อเมริกากับอังกฤษได้จัดระบบโลกใหม่

(Bretton Woods)



ได้ทำการก่อตั้ง องค์กรต่างๆขึ้นดูแลโลก(ผลประโยชน์ตัวเอง) เช่นองค์การสหประชาชาติเป็นองค์การหลัก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นาโต้ นาซ่าหรือองค์การการค้าโลก เป็นต้น

(มีหน้าที่อะไรบ้าง สามารถหาในกูเกิ้ลได้) ซึ่งองค์กรส่วนใหญ่ที่ตั้งขึ้น จะขึ้นตรงต่อหน่วยงานสหประชาชาติ

ช่วงแรกระบบการเงินของโลกผูกกับทองคำ



ทำไปทำมาอเมริกาว่าตัวเองคือเจ้าโลก และในสมัยประธานาธิบดีนิกสันเลิกผูกดอลล่าร์กับทองคำ สามารถพิมพ์ธนบัตรกระดาษออกมาใช้ได้เอง ไม่มีใครกล้าหือเพราะถือว่าตัวเองเป็นมหาอำนาจเพราะชนะสงคราม
และได้ทำการตกลงกับอิหร่านในการซื้อขาย น้ำมัน(ทองดำ) โดยใช้ระบบเงินดอลลาร์อ้างอิงเท่านั้น และเงินสกุลดอลลาร์ก็กลายเป็นเงินใช้อ้างอิงซื้อขายน้ำมันไปทั่วโลกโดยปริยาย

เศรฐกิจของโลกช่วงแรกขึ้นอยู่ อเมริกา กับอังกฤษ ต่อมามีกลุ่มทุนที่เขาเรียกว่า อีลิทตะวันตกเข้าแทรกซึม



ซึ่งกลุ่มอีลิทตะวันตก อยู่เบื้องหลังผู้นำประเทศดังกล่าว กลุ่มอีลิทตะวันตกคือพวกนายธนาคาร ทุนน้ำมัน กิจการข้ามชาติ ฯลฯที่มีอิทธิพลสิทธิพิเศษ
เป็นพวกยิวโดยสองคนนี้จะมีอิทธิพลอย่างมากตระกูลรอทส์ไชลด์ของอังกฤษและตระกูลร๊อคกี้เฟลเลอร์ของอเมริกา
สรุป ปัจจุบันเศรษฐกิจโลก ขึ้นอยู่ อเมริกา(นิวยอร์ก) + อังกฤษ(ลอนดอน) + กลุ่มอีลิทตะวันตก(เข้าแทรกซึมทั้งอังกฤษ อเมริการ่วมทั้งยุโรปบางส่วน)
ภาพกลุ่มที่เรียกว่าอีลิทตะวันตก ที่มีอิทธิพลต่อโลกดังกล่าว



มาดูตัวอย่างบางส่วนว่า พวกตระกูลรอทส์ไชลด์มีอิทธิพลขนาดไหนแล้วกัน

#บทความ "รอทส์ไชลด์ vs. รอทส์ไชลด์"ของนายJeff Nielson มีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง ไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด เพราะว่าSprott Moneyเป็นสื่อทางการเงินอยู่ในเครือของนายEric Sprott นักลงทุนและนักค้าโลหะที่ดังที่สุดของแคนาดา
อย่างไรก็ Jeff Nielsonเขียนว่าตามพฤติกรรมของพวกรอทส์ไชลด์แสดงให้เห็นว่าพวกนี้เป็นโรคจิตที่ต้องการปล้นความร่ำรวยบนซากของฟองสบู่การเงิน หลังวิกฤติ2008 พวกนายแบงค์บอกว่าตัวเองใหญ่เกินไปที่จะล้ม (too big too fail)ทำให้รัฐบาลต้องเข้าไปอุ้มแบงค์ ด้วยการอัดฉีดเงินเข้าไปนับล้านล้านเหรียญ รวมกันแล้วธนาคารกลางตะวันตกพิมพ์เงินรวมกัน$10ล้านล้านหลังวิกฤติ2008เป็นต้นมา และส่วนมากของเม็ดเงินมหาศาลนี้เข้ากระเป๋าพวกรอทส์ไชลด์ที่คุมแบงค์อีกทีและได้ประโยชน์สูงสุด
หลังสมัยนิกสันเลิกผูดดอลลาร์กับทอง พวกรอทส์ไชลด์ถ่ายเททองของสหรัฐฯเข้ากระเป๋าตัวเอง กดราคาทองคำและเดินหน้าทำลายบริษัทเหมืองทองคำเพื่อควบคุมตลาดทองทำให้เกิดปัญหาซับไพล์ทองอย่างรุนแรง
หลังวิกฤติ2008 มีการกดดอกเบี้ยลง0% แต่เศรษฐกิจของสหรัฐฯและโลกตะวันตก ยกเว้นเยอรมันนีไม่ฟื้น ที่เห็นว่าฟื้นก็เพราะว่ารัฐบาลเพิ่มหนี้และขยายบทบาทของตัวเองในเศรษฐกิจ
แต่พวกตระกูลที่เกาะสูบเลือดคนที่มีน้ำหนัก300ปอนด์ยังอยู่ในห้องคอยสูบเลือดของโลกตะวันตกที่น้ำหนักเหลืออยู่แค่100ปอนด์
การไม่รู้จักพอนี้ทำให้เรานึกถึงนิทานโบราณเรื่องห่านที่ฟักไข่เป็นทอง ด้วยความโลภพวกตระกูลเกาะสูบเลือดคนไม่เพียงขโมยไข่ที่เป็นทองเท่านั้น แต่ยังฆ่าแม่ห่านเพื่อหวังจะได้ทองทั้งหมดอีกด้วย
เศรษฐกิจของโลกตะวันตกได้ประโยชน์จากพวกรอทส์ไชลด์ผ่านลัทธิล่าอาณานิคมในรูปแบบต่างๆที่ผ่านมา ทำให้เกิดความร่ำรวย แต่หลังจากนั้นโลกตะวันตกผลิตเลือดที่ไม่ขาดตอนให้พวกนี้ดูดกิน
ในช่วง100-200ปีที่ผ่านมาคนทั่วไปไม่รู้เรื่องนี้ และแทนที่จะค่อยๆดูดเลือดโลกตะวันตกกิน และสามารถทำได้อีกนานเป็นร้อยปี พวกนี้กลับดูดเลือดจนเศรษฐกิจของโลกตะวันตกแทบไม่เหลือซาก มาถึงขึ้นจะฆ่าแม่ห่าน ด้วยการเปลี่ยนถุงมือสีม่วงเป็นกำปั้นเหล็กแทน ผ่านนโยบายฟาสซิสต์ที่กำลังออกอาการ
ถ้าพวกนี้ชนะจะหยุดดูดเลือดอีกต่อไปหรือไม่ เนื่องจากเป็นพวกโรคจิตจึงต้องทำลายฐานของตัวเอง คือกลับไปดูดเลือดระหว่างกันเองเพื่อให้ได้มากที่สุด น่าสนใจว่าระหว่างพวกอีลิทที่ต้องทำลายกันเอง หรือการต่อสู้ระหว่างรอทส์ไชลด์ vs. รอทส์ไชลด์ ใครจะโดนดูดเลือดตายก่อน พาราสิทที่แน่สุดจะอยู่รอด



