เมื่อ 2-3 วันก่อนบังเอิญได้ไปงานอีเวนท์ญี่ปุ่นงานนึง ซึ่งอีเวนท์ในงานจะเกี่ยวกับการพาไปเที่ยวเมือง "ชิซึโอกะ" ซึ่งเมืองที่ว่านี่ ก็บังเอิญว่า เขามี 2 สโมสรชื่อดังของญี่ปุ่นอยู่ด้วยคือ Shimizu S-Pulse กับ Júbilo Iwata ซึ่งทางจังหวัดเอง เขาก็ใช้ชื่อเสียงของสโมสรฟุตบอลเป็นจุดขายของจังหวัดเช่นกัน ทั้ง 2 สโมสรก็ขึ้นชื่อเรื่องการมีอคาเดมี่และระบบการจัดการผู้เล่น รวมทั้งการมีพาร์ทเนอร์เป็นสโมสรต่างๆในยุโรปที่สามารถส่งนักเตะไปเทรนนิ่งได้ตลอด
ทีนี้ในงานเลยมีการเชิญเด็กมาเดาะบอลโชว์ แบ่งเป็นเด็กไทยกับเด็กญี่ปุ่น บอกว่าเด็กก็จริง แต่จริงๆก็อายุประมาณ 17-18 แล้ว เด็กญี่ปุ่นน่าจะเป็นเด็กที่เป็นเทรนนี่ของ เอส พัลซ์ หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ตัวเด็กใส่เสื้อ เอสพัลซ์ ที่มีลายเซ็นต์นักเตะครบทีมมาทั้ง 2 คน
พอถึงช่วงเดาะบอล คู่เด็กไทยก็ขึ้นไปเดาะชิลๆ ทักษะก็โอเคดี พื้นฐานดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกร้อง ว้าว อะไรขนาดนั้น โดยรวมก็เป็นเด็กเก่งฟุตบอลคนนึง ตัวน้องเองก็ดูชิลๆ ไม่ได้ดูเกร็งหรือเก็กอะไร แล้วก็มาถึงคู่เด็กญี่ปุ่น ปรากฏว่า น้องเดาะแทบไม่ได้เลย เดาะเสียหลายลูกมาก เดาะโต้ได้ 3-4 ลูกก็ตกหมด ผิดจากเด็กไทยที่เดาะได้แบบชิลๆมาก
ซึ่งโอเค นัยหนึ่ง เด็กญี่ปุ่นที่เลือกมาวันนั้นอาจจะไม่เก่ง หรือ อาจจะตื่นเต้น ..
แต่ใจความสำคัญเราว่ามันอยู่ที่สิ่งที่เขาชื่นชมเด็กไทย
พอจบกิจกรรม เขาก็มีสัมภาษณ์เด็กๆ ซึ่งไม่ได้สัมภาษณ์เด็กไทย แต่สัมภาษณ์เด็กญี่ปุ่นแทน เด็กญี่ปุ่นซึ่งพูดไทยได้ ก็รีบออกตัวว่า ตัวเขาเองพึ่งรู้ก่อนมางานแค่วันเดียวว่าต้องมาเดาะบอลโชว์ เลยแทบไม่มีเวลาซ้อมเลย และเขายอมรับว่า เด็กไทยเก่งมากๆ เพราะน่าจะทราบพร้อมๆกันเหมือนกัน แต่เล่นกันได้ไม่มีสะดุดเลย ผิดจากพวกเขาที่พลาดเยอะมาก ขณะที่เด็กไทยแทบไม่พลาดเลย ยอมรับเลยว่าเด็กไทยเก่งมาก (พอพูดแบบนั้นเลยรู้ว่า น่าจะต่างคนต่างมาไม่รู้จักกันมาก่อน)
พอได้ยินแบบนั้นแล้วเราก็ฉุกคิดขึ้นมาได้นิดนึงว่า เด็กไทยหลายคนคงเล่นฟุตบอลเก่งจริงๆ เพียงแต่หลายคนขาดความสม่ำเสมอ และความตั้งใจในการพาตัวเองไปตลอดรอดฝั่งหรือต่อสู้ไปจนสามารถประสบความสำเร็จได้
ขณะที่เด็กญี่ปุ่น พวกเขาอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์มากมาย (ในกรณีทั่วๆไป) แต่ด้วยความมีวินัยและมุ่งมั่นมาก บวกกับการที่ประเทศให้โอกาสเด็กๆได้ทำตามความฝันให้เต็มที่ พวกเขาเลยไปได้ไกลกว่าเด็กไทย และมีลู่ทางไปต่อได้มากกว่า
อาจดูเป็นคำพูดจากเด็กแค่คนเดียว ไม่น่าจะมีความหมายอะไร แต่สำหรับเรามันก็สะท้อนให้เห็น
ความแตกต่างในด้านความพร้อม ของเด็กๆจากทั้ง 2 ประเทศได้เหมือนกันนะ
ปล.กระทู้นี้ไม่มีเจตนาดูถูกเด็กไทยนะ เราชื่นชมทั้งคู่ เพียงแต่ไอ้น้องญี่ปุ่น มันดูตื่นๆเวทีจริงๆ แต่เด็กไทยดูชิลมาก 55555
คำพูดสั้นๆ เมื่อเด็กญี่ปุ่นคนนึง ชื่นชมเด็กไทย ...
