บ่นไปเรื่อย ไม่รู้จะทำไรดี

นักการเมืองทุจริตคอรัปชั่น เป็นเหตุผลที่ถูกยกขึ้นมาอ้างเพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะในประเทศด้อยพัฒนา

การทุจริตคอรัปชั่นเป็นด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ทุกคน แม้แต่การปิดนาฬิกาปลุกแล้วนอนต่อก็นับว่าคอรัปชั่น

การทุจริตคอรัปชั่นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ การเรียนรู้ และโอกาส คนที่ไม่ทุจริตในบางกรณี ไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้น จะไม่ทุจริตในทุกกรณี

การทุจริตคอรัปชั่นที่สังคมไม่ยอมรับ คือ การคอรัปชั่นที่มีผลกระทบต่อผู้อื่น ต่อให้การคอรัปชั่นนั้นไม่ส่งผลต่อตัวเองโดยตรง ก็ทำให้ไม่สบายใจ รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย เพราะตัวเองก็ไม่อยากโดนผลกระทบโดยตรงเข้าบ้างในวันข้างหน้า โดยเฉพาะถ้าคนที่ทุจริดนั้น เป็นผู้มีอำนาจ

การบริหารบ้านเมือง เป็นงานที่ต้องใช้ความเฉลียวฉลาด ต้องใช้ความรู้ความสามารถ ไม่ใช่งานง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้

การบริหารบ้านเมือง เป็นงานทางโลก ต้องอาศัยความดีทางโลก คือ ความเก่ง ความรอบรู้ ความเฉลียวฉลาด เป็นหลัก จะเอาความดีในทางธรรม เช่น อริยสัจ 4 มรรค 8 โพชฌงค์ 7 มาใช้บริหารบ้านเมือง เป็นไปไม่ได้ เพราะผลของการปฏิบัติตามหลักธรรมเหล่านี้ เป็นปัจจัตตัง คือ รู้ได้เฉพาะตน มีจุดมุ่งหมายเพื่อการบำเพ็ญเพียร นำพาตนเองออกจากวัฏสงสาร ซึ่งเป็นเรื่องของจิตใจ ไม่ใช่บ้านเมือง

การบริหารบ้านเมือง เป็นงานทางโลก จึงต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องยังเป็นคนธรรมดา ยังมีกิเลส เพราะถ้าเป็นคนที่หมดกิเลสแล้วจริงๆ ก็คงจะปลีกวิเวกไปนานแล้ว

นักการเมือง เป็นคนธรรมดาที่ยังมีกิเลส ประชาชน ก็เป็นคนธรรมดาที่ยังมีกิเลส ไม่ต้องเถียงกันให้เสียเวลาว่าใครดีกว่าใคร เพราะยังไม่มีใครดีจริง แต่ถ้าต้องการให้นักการเมืองทำงานเพื่อประชาชน ก็ต้องให้อำนาจแก่ประชาชนบังคับให้นักการเมืองทำงาน

คนเราต้องทำงานเพื่อรับใช้ผู้มีอำนาจอยู่แล้ว เพราะผู้มีอำนาจสามารถให้คุณหรือให้โทษกับเราได้ ถ้าผู้มีอำนาจคือประชาชน ผู้ที่จะทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน ก็ต้องเป็นผู้ที่มาจากประชาชน ถ้าไม่ได้มาจากประชาชน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน มีแต่จะทำงานเพื่อรับใช้ผู้มีอำนาจที่สนับสนุนตนขึ้นมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่