เกิดวิกฤตวอลล์สตรีท 2008 อเมริกาเสียสูญคือการล่มสลายของLehman Brothersถือว่าเป็นจุดจบ ระบบการเงินของWall Street



ได้ทำการQE พิมพ์เงินเข้ามาในระบบ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการมีรายได้เข้าประเทศเพื่อนำมาชำระหนี้ ก็ยิ่งเป็นหนี้ไปอีกเพราะเงินไม่เป็นที่ยอมรับ(ไม่ได้อิงกับทองคำ)
การทำQEระหว่างปี2009-2014เป็นการสร้างฟองสบู่การเงินก้อนให้ตลาดหุ้น แต่ไม่ได้สร้างฟองสบู่ให้เศรษฐกิจที่แท้จริงที่พังไปแล้วตั้งแต่ปี2008
ลามไปถึงยุโรป จนถึงปัจจุบัน นายทุนอีลิทตะวันตกก็เสียสูญตาม
ลองดูภาพกิจการบางส่วนของอีลิทตะวันตก และ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ผู้ถือหุ้นใหญ่ ๘ อันดับต้น ประกอบด้วย
๑, Rotschild Bank < London and Paris>
๒, Lazard Brothers Bank < Paris>
๓, Israel Moses Seif Bank < Italy>
๔, Warburg Bank < Hamburg and Amsterdam>
๕, Lehman Brothers Bank < New York>
๖, Loeb Bank < New York>
๗, Chase Manhattan Bank < New York>
๘, Goldman Sachs Bank < New York>
และตอนนี้พวกอีลิทคุมระบบการเงินโลกผ่านUS Federal Reserve, Bank of England, Bank for International Settlements, European Central Bank, Bank of Japan, Bank of Canada
และReserve Bank of Australiaเป็นหลัก ปัญหาคือตอนนนี้พวกนี้พิมพ์แบงค์ กระดาษกงเต๊กกันทั้งนั้น



กิจการบางส่วน พวกตระกูลรอทส์ไชลด์และตระกูลร๊อคกี้เฟลเลอร์
..................................................................................................................................................
อ้างอิง
#The Wall Street Journalรายงานว่าอัยการของกระทรวงยุติธรรมกำลังสั่งสอบการปั่นราคาทอง เงิน พลาตินั่มและพาลลาเดียม โดยพวกแบงค์ยักษ์ในตลาดลอนดอน
http://www.zerohedge.com/news/2015-02-23/ten-banks-including-jpm-goldman-deutsche-barclays-socgen-and-ubs-probed-gold-rigging

#JP Morgan Chaseยอมจ่าย$100ล้านในคดีปั่นอัตราแลกเปลี่ยน แบงค์ที่โดนข้อหาร่วมคือBank of America Corp, Barclays Plc, BNP Paribas SA, Citigroup Inc, Credit Suisse Group AG, Deutsche Bank AG,
Goldman Sachs Group Inc, HSBC Holdings Plc, Morgan Stanley, Royal Bank of Scotland Group Plc และ UBS AG.เดือนมีนาคม 2014 AIS Capital Management ซึ่งทำธุรกิจเฮดจ์ฟันด์ได้ฟ้องศาลว่า
Barclays, HSBC, Société Générale, Deutsche Bank และ Bank of Nova Scotia ร่วมกันปั่นราคาทองและทองคำอนุพันธ์
http://www.reuters.com/article/2015/01/05/us-jpmorgan-forex-jpmorgan-idUSKBN0KE1A420150105

#ไม่รู้ว่าปู่อลัน กรีนสแปนกลัวว่าตัวเองจะตายก่อนที่จะมีโอกาสได้พูดความจริงหรือไม่ เพราะว่าระยะหลังจะพูดอะไรที่ไม่ไว้หน้าเฟดเดอรัล รีเซิร์ฟที่ตัวเองเคยเป็นประธานระหว่างปี1987 ถึงปี2006
http://www.shtfplan.com/headline-news/federal-reserve-insider-alan-greenspan-warns-there-will-be-a-significant-market-event-something-big-is-going-to-happen_02222015

