สวัสดีคะ ได้มีโอกาสไปเที่ยวกระบี่เมื่อวันที่ 5-8 มีนาคม 2558
เลยอยากจะมาแชร์และอัพเดทว่าทะเลใต้เป็นยังไงบ้างแล้ว

Camera: Sony and Gopro4

เราเดินทางกันด้วยสายการบิน Bangkok Airways โชคดีได้ตั๋วถูกมาคะ (แค่ 2,500 บาท ไปกลับ)
เป็นกลุ่มเพื่อน เดินทางกัน 4 คนคะ

และได้ใช้สิทธ์บัตร Amex เข้า Blue Ribbon Club Lounge ที่ สุวรรณภูมิ ด้วยคะ
ข้างในก็มีบริการอาหารร้อน อย่างเช่น บะหมี่เป็ดโฟซีซัน ข้าวแกงกะหรี่ปลาดอลลี่ และพวกขนมไทย แพนเค้ก
ติ่มซำ (เย็นและแข็งมาก) แต่โดยรวมก็ถือว่าดีกว่าสายการบินอื่นคะ




Flight ที่เราบินไปมีแต่ฝรั่ง 95% มีคนไทยเพียงแค่ 6-7 คนเท่านั้น และอาหารที่เสิร์ฟก็คือข้าวกระเพราไก่



และเมื่อถึงสนามบิน รับกระเป๋าเสร็จ ก็เดินออกมาซื้อตั๋วรถบัสเพื่อไปที่พักที่อ่าวนาง ค่ารถราคา 150 บาท ต่อคน


แค่บอกชื่อโรงแรมกับคนขับ เขาก็จะไปส่งเราที่หน้าโรงแรมเลย ซึ่งถือว่าสะดวกมากๆเลย



หลังจากนั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงที่พัก (มิติ รีสอร์ต)
เราและเพื่อนเลือกที่นี่เพราะว่าเป็นโรงแรมใหม่และโรงแรมบอกว่าใกล้ชายหาด เดินได้
ซึ่งความจริงแล้วป่าวเลย ไกลมากๆๆ ถ้าเดินคือมีเป็นลม เพราะที่นี่ร้อนมาก ฮ่าๆๆ
โรงแรม (คืนละ 1,500 บาท) ไม่มีอาหารเช้าคะ แต่โชคดี มี Family Mart กับ 711 อยู่ใกล้ๆเลย




ด้วยความหิวโหยและอากาศที่ร้อนมากๆ ก็เลยนอนพักเหนื่อยและออกไปหาอะไรกินตอนเย็นเลยทีเดียว
เราเลือก วังทรายซีฟู้ด คะ ตอนไปถึงแอบตกใจเพราะทัวร์จีนลงเยอะมากๆๆ แต่ไหนๆก็มาถึงแล้วเลยกินที่นี่เลย
จากโรงแรมมาไม่ยากคะ ประมาณ 10 นาที (รถ 3 ล้อมีให้เรียกได้ทั่วไป) แต่ราคาโหดคะ ทำใจได้เลย
นี่คืออาหารบางส่วน ถือว่ารสชาติอร่อยเลย ปลาหมึกสด ไข่แน่นมาก ปลาทรายทอดขมิ้นกรอบดีคะ
ใบเหลียงเหม็นเนยมาการีนไปหน่อย แต่ปริมาณของอาหารให้เยอะคะ


หลังจากนั้นก็เดินเล่นแถวชายหาดหาเช่าเรือเพื่อไปเที่ยวเกาะพรุ่งนี้คะ
สรุปได้ที่เหมาเรือไป 4 เกาะ ราคา 3,000 บาท รวม เกาะห้อง ผักเบี้ย ห้องLagoon เกาะเหลาลาดิง
ราคานี้มีรถมารับที่โรงแรมไปส่งที่ท่าเรือนพรัตน์เลยคะ

DAY 2
ตอนเช้าเราออกเดินทางกัน 8 โมง เกาะแรกคือเเกาะเหลาลาดิง เราออกค่อนข้างเร็ว เลยมาถึงตอนที่ยังไม่มีใครเท่าไหร่คะ
น้ำทะเลออกสีเขียว แต่ไม่ใส พี่คนขับเรือบอกว่าช่วงนี้ลมเปลี่ยนทิศ ทะเลเลยเป็นแบบนี้



