หลังจากรีวิวกระทู้แรกเกี่ยวกับมัลดีฟส์ (centara ras fushi) ไปแล้ว ที่นี่
http://ppantip.com/topic/33362290
คราวนี้มารีวิวทะเลแบบไทยๆ กันบ้างดีกว่าค่ะ
จขกท ทำพันธะสัญญาไว้กับคุณสามีว่า เราจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ด้วยกันเดือนละ 1 ทริปเป็นอย่างน้อย จะไทยจะเทศได้หมด (แน่นอนว่าต้องเน้นไทยสบายกระเป๋ามากกว่าอยู่แล้ว) เมื่อ 14-16 ก.พ. 58 ที่ผ่านมา เราก็เลยเลือกไปทะเลกันอีกแล้ว เค็มกันแบบไม่มีเบื่อจริงๆ โดยจุดหมายปลายทางคราวนี้ของเราอยู่ที่ เกาะกูด จ.ตราด ไกลแบบปานกลาง ไม่มากไป ไม่น้อยไป เหมาะควรกับเวลา 3 วันที่มีที่สุดแล้ว
เราตัดสินใจเลือกพัก “กัปตันฮุค” ด้วยเหตุว่าเคยได้ยินชื่อมานานมาก (คือตั้งแต่สมัยเราเคยไปเกาะกูดครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว) ผ่านมานานก็ยังเห็นคนพูดถึงกันอยู่ แล้วมันคงเป็นฟีลแบบชื่อนี้ฝังหัว ชั้นต้องลองสักครั้ง ไรทำนองนี้มั้ง เลยตัดสินใจลองดู
จขกท เลือกพักแบบแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน ห้องแบบมีสระว่ายน้ำจิ๋วๆ ส่วนตัว ราคาเอาการอยู่ค่ะ
และเช่นเคย... นี่คือ 10 สิ่งประสบการณ์หวานๆ ขมๆ ของกัปตันฮุครีสอร์ทสำหรับเรา (บางอันไม่ใช่รีสอร์ทไม่ดีนะคะ เป็นความรู้สึก จขกท ล้วนๆ ค่ะ)
1. ขม : ทะเลมีเสน่ห์ แต่ก็ไม่เคยแน่นอนเสมอ
ก่อนหน้าจะถึงวันไป ท้องฟ้าสดใสปิ๊งๆ อยู่ดีๆ ค่ะ พอวันไปเท่านั้นแหละ ฝนตกแปะๆ รับวาเลนไทน์กันแต่เช้าเลยข่า คนที่รีสอร์ทตรงท่าเรือบอกว่าพายุเพิ่งมาวันสองวันนี้เอง ทะเลคงกลัวเราไม่สนุกพอเลยจัดให้ชุดใหญ่เลยค่ะ จากปกติเป็นคนสบายๆ กับเรือทุกประเภทมาก แต่วันนั้นเป็นอารมณ์แบบ...เหมือนอยู่บนเครื่องเล่นหวาดเสียวในดรีมเวิลด์ชั่วโมงกว่าติดๆ กัน เสียวท้องวูบๆ ตลอดเวลาที่เรือโยนตัว ฟิ้ว ตุบ ฟิ้ว ตุบ รู้สึกเหมือนเครื่องในทั้งหมดมากองรวมกันที่คอหอย กระดูกสภาพเหมือนแหลกไปแล้วทั้งร่าง
ใครเป็นกังวลใจกับการนั่งสปีดโบ๊ท ขอแนะนำให้เลือกฤดูให้ดีๆ เช็คอากาศให้เหมาะๆ เอาหน้าที่ความเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะหากเจอสภาพแบบที่ จขกท เจอ คุณอาจชักจะไม่ค่อยสนุกแล้วก็เป็นได้
2. หวาน : ความดีงามของกัปตันฮุค คือ ใกล้ฝั่งที่สุด
หลังจากนั่งกลั้นอ้วกกันมาชม.เศษ ในที่สุดก็มาถึงกัปตันฮุครีสอร์ทค่ะ ทันทีที่คนเรือประกาศเท่านั้นแหละ เรานี่แทบกระโดดเลย คือในเรือที่นั่งมาจะมีจากหลายรีสอร์ทในเครือกัปตันฮุคค่ะ ซึ่งมีอีก 3 รีสอร์ท และทุกครั้งเวลามาส่ง เขาจะส่งกัปตันฮุคเป็นที่แรก ขากลับก็จะรับรีสอร์ทอื่นมาก่อน และมารับกัปตันฮุคเป็นที่สุดท้าย