#ดอกเบี้ยที่ติดลบของพันธบัตรรัฐบาลในเขตยูโร ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุ2ปีของประเทศเขตยูโรที่เศรษฐกิจดีกว่าเพื่อนจะติดลบเป็นแถว เช่นเยอรมัน ( -0.20% ) เบลเยี่ยม ( -0.15% )
ออสเตรีย ( -0.13ถึง -15% ) ฟินแลนด์ (-0.13% ถึง-0.15% ) เนเธอร์แลนด์ ( -0.13% ถึง-0.15% )ฝรั่งเศส ( -0.13% ถึง-0.15% )
ส่วนดอกเบี้ยพันธบัตรที่มีอายุ2ของประเทศอย่าง สโลวาเกีย สโลวาเนีย เสปน โปรตุเกส และอิตาลีเป็นพวกเล็กน้อย แต่ไม่เกิน0.25%
ทั้งๆที่เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้อยู่ในภาวะซบเซา จีดีพีไม่โตอีกแล้ว ที่โตได้เกิดจากการเพิ่มหนี้ โดยที่เศรษฐกิจพื้นฐานไม่สามารถสร้างจีดีพีให้โดได้เหมือนอย่างในอดีต ทำให้มีการตกงานสูงมาก
ทั้งหลายทั้งปวงเกิดจาก ภาวะหนี้ที่สูงเกินไปทั้งระบบของยุโรปที่ไม่ได้รับการปรับโครงสร้าง ทั้งยุโรปและสหรัฐฯติดกับดักหนี้ที่มีต้นเหตุจากการทำfinancialization เหมือนกันที่ทำให้พวกแบงค์เกอร์
และนักบริหารเงินรวย แต่เศรษฐกิจโดยรวมพัง ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างถูกทำลาย David Zervos แห่ง Jefferies บอกว่าไม่รู้ว่านักบริหารเงินกองทุนมองหน้าตัวเองในกระจกทุกวันได้อย่างไร
ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยุโรปที่ดอกเบี้ยติดลบ โดยที่มันเป็นการการันตีอยู่แล้วว่าการลงทุนแบบนี้จะต้องขาดทุน นักลงทุนมีสภาพคล่องสูงในกองทุนที่บริหาร ไม่รู้จะเอาเงินไปไว้ที่ใด กลัวว่าจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ขึ้นมา
เช่นในกรีซ และอาจจะลามไปประเทศอื่นๆ ทำให้แห่เข้าไปถือพันธบัตรของประเทศยุโรปเหนือที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแรงกว่า เพื่อปกป้องเงินต้นไม่ให้หาย เมื่อพันธบัตรมีผู้บิดเข้าไปมาก ราคาจะสูงขึ้น
แต่ยิลด์หรือดอกเบี้ยจะตก บิด (bid)กันไปมาจนดอกเบี้ยติดลบ แสดงว่ามีดีมานด์สูงผิดปกติในวันจันทร์นี้ (9 มีนาคม 2015) ทางธนาคารกลางของยุโรปจะเริ่มการทำQEแล้ว
โดยจะพิมพ์เงินยูโร$70,000 ล้านต่อเดือนเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลในเขตยูโรเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และกดดอกเบี้ย ให้รัฐบาลเหล่านี้ไม่มีปัญหาในการสร้างหนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป Mario Draghi
ผู้ว่าการธนาคารของECBบอกว่า จะเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ยิลด์ติดลบแล้วด้วย ใครจะทำไม Zervos บอกว่าเมื่อพันธบัตรของประเทศที่น่าเชื่อถือที่สุดมีดอกเบี้ยติดลบ
มันไม่ได้การันตีว่าจะเป็นการลงทุนไม่ให้ขาดทุนอีกต่อไป แต่เป็นการการันตีว่าผู้ถือบอนด์จะต้องขาดทุนแน่ๆ และยิ่งECBกระโดดเข้ามาเล่นเอง เกมนี้ยิ่งจะเสี่ยงขึ้นไปอีก
เป็นการบังคับให้ผู้บริหารเงินกองทุนโยกเงินจากบอนด์เข้าตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว และใครก็ตามที่เปลี่ยนนโยบายการลงทุนช้า จะกลายเป็นแพะพลีชีพของวอลล์สตรีท
http://www.bloomberg.com/news/articles/2015-03-04/david-zervos-here-s-who-s-buying-all-that-debt-at-negative-yields
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อเป็นหนี้จะล้มแล้ว ต้องทำอย่างไร มีทางเลือกอยู่ 3 ทางให้เลือกคือ
@5.1 สู้ด้วยระบบการเงินปกติ

VS
++

หลังจากที่Wall Street ล่มสลายในปี2008 ตลอดปี2009 จนถึงวันนี้ รัสเซียได้เพิ่มการซื้อ ทองคำสำรอง70% และจีนได้เพิ่มทองคำสำรอง หลาย100%เพราะทั้ง 2 ประเทศ เตรียมการที่จะนำเอา ระบบมาตรฐานทองคำมาใช้เพื่อสร้างระบบการเงินใหม่แทนระบบการเงินดอลลาร์ ที่ไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุนหลัง อเมริกาถึงทางตันมีแต่การพิมพ์เงินผ่านQE ซึ่งทำให้ปริมาณเงินเพิ่ม และทำลายความเชื่อมั่นใน ดอลลาร์
ทางเพนตากอน และซีไอเอ ตกใจว่าสหรัฐฯอาจจะเสียท่ารัสเซียและจีน เพราะว่าเศรษฐกิจพังแล้ว ต้องทำQE เพื่อปั๊มหัวใจระบบการเงิน ในปี2009
เพนตากอนและ ซีไอเอจึงมีการทำสงครามการเงินจำลองระหว่างสหรัฐฯ และ รัสเซีย+จีน เพื่อทดสอบดูว่าใครจะชนะในสงครามการเงินนี้ โดยที่ในสงครามจำลองครั้งนี้ ทั้ง2ฝ่ายใช้อาวุธทุกอย่างได้ไม่ว่าจะเป็นหุ้น
บอนด์ เงินตรา อนุพันธ์ ฯลฯ แต่ไม่มีการใช้อาวุธจริงๆหรือ อาวุธนิวเคลียร์เข้ามาเกี่ยวข้อง Jim Rickards ที่ปรึกษาทางการเงินของซีไอเอ และผู้แต่ง The Death of Money เป็นคนเอาเรื่องนี้มา เปิดเผย
เขาเข้าร่วมแบบจำลองสงครามการเงินนี้ด้วย โดยที่เขาอยู่ฝ่ายรัสเซีย+จีน ปรากฎว่าในสงคราม การเงินจำลองรัสเซีย+จีน ชนะสหรัฐฯ เพราะว่าเอา มาตรฐานทองคำกลับมาใช้
คือพิมพ์เงินรูเบิ้ล หรือเงินหยวน ออกมาสู้ดอลล่าร์โดยมีทองคำหนุน ไม่ว่าสหรัฐฯจะดำเนินมาตรการการเงินอย่างไรออกมาสู้ ก็ถูกจีนและรัสเซียดักทางได้หมด Jim Rickards พูดชัดแล้วว่าดอลลาร์ไปไม่รอด
และระบบมาตรฐานทองคำจะมาแทน หรือไม่ก็ IMF จะพิมพ์เงินSDR มาแทนดอลล่าร์ และเราจะเห็นการ เปลี่ยนแปลงในระบบการเงินโลกภายในไม่เกิน 3 ปี หรือน้อยกว่านั้น


