[CR][SR] หน้าหนาวเมื่อต้นปีที่ เเม่ฮ่องสอน รีวิวครั้งเเรก ผิดพลาดก็ขออภัยจ้า

นี่เป็นการเดินทางขึ้นเหนือครั้งที่ 3 เเล้ว เเต่ส่วนมากไปเชียงใหม่เที่ยวดอย เที่ยววัด ครั้งนี้เป้นครั้งเเรกที่จะลองมาสัมผัสอากาศหนาวที่เเม่ฮ่องสอน ก่อนเดินทางเราหาข้อมูลจากในพันทิปพอสมควร ทั้งที่พักเเละการเดินทาง ร้านเช่ารถเครื่องระยะทางจากไหนไปไหน  รีววิวต่างๆที่น่าเเวะรายทาง ได้ข้อมูลเยอะมาก เพราะเราถือว่าหาข้อมูลไปก่อน จะได้ประหยัดเวลา มีเวลาเที่ยวมากขึ้นเเละที่สำคัญ การจองอะไรล่วงหน้าส่วนมากจะได้ราคาที่ถูกกว่าไปเดินหาเองเเละได้อาจทำให้บรรยากาศเที่ยวหมดสนุก จุดมุ่งหมายของเราคือ บ้านรักไทยที่พักคือ ลีไวท์รักไทย ซึ่งจองไว้ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน เราเดินทางวันที่ 23 ม.ค 58 ขึ้นรถทัวร์ของสมบัตทัวร์รอบ 3 ทุ่ม ปลายทางคือเชียงใหม่

เช้าวันที่ 24 ม.ค.58 เราเลือกการเดินทางโดยการนั่งรถตู้ของเปรมประชาเชียงใหม่- เเม่ฮ่องสอน
  เราจะขึ้นรอบเเรก 6.30   เเต่พอดีเวลาไม่ทันเพราะมัวเเต่ล้างหน้าเเปรงฟันทำธุระส่วนตัวนานไปหน่อย พอจะมาที่ช่องขายตั๋วปรากฏว่าได้รอบรอบ 8.30 เลย รอบ 7.30 ตามภาพที่ขึ้นสีเทาๆ ไม่มีเที่ยวออกนะจ้ะ ค่าตั๋วรถจาก เชียงใหม่ ถึงในตัวเมืองเเม่ฮ่องสอน 250 บาทจ้ะ

รถตู้วิ่งค่อนข้างสบายๆในช่วงเเรก เเต่พอเริ่มเข้าโค้งเเค่นั้นแหละ โค้งตลอดจนเราต้องนั้งหลับตลอดมองข้างทางไม่ได้เลยค่ะ จะอาเจียน ขอบอกว่าเราเข็ดไปเลยค่ะไม่คิดว่าจะเป็นการเดินทางที่โหดเเบบนี้ ระยะการเดินทางยาวนานมากถึง อ.ปาย ใช้เวลาประมาณ 1.50 ชั่วโมง เเวะเข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง  เเละจากปายวิ่งยาวถีงตัวเมืองเเม่ฮ่องสอนอีกประมาณ 3 ชั่วโมง  รถตู้เข้า บขส. เเม่ฮ่องสอน สรุปเราเเดินทางจากเชียงใหม่ 8.30 ถึง เเเม่ฮ่องสอน 14.00 พอดี   
จากนั้นเราเหมารถสามล้อเครื่อง 60 บาท เพื่อไปร้านเช้ามอเตอร์ไซค์ตรงบ่อน้ำข้างวัดพระธาตุจองคำราคาก็ เกียร์ออโต้ 200/วัน เกียรธรรมดา เวฟ 250 บาท/วัน ส่วนฮอนด้าดรีม 300/วัน ที่ร้านก็จะเเนบแผนที่มา 1 ใบ เพื่อให้เราดูเส้นทาง

