เมื่อเอ่ยถึง "ปาย" หลายๆคนอาจจะคุ้นหูและรู้ทันทีว่าที่นี่คือ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครหลายคนกล่าวว่าเปรียบเหมือนสวรรค์บนดิน มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายและถ้าคนไหนเป็นนักท่องเที่ยวตัวแม่หรือตัวพ่อ เชื่อเลยว่าไม่มีใครพลาดที่จะไปไปเยือนที่นี่อย่างแน่นอน
เราเองก็เหมือนกับนักเที่ยวอีกหลายคนที่ไม่เคยได้ไปเยือนเลย "ปาย" สารภาพเลยว่า...แค่เคยได้ยินชื่อ (เชยจัง...) เฉียดไปเฉียดมาไปไม่ถึงสักที และเนื่องจากโดยส่วนตัวแล้วเราชอบทะเลมากกว่า....เมื่อมีวันหยุดยาวๆก็ไม่เคยเลยที่จะพลาด วางแผนล่วงหน้า...ปีนี้จะไปที่นั้น ปีหน้าจะไปที่นี่ ในหัวมีแต่ทะเลๆๆๆ แสวงหาที่ๆยังไม่เคยไปเยือนแล้วรอวันว่าง...จากโปรแกรมเที่ยวแต่ทะเลภาคใต้จนเหมือนเสพติดแต่ทะเลและทะเล...อยู่ๆก็พลิกโปรแกรมขึ้นเหนือเอาเสียดื้อๆ เรื่องมีอยู่ว่า...เมื่อหลายปีก่อนได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือน "วังน้ำเขียว" ในช่วงวันหยุดตรุษจีน อากาศเย็นมาก...ขนหัวงี้ตั้งเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่แหละเหตุผลที่ไม่คิดจะเที่ยวภาคเหนือเพราะไม่ถูกกับความเย็นนั่นเอง และที่มาเที่ยวเนี่ย...สารภาพเลยจำใจมา เพราะสมาชิกร่วมทริปโหวต อยากเปลี่ยนสถานที่ น่าแปลก...หลังจากกลับมาจาก "วังน้ำเขียว" ในครั้งนั้น...อะไรดลใจให้คิดอยากไปเยือนบรรยากาศแบบนั้นอีกไม่รู้เบื่อ และเริ่มผุดสถานที่หลายแห่งตามมาเป็นพรวนอยู่ในหัวของเรา จ. เชียงใหม่ คือสถานีต่อไป.....และสถานีต่อไปที่ไหนดี ? แม่ฮ่องสอน...ผุดออกมากจากสมอง อ."ปาย" ที่ที่ทุกคนไม่ควรพลาด....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เขาว่ากันว่าอย่างนั้น....จริง หรือ ? เรากำลังจะไปพิสูจน์) และนี่คือที่มาของกระทู้นี้...เราอยากแบ่งปันให้นักเที่ยวอีกหลายคนที่ยังไม่เคยมาเยือน "ปาย" จะได้ไม่พลาดอย่างที่เราไม่น่าพลาด...นี่พูดเลย !!!!
กำหนดเดินทาง วันที่ 19 - 22 กุมภาพันธ์ 2558 พร้อมเพื่อนร่วมทางอีก 1 คน
18:02:58 เวลา 20.00 น. เดินทางไปขึ้นรถทัวร์ที่ "นครชัยแอร์" จองตั๋วไป-กลับกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ราคา 1,300 กว่านิดๆ
19:02:58 เวลาประมาณ 4.50 น. ถึงสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยเดินออกมาจากสถานีขนส่งอาเขตฯไม่มากนักเพื่อมาซื้อตั๋วขึ้นรถตู้ของ "บริษัทเปรมประชา" เที่ยวแรกเพื่อเดินทางต่อไปยัง อ.ปาย ค่ารถคนละ 150 บาท
เวลาประมาณ 9.00 น. ถึง อ.ปาย มุ่งสู่ที่พักที่เลือกมาแล้วอย่างดี "วิลล่า เดอ ปาย" บ้านพักกระท่อมไม้ไผ่แบบเรียบง่ายมีภูเขาและแม่น้ำปายอยู่เบื้องหน้า ถึงจะเป็นห้องพัดลมแต่เย็นได้ใจ มีม้านั่ง และเปลอยู่หน้าระเบียงกระท่อม แถมมี wifi เอาใจวัยโจ๋ซะด้วย...
http://www.bansansuk.com/hotel/Villa%20de%20Pai%20Guest/
ข้างหน้าบ้านมีสนามหญ้าสำหรับเป็นที่พักผ่อน อ่านหนังสือ ชมวิวแม่น้ำปาย หรือจะนอนอาบแดดตามแต่สะดวก
เข้าที่พักเก็บของ เตรียมตัวสำรวจพื้นที่และวางแผนเที่ยว ออกจากที่พักเดินมาตามถนนคนเดินเรื่อยๆ มองหาร้านเช่ามอเตอร์ไซด์สักคัน ราคาไม่แพงเริ่มที่ 100-250 บาท ต่อวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(มีอยู่หลายร้าน หลายแบบ แล้วแต่จะเลือก) เมื่อได้รถแล้วก็ลุยเลย...แต่ กองทัพต้องเดินด้วยท้องหาอะไรกินก่อนแล้วกัน มื้อเช้าและมื้อกลางวันรสแซ่บๆ แก้อาการเมารถค้างสักหน่อย นึกถึง "ส้มตำหน้าอำเภอ" เอาละแผนที่ไม่ต้องดูให้เสียเวลาใช้ปากแทนถามคนพื้นบ้านแถวนั้นเอาใจดีทุกคนมาถึงร้าน ก็ จัดซะ ส้มต้ำทะเล / ยำผักกูดปลาทับทิม ตามด้วยอาหารสิ้นคิดอีกหนึ่งอย่าง ผัดกระเพาะนั่นเอง และตบท้ายด้วยขนมเบื้องมะพร้าวอ่อนของร้าน เสียดายซื้อมาน้อยไปกินหมดก่อนเลยอดเห็นหน้าตา...แต่อร่อยเว่ออออ ฟันธง !!! (เขาว่าร้านนี้อร่อยนักหนาถ้าไม่ได้มาชิมถือว่ามาไม่ถึง)
พอหนังท้องตึงหนังตาเริ่มจะหย่อน กลับที่พักงีบสักนึด บ่ายแก่ๆ เริ่มออกสำรวจพื้นที่โดยมีพาหนะคือมอเตอร์ไซด์ที่เช่ามา เริ่มจากหาแผนที่และถามทางจากป้าเจ้าของที่พักแกใจดีมากหาแผนที่ให้บอกทางเสร็จสรรพ เรามีเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์จะตกดินเพราะเราจะมองไม่เห็นทางซึ่งจะทำให้ขับรถไม่สะดวก เราไม่คุ้นและชินเส้นทางเพราะส่วนมากทางมีลักษณะโค้งและขึ้นลง ๆ น่าหวาดเสียวและได้ยินมาว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลุดโค้งตายกันเยอะเลยทีเดียว เลยวางแผนไปดูลาดเลาก่อนสักสองสามที่ เริ่มจากที่แรก "วัดน้ำฮู้" ขับรถไปตามแผนที่เขาบอกให้ตรงไปจากที่พักไปเรื่อยๆเลยทางแยก วัดอยู่ซ้ายมือ แต่ดันหลงทางไป "หมู่บ้านสันติชล" แทนซะงั้น
ออกจาก หมู่บ้านขับรถเลยขึ้นไปตามทางเป็นเนินเขา มีจุดชมวิวที่นักเที่ยวมาแล้วต้องไปคือ "หยุนไหล" เสียค่าเข้า คนละ 20 บาท มีน้ำชาต้อนรับฟรี 1 ชุด เติมไม่อั้น มีมุมนั่งพักชมวิวสบายๆให้เลือก
สำรวจพื้นที่พอหอมปากหอมคอ ตกเย็นหาอะไรกินแถว "ถนนคนเดิน" แล้วกลับที่พักเตรียมตัวเที่ยวต่อพรุ่งนี้เช้า
20:02:2015 เริ่มต้นที่ "วัดพระธาตุแม่เย็น"
"บ้านต้นไม้"
อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนกันต่อที่ "โป่งน้ำร้อนท่าปาย"
ต่อด้วย "สะพานประวัติศาสตร์"
ต่อด้วย "กองแลน" หรือที่ฝรั่งเขาเรียกกัน "ปายแคนยอน"
"Love strawberry Pai " แหล่งรวมผลิตภัณฑ์จากสตรอเบอร์รี่ สัมผัสกับบรรยากาศของไร่สตรอเบอร์รี่ปลอดสารพิษ
“Coffee in Love” ร้านกาแฟวิวดี ตั้งอยู่บนยอดดอย
"น้ำตกหมอแปง"
สุดท้ายของวัน แวะชิม "ขาหมูสูตรจีนยูนาน" ที่หมู่บ้านสันติชล ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างกลับที่พัก
21:02:2015 เตรียมตัวแต่เช้า 4.00 น. มุ่งสู่ "ปางอุ๋ง" สวิตเซอร์แลนเมืองไทย ไปถึงปางอุ๋งแต่เช้าอากาศเย็นมาก ควันออกปากกันเลยทีเดียวแต่ก็ประทับใจมิรู้ลืม มิน่าใครๆก็อยากไปสัมผัส
แวะเติมพลังมื้อเช้าแบบเบาๆ ที่ "ลีไวท์รักษ์ไทย" แถมบริการเสริฟชาฟรีคนละ 1 ชุด
มุ่งหน้าสู่ "พระตำหนักปางตอง" โครงการพระราชดำริ เพื่อเยี่ยมชมแกะน้อยในฟาร์ม
"สะพานซูตองเป้" สะพานไม้ไผ่แห่งศรัทรา ณ เมืองสามหมอก ช่วงที่ไปนั้นไม่ใช่ฤดูทำนา จึงเป็นการปลูกผักทดแทนการทำนาข้าวอย่างที่เห็น
"หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว"
กระเหรี่ยงคอยาวตัวน้อยเห็นกล้องปุ๊บ แชะ !!!!