ตอนเค้าให้ขึ้นจากเรือ แล้วบอกว่าปีเตอร์แพนอีก 15 นาทีนะครับ เรานี่แทบจะหลั่งน้ำตาให้คนที่เหลือเลย หลังจากผจญความ extreme ของสปีดโบ๊ทวันนั้นมาด้วยกัน คือถึงที่พักเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีละค่ะ
3. ขม : ถ้าอยากเดินป่า ไปน้ำตก ให้เลือกมาหลังหน้าฝน
จริงๆ แล้วมีโปรแกรมให้ไปเดินป่า เที่ยวน้ำตกด้วย แต่พนักงานก็บอกตรงๆ เลยว่า ไม่สวยนะครับ ไม่มีน้ำเลย แห้งสนิท เดินลำบากนิดหน่อย ชาวไทยส่ายหน้าหวือ ไม่มีใครเอาด้วยเลยค่ะ มีฝรั่งขอร่วมก๊วนไปคนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากใครคาดหวังมาทำกิจกรรมให้เต็มที่ที่กัปตันฮุค ก็โปรดเลือกฤดูให้ดีค่ะ
4. หวาน : พนักงานที่นี่มีใจบริการดีเยี่ยมและได้รับการอบรมมาดีมาก
เรียกว่าหาได้น้อยมากหลังจากพักที่โน่นที่นี่มาหลายแห่ง รู้สึกว่าสิ่งที่พนักงานแต่ละคนแสดงออกมา มันออกมาจากใจเค้าจริงๆ ไม่ได้เฟค ทุกคนอัธยาศัยดีเว่อร์ ชวนคุย ดูแล อธิบาย เป็นกันเองตลอด และทุกวันที่มีเรือเข้า โดยเฉพาะเวลาแขกจะกลับและเรือจะออก พนักงาน (เกือบ) ทุกคนก็จะไปยืนส่งแขกขึ้นเรือค่ะ ส่งยิ้ม สวัสดี และโบกมือจนเรือแล่นออกไปไกลแล้ว ก็ยังไม่หยุดโบกเลย
คือเราเห็นแล้ว ชื่นชมการคัดพนักงานและวิธีการอบรมของเค้าจริงๆ ไม่รู้ทำยังไง แต่ทุกคนดูโอเคมากๆ เลยค่ะ
นอกจากนี้ เค้ายังฝึกพนักงานให้ทำงานได้หลายอย่างด้วย ทำลายขีดจำกัดของคนทั่วไปไปเลย ทำให้เราซึ้งกับประโยคว่า “ไม่มีใครทำเป็นมาตั้งแต่เกิด” คือพนักงานคนนึง นอกจากเราเห็นไปควงกระบองไฟโชว์ตอนกลางคืนแล้ว มาวันรุ่งขึ้นก็เป็นคนพาเราไปดำน้ำ คอยดูแลเราตลอดเวลาดำสนอร์กเกิ้ลด้วย น้องเค้าเล่าเองเลยว่า พี่ๆ เค้าฝึกให้ แต่ก่อนผมก็ทำไม่เป็นเหมือนกันครับ
5. ขม : คาดหวังที่พักติดหาดอย่าเลือกที่นี่นะคะ
คือเค้ามีหาดก็จริง แต่ไม่ติดค่ะ โดนคั่นด้วยทะเลและคลอง ถ้าอยากไปเดินถ่ายรูปสวยๆ บนหาด ต้องออกแรงพายเรือคายักข้ามฝั่งไปเล็กน้อย หรือจะพายเลยเรื่อยเข้าไปในคลองก็ได้ บรรยากาศชิลดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเราไร้ประสบการณ์หรือว่าอะไรนะคะ คือคิดว่ามันจะชิล แต่มันแอบเมื่อยมิใช่น้อย เอาเป็นว่าถ้าใครคิดจะแบบใส่บิกินี่เดินสวยๆ จากห้องพักถึงหาดในสภาพตัวแห้งนั้น ที่นี่เป็นไปไม่ได้ค่ะ ต้องออกแรงนิด หรือจะลุยเปียกๆ ไปก็ได้ แต่ก็ไม่ยักเห็นใครเค้าทำนะคะ ส่วนใหญ่ก็พายเรือกันไปทั้งนั้น
6. หวาน (หมู) : ที่รักที่สุดของกัปตันฮุค คือ อาหาร
