แหม่ ปกติดูเมะเรื่องนี้แล้วปล่อยผ่านไปเรื่อยๆ แต่ก็นานเหลือเกินกว่าจะถึงตอนนี้ที่ผมแสนจะชอบได้ เลยต้องตั้งมู้เลย555
ส่วนตัวแล้วผมชอบตอนนี้มาก เผลอๆยังจะชอบมากกว่าตอนไฟนอลกับดิโอซธอีก เพราะมันแทบบจะเป็น "ตัวอย่าง" ของรูปแบบการต่อสู้ในบทต่อๆไปของโจโจ้ด้วยซ้ำ ถึงภาค1-2จะมีฉากการหักเหลี่ยมเฉือนคมอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มักเป็นทฤษฎีที่เป็นไปได้ยากจนอาจเรียกได้ถึงขั้น "แถ" แต่การต้อสู้กับดาร์บี้คนพี่นี่เรียกได้เลยว่า "คนตัดคน" เน้นๆ สามารถทำได้จริง(และก็มีคนทำอยู่บ่อยๆ)ซะด้วย ด้วยฝีมือจริงๆ และลูกเล่นก็ดูน่าเชื่อถือและคล้อยตามได้สุดๆ
"ชื่ออ่าน ด-า-ร์-บี้ นะจ้ะ หลังตัวดีมีลูกน้ำ"
"ถ้าจับไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าโกงเว้ย คนที่โดนตุ๋นจนเปื่อยนั่นแหละคือผู้แพ้"
คนคอมมอนเซ็นส์คนปกติทั่วไปก็คงรังเกียจหมอนี่กันหมด แต่หลังจากผมชมนิเสะโมโนะฯเข้าไป พอเจอการนำเสนออีกด้านของนักต้มตุ๋นไคกิ จากหัวคิดที่ไม่เหมือนใครของ อ.นิชิโอะ (ที่ก็เขียนนิยายของโจโจ้ด้วยนะ) มุมมองต่อนักโกงพนันของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป
การพนันคืออะไร? ง่ายๆ การเดิมพันอะไรซักอย่างบนผลแพ้-ชนะของเกมๆหนึ่ง ที่ต้องใช้กฏร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่ส่วนใหญ่มักเลือกเกมการใช้โชคตัดสิน เพราะการใช้เกมที่คนเล่นมีส่วนร่วมมากไป คนที่มีฝีมือกว่าจะได้เปรียบ และการเดิมพันจะไม่เท่าเทียม
สมมุติถ้าคุณเล่นรูเลต ตัวแปรตัดสินในการแพ้ชนะนะคืออะไร? แน่นอน...โชค ไพ่เองก็เช่นกัน ถึงจะชอบทึกทักกันหนักหนาว่าไพ่มันเซียนได้ "เป็นเกมที่ต้องอ่านคน" เผือกเหอะ ชะตาของคุณมันกำหนดไว้แล้วตั้งแต่แจกไพ่ ฝีมือขนาดไหน ไพ่บอดก็จบ เทคนิกอ่านคนมันก็แค่ "ตัวแปรเสริม" เพิ่มโอกาสให้ชนะ แต่หลักๆแล้วมันก็ยังขึ้นกับดวงอยู่ดี
แล้วเกี่ยวกับนักต้มตุ๋นยังไง? แน่นอนว่าถ้าคุณเล่นพนันโดยไม่ตุกติก นั่นเท่ากับว่าคุณ "ให้ฟ้าตัดสิน" ผลลัพธ์ของมัน แต่นั่น...... ไม่ใช่สำหรับนักโกงพนัน คนเราปกติต้องก้มหน้ารับไพ่ "ที่ฟ้าส่งมาให้" ไม่ว่ามันจะสูงหรือต่ำ แต่นักโกงเขาจะไม่ยอมรับชะตานั้น เขาจะสร้างชัยชนะด้วยตัวของเขา......ด้วยฝีมือของเขา