ทีนี้ในงานเลยมีการเชิญเด็กมาเดาะบอลโชว์ แบ่งเป็นเด็กไทยกับเด็กญี่ปุ่น บอกว่าเด็กก็จริง แต่จริงๆก็อายุประมาณ 17-18 แล้ว เด็กญี่ปุ่นน่าจะเป็นเด็กที่เป็นเทรนนี่ของ เอส พัลซ์ หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ตัวเด็กใส่เสื้อ เอสพัลซ์ ที่มีลายเซ็นต์นักเตะครบทีมมาทั้ง 2 คน
พอถึงช่วงเดาะบอล คู่เด็กไทยก็ขึ้นไปเดาะชิลๆ ทักษะก็โอเคดี พื้นฐานดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกร้อง ว้าว อะไรขนาดนั้น โดยรวมก็เป็นเด็กเก่งฟุตบอลคนนึง ตัวน้องเองก็ดูชิลๆ ไม่ได้ดูเกร็งหรือเก็กอะไร แล้วก็มาถึงคู่เด็กญี่ปุ่น ปรากฏว่า น้องเดาะแทบไม่ได้เลย เดาะเสียหลายลูกมาก เดาะโต้ได้ 3-4 ลูกก็ตกหมด ผิดจากเด็กไทยที่เดาะได้แบบชิลๆมาก
ซึ่งโอเค นัยหนึ่ง เด็กญี่ปุ่นที่เลือกมาวันนั้นอาจจะไม่เก่ง หรือ อาจจะตื่นเต้น ..
แต่ใจความสำคัญเราว่ามันอยู่ที่สิ่งที่เขาชื่นชมเด็กไทย
พอจบกิจกรรม เขาก็มีสัมภาษณ์เด็กๆ ซึ่งไม่ได้สัมภาษณ์เด็กไทย แต่สัมภาษณ์เด็กญี่ปุ่นแทน เด็กญี่ปุ่นซึ่งพูดไทยได้ ก็รีบออกตัวว่า ตัวเขาเองพึ่งรู้ก่อนมางานแค่วันเดียวว่าต้องมาเดาะบอลโชว์ เลยแทบไม่มีเวลาซ้อมเลย และเขายอมรับว่า เด็กไทยเก่งมากๆ เพราะน่าจะทราบพร้อมๆกันเหมือนกัน แต่เล่นกันได้ไม่มีสะดุดเลย ผิดจากพวกเขาที่พลาดเยอะมาก ขณะที่เด็กไทยแทบไม่พลาดเลย ยอมรับเลยว่าเด็กไทยเก่งมาก (พอพูดแบบนั้นเลยรู้ว่า น่าจะต่างคนต่างมาไม่รู้จักกันมาก่อน)
พอได้ยินแบบนั้นแล้วเราก็ฉุกคิดขึ้นมาได้นิดนึงว่า เด็กไทยหลายคนคงเล่นฟุตบอลเก่งจริงๆ เพียงแต่หลายคนขาดความสม่ำเสมอ และความตั้งใจในการพาตัวเองไปตลอดรอดฝั่งหรือต่อสู้ไปจนสามารถประสบความสำเร็จได้
ขณะที่เด็กญี่ปุ่น พวกเขาอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์มากมาย (ในกรณีทั่วๆไป) แต่ด้วยความมีวินัยและมุ่งมั่นมาก บวกกับการที่ประเทศให้โอกาสเด็กๆได้ทำตามความฝันให้เต็มที่ พวกเขาเลยไปได้ไกลกว่าเด็กไทย และมีลู่ทางไปต่อได้มากกว่า
อาจดูเป็นคำพูดจากเด็กแค่คนเดียว ไม่น่าจะมีความหมายอะไร แต่สำหรับเรามันก็สะท้อนให้เห็น
ความแตกต่างในด้านความพร้อม ของเด็กๆจากทั้ง 2 ประเทศได้เหมือนกันนะ
ปล.กระทู้นี้ไม่มีเจตนาดูถูกเด็กไทยนะ เราชื่นชมทั้งคู่ เพียงแต่ไอ้น้องญี่ปุ่น มันดูตื่นๆเวทีจริงๆ แต่เด็กไทยดูชิลมาก 55555