ดูเหมือนเป็นผู้หญิงตะกละชอบกล แต่อาหารที่นี่จัดเต็มจริงๆ ค่ะ ถ้าเลือกซื้อแพ็คเกจมานะคะ อาหารเช้านี่ยังไม่เท่าไหร่ อาหารเที่ยงก็พอได้ค่ะ ชอบตรงซีฟู้ดเป็นซีฟู้ดจริงๆ ไม่วิญญาณ นอกจากนี้ยังมีอาหารว่างตอนบ่ายอีก ไม่ใช่อาหารว่างกุ๊งกิ๊งนะคะ แต่แทบจะแทนมื้อหลักได้เลย วันแรกเป็นขนมไข่เต่าทอดๆ กับก๋วยเตี๋ยวญวน วันที่สองเป็นส้มตำ ลาบ และลอดช่อง แถมอร่อยทุกอย่างเลย
ที่เราเลิฟฟฟฟฟที่สุดคืออาหารเย็นค่ะ เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า โอเค เก็บแพง แต่เต็มที่แบบนี้ เรายอมจ่ายนะ มื้อเย็นจะมีกับข้าวประมาณ 6-7 อย่าง และทุกอย่างเติมได้หมด ทั้งต้มยำกุ้ง หอยเชลล์เผา ปูเผา บาร์บีคิวไม้ยักษ์มาก รวมมิตรทะเลเผาจานใหญ่ มีอะไรอีกจำไม่หมดแล้ว ส่วนอีกวันก็เป็นหมูกระทะค่ะ แล้วก็กับข้าวอีกเพียบเช่นเคย ปู หอยเชลล์ตัวเบ้งๆ ชอบตรงเติมได้แม้จะแทบไม่ได้เติมก็ตาม คือ กินกันจนจะยัดไม่ลงก็ยังไม่หมดเลย แถมยังตบท้ายด้วยผลไม้อีก ซึ่งขอบอกว่าสับปะรดที่นี่หวานอร่อยมากเลยค่ะ ถูกใจ จขกท ที่สุด
7. ขม : ต่อไปถ้าที่พักติดทะเล บรรยากาศดีขนาดนี้ ชั้นจะไม่จองห้องแบบมีสระแล้ว
เป็นบทเรียนแห่งความเจ็บปวดส่วนตัวค่ะ ห้องพักแบบสระจะแพงกว่าธรรมดาประมาณ 2000 มั้ง (ราคาแพ็คเกจต่อคน) ซึ่งสามวันที่เราอยู่ เราไม่ได้ลงสระเลย เอาเท้าจุ่มน้ำนิดนึง เพราะเสียดายอุตส่าห์จ่ายมาแล้ว 555 แต่น้ำเย็นมากเลยไม่อยากเอาตัวลงไป อีกอย่างสระมันก็ไม่ได้ใหญ่อ่ะค่ะ แถมมีกิจกรรมอื่นให้เราทำตลอด ไปดำน้ำบ้าง นั่งอ่านหนังสือบ้าง นอนมองวิวบ้าง สุดท้ายก็ไม่ได้ลงสระเลย แถมเราเดินไปดูห้องด้านที่เป็นฝั่งธรรมดา ห้องก็ดูสวยดี เห็นวิวฝั่งทะเลกับคลองด้วย (แม้ไม่ใช่ด้านอาทิตย์ตก แต่ก็โอเคอยู่) เพราะหน้าบ้านแถบนั้น จะมีศาลาริมน้ำ มีเปลให้นอนเล่นด้วย ดูชิลแบบไม่ต้องมีสระก็ได้ (คือส่วนตัว จขกท เป็นโรคจิตเล็กๆ ชอบเที่ยวพวกพูล วิลล่า เป็นอะไรไม่รู้)
8. หวาน : ถ้าชอบกินแอลกอฮอล์ และคุณโชคดีพอ ขอให้คุณได้พบบาร์เทนเดอร์ชื่อ “โหย” ค่ะ
คือ จขกท ไม่ได้เป็นคอเหล้านะ (สามีชอบลอง 555) คือคืนแรกก็ยังไม่อะไร แต่เห็นตรงบาร์จะครึกครื้นมาก มีเรียงแก้วสูง รินเหล้าจุดไฟกันด้วย นัยว่า happy birthday cocktail ให้ใครซักคน พอคืนที่สองตรงบาร์แทบไม่มีคนเลย (ส่วนใหญ่กลับไปหมดแล้ว) เรากะแฟนเลยไปนั่งตรงบาร์ นั่งคุยกับคุณบาร์เทนเดอร์สุดอาร์ต ได้ความว่าชื่อ โหย ค่ะ จริงๆ มีร้านของตัวเองอยู่กาญจนบุรี ชื่อ red tank เค้าเปิด trip advisor ให้ดู คนรีวิวดีๆ ชมทั้งนั้นเลยว่าค็อกเทลร้านนี้อร่อยมาก เป็น the best cocktail ever