เมื่อเราเราได้รถเครื่องและสิ่งเเรกที่มาถึงเเม่ฮ่องสอนต้องเเวะไปไหว่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู๋เมือง คือพระธาตุดอยกองมู  


ต่อด้วยเเวะกินกาแฟที่ร้าน Before Sunset ร้านกาแฟที่ได้ชื่อว่าวิวสวยที่สุดเเล้ว


เเละเราก็เดินทางยาวเลยเพราะเดี่ยวจะค่ำ ระยะทางจาก ตัวเมืองไปถึงบ้านรักไทยประมาณ 40 กว่ากิโลไม่เเน่ใจ พอถึงเราก็เช็คอินที่บ้านรักไทยเลยค่ะ  

ได้บ้านชาโสมอู่หลงบรรยากาศไปถึงอากาศเย็นนิดหน่อย เราก็เอากระเป๋าเก็บเเละออกไปชมบรรยากาศด้านนอกเลยเพราะเย็นมากเเล้ว ประมาณ 4 โมงเย็นเเล้ว

แวะทานอาหารของร้านลีไวท์ ขาหมู่หมั่นโถที่นั่นขึ้นชื่อ เลยสั่งมาชิมซะหน่อย อร่อยมากค่ะทั้งวันพึ่งได้ทานข้าว  เราสามารถเอาคูปองที่พักมาลดค่าอาหารได้ 10% เหนื่อยเดินทางทั้งวัน ทานข้าวเสร็จขอนอนพักสักงีบ ช่วงเย็นประมาณ 1 ทุ่ม เราออกไปตระเวนชมบรรยากาศต่อ



เช้าวันที่25 ม.ค. 58  เช้าๆมาได้ยินเสียงคเดินเเต่เช้าเลย เค้าพากันไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกยามเช้าเราก็รีบเลย อาบน้ำแต่งตัว บรรยากาศเเรกที่ออกมา โอ้ววว สวยมากกเเสงแดด เเล้วก็หมอกเต็มไปหมดเเทบจะมองไม่เห็นอะไร เเลัวมันก็ค่อยๆ จาง ไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำไป








เเวะทานข้าวเช้าที่ร้านอาหารลีไวน็ มื้อนี้ฟรีนะค่ะอาหารเช้า เพราะรวมในราคาที่พักแล้ว
ขอบอกว่าข้ามต้มเห็ดหอมที่ี่นี่อร่อยมาก กินกับชาข้าวหอมเเล้วก็ชาลีไวท์ที่รสชาดหอมมาก

ทานข้าวเช้าเสร็จก็ต่อด้วยกาแฟ เป็นร้านกาแฟที่บรรยากาศดีที่สุดเท่าที่เคยนั่งมา กาแฟเเก้วละ 45 บาท เเต่บรรยากาศนี่เปรียบราคาไม่ได้เลยค่ะ



เเล้วก็กลับที่พัก ก่อนกลับเเวะถ่ายรูปเก็บใบชาซึ่งอุปกรณ์ทางรีสอร์ทมีไว้ให้นักท่องเที่ยวที่มาพักสามารถนำไปถ่ายรูปได้เลยค่ะ


ได้เวลาเดินทางกลับ บ๊ายยยบายลีไวท์รักไทยหมู่บ้านที่เงียบสงบ บรรยากาศดี อาหารอร่อย เเล้วเราจะกลับมาอีกนะค่ะ

ระหว่างทางกลับออกมาเราเเวะเข้าปางอุ๋ง ระยะทางเข้าไปป้ายบอกว่า 9 กิโลเมตร เเต่เรารู้สึกว่าไกลอยุ่พอสมควร ผ่านหมู่บ้านชาวเขาเยอะเเยะเข้าไป
มาถึงปางอุ๋งในยามสายเเล้วหมอกก็ไม่มีให้เห็นเเล้วเเต่อากาศยังเย็นๆอยู่ มาถึงทั้งทีไม่นั่งแพก็จะว่ามาไม่ถึงก็เลยจัดซะเลย คนพายบอกประมาณ 30 นาที 120 บาท ก็จัดไปเลยพี่

