สิมิลัน ตาชัย หัวหิน หลีเป๊ะ แสมสารหรือเกาะขามดีนะ
เข้าหน้าร้อนแล้วจะไปทะเลที่ไหนดีนะ
พอๆๆ ตื่นๆ ฝันหวานอีกละ วันหยุดเธอแทบไม่เหลือแถมทำงานอาทิตย์ละ 6 วันเธอจะไปไหนได้
โห พูดเองเศร้าเอง แต่เค้าก็อยากเที่ยวทะเลบ้างนี่นา
อ้อ ลืมไปรึเปล่าบ้านเราอยู่ใกล้ทะเลนิดเดียวเอง ขับรถ 15-20 นาทีชั้นก็เจอทะเลแล้ว
จะไปง้อทะเลไกลๆทำไม เที่ยวทะเลบ้านเราดีกว่า ^_^

คุณรู้รึเปล่าค่ะว่าอยู่ในกรุงเทพก็สามารถเที่ยวทะเลได้ หลายคนคงรู้แต่ถ้าไม่รู้จะบอกให้นะ
ทะเลกรุงเทพที่ว่านี้ไม่ใช่สวนสยามนะคะ แต่คือบางขุนเทียนชายทะเล
พอพูดถึงที่นี่ก็คงนึกถึงร้านอาหารทะเลที่มีอยู่เยอะแยะมากมายเลย
แต่วันนี้เราจะพาขับรถเลยไปสักหน่อย นอกจากจะได้กินอาหารทะเลอร่อยๆแล้ว ยังได้กินลมชมวิวสวยๆกันอีกด้วย
ร้านที่จะพาไปวันนี้ชื่อ ชาน’เล รีสอร์ท ชื่อมาเป็นรีสอร์ทขนาดนี้ก็ต้องมีห้องพักไว้บริการแน่นอน
จริงๆแล้วที่นี่อยู่เขตจังหวัดสมุทรสาคร แต่เดินทางมาเส้นบางขุนเทียนชายทะเลก็ใกล้และสะดวกดีค่ะ



อีกส่วนของที่นี่คือร้านอาหารครัวชานเล ตอนแรกมีโอกาสพบเจอร้านนี้ในอินเตอร์เน็ตโดยบังเอิญ
ก็ตั้งปณิธานไว้เลยว่าจะต้องมา 5555555 ตั้งใจว่าอยากมาพัก แต่โอกาสยังไม่อำนวยก็เลยได้แต่มาทานอาหาร
และก็ได้มาที่นี่ถึงสองอาทิตย์ติดๆกัน และก็ติดใจยังคิดว่าจะมาที่นี่อีกในเร็วๆนี้





ที่นี่เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กมีอยู่ทั้งหมด 10 ห้องค่ะ ราคาห้องละ 1,500 บาท พร้อมอาหารเช้า
ห้องจะแบ่งเป็นฝั่งซ้ายกับฝั่งขวา คือเป็นลักษณะตัวยู ถ้าหันหน้าออกทะเลฝั่งขวาจะเป็นส่วนตัวกว่าค่ะ
เพราะฝั่งซ้ายจะอยู่ติดกับร้านอาหารอีกร้านนึง ส่วนฝั่งซ้ายวิวดีเห็นทะเลชัดแจ่มเลย
วันที่ไปห้องพักเกือบเต็มนะคะเหลือแค่ห้องเดียว เรายังไม่เคยมาพักแต่คิดว่าจะหาโอกาสมา
บรรยากาศดีแถมใกล้กรุงเทพนิดเดียวเอง






รีสอร์ทฝั่งขวาจะอยู่ริมทะเลแบบนี้ทุกห้องค่ะ  ห้องที่เด็ดสุดคงจะเป็นห้องเบอร์ 7 เพราะไม่มีห้องไหนมาบดบังวิวเลย
ซ้ายก็ทะเล ขวาก็ทะเล ข้างหน้ายังเป็นทะเล ลองจินตนาการนิดหน่อยว่าถ้ามาพักที่นี่ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า
นั่งชมนกนางนวลบินไปมาอยู่หน้าห้องมันคงมีความสุขดีนะ







ส่วนฝั่งซ้ายด้านข้างจะติดกับร้านอาหารอีกร้านนึงค่ะ แต่ก็ไม่วุ่นวายเพราะอยู่คนละส่วนอยู่แล้ว






ในส่วนของร้านอาหาร "ครัวชานเล" จะมีที่นั่งอยู่สามโซนคือโซนแรกใกล้ลานจอดรถ
ตรงนี้บรรยากาศร่มรื่นนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ นั่งสบายดีเหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัวค่ะ เพราะจะกั้นแบ่งเป็นล๊อคๆ
ถ้ามากันเยอะๆ คอกนั้น เอ้ย ล๊อคนั้นก็จะเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว




อีกโซนอยู่หน้าครัวแต่ยังไม่เคยเห็นแขกมานั่งแต่วันไหนคนเยอะๆคงมีค่ะ ตรงนี้ก็ดีนะคะมีหลังคาลมไม่แรงด้วย
พี่สาสวเคยมารอบนึงบอกว่ารอบนั้นยุงเยอะ แต่ตอนเราไปสองครั้งโชคดีไม่มียุงค่ะ เพราะลมแรงมว๊าก ยุงคงบินไม่ไหว 5555






โซนสุดท้ายอยู่ริมทะเลนู่นเลยค่ะ อยู่ใกล้ทะเลสุดตรงนี้บรรยากาศโรแมนติกม๊ากๆ
ตรงนั้นจะมีต้นไม้อยู่หนึ่งต้น เป็นโลโก้ของร้านนี้เลย





ตอนกลางคืนต้นไม้ต้นนี้จะสว่างไสวเพราะทางร้านจะเปิดไฟ
ถ้าคนไม่เยอะมากตรงนี้เหมาะกับคู่รักจะมานั่งสวีทกันมากๆเลยค่ะ
แต่ที่นี่ลมจะค่อนข้างแรงนะคะแนะนำว่าถ้ามาก็ไม่ต้องเซ็ทผมหรือถ้าใครอยากอยู่ทรงก็ใส่เจลมาเลยก็ได้ค่ะ
ส่วนใครใส่วิกก็ถอดเก็บไว้บ้านเลยนะคะไม่งั้นปลิวแน่ 555555555555






ตรงส่วนกลางของรีสอร์ทเวลาน้ำลงจะดูไม่ค่อยงามค่ะเพราะจะเห็นเศษขยะเยอะหน่อย
จริงๆครั้งแรกที่มาก็น้ำขึ้นค่ะแต่ว่าวันนั้นมาถึงก็มืดแล้วไม่เห็นวิวอะไรเลย
ส่วนครั้งที่สองมาทันสว่างแต่น้ำลดซะอีก เคยเห็นรูปตอนที่มีน้ำก็ดูสวยดีเอาไว้คราวหน้าจะโทรไปเช็คก่อน
น้ำทะเลที่นี่ก็ไม่ใช่สวยใสแบบเล่นได้นะคะถ้าใครเคยมาจะรู้น้ำทะเลที่นี่เอาไว้นั่งชมนั่งดม เอ้ยนั่งดูชิลๆเท่านั้นค่ะ
แต่ถ้าใครอยากจะมาพักแนะนำให้เช็คมาตอนน้ำขึนจะสวยกว่านะคะ



ด้านข้างรีสอร์ทจะมีต้นโกงกางขึ้นอยู่โดยรอบ ตรงข้างๆรีสอร์ทจะมีเป็นดงเลยค่ะ





มาพูดถึงเรื่องของอาหารกันบ้างต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาเลย
แต่รับรองว่าหน้าตาดีทุกจานค่ะ อาหารได้เร็วดี ไปแอบดูในครัวมีพ่อครัวคนเดียวถือว่าทำได้เร็วมากๆ
เพราะวันนั้นก็แขกเยอะ ส่วนเรื่องรสชาติสำหรับเราว่าโอเคนะคะ ใช้ได้เลย
แต่เสียดายเราอยากทานของหวานแต่หมด อาจจะเตรียมไว้น้อยหรือยังไงอันนี้ไม่ทราบ
ส่วนเรื่องราคาสำหรับเราคิดว่าไม่แพงไปครั้งแรกไป 5 คน เช็คบิลมา 900 กว่าบาท
ส่วนครั้งที่สองไปกัน 13 คน กับข้าวสั่งเต็มที่ทานเหลือแต่ไม่มีพวกปู กุ้งเผาประเภทนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นกับข้าวเกิน 10 อย่างแน่นอนเช็คบิลมา 3,100 บาท คิดว่าถูกมากเลย
เพราะเคยไปทานที่บางขุนเทียนชายทะเลโซนที่ร้านอาหารเยอะๆ 2,000 สั่งน้อยกว่านี้มาก
ส่วนเรื่องบริการพนักงานยิ้มแย้มค่ะ แต่ไม่ค่อยแวะมาเยี่ยมชมลูกค้าเท่าไหร่นัก
เวลาจะสั่งอาหารหรือเช็คบิลจะต้องเดินไปตามค่ะ อาจเป็นเพราะพนักงานมีจำนวนน้อย
สำหรับเราไม่ซีเรียสค่ะเพราะมาแบบชิลๆ เดินไปเรียกได้เพราะแทบไม่ได้นั่งที่โต๊ะ เดินถ่ายรูปนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย
เรานั่งเรื่อยๆไม่ได้รีบกลับอะไร นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่
เรานั่งดูพระอาทิตย์ดวงกลมๆเหมือนไข่แดงตกลงทะเล มีความสุขดีอย่างบอกไม่ถูก
เสียดายที่ทิศตะวันตกไม่ได้อยู่ตรงหน้ารีสอร์ทต้องมองไปทางขวา ถึงจะเห็นพระอาทิตย์ตก