https://www.youtube.com/watch?v=tQBia1Mw9Vw

อ้างอิง

#รัสเซีย จีน และเหล่าสมาชิกร่วมกันสร้างกลุ่มเศรษฐกิจใหม่เรียกว่า บริคส์ (BRICS) กลุ่ม BRIC ยังพยายามหาแนวทางลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีเงินสกุลใดที่มีบทบาทแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศได้ แต่ประเทศสมาชิกกลุ่ม ได้แก่ จีนและบราซิลได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการ
หลีกเลี่ยงการใช้เงินดอลลาร์ สหรัฐฯ ในการซื้อขายระหว่างกันโดยหันมาใช้เงินหยวนของจีนและเงินเรียลของบราซิลแทน เพื่อเป็นการลดต้นทุนของสองประเทศ
ก่อนหน้านี้ทางการจีนพยายามเพิ่มบทบาทเงินสกุลหยวนในเวทีโลกโดยพยายามผลัก ดันให้หยวนกลายเป็นค่าเงินนานาชาติ
โดยจีนได้จัดทำความตกลงแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างกัน (currency swap) กับธนาคารกลางของฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย เบลารุส อินโดนีเซีย และอาร์เจนตินา
เพื่อไม่ต้องแลกเปลี่ยนเงินผ่านดอลลาร์สหรัฐฯ และดำเนินนโยบายมิตรกับต่างประเทศที่เข้าพบ

#รัสเซียเจาะยางสหรัฐฯไปเรื่อยๆ ด้วยการคุยกับอิยิปต์ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ให้เลิกใช้เงินสกุลดอลลาร์ในการค้าขายกันระหว่างทั้งสองประเทศ



#จีนเตรียมดำเนินการใช้ระบบการชำระเงินหยวนระหว่างประเทศเรียกว่าChina International Payment Systemเพื่อที่จะช่วยอำนาวยความสะดวกให้กับการเทรดหยวนระหว่างประเทศภายในเดือนกันยายนหรือตุลาคมปีนี้
http://www.reuters.com/article/2015/03/09/us-china-yuan-payments-exclusive-idUSKBN0M50BV20150309?feedType=RSS&feedName=businessNews
http://www.sovereignman.com/trends/the-chinese-have-put-out-billboard-ads-announcing-the-renminbi-as-the-new-world-currency-16318/

David Morganนักวิเคราะห์ทองและโลหะ คาดการว่าฟองสบู่หนี้จะแตกในเดือนกันยายนปี2015นี้
เพราะว่าทุกประเทศเล่นเกมเหมือนกันหมด คือสหรัฐฯสร้างเงินเฟ้อให้ทั้งโลก ผ่านดอลลาร์ที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก ประเทศต่างๆ
รวมทั้งไทยแลนด์จำต้องพิมพ์เงินออกมาเพื่อเพิ่มปริมาณเงินและทำให้ค่าเงินอ่อนเมื่อเทียบดอลลาร์เพื่อเพิ่มการส่งออก และดันจีดีพี แล้วก็สร้างหนี้ใหม่
หนี้ของแต่ละประเทศไม่สามารถจะจ่ายได้ เลยจำต้องสร้างหนี้ใหม่ไปจ่ายหนี้เก่าเรื่อยๆ และมันจะถึงจุดที่จะต้องระเบิดออกมา David Morgan เชื่อว่ากันยายนปีนี้จะเป็นจุดที่ฟองสบู่หนี้จะแตก
บังเอิญจริงที่จีนเตรียมที่จะเปิดใช้China International Payment Systemเพื่อเป็นช่องทางให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกในเดือนกันยายน-ตุลาคมพอดีบังเอิญจริงๆ
http://usawatchdog.com/debt-bomb-going-to-explode-in-september-2015-david-morgan/



