สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
อะแฮ่ม....
MacBook 12" : intel Dual Core M, 256GB SSD, 8GB memory and an intel HD 5300.
Asus UX305 : Intel Dual Core M, 256GB SSD, 8GB memory and an intel HD 5300.
Zen QHD > -
Zen Full HD > $699
Mac > $1299
Zen QHD > $1,190 จะเป็น Zen UX303LN
Spec ตาม 28-2 ครับ
OKGGWP กำบาย
=====================
แก้ไขราคา
ณ จุดนี้คือ อยากจะบอกรูปที่เอามาเทียบนี่ด้วยเหตุต้องการจะบอกว่า
"เธอนั้นไม่ได้เป็นกระบี่มือ 1 ที่มีวิทยายุทธเลิศล้ำเหนือคนอื่นอย่างที่ตัวเธอคิด"
เพราะทุกครั้งที่มีอะไรของฝั่งนี้ออกมาใหม่ มักจะมีพวกแนว
"โอ้วววววววว นี่มันยอด นวัตกรรมปฏิวัติโลก"
ทั้งๆที่ก็เห็นๆกันอยู่......
GGWP อีกครั้ง
MacBook 12" : intel Dual Core M, 256GB SSD, 8GB memory and an intel HD 5300.
Asus UX305 : Intel Dual Core M, 256GB SSD, 8GB memory and an intel HD 5300.
Zen QHD > -
Zen Full HD > $699
Mac > $1299
Zen QHD > $1,190 จะเป็น Zen UX303LN
Spec ตาม 28-2 ครับ
OKGGWP กำบาย
=====================
แก้ไขราคา
ณ จุดนี้คือ อยากจะบอกรูปที่เอามาเทียบนี่ด้วยเหตุต้องการจะบอกว่า
"เธอนั้นไม่ได้เป็นกระบี่มือ 1 ที่มีวิทยายุทธเลิศล้ำเหนือคนอื่นอย่างที่ตัวเธอคิด"
เพราะทุกครั้งที่มีอะไรของฝั่งนี้ออกมาใหม่ มักจะมีพวกแนว
"โอ้วววววววว นี่มันยอด นวัตกรรมปฏิวัติโลก"
ทั้งๆที่ก็เห็นๆกันอยู่......
GGWP อีกครั้ง
ความคิดเห็นที่ 1
pc computer แซงไปนานแล้วครับ
apple มีดีที่ OS ที่เสถียรแค่นั้นแหละ
ถ้าเทียบราคาแล้ว pc นำไปไกลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลมาก มาก มาก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลยครับ
และ เล็กกว่าไม่ได้แปลว่าดีกว่าครับ
ที่เห็น อัดแรม และ cpu ใส่ลงไปเลย ข้อเสีย คือถ้า os ไม่สมบูรณ์จริงๆ แก้ลำบาก
และถ้าชิ้นส่วนเสีย นิดนึง คงเปลี่ยนทั้ง แผงอ่ะครับ
apple มีดีที่ OS ที่เสถียรแค่นั้นแหละ
ถ้าเทียบราคาแล้ว pc นำไปไกลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลมาก มาก มาก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลยครับ
และ เล็กกว่าไม่ได้แปลว่าดีกว่าครับ
ที่เห็น อัดแรม และ cpu ใส่ลงไปเลย ข้อเสีย คือถ้า os ไม่สมบูรณ์จริงๆ แก้ลำบาก
และถ้าชิ้นส่วนเสีย นิดนึง คงเปลี่ยนทั้ง แผงอ่ะครับ
ความคิดเห็นที่ 16
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปยังไงให้มันเล็กลงยังไง สุดท้ายมันก็ย่อมมีข้อจำกัดของมันเอง ดังนี้