เสียดายที่เราถ่ายรูปได้ไม่สวยเท่าไหร่ เอาไว้มีโอกาสก็ไปชมกันเอาเองจะดีกว่านะคะ
เรานั่งจนฟ้ามืด บรรยากาศก็เริ่มครึกครื้นเพราะแขกที่มาพักออกมาทานอาหารเย็น
ส่วนใหญ่จะนั่งทานกันที่หน้าห้องค่ะ ถ้าเรามาพักก็คงนั่งที่หน้าห้องเพราะบรรยากาศดีไม่ต่างจากร้านอาหาร
บรรยากาศตอนกลางคืนก็โรแมนติกอยู่นะคะ ชอบที่ตรงต้นไม้ที่นี่นำไฟมาตกแต่ง
ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกขึ้นมาเลยล่ะคะ


















ถ้าใครหาที่พักผ่อนใกล้กรุง ไม่ต้องขับรถไกล ได้นอนริมทะเล ก็ลองเก็บ ชาน'เล รีสอร์ทไว้ในลิสดูนะคะ
โดยรวมแล้วถือว่าดีค่ะอาหารอร่อย ราคาไม่แพง บรรยากาศขั้นเทพ
ถ้าเทียบกับร้านอาหารย่านนี้เราชอบที่นี่ค่ะ เพราะมันดูส่วนตัวดี
อาจจะติดใจส่วนเราตอนนี้ยังคงประทับใจค่ะและคิดว่าจะกลับไปแน่นอนเลย
อาจจะไปพักด้วยถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่ใกล้กับที่นี่มากก็ตาม 555555
จะมาแบบอบอุ่นกับครอบครัว หรือจะมาสวีทกับแฟนใกล้ๆ เราว่าที่นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยล่ะคะ



อันนี้เป็นเฟสบุ๊คของทางร้านนะคะ https://www.facebook.com/chanleresort


การเดินทาง
อันนี้สำคัญค่ะควรศึกษาก่อนจะได้ไม่หลงจนเสียอารมณ์นะคะ สมัยนี้สะดวกสบายสามารถใช้
- Google Map บอกทางได้ทันที แต่มาที่นี่ถ้าเสิร์ช ชานเลรีสอร์ทมันจะพาเราไปที่อื่น ดังนั้นให้พิมพ์ว่า
ศาลเจ้าพ่อมัจฉานุ แทนจะแม่นกว่าหรือ
- หาตามพิกัดนี้ 13.488067,100.361487
หรือใครจะดูตามแผนที่ตามแบบดั้งเดิมเราก็ทำแผนที่มาให้นะคะ



- จากถนนพระราม 2 พอเลยเซ็นทรัลและบิ๊กซีพระราม 2 แล้ว ขับมาจะเจอแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางขุนเทียนชายทะเล
- จากนั้นขับรถตรงยาวจนสุดทางตรงจะเจอเป็นสามแยก ให้เลี้ยวขวาสังเกตุให้มาตามป้ายจุดชมโลมา
- เลี้ยวขวาแล้วขับตรงมาป้ายของชานเลจะเล็กและสังเกตุยาก ให้สังเกตุป้ายร้านเจ๋งซีฟู้ดแทนจะง่ายกว่า
- จากนั้นเลี้ยวซ้ายปากทางจะมีปั๊มบางจากเล็กๆ เล็กจริงๆนะคะ
- เลี้ยวตรงข้ามสะพานจะเจอสี่แยกให้ตรงไป
- ขับตรงไปจะเจอสะพานอีกที่ข้ามสะพานเสร็จจะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา และขับตรงไปเรื่อยๆ
- สังเกตุป้ายชานเลรีสอร์ททางด้านซ้ายมือและทางเข้าจะมีป้ายศาลเจ้าพ่อมัจฉานุอยู่จากนั้นก็ขับตรงไปก็จะถึงชานเลรีสอร์ท