คนกินตังคนอื่นในวงไพ่ได้ คุณเรียกผู้ชนะว่ามีฝีมือได้มั้ย? ก็ไม่ แต่ทางกลับกันคนโกงไพ่ต้องใช้ "หัตถ์เทวะ" ที่ต้องฝึกปรือมาชั่วชีพ เรียงไพ่ให้ได้ออกมาที่ตัวเองต้องการเป๊ะๆ คุณทำได้มั้ยล่ะ? สับไพ่ตับๆๆๆๆๆๆ แล้วให้เอซโพธิ์ดำใบเดียวในสำรับมาอยู่บนสุด แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก แต่คนบางคนก็หัดจนทำได้เป็นเรื่องปกติ
ทีนี้คือความต่าง ถ้าคุณได้-เสียพนัน แสนนึง คนธรรมดาอย่างเรามันก็ไม่ใช่เพราะเก่งหรือห่วย แต่เพราะโชค แต่สำหรับนักโกงพนัน แสนนึงที่เค้าได้ "เป็นค่าครู" สำหรับการทุ่มเทในศาสตร์อันแม่นยำนี้ จะว่าเป็นน้ำพักน้ำแรงก็ว่าได้ เพราะไหนจะต้องใช้ฝีมือโคตรในการโกงให้สำเร็จแล้ว ยังต้องเนียนพอที่จะจับไม่ได้อีก ก็อย่างที่ดาร์บี้บอก "จับไม่ได้ ก็ไม่เรียกว่าโกง"
คนธรรมดาชนะพนัน-โชคช่วย นักโกงพนันชะนะพนัน-ฝีมือเน้นๆ
มันเป็นความต่างที่เราไม่อาจโต้แย้งได้ ถึงก็ใช่ มันผิดกฏ แต่คุณจะไปดูถูก "คุณค่า" ที่คนๆนึงจะไปหัดปรือเทคนิกอันแพรวพราวกับความสามรถในการหลอกสายตาคนนับสิบนับร้อยไปไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าโลกของเราควร "ตอบแทน" ความพยายามฝึกฝนและลงแรงหรอกหรือ? หรือมองในอีกแง่นึง เรายัง "จ่าย" ค่าตอบแทนสำหรับการโชว์มายากลได้เลย ไม่ใช่ว่ามายากลเองก็คือศิลป์ของการหลอกลวงหรอกหรือ
ภาษาอังกฤษถึงได้เรียกนักต้มตุ๋นว่า Con Artist คำสำคัญ Artist......
กลับเข้าโจโจ้กันต่อ
เกมแรงตึงผิวนี่ก็เหมือนกัน ว่ากันผิวเผินเลย ถ้าเราเอาไปเล่นเองแทบจะเป็นอัตราส่วน ฝีมือ10 ดวง90 ด้วยซ้ำ สมมุติว่าถ้าทั้งสองฝ่ายมือนิ่งได้ทุกครั้งที่หยอด แต่คนที่จะแพ้ก็คือคนที่ "ถึงตา" หยอดเหรียญที่จังหวะแรงตึงผิวจะหมด มันอาจจะรับได้ 6เหรียญ 10 หรือ 15 แต่คำคัญสุดที่คนที่ดวงซวยได้ตาหยอดเหรียญที่เกินแรงตึงผิวเนี่ยแหละ นิ่งมายังไงก็แพ้
เรื่องตุกติกนี่ต้องยกให้โจเซฟสินะ
"เอ็งบอกเองนี่ว่าถ้าจับไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าโกง เคี้ยกๆๆๆๆ"
ถึงคราวเคราะห์จะมีถึงดาร์บี้ที่ต้องหยอดเหรียญที่เกินแรงตึงผิว แต่กระนั้นด้วยสติปัญญาและฝีมือทำให้เชาเอาชนะ "ขีดจำกัด" ไปได้
พร้อมภาพประกอบการโกงดูเข้าใจง้ายง่าย
"Go ahead, Mr.Joestar" สำเนียงอังกฤษของหมอนี่นี่เหลือกินจริงๆ
โกงตัดโกงล้วนๆงานนี้ หักเหลี่ยมเฉือนคมกันขนานแท้ เหนือคนขี้โกงอย่างโจเซฟ ก็ยังมีคนโคตรขี้โกงกว่า เดี๋ยวตอนต่อไปโป๊กเกอร์มันส์หยด รวมสุดยอดกลโกงไพ่มายกตำราเลยทีเดียว
[SPOIL] JOJO part3 - 34 "เหนือคนขี้โกง ยังมีคนโคตรขี้โกง!!!"