ชาวกระเหรี่ยงกำลังนั่งทอผ้า และต้อนรับผู้มาเยือนอย่างยิ้มแย้ม
สาวกระเหรี่ยงนางนี้เธอหน้าตาดีผิดจากกระเหรี่ยงทั่วไป เธอดูมีความรู้ และพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ ไม่น่าจะเป็นกระเหรี่ยงธรรมดา แต่นางก็อยู่ที่นี้ นางนั่งขายผ้า และ แป้งเครื่องหอม ของฝาก และเชื้อเชิญผู้มาเยี่ยมเยือนเป็นอย่างดี จนอดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไปซักถามพูดคุยกับนาง และถ่ายรูปคู่เป็นที่ละลึกสักใบ
หลังจากออกมาจากหมู่บ้านกะเหรี่ยงแล้วแวะกินอาหารข้างทางมื้อที่ถูกที่สุดตั้งแต่มา จ.แม่ฮ่องสอน ในราคา จาน/ชาม ละ 30 บาท มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ข้าวหมูกรอบ อิ่มแล้วมู่งหน้าสู่
"พระธาตุดอยกองมู"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(รูปติดไว้ก่อน หาไฟล์ไม่เจอ ขออภัย)
" ดอยกิ่วลม"
จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาว ช่วงที่ไปบริเวณนั้นกำลังทำการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ และเป็นเวลาเย็นมากแล้วเลยไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ เป็นจุดสุดท้ายของวัน ก่อนที่จะเดินทางกลับที่พัก
แบกเป้หนีกรุงฯ มุ่งสู่ "ปาย" @ แม่ฮ่องสอน
เราเองก็เหมือนกับนักเที่ยวอีกหลายคนที่ไม่เคยได้ไปเยือนเลย "ปาย" สารภาพเลยว่า...แค่เคยได้ยินชื่อ (เชยจัง...) เฉียดไปเฉียดมาไปไม่ถึงสักที และเนื่องจากโดยส่วนตัวแล้วเราชอบทะเลมากกว่า....เมื่อมีวันหยุดยาวๆก็ไม่เคยเลยที่จะพลาด วางแผนล่วงหน้า...ปีนี้จะไปที่นั้น ปีหน้าจะไปที่นี่ ในหัวมีแต่ทะเลๆๆๆ แสวงหาที่ๆยังไม่เคยไปเยือนแล้วรอวันว่าง...จากโปรแกรมเที่ยวแต่ทะเลภาคใต้จนเหมือนเสพติดแต่ทะเลและทะเล...อยู่ๆก็พลิกโปรแกรมขึ้นเหนือเอาเสียดื้อๆ เรื่องมีอยู่ว่า...เมื่อหลายปีก่อนได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือน "วังน้ำเขียว" ในช่วงวันหยุดตรุษจีน อากาศเย็นมาก...ขนหัวงี้ตั้งเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ น่าแปลก...หลังจากกลับมาจาก "วังน้ำเขียว" ในครั้งนั้น...อะไรดลใจให้คิดอยากไปเยือนบรรยากาศแบบนั้นอีกไม่รู้เบื่อ และเริ่มผุดสถานที่หลายแห่งตามมาเป็นพรวนอยู่ในหัวของเรา จ. เชียงใหม่ คือสถานีต่อไป.....และสถานีต่อไปที่ไหนดี ? แม่ฮ่องสอน...ผุดออกมากจากสมอง อ."ปาย" ที่ที่ทุกคนไม่ควรพลาด.... [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และนี่คือที่มาของกระทู้นี้...เราอยากแบ่งปันให้นักเที่ยวอีกหลายคนที่ยังไม่เคยมาเยือน "ปาย" จะได้ไม่พลาดอย่างที่เราไม่น่าพลาด...นี่พูดเลย !!!!