เลยทีเดียว เราก็เลยนั่งคุยกับเค้าไปเรื่อย ได้ความว่าเค้าอยู่มาแทบทุกที่บนเกาะกูดแล้วค่ะ แต่ชอบกัปตันฮุคสุด ด้วยความที่มันติดทั้งทะเลและคลอง เงียบ สงบ ตัวเค้าเองเวลามาเกาะกูดก็มานอนเต็นท์ที่กัปตันฮุค ชงเหล้าตามหน้าที่ คือถ้าไม่อยู่ เมนูค็อกเทลที่นี่จะกลายเป็นอีกแบบ แต่ถ้าโหยอยู่ เมนูจะเป็นเมนูส่วนตัวของเค้า คิดเอง ไม่ซ้ำใคร อร่อยด้วยค่ะ 555 โหยเล่าว่า เค้าไปๆ มาๆ กาญจนบุรี กรุงเทพ เกาะกูด แต่ชอบเกาะกูดสุดละ ลูกค้าที่กาญจน์ด่าบ่อยมาก ว่าไปร้านไม่ค่อยเจอร้านเปิดเลย สรุปว่าถ้าไปแล้วเจอโหย ขอแนะนำให้ลองชิมดูนะคะ ส่วนเราลองสั่งแล้วโหยบอก พี่เข้ามาชงเองเลย เดี๋ยวผมสอน เราเลยได้มีค็อกเทลแก้วแรกในชีวิตที่ผสมเอง แถมอร่อยมากด้วยค่ะ เพราะครูดี
ชีวิตแบบโหยบอกเราว่า ความสุขของคนเราจริงๆ มันง่ายนิดเดียว ชอบที่ไหน ก็ไปที่นั่น ชอบทำอะไร ก็ทำอย่างนั้น ถ้าไม่คิดให้มันเยอะวุ่นวายมากความว่าจะได้เงินเท่าไหร่ จะอยู่ได้มั้ย เราว่าชีวิตแบบโหยจะเป็นชีวิตที่มีความสุขมากเชียวค่ะ
9. หวาน : ไมโล หมายักษ์ผู้แสนติสต์
ถ้าไปถึงกัปตันฮุค คุณต้องเห็นเจ้าดำตัวนี้ค่ะ มันเดินโชว์ตัวไปทุกที่ เงียบ ไม่เห่า ไม่ระริกระรี้ ออกแนวนิ่งๆ เฉยๆ แต่เล่นด้วย ลูบได้ ไม่กัด 555 เราจะไม่อะไรกับไมโลมาก แต่เพราะโหยเล่าว่า... พี่รู้ไหม มันไปนอนดูพระอาทิตย์ตกทุกวันเลยนะ พอเย็นมันจะเดินไปที่วิวด้านที่พระอาทิตย์จะตก แล้วพออาทิตย์ตกไปแล้ว มันก็เดินกลับมา
โห หมาอะไรโคตรติสต์ แถมน่าอิจฉาเอามากๆ เลยด้วย (ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด ที่นี่ให้หมาเข้าพักได้นะคะ เพราะเห็นมีคนอุ้มเจ้าตัวเล็กไปด้วยอยู่เหมือนกัน)
10. ขม : ที่บอกไว้ว่า 3 วันกำลังพอดี แต่พออยู่ถึงวันที่ 3 แล้วรู้สึกว่านี่มันน้อยเกินไป
เวลาที่เกาะกูดเดินเร็วเกินไปค่ะ เผลอแป๊บเดียวหมดสามวันต้องกลับแล้ว แถมวันสุดท้ายต้องกลับเรือรอบ 9 โมงเช้าเลย แทบอย่าเรียกว่าวันที่ 3 จะดีกว่า เอาจริงๆ ได้อยู่เต็มๆ แค่วันเดียวเอง ถ้าใครพอมีงบประมาณ พอมีเวลา อยากจะแนะนำให้ชิลอยู่อีกซักวันค่ะ เราว่าน่าจะกำลังดี (แต่คนที่ชอบทำกิจกรรมเยอะๆ อาจจะรู้สึกว่าทำหมดแล้วจนไม่มีอะไรทำก็ได้มั้งคะ แล้วแต่คนนะ เราเป็นพวกชอบชิลแบบเงียบๆ สงบๆ)
โดยรวมแล้วเราชอบที่นี่มาก ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่ๆ และคราวนี้จะเลือกห้องให้ถูกประเภท ฤดูให้ถูกช่วงเวลา แต่ชีวิตเราก็แบบนี้แหละเนอะ หวานๆ ขมๆ ดีบ้าง ร้ายบ้าง ไม่งั้น จะเรียกว่าชีวิตได้ไง จริงมั้ยคะ ^^
