง พบว่าพระเจ้าเป็นเรื่องจริง
บอกกับคนในครอบครัวเขาก็ไม่ยอมรับ สุดท้ายครอบครัวเข้าใจพามาเป็นคริสต์ทั้งบ้าน

สุดท้ายเราเองก็ศึกษาจนรู้อะไรมาก็ระดับหนึ่งแล้ว พอถามตัวเองว่าระหว่างพ่อแม่กับพระเจ้าจะเลือกใคร?
ถ้าเลือกพ่อแม่ ก็คือเป็นพุทธเหมือนเดิม คิดซะว่าเรื่องพระเจ้าเป็นเทพนิยาย(ข้อนี้ผมทำใจไม่ได้ครับ)
ถ้าเลือกพระเจ้า ก็คือยืนกรานความเป็นคริสต์เต็มที่ แถมแฟนที่รักมาอีกคน แผนแต่งงานที่วางไว้ก็เดินได้เพราะมีคนให้แต่งแล้ว
แล้วยังได้ชีวิตนิรันดร์อีก ความรอดก็จะเข้ามาในชีวิต พระพรอันอุดมก็ตามมา(ผมเลือกข้อนี้)
สุดท้ายพ่อแม่ก็มายอมรับให้หลังมานี้(ท่านเห็นชีวิตที่ดีขึ้นของเราบนทางของพระเจ้า) จบแบบแฮปปี้ครับ เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมหนทาง

ตอนที่ผมตัดสินใจเลือกพระเจ้าผมคิดเพียงว่าพระองค์จะทรงช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรค์ไปได้(จงเชื่อและวางใจในพระเจ้า)
แต่หากวันนั้นเลือกพ่อแม่แล้วล่ะก็ จะมีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินโลกแต่ไม่ได้รับความรอดนั้น
แต่เลือกพระเจ้าก่อน แล้วพระเจ้าจะช่วยเราในสิ่งต้องประสงค์ ได้แฟน ได้พ่อแม่คืนมา ได้ทั้งความรอด ทั้งชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินโลก
เพราะ "จงนับถือบิดามารดาของท่าน เพื่อที่ว่าพระเจ้าจะประทานชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินโลกให้แก่ท่าน"
"จงนมัสการพระเจ้าของท่านแต่เพียงผู้เดียว"

เป็นไงครับ ผมทำตามพระคัมภ์ของพระเจ้าล้วนๆ ได้ผลดีจึงอยากเล่ามาเป็นตัวอย่าง
จริงอยู่ครับว่าสังคมไทยพุทธ กรณีนี้ต้องเลือกพ่อแม่ก่อน(พ่อแม่คือพระเจ้าของลูก-พุทธ) แต่ถ้าเลือกพ่อแม่ก่อนก็ได้ชื่อว่ากตัญญูต่อพ่อแม่
แต่เนรคุณต่อพระเจ้า จะได้รับการสาปแช่งที่หนักหนามาแทนครับ(ผีร้ายกลับเข้าใหม่-คริสต์) เพราะว่าเมื่อเรารู้ทางรอดแล้ว
เปิดใจเชื่อการไถ่ของพระเยซูแล้ว แต่ดันโยนพระองค์ทิ้งเพื่อกลับไปเอาใจพ่อแม่(คำอุปมาเรื่องการหว่านเมล็ดลงพื้นหนาม-คริสต์)
ความรอดนั้นก็ไม่คู่ควร แต่ถ้าเลือกพระเจ้าแล้ว ไม่ว่าใครหรืออะไร ก็ไม่สามารถมาทำลายชีวิตในพระคุณไปได้ มีแต่จะดีทวีขึ้นๆไป
และอยู่ที่ว่าคุณจะผ่านการทดลองเรื่องเหล่านี้ไปได้หรือไม่ เป็นกำลังใจให้ครับ

ผมจะอธิฐานให้คุณ พระเจ้าอวยพรครับ