ถ้าการเปิดใช้China International Payment Systemเป็นไปด้วยความรวบรื่น คาดการได้เลยว่าเงินหยวนจะผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในเงินสกุลหลักของโลกเทียบเคียงยูเอสดอลลาร์
ที่ผ่านมาเงินหยวนยังไม่เป็นที่ใช้แพร่หลายมากนัก แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะมีขนาดใหญ่เทียบเท่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯไปแล้ว ทั้งนี้เป็นเพราะโครงสร้างพื้นฐานของระบบแบงค์กิ้ง โบรกเก้อร์ หรือไอทีที่จะมารองรับ
การเทรดหยวนระหว่างประเทศยังไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ การเปิดใช้China International Payment Systemน่าจะเป็นก้าวย่างที่สำคัญที่จะทำให้การเทรดเงินหยวนระหว่างประเทศเป็นไปอย่างเรียบร้อย
เหมือนกับการเทรดเงินสกุลหลักอื่นๆของโลก ระบบนี้ถือว่าเป็นซุปเปอร์ไฮเวย์สำหรับการเทรดหยวนที่จะมาแทนเครือข่ายการเทรดหยวนที่เป็นหย่อมๆ ไม่ได้มีการเชื่อมโยงกับระบบซุปเปอร์ไฮเวย์
ระบบเทรดหยวนระหว่างประเทศเกิดขึ้นเมื่อใด ยูเอสดอลลาร์มีหนาวแน่ เพราะว่าจีนตั้งใจที่จะเพิ่มปริมาณหยวนในตลาดการเงินระหว่างประเทศและลดการใช้ดอลลาร์ลง ดังนั้นอเมริกาต้องทำทุกวิถีทางที่จะสะกัด
ซึ่งจะขัดขว้างได้หรือไม่ต้องคอยดูกันต่อไป

เป็นหนี้ ไม่มี ไม่จ่าย ทำตลาดการเงินโลกล้ม ยิ้มวายป่วงเหมือนกันหมด



ถ้าเหตุการณ์โลกดำเนินไปตามปกติ จีนและรัสเซียจะผงาดในยูเรเซียและเอเซีย ส่วนตะวันตกจะเสื่อมและในที่สุดจะอยู่ใต้อิทธิพลตะวันออก เพราะว่าจะโดนไล่ซื้อหมดในช่วงที่อ่อนแอของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการเงิน

อีลิทตะวันตกคงไม่ยอม ทางที่ทำคือจะปั่นปวนไปเรื่องน้ำมัน เพราะว่ามีหนี้และ ตราสารอนุพันธ์เกี่ยวข้องหลายล้านล้าน ถ้าเจ๊งหนึ่ง บริษัทใหญ่ๆจะลามไปแบงค์ กระทบเป็นลูกโซ่ เหมือน ตอนที่"เลห์แมน บราเธอร์"ล่มสลาย
การที่ธนาคาร กลางสวิสลอยค่าเงินสวิสฟรังค์แล้วทำให้ตลาดการเงินปั่นป่วนอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำลาย บั่นทอน ระบบการเงินไปเรื่อยๆ
เมื่อไหร่ก็ตาม ที่อนุพันธ์ของ แบงค์Wall Streetที่มีตัวเลข$1,000ล้านล้านกว่าพัง ระบบการเงินโลกที่เรารู้จักกันดีทุกวันนี้จะถึงจุดสิ้นสุด พร้อมกับระบบเสรีนิยม+ทุนนิยม ทั้งฝ่ายตะวันตกและ ฝ่ายตะวันออกจะพังเหมือนกัน
แล้ววัดใจกันว่าจะสร้างระบบใหม่กันอย่างไร และใครจะฟื้นตัวก่อน แนวโน้มมันไปออกฝั่งตะวันออก(จีนและรัสเซีย)ตอนนี้พวกอีลิทคงทะยอยกักตุนทองแล้วล่ะ

เป็นนักเลง สร้างสถานการณ์โดยให้เกิดสงคราม



โดยมีรายได้จากการขายอาวุธสงคราม(สงครามตัวแทนและสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองในการทำสงครามเอง ซึ่งอาจผ่านหรือไม่ผ่านทางสหประชาชาติก็เคยทำมาแล้ว) หรือให้ใครมาเป็นเหยื่อเพื่อล้างหนี้ตัวเอง
และกำจัดเจ้าหนี้ตัวเอง โดยเฉพาะรัสเซียกับจีนที่เป็นเจ้าหนี้ของตนเองอยู่ โดยถึงขั้นสงครามโลกเลยทีเดียวเพื่อพวกอีลิทตะวันตกจะได้จัดระบบโลกใหม่ เหมือนเรื่อง ผู้ชนะย่อมถูกเสมอ

ในการก่อสงครามโลกเพื่อถล่มรัสเซียและจีนโดยทางทหาร อยู่ที่วิธีการเริ่มต้นอาจจะก่อสงครามโดยเริ่มจุดชนวนโดยผ่านตัวแทนไปก่อน สมมุติอเมริกาชนะจะยังคงรักษาอำนาจได้เหมือนเดิม
หนทาง นี้เสี่ยง เพราะว่าไม่แน่ว่าจะชนะสงครามรัสเซีย และจีนได้หรือไม่ นาโต้ไม่ได้เข้มแข็งเหมือนที่คุย หมีขาวบุก ไม่กี่วันก็ยึดได้ทั้งยุโรป ทางตะวันออกกลางไม่ได้เกินความสามารถของอิหร่านที่จะจัดการ
ทางเอเซียญี่ปุ่นไม่มีทางเทียบจีน และเกาหลีเหนือได้ อเมริกาคิดหรือว่าจะทำสงครามนอกบ้านได้เหมือนในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เพราะว่าคิวบามีขีปนาวุธของรัสเซียจ่อจมูกของ ฟลอริด้าอยู่
ขีปนาวุธนิวเคลียร์สมัยใหม่สามารถยิง ข้ามทวีปได้ ยิงแลกหมัดกันเป็นพันลูก จะสกัดกันได้ทุก ลูกหรือ? หนทางนี้เสี่ยงที่โลกจะแตก ตายทั้งหมด
ถ้าทั้งสหรัฐฯและรัสเซียคิดว่า ต่างคนต่างแน่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงกันข้ามในทางสงครามนิวเคลียร์ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ต้อง ตัวใครตัวมันกันแล้วในท้ายที่สุดหนี้จะถูกตัดสินด้วยกระบอกปืน