[CR] +++ 10 ประสบการณ์ หวานๆ ขมๆ ที่กัปตันฮุค รีสอร์ท เกาะกูด +++
หลังจากรีวิวกระทู้แรกเกี่ยวกับมัลดีฟส์ (centara ras fushi) ไปแล้ว ที่นี่ http://ppantip.com/topic/33362290
คราวนี้มารีวิวทะเลแบบไทยๆ กันบ้างดีกว่าค่ะ
จขกท ทำพันธะสัญญาไว้กับคุณสามีว่า เราจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ด้วยกันเดือนละ 1 ทริปเป็นอย่างน้อย จะไทยจะเทศได้หมด (แน่นอนว่าต้องเน้นไทยสบายกระเป๋ามากกว่าอยู่แล้ว) เมื่อ 14-16 ก.พ. 58 ที่ผ่านมา เราก็เลยเลือกไปทะเลกันอีกแล้ว เค็มกันแบบไม่มีเบื่อจริงๆ โดยจุดหมายปลายทางคราวนี้ของเราอยู่ที่ เกาะกูด จ.ตราด ไกลแบบปานกลาง ไม่มากไป ไม่น้อยไป เหมาะควรกับเวลา 3 วันที่มีที่สุดแล้ว
เราตัดสินใจเลือกพัก “กัปตันฮุค” ด้วยเหตุว่าเคยได้ยินชื่อมานานมาก (คือตั้งแต่สมัยเราเคยไปเกาะกูดครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว) ผ่านมานานก็ยังเห็นคนพูดถึงกันอยู่ แล้วมันคงเป็นฟีลแบบชื่อนี้ฝังหัว ชั้นต้องลองสักครั้ง ไรทำนองนี้มั้ง เลยตัดสินใจลองดู
จขกท เลือกพักแบบแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน ห้องแบบมีสระว่ายน้ำจิ๋วๆ ส่วนตัว ราคาเอาการอยู่ค่ะ
และเช่นเคย... นี่คือ 10 สิ่งประสบการณ์หวานๆ ขมๆ ของกัปตันฮุครีสอร์ทสำหรับเรา (บางอันไม่ใช่รีสอร์ทไม่ดีนะคะ เป็นความรู้สึก จขกท ล้วนๆ ค่ะ)
1. ขม : ทะเลมีเสน่ห์ แต่ก็ไม่เคยแน่นอนเสมอ
ก่อนหน้าจะถึงวันไป ท้องฟ้าสดใสปิ๊งๆ อยู่ดีๆ ค่ะ พอวันไปเท่านั้นแหละ ฝนตกแปะๆ รับวาเลนไทน์กันแต่เช้าเลยข่า คนที่รีสอร์ทตรงท่าเรือบอกว่าพายุเพิ่งมาวันสองวันนี้เอง ทะเลคงกลัวเราไม่สนุกพอเลยจัดให้ชุดใหญ่เลยค่ะ จากปกติเป็นคนสบายๆ กับเรือทุกประเภทมาก แต่วันนั้นเป็นอารมณ์แบบ...เหมือนอยู่บนเครื่องเล่นหวาดเสียวในดรีมเวิลด์ชั่วโมงกว่าติดๆ กัน เสียวท้องวูบๆ ตลอดเวลาที่เรือโยนตัว ฟิ้ว ตุบ ฟิ้ว ตุบ รู้สึกเหมือนเครื่องในทั้งหมดมากองรวมกันที่คอหอย กระดูกสภาพเหมือนแหลกไปแล้วทั้งร่าง
ใครเป็นกังวลใจกับการนั่งสปีดโบ๊ท ขอแนะนำให้เลือกฤดูให้ดีๆ เช็คอากาศให้เหมาะๆ เอาหน้าที่ความเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะหากเจอสภาพแบบที่ จขกท เจอ คุณอาจชักจะไม่ค่อยสนุกแล้วก็เป็นได้
2. หวาน : ความดีงามของกัปตันฮุค คือ ใกล้ฝั่งที่สุด
หลังจากนั่งกลั้นอ้วกกันมาชม.เศษ ในที่สุดก็มาถึงกัปตันฮุครีสอร์ทค่ะ ทันทีที่คนเรือประกาศเท่านั้นแหละ เรานี่แทบกระโดดเลย คือในเรือที่นั่งมาจะมีจากหลายรีสอร์ทในเครือกัปตันฮุคค่ะ ซึ่งมีอีก 3 รีสอร์ท และทุกครั้งเวลามาส่ง เขาจะส่งกัปตันฮุคเป็นที่แรก ขากลับก็จะรับรีสอร์ทอื่นมาก่อน และมารับกัปตันฮุคเป็นที่สุดท้าย