ส่วนตัวแล้วผมชอบตอนนี้มาก เผลอๆยังจะชอบมากกว่าตอนไฟนอลกับดิโอซธอีก เพราะมันแทบบจะเป็น "ตัวอย่าง" ของรูปแบบการต่อสู้ในบทต่อๆไปของโจโจ้ด้วยซ้ำ ถึงภาค1-2จะมีฉากการหักเหลี่ยมเฉือนคมอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มักเป็นทฤษฎีที่เป็นไปได้ยากจนอาจเรียกได้ถึงขั้น "แถ" แต่การต้อสู้กับดาร์บี้คนพี่นี่เรียกได้เลยว่า "คนตัดคน" เน้นๆ สามารถทำได้จริง(และก็มีคนทำอยู่บ่อยๆ)ซะด้วย ด้วยฝีมือจริงๆ และลูกเล่นก็ดูน่าเชื่อถือและคล้อยตามได้สุดๆ
"ชื่ออ่าน ด-า-ร์-บี้ นะจ้ะ หลังตัวดีมีลูกน้ำ"
"ถ้าจับไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าโกงเว้ย คนที่โดนตุ๋นจนเปื่อยนั่นแหละคือผู้แพ้"
คนคอมมอนเซ็นส์คนปกติทั่วไปก็คงรังเกียจหมอนี่กันหมด แต่หลังจากผมชมนิเสะโมโนะฯเข้าไป พอเจอการนำเสนออีกด้านของนักต้มตุ๋นไคกิ จากหัวคิดที่ไม่เหมือนใครของ อ.นิชิโอะ (ที่ก็เขียนนิยายของโจโจ้ด้วยนะ) มุมมองต่อนักโกงพนันของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป
การพนันคืออะไร? ง่ายๆ การเดิมพันอะไรซักอย่างบนผลแพ้-ชนะของเกมๆหนึ่ง ที่ต้องใช้กฏร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่ส่วนใหญ่มักเลือกเกมการใช้โชคตัดสิน เพราะการใช้เกมที่คนเล่นมีส่วนร่วมมากไป คนที่มีฝีมือกว่าจะได้เปรียบ และการเดิมพันจะไม่เท่าเทียม
สมมุติถ้าคุณเล่นรูเลต ตัวแปรตัดสินในการแพ้ชนะนะคืออะไร? แน่นอน...โชค ไพ่เองก็เช่นกัน ถึงจะชอบทึกทักกันหนักหนาว่าไพ่มันเซียนได้ "เป็นเกมที่ต้องอ่านคน" เผือกเหอะ ชะตาของคุณมันกำหนดไว้แล้วตั้งแต่แจกไพ่ ฝีมือขนาดไหน ไพ่บอดก็จบ เทคนิกอ่านคนมันก็แค่ "ตัวแปรเสริม" เพิ่มโอกาสให้ชนะ แต่หลักๆแล้วมันก็ยังขึ้นกับดวงอยู่ดี
แล้วเกี่ยวกับนักต้มตุ๋นยังไง? แน่นอนว่าถ้าคุณเล่นพนันโดยไม่ตุกติก นั่นเท่ากับว่าคุณ "ให้ฟ้าตัดสิน" ผลลัพธ์ของมัน แต่นั่น...... ไม่ใช่สำหรับนักโกงพนัน คนเราปกติต้องก้มหน้ารับไพ่ "ที่ฟ้าส่งมาให้" ไม่ว่ามันจะสูงหรือต่ำ แต่นักโกงเขาจะไม่ยอมรับชะตานั้น เขาจะสร้างชัยชนะด้วยตัวของเขา......ด้วยฝีมือของเขา