ในเกมการเงินของการสร้างหนี้เพื่อดันจีดีพี นิวยอร์คและลอนดอนแจกไพ่ให้ทุกประเทศเล่นเหมือนกันหมด แต่ที่ได้ประโยชน์ที่แท้จริงคือผู้ถือหุ้นของแบงค์และบริษัทในเครือ
เมื่อหนี้เอกชน/บริษัทไปต่อไม่ไหว จะโดนเท็คโอเวอร์ยึดกิจการ หรือไม่ก็เข้าไปศาลล้มละลายChapter 11เพื่อให้เจ้าหนี้รุมทึ้งขายกิจการทอดตลาดเพื่อเอาหนี้มาแบ่งกันเมื่อหนี้ของครัวเรือนไปต่อไม่ไหว
บ้านช่องจะถูกยึด ทรัพย์สินถูกเลหลังขายใช้หนี้แบงค์ เมื่อหนี้แบงค์ไปต่อไม่ไหว รัฐบาลจะเข้ามาอุ้ม เพราะว่าพวกนี้คุมรัฐบาลอีกที อุ้มไปอุ้มมารัฐบาลเจ้ง ไอเอ็มเอฟจะเข้ามาให้เงินรัฐบาลกู้
พร้อมกับตั้งเงื่อนไขขอซื้อทรัพย์สินของแผ่นดิน ให้เปิดเสรีให้แบงค์และบริษัทต่างชาติเข้าไปยึด แต่เมื่อหนี้ของเจ้ามือนิวยอร์คและลอนดอนที่แจกไพ่ไปต่อไม่ไหว เพราะว่าอนุพันธ์การเงินเล่นกันเป็น$พันล้านล้าน
จะไปต่ออย่างไร นึกภาพเอาก็แล้วกัน ถ้าเราเป็นหนี้เจ้าพ่อจะเกิดอะไรขึ้น โดนลูกน้องเจ้าพ่อยิงหัวสมองกระจุยแน่ถ้าเบี้ยวไม่ยอมจ่ายหนี้ แต่ถ้าเจ้าพ่อเป็นหนี้เราจะเกิดอะไรขึ้น
เราจะมีปัญญาทวงหนี้เจ้าพ่อหรือไม่ ท้ายที่สุดระบบหนี้จะถูกตัดสินด้วยระบบเจ้าพ่อ ใครมีปืนมากกว่ากัน
เรามาถึงจุดนี้แล้วที่เจ้าพ่อนิวยอร์ค 233%ต่อจีดีพี ลอนดอน252%ต่อจีดีพี ยังไม่นับแบงค์ในเครือที่เล่นอนุพันธ์เป็นพันล้านล้าน$กันจนนัวเนียไปหมดจึงจำต้องล้างหนี้ทั้งหมด ด้วยปลายกระบอกปืน
เพราะว่าไม่ยอมเล่นตามกฎกติกาของทุนนิยมที่ตัวเองตั้งขึ้นมา คือกิจการที่ไปต่อไม่ได้ต้องปล่อยให้ล้มละลาย ให้คนอื่นเข้ามาซื้อ หรือฟื้นฟู
แต่ถ้าเล่นตามกติกา หยวนจะเข้ามาซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า นิวยอร์คและลอนดอนจะเสียการคอนโทรลระบบการเงินโลก
ไม่มี ไม่หนี พิมพ์เงินจ่ายหนี้ แต่ถึงจุดหนึ่งจะพิมพ์เงินจ่ายหนี้ทั้งหมดไม่ได้ เพราะว่าความน่าเชื่อถือจะหมดไป ถ้าจะทวงเงิน จะถูกท้าให้ดวลปืนกันหน่อย
พี่ปูตินและเฮียสีเจิ้นผิงถึงได้สะสมอาวุธกันใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมทำสงครามล้างหนี้
ความคิดเห็นที่ 56
สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยเก็ท ว่า อเมริกา เอาเปรียบโลกยังไง
ก็ ขอให้ลองคิด ที่ วิกฤตการเงิน ปี 2540 ค่ะ
ปี 40 เราเกิด วิกฤตการณ์ เราโดนอะไรบ้างค่ะ ?
โดนรัดเข็มขัด ขายทรัพย์สินของคนไทยให้ต่างชาติในราคาถูก ต้องกู้ IMF

แต่ทำไม อเมริกา เกิดวิกฤตการณ์ แฮมเบอร์เกอร์
อะไรที่เคยบังคับให้เราทำตอน ปี 40 อเมริกา ไม่ทำ
แต่ ใช้วิธี พิมพ์เงินเข้าระบบ ซะเฉยๆ ไม่มีอะไรรองรับ

ไม่สังเกตเหรอค่ะ ว่า ทำไมข้าวของแพงขึ้น แพงขึ้น ??
ก็เพราะ มันมีดอลลาร์ เข้ามาในระบบมากขึ้นไงค่ะ จากการพิมพ์เงินของ FED
และประเทศไทย ยังใช้ ดอลลาร์เป็นเงินทุนสำรอง เศรษฐกิจยังยึดโยงกับดอลลาร์อยู่
มันแฟร์กับประเทศอื่นไหม ?

พอ อเมริกาทำ UK Japan EU ก็พิมพ์เงิน ตามๆ กันเลยค่ะ สนุกมาก เอาเปรียบ ประเทศอื่นทั้งโลก
ไทยลองพิมพ์เงินออกมาไปซื้อตราสารหนี้ ดูบ้างสิค่ะ โดนทุบค่าเงินเละ แน่ค่ะ
ส่วนทำไม อเมริกา ไม่ทุบค่าเงิน UK Japan EU แบบที่ทำกับรัสเซีย
ก็เพราะ มันเป็นพวกเดียวกันไงค่ะ กลุ่มคนที่คุม Bank ของ US UK EU Japan ก็คนของ รอทส์ไชลด์ ทั้งนั้น
ความคิดเห็นที่ 21
ยังจำบทความคนนึงในเฟสได้
ย้อนไปปีนู้ก็ว่า รูเบิ้ลจะยิ่งใหญ่ ผ่านมา 2 ปี ร่วงต่ำเละเทะ