ตอนเค้าให้ขึ้นจากเรือ แล้วบอกว่าปีเตอร์แพนอีก 15 นาทีนะครับ เรานี่แทบจะหลั่งน้ำตาให้คนที่เหลือเลย หลังจากผจญความ extreme ของสปีดโบ๊ทวันนั้นมาด้วยกัน คือถึงที่พักเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีละค่ะ
3. ขม : ถ้าอยากเดินป่า ไปน้ำตก ให้เลือกมาหลังหน้าฝน
จริงๆ แล้วมีโปรแกรมให้ไปเดินป่า เที่ยวน้ำตกด้วย แต่พนักงานก็บอกตรงๆ เลยว่า ไม่สวยนะครับ ไม่มีน้ำเลย แห้งสนิท เดินลำบากนิดหน่อย ชาวไทยส่ายหน้าหวือ ไม่มีใครเอาด้วยเลยค่ะ มีฝรั่งขอร่วมก๊วนไปคนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากใครคาดหวังมาทำกิจกรรมให้เต็มที่ที่กัปตันฮุค ก็โปรดเลือกฤดูให้ดีค่ะ
4. หวาน : พนักงานที่นี่มีใจบริการดีเยี่ยมและได้รับการอบรมมาดีมาก
เรียกว่าหาได้น้อยมากหลังจากพักที่โน่นที่นี่มาหลายแห่ง รู้สึกว่าสิ่งที่พนักงานแต่ละคนแสดงออกมา มันออกมาจากใจเค้าจริงๆ ไม่ได้เฟค ทุกคนอัธยาศัยดีเว่อร์ ชวนคุย ดูแล อธิบาย เป็นกันเองตลอด และทุกวันที่มีเรือเข้า โดยเฉพาะเวลาแขกจะกลับและเรือจะออก พนักงาน (เกือบ) ทุกคนก็จะไปยืนส่งแขกขึ้นเรือค่ะ ส่งยิ้ม สวัสดี และโบกมือจนเรือแล่นออกไปไกลแล้ว ก็ยังไม่หยุดโบกเลย
คือเราเห็นแล้ว ชื่นชมการคัดพนักงานและวิธีการอบรมของเค้าจริงๆ ไม่รู้ทำยังไง แต่ทุกคนดูโอเคมากๆ เลยค่ะ
นอกจากนี้ เค้ายังฝึกพนักงานให้ทำงานได้หลายอย่างด้วย ทำลายขีดจำกัดของคนทั่วไปไปเลย ทำให้เราซึ้งกับประโยคว่า “ไม่มีใครทำเป็นมาตั้งแต่เกิด” คือพนักงานคนนึง นอกจากเราเห็นไปควงกระบองไฟโชว์ตอนกลางคืนแล้ว มาวันรุ่งขึ้นก็เป็นคนพาเราไปดำน้ำ คอยดูแลเราตลอดเวลาดำสนอร์กเกิ้ลด้วย น้องเค้าเล่าเองเลยว่า พี่ๆ เค้าฝึกให้ แต่ก่อนผมก็ทำไม่เป็นเหมือนกันครับ
5. ขม : คาดหวังที่พักติดหาดอย่าเลือกที่นี่นะคะ
คือเค้ามีหาดก็จริง แต่ไม่ติดค่ะ โดนคั่นด้วยทะเลและคลอง ถ้าอยากไปเดินถ่ายรูปสวยๆ บนหาด ต้องออกแรงพายเรือคายักข้ามฝั่งไปเล็กน้อย หรือจะพายเลยเรื่อยเข้าไปในคลองก็ได้ บรรยากาศชิลดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเราไร้ประสบการณ์หรือว่าอะไรนะคะ คือคิดว่ามันจะชิล แต่มันแอบเมื่อยมิใช่น้อย เอาเป็นว่าถ้าใครคิดจะแบบใส่บิกินี่เดินสวยๆ จากห้องพักถึงหาดในสภาพตัวแห้งนั้น ที่นี่เป็นไปไม่ได้ค่ะ ต้องออกแรงนิด หรือจะลุยเปียกๆ ไปก็ได้ แต่ก็ไม่ยักเห็นใครเค้าทำนะคะ ส่วนใหญ่ก็พายเรือกันไปทั้งนั้น
6. หวาน (หมู) : ที่รักที่สุดของกัปตันฮุค คือ อาหาร