1.พื้นที่ความจุอาจน้อยลง (ถึงจะมีคลาวด์ไว้เก็บ แต่ถ้าอินเตอร์เน็ตมีปัญหาคุณก็เข้าใช้งานไม่ได้อยู่ดี
2.เทคโนโลยีกราฟฟิกแน่นอน ทั้งการเล่นเกมส์ การเขียนแบบ CAD3D ไหนจะตัดต่อวีดีโอ ทำอนิเมชั่น Mac เครื่องเล็กๆอย่างข้างบน ทำงานไม่ได้แน่นอน ยิ่งถ้าไม่มีพวกคลาวด์โปรแกรมก็จบเห่
3.เครื่องเล็กๆเป็นการประหยัดพื้นที่ดี แต่ถ้าไม่คลาวด์ก็จบเห่ เหมือนกันเพราะทำอะไรไม่ได้มาก อย่างในรูปเจ้าของกระทู้ ถ้าอยากจะเอามาใช้งานมากกว่านั้น ก็ต้องพึ่งพาพวกบริการ Application on Cloud อยู่ดี หรือถ้าเป็นในระดับองค์กรก็ใช้เป็น VMware Horizon ถึงจะสามารถทำได้
4.Server ที่ทำหน้าที่คลาวด์ มันก็ยังต้องมีขนาดใหญ่อยู่ดี เพราะมันออกแบบมาเพื่อให้มันต้องรองรับปริมาณการใช้งานที่มีผู้ใช้จำนวนมาก แน่นอนครับแม็คแบบรูปข้างบน ถ้าไม่มี server ที่ว่าก็ไม่ต่างอะไรกับกล่องธรรมดาๆ
5.ฝั่ง PC นะเค้าทำได้ตั้งนานแล้วครับ อย่างที่หลายๆคนบอกมา ของพีซีจะเป็นพวก Thin Client อย่างของ Dell Wyse หรือ PCoIP ซึ่งเรียกได้เลยว่าเป็นแค่คอมขนาดเล็กเท่ากับ pico board นั่นแหละ แล้วก็ลงเพียง OS กับพวกโปรแกรมรีโมต เอาไว้รีโมตเข้าไปเรียกใช้ทรัพยากรผ่านพวก VMware Horizon , Citrix XenApp , Microsoft Desktop Optimization , Diskless หรือ Zero Client ก็ตามแต่ บูตคอมผ่านแลนโดยที่ไม่ต้องลงอะไรเลย แค่มี OS เล็กๆ
ซึ่งพวกนี้บอกได้เลยครับว่า มีมาหลายปีแล้วครับ ก่อนที่เจ้าของกระทู้จะเอารูปมาลงซะอีกครับ
แต่เทคโนโลยีพวกนี้แน่นอนว่าย่อมต้องลงทุนสูงอยู่แล้วครับถึงจะทำได้ และผมก็มันใจเลยว่าแม็คที่เป็นบอร์ดเล็กๆเองก็หนีไม่พ้นต้องพึ่งพาพวกบริการคลาวด์อย่างเดียว เพราะไม่งั้นก็เป็นแค่กล่องตั้งโชว์อย่างเดียว ทุกอย่างมันย่อมข้อจำกัด และ ข้อเสียของมันเองที่อาจแตกต่างกันไป
เรื่องพวกนี้ผมว่าเราไม่ควรจะเอามาถกเทียบกันแล้วครับว่า PC หรือ Mac ใครจะทำได้เล็กกว่า หรือว่ามันจะมาแทนที่อะไรได้ ผมบอกได้เลยว่า มันแทนที่กันไม่ได้ครับ ทุกอย่างมันเป็นจิ๊กซอว์ ของเทคโนโลยีเท่านั้น ไม่สามารถจะทดแทนอะไรใครได้
ลองคิดดูสิครับ เครื่องเล็กๆแบบนั้น จะไปทำงานอย่างพวก Photoshop , AutoCAD หรือทำอนิเมชั่น 3D ผ่านพวก Maya ไหวรึเปล่าเถอะ กว่าจะเรนเดอร์งานเสร็จได้ จะสู้พวก ระดับ Desktop หรือ Workstation ที่ใช้พวกการประมวลผลผ่านพวกการ์ดจอ Quadro หรือ Firepro จะเสร็จทันงานรึเปล่าละ ไหนจะตัดต่อวีดีโอเอ็ฟเฟ็คต์ต่างๆ เครื่องเล็กๆแบบนั้นถ้าความจุฮาร์ดดิสก์มีไม่ถึงระดับ TB ก็จอดสนิทครับ เอามาใช้งานก็ไม่ได้สักนิด ต่อให้มีคลาวด์ก็เถอะ แล้วอินเตอร์เน็ตอีกละ ค่าอัพโหลดของ ADSL ใครๆก็รู้ดีว่ามันน้อย ไหนจะต้องมาแชร์กับสาธารณะอีก ถ้าไม่ได้ใช้พวก MPLS หรือ LeaseLine ที่ราคาหากยิ่ง Mbps สูงๆก็ยิ่งแพง ดีไม่ดีหากต้องการให้งานเรนเดอร์ผ่านคลาวด์เสร็จเร็วๆต้องมาเช่า MPLS 100/100 Mbps แบบเนี่ย ซึ่งราคาคงตกอยู่ประมาณน่าจะหลักล้านบาทแล้ว แถมถ้ามีปัญหา การเรนเดอร์ผ่านคลาวด์ก็คงจบเห่ คงสู้เรนเดอร์แบบพวกเครื่อง Workstation Desktop ที่เคสใหญ่ๆไม่ได้หรอกครับ ไม่ทันกินกันพอดี
ลืมบอกไปครับว่า บอร์ดขนาดเล็กๆแบบนี้เห็นมีในพวกแท็บเล็ตต่างๆทั้งของ แอนดรอยด์ , iPad , Surface ก็มีเหมือนกัน ไม่ได้แตกต่างอะไร เห็นบางคนก็เคยๆมีบอกอยู่ว่าจะมาทดแทน PC , Desktop อะไรได้ แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ทดแทนไม่ได้อยู่ดี เพราะงานหลายๆอย่าง มันไม่ใช่ว่าจะเก็บได้ทั้งหมด งานบางอย่างต้องใช้ทรัพยากรเครื่องในการประมวลผลสูงด้วย ดังนั้นต่อให้อะไรที่ออกมาใหม่ๆ แล้วบอกว่าเล็กๆนั้นโน่นนี่นะ มันก็ทำได้แค่เป็นจิ๊กซอว์ของเทคโนโลยีแค่นั้นครับ กระทั่งแท็บเล็ต ก็ยังไม่สามารถตีตลาด PC หรือ Mac ที่เป็นระดับ Desktop หรือ Workstation ที่มีขนาดใหญ่เทอะทะก็ยังตีไม่ได้ เพราะของพวกนี้มันไม่ได้ออกแบมาเพื่อตีตลาด Desktop กันนะครับ ต้องเข้าใจกันใหม่ด้วย แม้แต่ SmartPhone ก็เช่นกัน ยังตีตลาดไม่ได้ Desktop แบบ All In One เองที่เอาทุกอย่างไปอยู่ในจอ นั่นก็แค่เพื่อการใช้งานแบบพื้นที่น้อยๆเท่านั้น ไม่สามรรถเอามาทำงานใหญ่ๆ การประมวลผลหนักๆสูงๆ ก็ไปไม่รอดหรอกครับ
ปล ทุกท่านสามารถนำสิ่งที่ผมพิมพ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ ศัพท์ที่ท่านไม่เคยรู้จัก หรือ ไม่เคยได้ยินมาก่อนลองค้นหาดูง่ายๆ ไปนั้นค้นหาใน Google ดูได้ครับ แล้วทุกท่านจะได้เข้าใจว่า ทำไมเทคโนโลยีต่างๆบางอย่างมันถึงทดแทนกันไม่ได้ แต่มันสามารถใช้ร่วมกันได้ครับ
ปล2 ต่อให้คุณซื้อ Mac มาก็ตาม คุณก็ต้องใช้ทั้ง hardware และ software Mac ด้วยนะครับ อย่าให้ใครรู้เชียวว่า
คุณซื้อ ฮาร์ดแวร์ Mac แต่กลับเอามาลง Windows มันจะเสียเชิง เสียเกรด เสียความเป็น Mac ไปจนหมดอีก
1.พื้นที่ความจุอาจน้อยลง (ถึงจะมีคลาวด์ไว้เก็บ แต่ถ้าอินเตอร์เน็ตมีปัญหาคุณก็เข้าใช้งานไม่ได้อยู่ดี
2.เทคโนโลยีกราฟฟิกแน่นอน ทั้งการเล่นเกมส์ การเขียนแบบ CAD3D ไหนจะตัดต่อวีดีโอ ทำอนิเมชั่น Mac เครื่องเล็กๆอย่างข้างบน ทำงานไม่ได้แน่นอน ยิ่งถ้าไม่มีพวกคลาวด์โปรแกรมก็จบเห่