คนกินตังคนอื่นในวงไพ่ได้ คุณเรียกผู้ชนะว่ามีฝีมือได้มั้ย? ก็ไม่ แต่ทางกลับกันคนโกงไพ่ต้องใช้ "หัตถ์เทวะ" ที่ต้องฝึกปรือมาชั่วชีพ เรียงไพ่ให้ได้ออกมาที่ตัวเองต้องการเป๊ะๆ คุณทำได้มั้ยล่ะ? สับไพ่ตับๆๆๆๆๆๆ แล้วให้เอซโพธิ์ดำใบเดียวในสำรับมาอยู่บนสุด แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก แต่คนบางคนก็หัดจนทำได้เป็นเรื่องปกติ
ทีนี้คือความต่าง ถ้าคุณได้-เสียพนัน แสนนึง คนธรรมดาอย่างเรามันก็ไม่ใช่เพราะเก่งหรือห่วย แต่เพราะโชค แต่สำหรับนักโกงพนัน แสนนึงที่เค้าได้ "เป็นค่าครู" สำหรับการทุ่มเทในศาสตร์อันแม่นยำนี้ จะว่าเป็นน้ำพักน้ำแรงก็ว่าได้ เพราะไหนจะต้องใช้ฝีมือโคตรในการโกงให้สำเร็จแล้ว ยังต้องเนียนพอที่จะจับไม่ได้อีก ก็อย่างที่ดาร์บี้บอก "จับไม่ได้ ก็ไม่เรียกว่าโกง"
คนธรรมดาชนะพนัน-โชคช่วย นักโกงพนันชะนะพนัน-ฝีมือเน้นๆ
มันเป็นความต่างที่เราไม่อาจโต้แย้งได้ ถึงก็ใช่ มันผิดกฏ แต่คุณจะไปดูถูก "คุณค่า" ที่คนๆนึงจะไปหัดปรือเทคนิกอันแพรวพราวกับความสามรถในการหลอกสายตาคนนับสิบนับร้อยไปไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าโลกของเราควร "ตอบแทน" ความพยายามฝึกฝนและลงแรงหรอกหรือ? หรือมองในอีกแง่นึง เรายัง "จ่าย" ค่าตอบแทนสำหรับการโชว์มายากลได้เลย ไม่ใช่ว่ามายากลเองก็คือศิลป์ของการหลอกลวงหรอกหรือ
ภาษาอังกฤษถึงได้เรียกนักต้มตุ๋นว่า Con Artist คำสำคัญ Artist......
กลับเข้าโจโจ้กันต่อ
เกมแรงตึงผิวนี่ก็เหมือนกัน ว่ากันผิวเผินเลย ถ้าเราเอาไปเล่นเองแทบจะเป็นอัตราส่วน ฝีมือ10 ดวง90 ด้วยซ้ำ สมมุติว่าถ้าทั้งสองฝ่ายมือนิ่งได้ทุกครั้งที่หยอด แต่คนที่จะแพ้ก็คือคนที่ "ถึงตา" หยอดเหรียญที่จังหวะแรงตึงผิวจะหมด มันอาจจะรับได้ 6เหรียญ 10 หรือ 15 แต่คำคัญสุดที่คนที่ดวงซวยได้ตาหยอดเหรียญที่เกินแรงตึงผิวเนี่ยแหละ นิ่งมายังไงก็แพ้
เรื่องตุกติกนี่ต้องยกให้โจเซฟสินะ
"เอ็งบอกเองนี่ว่าถ้าจับไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าโกง เคี้ยกๆๆๆๆ"
ถึงคราวเคราะห์จะมีถึงดาร์บี้ที่ต้องหยอดเหรียญที่เกินแรงตึงผิว แต่กระนั้นด้วยสติปัญญาและฝีมือทำให้เชาเอาชนะ "ขีดจำกัด" ไปได้
พร้อมภาพประกอบการโกงดูเข้าใจง้ายง่าย
"Go ahead, Mr.Joestar" สำเนียงอังกฤษของหมอนี่นี่เหลือกินจริงๆ
โกงตัดโกงล้วนๆงานนี้ หักเหลี่ยมเฉือนคมกันขนานแท้ เหนือคนขี้โกงอย่างโจเซฟ ก็ยังมีคนโคตรขี้โกงกว่า เดี๋ยวตอนต่อไปโป๊กเกอร์มันส์หยด รวมสุดยอดกลโกงไพ่มายกตำราเลยทีเดียว