ดูเหมือนเป็นผู้หญิงตะกละชอบกล แต่อาหารที่นี่จัดเต็มจริงๆ ค่ะ ถ้าเลือกซื้อแพ็คเกจมานะคะ อาหารเช้านี่ยังไม่เท่าไหร่ อาหารเที่ยงก็พอได้ค่ะ ชอบตรงซีฟู้ดเป็นซีฟู้ดจริงๆ ไม่วิญญาณ นอกจากนี้ยังมีอาหารว่างตอนบ่ายอีก ไม่ใช่อาหารว่างกุ๊งกิ๊งนะคะ แต่แทบจะแทนมื้อหลักได้เลย วันแรกเป็นขนมไข่เต่าทอดๆ กับก๋วยเตี๋ยวญวน วันที่สองเป็นส้มตำ ลาบ และลอดช่อง แถมอร่อยทุกอย่างเลย
ที่เราเลิฟฟฟฟฟที่สุดคืออาหารเย็นค่ะ เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า โอเค เก็บแพง แต่เต็มที่แบบนี้ เรายอมจ่ายนะ มื้อเย็นจะมีกับข้าวประมาณ 6-7 อย่าง และทุกอย่างเติมได้หมด ทั้งต้มยำกุ้ง หอยเชลล์เผา ปูเผา บาร์บีคิวไม้ยักษ์มาก รวมมิตรทะเลเผาจานใหญ่ มีอะไรอีกจำไม่หมดแล้ว ส่วนอีกวันก็เป็นหมูกระทะค่ะ แล้วก็กับข้าวอีกเพียบเช่นเคย ปู หอยเชลล์ตัวเบ้งๆ ชอบตรงเติมได้แม้จะแทบไม่ได้เติมก็ตาม คือ กินกันจนจะยัดไม่ลงก็ยังไม่หมดเลย แถมยังตบท้ายด้วยผลไม้อีก ซึ่งขอบอกว่าสับปะรดที่นี่หวานอร่อยมากเลยค่ะ ถูกใจ จขกท ที่สุด
7. ขม : ต่อไปถ้าที่พักติดทะเล บรรยากาศดีขนาดนี้ ชั้นจะไม่จองห้องแบบมีสระแล้ว
เป็นบทเรียนแห่งความเจ็บปวดส่วนตัวค่ะ ห้องพักแบบสระจะแพงกว่าธรรมดาประมาณ 2000 มั้ง (ราคาแพ็คเกจต่อคน) ซึ่งสามวันที่เราอยู่ เราไม่ได้ลงสระเลย เอาเท้าจุ่มน้ำนิดนึง เพราะเสียดายอุตส่าห์จ่ายมาแล้ว 555 แต่น้ำเย็นมากเลยไม่อยากเอาตัวลงไป อีกอย่างสระมันก็ไม่ได้ใหญ่อ่ะค่ะ แถมมีกิจกรรมอื่นให้เราทำตลอด ไปดำน้ำบ้าง นั่งอ่านหนังสือบ้าง นอนมองวิวบ้าง สุดท้ายก็ไม่ได้ลงสระเลย แถมเราเดินไปดูห้องด้านที่เป็นฝั่งธรรมดา ห้องก็ดูสวยดี เห็นวิวฝั่งทะเลกับคลองด้วย (แม้ไม่ใช่ด้านอาทิตย์ตก แต่ก็โอเคอยู่) เพราะหน้าบ้านแถบนั้น จะมีศาลาริมน้ำ มีเปลให้นอนเล่นด้วย ดูชิลแบบไม่ต้องมีสระก็ได้ (คือส่วนตัว จขกท เป็นโรคจิตเล็กๆ ชอบเที่ยวพวกพูล วิลล่า เป็นอะไรไม่รู้)
8. หวาน : ถ้าชอบกินแอลกอฮอล์ และคุณโชคดีพอ ขอให้คุณได้พบบาร์เทนเดอร์ชื่อ “โหย” ค่ะ
คือ จขกท ไม่ได้เป็นคอเหล้านะ (สามีชอบลอง 555) คือคืนแรกก็ยังไม่อะไร แต่เห็นตรงบาร์จะครึกครื้นมาก มีเรียงแก้วสูง รินเหล้าจุดไฟกันด้วย นัยว่า happy birthday cocktail ให้ใครซักคน พอคืนที่สองตรงบาร์แทบไม่มีคนเลย (ส่วนใหญ่กลับไปหมดแล้ว) เรากะแฟนเลยไปนั่งตรงบาร์ นั่งคุยกับคุณบาร์เทนเดอร์สุดอาร์ต ได้ความว่าชื่อ โหย ค่ะ จริงๆ มีร้านของตัวเองอยู่กาญจนบุรี ชื่อ red tank เค้าเปิด trip advisor ให้ดู คนรีวิวดีๆ ชมทั้งนั้นเลยว่าค็อกเทลร้านนี้อร่อยมาก