3.เครื่องเล็กๆเป็นการประหยัดพื้นที่ดี แต่ถ้าไม่คลาวด์ก็จบเห่ เหมือนกันเพราะทำอะไรไม่ได้มาก อย่างในรูปเจ้าของกระทู้ ถ้าอยากจะเอามาใช้งานมากกว่านั้น ก็ต้องพึ่งพาพวกบริการ Application on Cloud อยู่ดี หรือถ้าเป็นในระดับองค์กรก็ใช้เป็น VMware Horizon ถึงจะสามารถทำได้
4.Server ที่ทำหน้าที่คลาวด์ มันก็ยังต้องมีขนาดใหญ่อยู่ดี เพราะมันออกแบบมาเพื่อให้มันต้องรองรับปริมาณการใช้งานที่มีผู้ใช้จำนวนมาก แน่นอนครับแม็คแบบรูปข้างบน ถ้าไม่มี server ที่ว่าก็ไม่ต่างอะไรกับกล่องธรรมดาๆ
5.ฝั่ง PC นะเค้าทำได้ตั้งนานแล้วครับ อย่างที่หลายๆคนบอกมา ของพีซีจะเป็นพวก Thin Client อย่างของ Dell Wyse หรือ PCoIP ซึ่งเรียกได้เลยว่าเป็นแค่คอมขนาดเล็กเท่ากับ pico board นั่นแหละ แล้วก็ลงเพียง OS กับพวกโปรแกรมรีโมต เอาไว้รีโมตเข้าไปเรียกใช้ทรัพยากรผ่านพวก VMware Horizon , Citrix XenApp , Microsoft Desktop Optimization , Diskless หรือ Zero Client ก็ตามแต่ บูตคอมผ่านแลนโดยที่ไม่ต้องลงอะไรเลย แค่มี OS เล็กๆ
ซึ่งพวกนี้บอกได้เลยครับว่า มีมาหลายปีแล้วครับ ก่อนที่เจ้าของกระทู้จะเอารูปมาลงซะอีกครับ
แต่เทคโนโลยีพวกนี้แน่นอนว่าย่อมต้องลงทุนสูงอยู่แล้วครับถึงจะทำได้ และผมก็มันใจเลยว่าแม็คที่เป็นบอร์ดเล็กๆเองก็หนีไม่พ้นต้องพึ่งพาพวกบริการคลาวด์อย่างเดียว เพราะไม่งั้นก็เป็นแค่กล่องตั้งโชว์อย่างเดียว ทุกอย่างมันย่อมข้อจำกัด และ ข้อเสียของมันเองที่อาจแตกต่างกันไป
เรื่องพวกนี้ผมว่าเราไม่ควรจะเอามาถกเทียบกันแล้วครับว่า PC หรือ Mac ใครจะทำได้เล็กกว่า หรือว่ามันจะมาแทนที่อะไรได้ ผมบอกได้เลยว่า มันแทนที่กันไม่ได้ครับ ทุกอย่างมันเป็นจิ๊กซอว์ ของเทคโนโลยีเท่านั้น ไม่สามารถจะทดแทนอะไรใครได้
ลองคิดดูสิครับ เครื่องเล็กๆแบบนั้น จะไปทำงานอย่างพวก Photoshop , AutoCAD หรือทำอนิเมชั่น 3D ผ่านพวก Maya ไหวรึเปล่าเถอะ กว่าจะเรนเดอร์งานเสร็จได้ จะสู้พวก ระดับ Desktop หรือ Workstation ที่ใช้พวกการประมวลผลผ่านพวกการ์ดจอ Quadro หรือ Firepro จะเสร็จทันงานรึเปล่าละ ไหนจะตัดต่อวีดีโอเอ็ฟเฟ็คต์ต่างๆ เครื่องเล็กๆแบบนั้นถ้าความจุฮาร์ดดิสก์มีไม่ถึงระดับ TB ก็จอดสนิทครับ เอามาใช้งานก็ไม่ได้สักนิด ต่อให้มีคลาวด์ก็เถอะ แล้วอินเตอร์เน็ตอีกละ ค่าอัพโหลดของ ADSL ใครๆก็รู้ดีว่ามันน้อย ไหนจะต้องมาแชร์กับสาธารณะอีก ถ้าไม่ได้ใช้พวก MPLS หรือ LeaseLine ที่ราคาหากยิ่ง Mbps สูงๆก็ยิ่งแพง ดีไม่ดีหากต้องการให้งานเรนเดอร์ผ่านคลาวด์เสร็จเร็วๆต้องมาเช่า MPLS 100/100 Mbps แบบเนี่ย ซึ่งราคาคงตกอยู่ประมาณน่าจะหลักล้านบาทแล้ว แถมถ้ามีปัญหา การเรนเดอร์ผ่านคลาวด์ก็คงจบเห่ คงสู้เรนเดอร์แบบพวกเครื่อง Workstation Desktop ที่เคสใหญ่ๆไม่ได้หรอกครับ ไม่ทันกินกันพอดี
