บางทียิ่งค้นหาเท่าไหร่ ก็เหมือนพายเรือในอ่าง
เพราะ มันอาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริง ก็เหมือนกับภาพที่เราเห็นอยู่ มันก็เกิดจากแสงและประสาทสัมผัสเราเท่านั้น รู้ได้ยังไงว่ามันเป็นของจริง สัตว์บางประเภทที่ประสาทแยกแยะด้อยกว่ามนุยย์ก็มองภาพเป็นแบบหนึ่ง มนุษย์ก็มองภาพเป็นอีกแบบหนึ่ง ยิ่งถ้ามีมนุษย์ต่างดาวที่ประสาทละเอียดกว่ามนุษย์ ก็คงมองภาพต่างไปอีกแบบหนึ่ง ทั้งๆที่มันเป็นภาพเดียวกัน เหมือนคนตาบอดสี เรารู้ไงว่าคนตาบอดสีส่ยตาผิดปกติ ไม่มองมุมกลับว่าเขาปกติ แต่คนส่วนใหญ่ของโลกสายตาผิดปกติ
หรืออย่าง มันต้องมีตัวตนสิเพราะเราสัมผัสได้ มันก็เป็นแค่ประสาทสัมผัสของมนุษย์แค่นั้นแหละ สัตว์บางอย่างที่ไม่มีประสาทสัมผัสแบบเรามันก็ไม่รู้สึกนะ หรือแม้แต่มนุษย์ถ้าเราหยุดประสาทเราเช่น ฉีดยาชา เป็นอัมพาท ก็ไม่มีความรู้สึกนะ เหมือนสิ่งนั้นไม่มีตัวตน
คือปมลองศึกษาทั้งวิทยาศาสตร์และพุทธควบคู่กัน ก็เลยรู้สึกสงสัยนะ
ผมว่าจักรวาลอาจเป็นแค่นามธรรมเหมือนทางพุทธเข้าว่าก็ได้นะ
เพราะ มันอาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริง ก็เหมือนกับภาพที่เราเห็นอยู่ มันก็เกิดจากแสงและประสาทสัมผัสเราเท่านั้น รู้ได้ยังไงว่ามันเป็นของจริง สัตว์บางประเภทที่ประสาทแยกแยะด้อยกว่ามนุยย์ก็มองภาพเป็นแบบหนึ่ง มนุษย์ก็มองภาพเป็นอีกแบบหนึ่ง ยิ่งถ้ามีมนุษย์ต่างดาวที่ประสาทละเอียดกว่ามนุษย์ ก็คงมองภาพต่างไปอีกแบบหนึ่ง ทั้งๆที่มันเป็นภาพเดียวกัน เหมือนคนตาบอดสี เรารู้ไงว่าคนตาบอดสีส่ยตาผิดปกติ ไม่มองมุมกลับว่าเขาปกติ แต่คนส่วนใหญ่ของโลกสายตาผิดปกติ
หรืออย่าง มันต้องมีตัวตนสิเพราะเราสัมผัสได้ มันก็เป็นแค่ประสาทสัมผัสของมนุษย์แค่นั้นแหละ สัตว์บางอย่างที่ไม่มีประสาทสัมผัสแบบเรามันก็ไม่รู้สึกนะ หรือแม้แต่มนุษย์ถ้าเราหยุดประสาทเราเช่น ฉีดยาชา เป็นอัมพาท ก็ไม่มีความรู้สึกนะ เหมือนสิ่งนั้นไม่มีตัวตน
คือปมลองศึกษาทั้งวิทยาศาสตร์และพุทธควบคู่กัน ก็เลยรู้สึกสงสัยนะ