  

อากาศเย็นเงียบๆ ดีนั่งไปเรื่อยๆ ก็มีหงษ์ สีขาว สีดำลอยไปลอยมาซึ่งเป็นเอกลักษณของที่นี่
ได้เวลากลับเข้าตัวเมืองเเม่ฮ่องสอนซะทีคืนนี้วันอาทิตย์ที่ 25 ม.ค. 58 เราจะนอนในตัวเมืองเเม่ฮ่องสอนจ้าซึ่งที่พักก็คือ coffee morning guesthouse เราได้จองล่วงหน้าก่อนเเล้วราคาห้องพัก 500/คืน หาง่ายสะดวก เวลาไปไหนมาไหน เเถมข้างล่างเป็นร้านกาแฟ กลิ่นกาแฟหอมขึ้นไปยังชั้นบนที่พักอยู่เลยทีเดียว  



พอเข้าทีพักประมาณบ่ายโมงเราก็เอากระเป็าไปเก็บเเล้วเดินทางไปยังหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวกันเลย ที่บ้านก้วยเสือเฒ่า จากในตัวเมืองไป 15 กม. เห็นเจ้าของที่พักบอก เราก็เดินทางไปโลดตอนเเรกคิดว่าใกล้ๆ ขอขับรถเครื่องไป อ้าวทำไมป้ายบอกทางบอกไปไกลเรื่อยๆ ตอนเเรกบอกเข้าไป 7 กม. ผ่านไปสักพัก ป้ายบอก8 กม. อ้าววว เเต่ได้เข้ามาเเล้วก็ขับไปเรื่อยๆ ถนนก็ถือว่าดีนะระหว่างทางก็เย็นสบายดี เเถมไม่มีรถสวนมาเลยแอบกลัวเล็กน้อยว่ามาถูกทางป่าว ถนนก็จะไม่ทำลายธรรมมชาติ เพราะจะมีเป็นช่วงๆที่เป็นธารน้ำไหลผ่านถนน เค้าก็จะเว้นไว้ไม่ทำสะพานหรือถนน ให้ขับรถฝ่าน้ำไปเลย เเต่ไม่ถึกมากประมาณครึ่งล้อรถมอเอตร์ไซค์ค่ะ

เเละเเล้วเราก็มาถึงก็เดินดูสินค้าของชาวกระเหรี่ยงคอยาว เเล้วก็ปาลูกดอกจากปืนไม้เป็นแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ขอบอกว่าเเรงดันนี่เเรงมาก ถ้าเอาไปยิงสัตว์คิดว่าไม่รอดเเน่ค่ะ



น้องชาวกะเหรี่ยงในภาพหน้าตาน่าักมากเลยถ่ายมาเก็บไว้ซะหน่อย

เสร็จเเล้วเราก็เดินทางกลับเข้าตัวเมืองเเม่ฮ่องสอนเลยค่ะขอพักเอาเเรงสักงีบ เดี่ยวเย็นๆ ไปเดินถนนคนเดินต่อเเละเเวะไหว้พระธาตุจองคำยามค่ำคืนด้วย
  
ใครที่มาที่นี่ต้องมาชมทุกราย พระธาตุสวยมากสีทองคำอร่ามสะท้อนผิวน้ำยามค่ำคืน

เช้าวันจันทร์ที่ 26 ม.ค. 58 เราตื่นได้สายหน่อยวันนี้จุดมุ่งหมายเราคือเดินทางกลับเชียงใหม่ ขอแอบบอกว่าเราเข็ดการเดินทางตอนขามาโดยรถตู้เมื่อวานเลยต้องเปลี่ยนแผนกระทันหันคือไม่นั่งรถตุ้กลับเเละ ขอไปทางลัดดีกว่าต้องควักกระเป๋าเพิ่มขึ้นมา นอกเเผนนิดนึง เราก็เลยนั่งเครื่องบินโดยสายการบินกานแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินเดี่ยวที่มาลงที่สนามบินเเม่ฮ่องสอน ซึ้งราคาก็แอบสูงนิดนึง 1590/ 1 คน ใช้เวลาเดินทาง เเม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ประมาณ 30 นาทีเอง โอ้วววเร็วมาก เเต่เพื่อประยัดเวลาเราจะได้เที่ยวต่อ