ราคานี้มีสัปปะรดให้ทานด้วย อร่อยมากๆ เรากับเพื่อนนี่หยิบกันรัว ฮ่าๆ


อันนี้จาก ห้อง Lagoon มุ่งหน้าสู่เกาะห้องคะ ซึ่งจะเป็นเกาะที่เราจะไปแวะอยู่ช่วงบ่ายและทานข้าวเที่ยงที่นั่น
เป็นเกาะไม่ใหญ่มาก แต่คนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว




และพอสัก 3 โมงก็กลับเข้าโรงแรมคะ ร้อนมาก เพลียมาก อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทานอาหารเย็น
ที่ร้านเรือนไม้ ที่ใครๆก็บอกว่าต้องไปเมื่อมาถึงกระบี่ แล้วก็เป็นอย่างงั้นจริงๆด้วย
เพราะอาหารอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆ ทุกเมนูเลย เราสั่ง แกงกระธิใบเหลียง ปลาทรายทอดขมิ้น น้ำพริกกุ้งสด ใบเหลียงผัดไข่ และอื่นๆอีกคะ
ขออภัยหากรูปสั่นไหวเพราะหิวมากคะ ฮ่าๆๆ





และเสร็จแล้วไปต่อกันที่อีก 1 highlight ของอาหาร คือ โรตี หน้าห้างโว้ค !!!!!!!! เด็ดจริงอะไรจริงคะ กรอบหอมอร่อย



DAY 3
ตอนเช้าก็ออกเดินทางไปค้างที่เกาะพีพี ค่าเรือ ferry คนละ 350 บาท เรือออก 9 โมงเช้าคะ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง (ท่าเรือในตัวเมือง)
ถึงที่นั่นเกือบเที่ยง เข้าที่พักคะ พวกเราพักที่ The Beacha Club ซึ่งติดกับหาด Party เลย

หาดติดหน้าโรงแรมเลยคะ ชิลมากๆ


เวลามีจำกัด พอช่วงบ่าย เราเลยเหมาเรือหางยาวไปเที่ยวกันต่อเลย
ขอบอกเลยว่าน้ำทะเลที่พีพีคือดีงามคะ สะใจมากจริงๆ เพราะเมื่อวานที่ได้ไปเที่ยวเกาะห้อง ถือว่ายังไม่ค่อยฟินเท่าไหร่
ที่แรกที่เราไปคือแวะถ่ายรูปที่ถ้ำไวกิ้ง และ ไปต่อด้วย โละซะมะ












พอตกเย็นเกือบ 6 โมง เราก็กลับเข้าที่พัก อาบน้ำแต่งตัวเตรียม dinner และ party คะ
ตอนเย็นเราไปทานร้าน Cosmic คะ เพราะ reception แนะนำว่าอาหารอร่อยและราคาไม่แพง
ไปถึงก็ต่างคนต่างสั่ง หิวมากคะ ถ่ายรูปได้ไม่หมด แปลกใจมากที่ราคาไม่แพงเลย
สปาเก็ตตี้ 150 บาท ปลาย่าง 350 บาท Calzone 160 บาท และอาหารอื่นๆก็ราคาประมาณนี้คะ
หลังทานเสร็จ แยกย้ายคะ พักผ่อนรอ party คืนนี้ แต่ไม่ได้เก็บภาพมาเพราะแบตหมด ;P




DAY 4
ตื่นเช้ามา pack ของ เตรียมตัวกลับกรุงเทพคะ บรรยกาศตอนเช้าที่นี่เงียบๆ เพราะเหมือนทุกคนยังแฮงค์อยู่ ฮ่าๆ
อาหารเช้าที่โรงแรมมีให้ ไม่ได้เยอะมาก แต่อร่อยคะ



และช่วง 3 โมงเราก็นั่งเรือ ferry กลับกระบี่ ไป airport เพราะ flight ประมาณ ทุ่มครึ่งคะ
ใช้บริการ lounge เหมือนเดิม แต่ที่กระบี่คนเยอะมากๆ และอาหารก็มีไม่เยอะคะ แค่ ป๊อปคอร์น ข้าวต้มมัด และก็ bakery 2-3 อย่าง






ยาวไปหน่อย แต่หวังว่าทุกคนคงจะได้ประโยชน์จากการรีวิวครั้งนี้
มีข้อมูลที่ไม่สามารถลงในนี้ได้ ใครอยากทราบหลังไมค์มาคะ ;P
อยากให้ไปเที่ยวไทยกันเยอะๆนะคะ