เป็น the best cocktail ever เลยทีเดียว เราก็เลยนั่งคุยกับเค้าไปเรื่อย ได้ความว่าเค้าอยู่มาแทบทุกที่บนเกาะกูดแล้วค่ะ แต่ชอบกัปตันฮุคสุด ด้วยความที่มันติดทั้งทะเลและคลอง เงียบ สงบ ตัวเค้าเองเวลามาเกาะกูดก็มานอนเต็นท์ที่กัปตันฮุค ชงเหล้าตามหน้าที่ คือถ้าไม่อยู่ เมนูค็อกเทลที่นี่จะกลายเป็นอีกแบบ แต่ถ้าโหยอยู่ เมนูจะเป็นเมนูส่วนตัวของเค้า คิดเอง ไม่ซ้ำใคร อร่อยด้วยค่ะ 555 โหยเล่าว่า เค้าไปๆ มาๆ กาญจนบุรี กรุงเทพ เกาะกูด แต่ชอบเกาะกูดสุดละ ลูกค้าที่กาญจน์ด่าบ่อยมาก ว่าไปร้านไม่ค่อยเจอร้านเปิดเลย สรุปว่าถ้าไปแล้วเจอโหย ขอแนะนำให้ลองชิมดูนะคะ ส่วนเราลองสั่งแล้วโหยบอก พี่เข้ามาชงเองเลย เดี๋ยวผมสอน เราเลยได้มีค็อกเทลแก้วแรกในชีวิตที่ผสมเอง แถมอร่อยมากด้วยค่ะ เพราะครูดี
ชีวิตแบบโหยบอกเราว่า ความสุขของคนเราจริงๆ มันง่ายนิดเดียว ชอบที่ไหน ก็ไปที่นั่น ชอบทำอะไร ก็ทำอย่างนั้น ถ้าไม่คิดให้มันเยอะวุ่นวายมากความว่าจะได้เงินเท่าไหร่ จะอยู่ได้มั้ย เราว่าชีวิตแบบโหยจะเป็นชีวิตที่มีความสุขมากเชียวค่ะ
9. หวาน : ไมโล หมายักษ์ผู้แสนติสต์
ถ้าไปถึงกัปตันฮุค คุณต้องเห็นเจ้าดำตัวนี้ค่ะ มันเดินโชว์ตัวไปทุกที่ เงียบ ไม่เห่า ไม่ระริกระรี้ ออกแนวนิ่งๆ เฉยๆ แต่เล่นด้วย ลูบได้ ไม่กัด 555 เราจะไม่อะไรกับไมโลมาก แต่เพราะโหยเล่าว่า... พี่รู้ไหม มันไปนอนดูพระอาทิตย์ตกทุกวันเลยนะ พอเย็นมันจะเดินไปที่วิวด้านที่พระอาทิตย์จะตก แล้วพออาทิตย์ตกไปแล้ว มันก็เดินกลับมา
โห หมาอะไรโคตรติสต์ แถมน่าอิจฉาเอามากๆ เลยด้วย (ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด ที่นี่ให้หมาเข้าพักได้นะคะ เพราะเห็นมีคนอุ้มเจ้าตัวเล็กไปด้วยอยู่เหมือนกัน)
10. ขม : ที่บอกไว้ว่า 3 วันกำลังพอดี แต่พออยู่ถึงวันที่ 3 แล้วรู้สึกว่านี่มันน้อยเกินไป
เวลาที่เกาะกูดเดินเร็วเกินไปค่ะ เผลอแป๊บเดียวหมดสามวันต้องกลับแล้ว แถมวันสุดท้ายต้องกลับเรือรอบ 9 โมงเช้าเลย แทบอย่าเรียกว่าวันที่ 3 จะดีกว่า เอาจริงๆ ได้อยู่เต็มๆ แค่วันเดียวเอง ถ้าใครพอมีงบประมาณ พอมีเวลา อยากจะแนะนำให้ชิลอยู่อีกซักวันค่ะ เราว่าน่าจะกำลังดี (แต่คนที่ชอบทำกิจกรรมเยอะๆ อาจจะรู้สึกว่าทำหมดแล้วจนไม่มีอะไรทำก็ได้มั้งคะ แล้วแต่คนนะ เราเป็นพวกชอบชิลแบบเงียบๆ สงบๆ)
โดยรวมแล้วเราชอบที่นี่มาก ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่ๆ และคราวนี้จะเลือกห้องให้ถูกประเภท ฤดูให้ถูกช่วงเวลา แต่ชีวิตเราก็แบบนี้แหละเนอะ หวานๆ ขมๆ ดีบ้าง ร้ายบ้าง ไม่งั้น จะเรียกว่าชีวิตได้ไง จริงมั้ยคะ ^^