มาเล่นกันเถอะ มาเล่นกันเถอะ
----------------------------------------------------------
Single Stock Futures คือตราสารอนุพันธ์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของหุ้นรายตัว (คล้ายกับ SET50 Index Future) ซึ่ง 1 สัญญา เทียบเท่ากับซื้อหุ้นจำนวน 1000 หุ้นโดยวางเงินประกันเริ่มต้นประมาณ 10% ของมูลค่าสัญญาเท่านั้น จึงทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในหุ้นเมื่อเทียบสัดส่วนเงินลงทุนที่เท่ากัน
ถ้าหากมองว่าหุ้นอ้างอิงจะปรับตัวสูงขึ้น ก็เปิดสถานะ Long (ซื้อ) หากมองว่า หุ้นจะปรับตัวลดลง ก็เปิดสถานะ Short (ขาย) ได้ทันที โดยไม่ต้องมีหุ้นอยู่ในพอร์ตไว้ก่อนเหมือนการลงทุนในหุ้น และผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องถือครองการลงทุนจนสัญญาหมดอายุสามารถทำการปิดสถานะก่อนได้ ดังนั้น กำไรขาดทุนที่ผู้ลงทุนได้จึงเท่ากับส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายไม่ต่างจากการซื้อขายหุ้นที่เราคุ้นเคยกัน
ข้อดีของ Single Stock Futures
- เก็งกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
- ใช้เงินลงทุนต่ำกว่าซื้อหุ้นโดยตรง (ใช้เป็นหลักประกันเพียง 10% ของมูลค่าสัญญา)
- ใช้ในการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตหุ้น (Hedging)
ข้อเสีย
- สัญญามีอายุจำกัดเพียง 3 เดือน
- อาจถูกเรียกเงินประกันเพิ่มหากผิดทาง
- ไม่มีสิทธิในความเป็นเจ้าของหุ้น
- มีโอกาสขาดทุนมากกว่าเงินลงทุนตั้งต้น (เป็นหนี้ได้)
อัตราหลักประกันที่โบรกเกอร์อนุพันธ์เรียกเก็บจากผู้ลงทุน อัพเดตล่าสุด 22 มกราคม 2558
http://www.tfex.co.th/files/MarginRate_20150122_th.pdf
ในตลาดบ้านเรามีตัว Single Stock Futures ที่จะมีสภาพคล่องที่มากๆพอสำหรับในการซื้อขายจะมีอยู่ไม่กี่ตัว เช่น TRUE, ITD, KTB, JAS, BLAND, TMB, SIRI เป็นต้น และมีตัวที่เริ่มมีคนเล่นบ้างแล้วแต่ Vol ยังน้อยอยู่ เช่น AAV, TTA, QH, BTS, TPIPL, TOP, IRPC เป็นต้น
https://www.facebook.com/GreenDiaryOfTrader/photos/a.385550144946824.1073741828.385515274950311/385550074946831/?type=1
Cr.
https://www.facebook.com/GreenDiaryOfTrader
Single Stock Futures มาเล่นกันเถอะ มาเล่นกันเถอะ :D
----------------------------------------------------------
Single Stock Futures คือตราสารอนุพันธ์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของหุ้นรายตัว (คล้ายกับ SET50 Index Future) ซึ่ง 1 สัญญา เทียบเท่ากับซื้อหุ้นจำนวน 1000 หุ้นโดยวางเงินประกันเริ่มต้นประมาณ 10% ของมูลค่าสัญญาเท่านั้น จึงทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในหุ้นเมื่อเทียบสัดส่วนเงินลงทุนที่เท่ากัน
ถ้าหากมองว่าหุ้นอ้างอิงจะปรับตัวสูงขึ้น ก็เปิดสถานะ Long (ซื้อ) หากมองว่า หุ้นจะปรับตัวลดลง ก็เปิดสถานะ Short (ขาย) ได้ทันที โดยไม่ต้องมีหุ้นอยู่ในพอร์ตไว้ก่อนเหมือนการลงทุนในหุ้น และผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องถือครองการลงทุนจนสัญญาหมดอายุสามารถทำการปิดสถานะก่อนได้ ดังนั้น กำไรขาดทุนที่ผู้ลงทุนได้จึงเท่ากับส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายไม่ต่างจากการซื้อขายหุ้นที่เราคุ้นเคยกัน
ข้อดีของ Single Stock Futures
- เก็งกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
- ใช้เงินลงทุนต่ำกว่าซื้อหุ้นโดยตรง (ใช้เป็นหลักประกันเพียง 10% ของมูลค่าสัญญา)
- ใช้ในการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตหุ้น (Hedging)
ข้อเสีย
- สัญญามีอายุจำกัดเพียง 3 เดือน
- อาจถูกเรียกเงินประกันเพิ่มหากผิดทาง
- ไม่มีสิทธิในความเป็นเจ้าของหุ้น
- มีโอกาสขาดทุนมากกว่าเงินลงทุนตั้งต้น (เป็นหนี้ได้)
อัตราหลักประกันที่โบรกเกอร์อนุพันธ์เรียกเก็บจากผู้ลงทุน อัพเดตล่าสุด 22 มกราคม 2558
http://www.tfex.co.th/files/MarginRate_20150122_th.pdf
ในตลาดบ้านเรามีตัว Single Stock Futures ที่จะมีสภาพคล่องที่มากๆพอสำหรับในการซื้อขายจะมีอยู่ไม่กี่ตัว เช่น TRUE, ITD, KTB, JAS, BLAND, TMB, SIRI เป็นต้น และมีตัวที่เริ่มมีคนเล่นบ้างแล้วแต่ Vol ยังน้อยอยู่ เช่น AAV, TTA, QH, BTS, TPIPL, TOP, IRPC เป็นต้น
https://www.facebook.com/GreenDiaryOfTrader/photos/a.385550144946824.1073741828.385515274950311/385550074946831/?type=1
Cr. https://www.facebook.com/GreenDiaryOfTrader