กำหนดเดินทาง วันที่ 19 - 22 กุมภาพันธ์ 2558 พร้อมเพื่อนร่วมทางอีก 1 คน
18:02:58 เวลา 20.00 น. เดินทางไปขึ้นรถทัวร์ที่ "นครชัยแอร์" จองตั๋วไป-กลับกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ราคา 1,300 กว่านิดๆ
19:02:58 เวลาประมาณ 4.50 น. ถึงสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยเดินออกมาจากสถานีขนส่งอาเขตฯไม่มากนักเพื่อมาซื้อตั๋วขึ้นรถตู้ของ "บริษัทเปรมประชา" เที่ยวแรกเพื่อเดินทางต่อไปยัง อ.ปาย ค่ารถคนละ 150 บาท
เวลาประมาณ 9.00 น. ถึง อ.ปาย มุ่งสู่ที่พักที่เลือกมาแล้วอย่างดี "วิลล่า เดอ ปาย" บ้านพักกระท่อมไม้ไผ่แบบเรียบง่ายมีภูเขาและแม่น้ำปายอยู่เบื้องหน้า ถึงจะเป็นห้องพัดลมแต่เย็นได้ใจ มีม้านั่ง และเปลอยู่หน้าระเบียงกระท่อม แถมมี wifi เอาใจวัยโจ๋ซะด้วย... http://www.bansansuk.com/hotel/Villa%20de%20Pai%20Guest/
ข้างหน้าบ้านมีสนามหญ้าสำหรับเป็นที่พักผ่อน อ่านหนังสือ ชมวิวแม่น้ำปาย หรือจะนอนอาบแดดตามแต่สะดวก
เข้าที่พักเก็บของ เตรียมตัวสำรวจพื้นที่และวางแผนเที่ยว ออกจากที่พักเดินมาตามถนนคนเดินเรื่อยๆ มองหาร้านเช่ามอเตอร์ไซด์สักคัน ราคาไม่แพงเริ่มที่ 100-250 บาท ต่อวัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เมื่อได้รถแล้วก็ลุยเลย...แต่ กองทัพต้องเดินด้วยท้องหาอะไรกินก่อนแล้วกัน มื้อเช้าและมื้อกลางวันรสแซ่บๆ แก้อาการเมารถค้างสักหน่อย นึกถึง "ส้มตำหน้าอำเภอ" เอาละแผนที่ไม่ต้องดูให้เสียเวลาใช้ปากแทนถามคนพื้นบ้านแถวนั้นเอาใจดีทุกคนมาถึงร้าน ก็ จัดซะ ส้มต้ำทะเล / ยำผักกูดปลาทับทิม ตามด้วยอาหารสิ้นคิดอีกหนึ่งอย่าง ผัดกระเพาะนั่นเอง และตบท้ายด้วยขนมเบื้องมะพร้าวอ่อนของร้าน เสียดายซื้อมาน้อยไปกินหมดก่อนเลยอดเห็นหน้าตา...แต่อร่อยเว่ออออ ฟันธง !!! (เขาว่าร้านนี้อร่อยนักหนาถ้าไม่ได้มาชิมถือว่ามาไม่ถึง)
พอหนังท้องตึงหนังตาเริ่มจะหย่อน กลับที่พักงีบสักนึด บ่ายแก่ๆ เริ่มออกสำรวจพื้นที่โดยมีพาหนะคือมอเตอร์ไซด์ที่เช่ามา เริ่มจากหาแผนที่และถามทางจากป้าเจ้าของที่พักแกใจดีมากหาแผนที่ให้บอกทางเสร็จสรรพ เรามีเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์จะตกดินเพราะเราจะมองไม่เห็นทางซึ่งจะทำให้ขับรถไม่สะดวก เราไม่คุ้นและชินเส้นทางเพราะส่วนมากทางมีลักษณะโค้งและขึ้นลง ๆ น่าหวาดเสียวและได้ยินมาว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลุดโค้งตายกันเยอะเลยทีเดียว เลยวางแผนไปดูลาดเลาก่อนสักสองสามที่ เริ่มจากที่แรก "วัดน้ำฮู้" ขับรถไปตามแผนที่เขาบอกให้ตรงไปจากที่พักไปเรื่อยๆเลยทางแยก วัดอยู่ซ้ายมือ แต่ดันหลงทางไป "หมู่บ้านสันติชล" แทนซะงั้น