ลืมบอกไปครับว่า บอร์ดขนาดเล็กๆแบบนี้เห็นมีในพวกแท็บเล็ตต่างๆทั้งของ แอนดรอยด์ , iPad , Surface ก็มีเหมือนกัน ไม่ได้แตกต่างอะไร เห็นบางคนก็เคยๆมีบอกอยู่ว่าจะมาทดแทน PC , Desktop อะไรได้ แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ทดแทนไม่ได้อยู่ดี เพราะงานหลายๆอย่าง มันไม่ใช่ว่าจะเก็บได้ทั้งหมด งานบางอย่างต้องใช้ทรัพยากรเครื่องในการประมวลผลสูงด้วย ดังนั้นต่อให้อะไรที่ออกมาใหม่ๆ แล้วบอกว่าเล็กๆนั้นโน่นนี่นะ มันก็ทำได้แค่เป็นจิ๊กซอว์ของเทคโนโลยีแค่นั้นครับ กระทั่งแท็บเล็ต ก็ยังไม่สามารถตีตลาด PC หรือ Mac ที่เป็นระดับ Desktop หรือ Workstation ที่มีขนาดใหญ่เทอะทะก็ยังตีไม่ได้ เพราะของพวกนี้มันไม่ได้ออกแบมาเพื่อตีตลาด Desktop กันนะครับ ต้องเข้าใจกันใหม่ด้วย แม้แต่ SmartPhone ก็เช่นกัน ยังตีตลาดไม่ได้ Desktop แบบ All In One เองที่เอาทุกอย่างไปอยู่ในจอ นั่นก็แค่เพื่อการใช้งานแบบพื้นที่น้อยๆเท่านั้น ไม่สามรรถเอามาทำงานใหญ่ๆ การประมวลผลหนักๆสูงๆ ก็ไปไม่รอดหรอกครับ
ปล ทุกท่านสามารถนำสิ่งที่ผมพิมพ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ ศัพท์ที่ท่านไม่เคยรู้จัก หรือ ไม่เคยได้ยินมาก่อนลองค้นหาดูง่ายๆ ไปนั้นค้นหาใน Google ดูได้ครับ แล้วทุกท่านจะได้เข้าใจว่า ทำไมเทคโนโลยีต่างๆบางอย่างมันถึงทดแทนกันไม่ได้ แต่มันสามารถใช้ร่วมกันได้ครับ
ปล2 ต่อให้คุณซื้อ Mac มาก็ตาม คุณก็ต้องใช้ทั้ง hardware และ software Mac ด้วยนะครับ อย่าให้ใครรู้เชียวว่า
คุณซื้อ ฮาร์ดแวร์ Mac แต่กลับเอามาลง Windows มันจะเสียเชิง เสียเกรด เสียความเป็น Mac ไปจนหมดอีก
แสดงความคิดเห็น
ไม่น่าเชื่อว่าเทคโนโลยีเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ จะก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว
จากอดีดที่ใหญ่โตเทอะทะ ประกอบยาก
วันนี้ apple computer จะสามารถทำได้ขนาดนี้แล้ว
แล้วฝั่ง pc computer ละครับ จะก้าวตามทัน apple เมื่อไหร่ละ
อนาคตการ์ดจอ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่มแล้ว ทุกอย่างอยู่ในบอร์ดเดียวหมด
ต้องขอบคุณ apple computer ที่เป็นผู้นำด้านนี้ครับ