ประมาณบ่ายโมงเราถึงเชียงใหม่เข้าทีพักโรงแรมอะไรจำชื่อไม่ได้เเล้ว ราคา 560บาท อยู่ใกล้ๆ กับสนามบินเชียงใหม่ (อ้อ..ที่ต้องกลับเข้ามาเชียงใหม่ เพราะต้องเข้ามาทำธุระให้หลานที่ มก. เลยต้องวกกลับมาเเละตอนเช้าวันอังคารเดินทางกลับ กทม. ด้วยเครื่องเลยต้องมาที่เชียงใหม่  พอไปทำธุระเสร็จก็กลับมาพักสักงีบ ตอนเย็นค่อยออกไปเเว้นนน ความตั้งใจเลยเราเคยมาเชียงใหม่เเล้ว 2 ครั้ง เเละขึ้นดอยสุเทพทุกครั้งเเต่เป็นช่วงกลางวัน เเต่ในครั้งนี้เราตั้งใจจะขึ้นดอยตอนกลางคืน ขับรถเครื่องขึ้นไปประมาณ 1ทุ่ม เเวะไหว้พระครูบาศรีวิชัยก่อนขึ้นทุกครั้ง อากาศเริ่มเย็น ทางลงดอยมีเเต่รถสวนลงมาเพราะได้เวลากลับเเละเริ่มมืดถนนก็มองไม่เห็นทางเเล้วมีเเต่เเสงไฟรถส่องลงมา เริ่มขึ้นไปหูก็เริ่มอื้อ อากาศก็เย็น  เเต่ก็ยังมีรถขับขึ้นไปชมวิวอยู๋ตลอดทาง
  
พอขึ้นมาถึงเเค่นั้นแหละ โอ้ววว...บรรยากาศเงียบมากเห็นวิวเชียงใหม่ทั้งเมืองในมุนที่ยังไม่เคยเห็นเลย ภายในวัดก็เงียบไม่มีคนพลุกพล่าน มีพระเเล้วก็ผู้ที่มาทำวัตรเย็น กำลังนั่งสมาธิอยู๋ เราก็เดินชมเเบบเงียบๆ
บรรยากาศต่างจากกกลาววันสิ้นเชิงเวลาถ่ายรูปไม่ต้องรอคนเดินสวนหน้ากล้องเหมือนช่วงกลางวัน ไหว้พระธาตุเสร็จก็กลับที่พักเพื่อพักผ่อนซะที

สำหรับการเดินทางเเละเที่ยว 2 จังหวัดในระยะเวลา 3 วันนี้ถือว่าเหนื่อยหน่อยเเต่คุ้มค่ามาก ไว้ปีหน้าเก็บเงินมาเที่ยวแบบนี้อีก

เช้าวันอังคารที่ 27 ม.ค.58 เดินทางกลับ กทม. ด้วยสายการบินนกแอร์ โดยการจองโปรไว้ ในราคา 780 บาทรวมภาษีประมาณ 920 บาท เที่ยวเเรกเลย 7.50- 8.40 เพราะต้องไปทำงานต่อ ไม่ต้องพักกันเลยทีเดียว


***พึ่งเคยรีวิวครั้งเเรกหากผิดพลาดประการใด หรือรีวิวไม่สนุกไม่น่าติดตามก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วย จ้า
ชื่อสินค้า:   ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท ณ เมืองสามหมอก จ.แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง Coffee Morning Guesthouse
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่