เอาบทความดาวโจนพินาศมาลง ผ่านมาราว 2 ปี ดาวโจนส all time high

ไหนจะเชียรทองสักปีก่อน ป่านนี้ทองยังไม่ฟื้น

เงิบแล้วเงิบอีก แต่เอาเหอะ ความสุขเล็กๆน้อยๆของการมโน
ความคิดเห็นที่ 4
#Marie Le Pen หัวหน้าพรรคการเมืองฟร้อนท์เนชั่นแนลของฝรั่งเศส จวกว่าพวกนักการเมืองในบรัสเซลส์ ว่าเป็นลูกไล่อเมริกา
ไม่มีความคิดที่จะยืนบนขาตัวเอง เอาแต่เชื่อฟังสหรัฐแล้วเดินตามกันต้อยๆ
http://rt.com/news/230503-le-pen-us-lackey/

#จะเห็นได้ว่าสงครามตะวันออกกลางรอบใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว ด้วยการจุดปะทุเหตุการณ์ก่อการร้าย Charlie Hebdo ที่ฝรั่งเศส ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์หงส์ดำเผานักบินจอร์แดนทั้งเป็น
เพื่อสร้างความสะเทือนขวัญให้ประชาชนชาวโลกและสร้างชอบธรรมให้กองทัพจากโลกตะวันตกเข้ามาก่อสงครามในตะวันออกกลางตะวันออกกลางกำลังจะลุกเป็นไฟรอบใหม่
รอบนี้จะยาว และจะสัมพันธ์กับสงครามยูเครนหรือไม่อย่างไร ต้องดูกันไป
http://rt.com/uk/230571-uk-jordan-military-support/

***#เยอรมันเหลิงไปหน่อยที่ไปยุ่มย่ามในวิกฤติยูเครน ตอนนี้กำลังจะเจอของจริงอยากจะถอนตัว ฝรั่งเศสไม่ต้องพูดถึง ถอดใจไปนานแล้ว
เหลือแต่สหรัฐฯที่ต้องการไล่บี้ปิดล้อมหมีขาวต่อไปผ่านสงครามตัวแทนการถล่มISISเป็นการอำพรางปฏิบัติการทหารของสหรัฐฯและพันธมิตรเพื่อแย่งอำนาจคืนมาจากอิหร่านและรัสเซียในตะวันออกกลาง
อิหร่านกำลังแผ่อำนาจลงมาทางใต้เพื่อกดดันกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่เป็นพันธมิตรของโลกตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นซาอุดิฯ ยูเออี คูเวต ยาห์เรน การ์ต้า รวมทั้งอิสราเอลซึ่งเป็นตัวโจ๊กเก้อร์
สงครามISIS เป็นสงครามของการปกป้องเปโตรดอลล่าร์ของตะวันตกนั่นเอง เพราะว่าถ้าไม่สามารถยันซาอุดิฯให้อยู่ได้ และอิหร่านโดยการหนุนของรัสเซียและจีนเป็นใหญ่
จะเลิกการซื้อขายน้ำมันเป็นเงินดอลลาร์ ซึ่งจะกลายเป็นเงินกงเต๊กทันที
http://rt.com/uk/230571-uk-jordan-military-support/

#ถ้าสหรัฐฯส่งอาวุธยุโธปกรณ์ให้ยูเครน เท่ากับว่าสหรัฐฯได้ประกาศสงครามกับรัสเซีย และรัสเซียจะไม่อยู่นิ่งเฉย แต่จะทำการตอบโต้อย่างสมบูรณ์แบบWorld War 3ดีๆนี่เอง
http://www.themoscowtimes.com/business/article/u-s-military-aid-to-ukraine-would-be-declaration-of-proxy-war-russian-defense-analysts/515654.html

#โอบามาย้ำกับปูติน ว่าถ้าหากรัสเซียยังคงกระทำการก้าวร้าวในยูเครน รวมทั้งส่งทหาร อาวุธและเงินช่วยเหลือพวกกบฎแยกดินแดน รัสเซียจะต้องจ่ายราคาแพงเพิ่มขึ้น
พอจะเอาจริงโอบามากลับมาถอดใจ และโยนให้ปูตินไปตกลงแผนสันติภาพสำหรับยูเครนในกรอบของผู้นำ4ฝ่าย คือรัสเซีย ยูเครน เยอรมันและฝรั่งเศส ทั้งที่กรอบสันติภาพนี้สหรัฐฯไม่ได้มีส่วนริเริ่ม
หรือส่วนร่วมเลยโอบามาล้มมวยง่ายๆอย่างนี้หรือ
http://edition.cnn.com/2015/02/10/politics/obama-putin-ukraine/index.html

#หลังจากเจรจากัน4ฝ่ายมานานนับ15ชั่วโมงข้ามวันข้ามคืนแบบไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกันเลย ในที่สุดข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออกได้รับการเห็นชอบ
จากผู้นำของรัสเซีย ยูเครน เยอรมัน และฝรั่งเศส รวมทั้งตัวแทนของDonetsk และLugansk ในการประชุมสันติภาพที่กรุงMinsk
http://rt.com/news/231571-putin-minsk-ukraine-deal/

#ไอเอ็มเอฟรีบรับลูก ประกาศทันทีจะให้เงินช่วยเหลือยูเครน$17,000กว่าล้าน จากแพคเกจ$40,000ล้าน เจ๊ลาการ์ด
กรรมการผู้จัดการใหญ่ของไอเอ็มเอฟเอาใจเคียฟเหลือเกินนะ ทีกับกรีซเจ๊เล่นไล่บี้น่าดู http://sputniknews.com/europe/20150212/1018165534.html

# กองกำลังทหารรัสเซียที่เชี่ยวชาญด้านวิศวะ รังสี เคมีและชีวะภาพได้เข้าร่วมซ้อมรบ รวมทั้งหน่วยต่อต้านการวินาศกรรม
ในการซ้อมรบครั้งนี้ มีการใช้ยานพาหนะที่สอดส่องเคมีRKhM-4 และมีการใช้โดรนด้วย
http://tass.ru/en/russia/777221