ออกจาก หมู่บ้านขับรถเลยขึ้นไปตามทางเป็นเนินเขา มีจุดชมวิวที่นักเที่ยวมาแล้วต้องไปคือ "หยุนไหล" เสียค่าเข้า คนละ 20 บาท มีน้ำชาต้อนรับฟรี 1 ชุด เติมไม่อั้น มีมุมนั่งพักชมวิวสบายๆให้เลือก
สำรวจพื้นที่พอหอมปากหอมคอ ตกเย็นหาอะไรกินแถว "ถนนคนเดิน" แล้วกลับที่พักเตรียมตัวเที่ยวต่อพรุ่งนี้เช้า
20:02:2015 เริ่มต้นที่ "วัดพระธาตุแม่เย็น"
"บ้านต้นไม้"
อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนกันต่อที่ "โป่งน้ำร้อนท่าปาย"
ต่อด้วย "สะพานประวัติศาสตร์"
ต่อด้วย "กองแลน" หรือที่ฝรั่งเขาเรียกกัน "ปายแคนยอน"
"Love strawberry Pai " แหล่งรวมผลิตภัณฑ์จากสตรอเบอร์รี่ สัมผัสกับบรรยากาศของไร่สตรอเบอร์รี่ปลอดสารพิษ
“Coffee in Love” ร้านกาแฟวิวดี ตั้งอยู่บนยอดดอย
"น้ำตกหมอแปง"
สุดท้ายของวัน แวะชิม "ขาหมูสูตรจีนยูนาน" ที่หมู่บ้านสันติชล ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างกลับที่พัก
21:02:2015 เตรียมตัวแต่เช้า 4.00 น. มุ่งสู่ "ปางอุ๋ง" สวิตเซอร์แลนเมืองไทย ไปถึงปางอุ๋งแต่เช้าอากาศเย็นมาก ควันออกปากกันเลยทีเดียวแต่ก็ประทับใจมิรู้ลืม มิน่าใครๆก็อยากไปสัมผัส
แวะเติมพลังมื้อเช้าแบบเบาๆ ที่ "ลีไวท์รักษ์ไทย" แถมบริการเสริฟชาฟรีคนละ 1 ชุด
มุ่งหน้าสู่ "พระตำหนักปางตอง" โครงการพระราชดำริ เพื่อเยี่ยมชมแกะน้อยในฟาร์ม
"สะพานซูตองเป้" สะพานไม้ไผ่แห่งศรัทรา ณ เมืองสามหมอก ช่วงที่ไปนั้นไม่ใช่ฤดูทำนา จึงเป็นการปลูกผักทดแทนการทำนาข้าวอย่างที่เห็น
"หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว"
กระเหรี่ยงคอยาวตัวน้อยเห็นกล้องปุ๊บ แชะ !!!!
ชาวกระเหรี่ยงกำลังนั่งทอผ้า และต้อนรับผู้มาเยือนอย่างยิ้มแย้ม
สาวกระเหรี่ยงนางนี้เธอหน้าตาดีผิดจากกระเหรี่ยงทั่วไป เธอดูมีความรู้ และพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ ไม่น่าจะเป็นกระเหรี่ยงธรรมดา แต่นางก็อยู่ที่นี้ นางนั่งขายผ้า และ แป้งเครื่องหอม ของฝาก และเชื้อเชิญผู้มาเยี่ยมเยือนเป็นอย่างดี จนอดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไปซักถามพูดคุยกับนาง และถ่ายรูปคู่เป็นที่ละลึกสักใบ
หลังจากออกมาจากหมู่บ้านกะเหรี่ยงแล้วแวะกินอาหารข้างทางมื้อที่ถูกที่สุดตั้งแต่มา จ.แม่ฮ่องสอน ในราคา จาน/ชาม ละ 30 บาท มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ข้าวหมูกรอบ อิ่มแล้วมู่งหน้าสู่
"พระธาตุดอยกองมู" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
" ดอยกิ่วลม"
จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาว ช่วงที่ไปบริเวณนั้นกำลังทำการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ และเป็นเวลาเย็นมากแล้วเลยไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ เป็นจุดสุดท้ายของวัน ก่อนที่จะเดินทางกลับที่พัก