# รัสเซียส่งเรือรบ10ลำไปประจำการที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว
http://sputniknews.com/politics/20150213/1018223791.html

แล้วทางอีลิทหาทางออกตัวเองอย่างไรเมื่อเลือกสงคราม



#เนื่องจากความไม่เท่าเทียมกันที่เพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจมีปัญหาและเกิดเหตุจราจลบ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจราจลผิวสีที่ Ferguson และการประท้วงของพวก Occupyทั้งหลายต่อต้านวอลล์สตรีท
ทำให้พวกบริหารเงินเฮดจ์ฟันด์หลายคนเตรียมแผนการอพยพจากอเมริกาไปอยู่ประเทศอื่น
Robert Johnsondกล่าวในงานประชุมของWorld Economic Forumที่ดาวอสช่วงต้นปี2015นี้ว่า ผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์หลายคนเตรียมหนีไปอยู่ประเทศอื่น เช่นนิวซีแลนด์ เพราะคิดว่าจำต้องมีที่หลบภัย
นิวซีแลนด์กลายเป็นสวรรค์ของพวกหลบภัยจราจลทางสังคมที่บ้านตัวเอง หรือหนีภัยของสงครามที่อาจจะเกิดขึ้น พวกอีลิททั้งหลายน่าจะเลือกนิวซีแลนด์เป็นที่หลบภัยเพราะว่าห่างไกลจากยุโรปและสหรัฐฯ
ยิ่งถ้าเกิดเหตุร้ายในเอเซีย นิวซีแลนด์ดูเหมือนว่าจะปลอดภัยที่สุด เพราะว่ามีออสเตรเลียช่วยกันอีกต่อหนึ่ง อีกประการสำคัญกองทัพเรือสหรัฐฯอาจจะใช้นิวซีแลนด์เป็นฐานด้วยก็ได้ จะได้อยู่ห่างไกลจากสมรภูมิ
Robert Johnsonเป็นผู้อำนายการของ Institute of New Economic Thinking หรือสถาบันทางความคิดที่เสนอนโยบายใหม่ทางเศรษฐกิจ อดีตเคยทำงานเป็นกรรมการผู้จัดการให้กองทุนของนายจอร์จ ซอรอส
พ่อมดทางการเงิน เพราะฉะนั้นคำพูดของเขามีน้ำหนัก ว่าพวกเศรษฐีเริ่มไม่มั่นใจกับสภาพสังคมตะวันตกว่าจะอยู่ต่อไปได้หรือไม่เนื่องจากวิกฤติการเงินไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้คนรวย ยิ่งรวย
และคนจนไม่มีโอกาสโงหัว นักการเมือง และผู้บริหารยิ่งต้องการเพิ่มความร่ำรวยให้ตัวเอง โดยไม่สนใจว่าผู้ด้อยโอกาสต้องการโอกาสให้ลูกหลานของเขามีโอกาสเช่นนี้เหมือนกัน
บางคนไม่อยากหนีก็ขุดรูขุดบังเกอร์ หรือที่หลบภัยอยู่ มีการเตรียมตุนอาหาร น้ำและอุปกรณ์ยังชีพในช่วงวันที่ไม่แน่นอนข้างหน้า
http://www.theguardian.com/public-leaders-network/2015/jan/23/nervous-super-rich-planning-escapes-davos-2015
http://thedailycoin.org/?p=17090#sthash.67Qa9nj2.qndovsqU.dpbs
......................................................................................................................................

ตอนนี้มีบทสรุปหรือไม่ ยังไม่มี ต้องดูกันอีก แต่มองแนวที่ออกตอนนี้คงหนีไม่พ้นสงคราม

ถ้าต้องการสันติภาพ พวกอิลิทต้องให้จีน, รัสเซีย, อินเดีย และประเทศอื่นๆ มีสิทธิมีเสียง หรือมีหุ้นใน กองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น จีนในฐานะ เจ้าหนี้ใหญ่ ทุนหนาสุด
ด้วยทุนสำรองระหว่างประเทศ$4 ล้านล้านทสามารถเรียกร้องให้ตัวเองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ในกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือธนาคารโลก และจำต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้โลก
และมีแพะ มาให้สังเวย สหรัฐฯอาจจะเลิกให้เฟดพิมพ์ดอลลาร์เพื่อ ลดอำนาจการครอบงำของพวกอีลิท ให้กระทรวงการคลังพิมพ์ดอลลาร์แทน ดอลลาร์ใหม่แลกดอลลาร์เก่า ที่ไร้ค่าที่ต้องใช้ปริมาณมากกว่า
เป็นการลดค่าเงินในตัว แต่ต้องมีมาตรการแบบปรส. บ้านเราเพื่อชดเชยเจ้าหนี้ ที่ถือดอลลาร์ ไม่งั้นเฟดเล่นพิมพ์เงินจ่ายหนี้อย่างเดียว คนถือดอลลาร์ก็ยิ้ม
ทรัพย์สินหรือกิจการต่างๆของสหรัฐฯจะต้องถูกเทขายเพื่อใช้หนี้ แต่ปัญหาคือ จีนมีหยวนอยู่แล้ว มีทองคำค้ำอยู่แล้ว ทำไมต้องแบ่งอำนาจกับพวกอีลิทเพื่อให้SDRเป็นเงินสกุลหลักของโลก
เงินสกุลหลักของโลกแท้ที่จริงแล้ว หนุนโดยแสนยานุภาพทางทหาร คือเอาปืนไปจี้หัว ชาวบ้านให้ยอมรับ ใครไม่ยอมรับก็กดโป้ง สมองกระจาย จบ
แล้วรัสเซีย และบริกส์อื่นๆ จะอยู่ตรงใหนในสมการนี้ เพราะว่ารัสเซียต้องการสร้างยูเรเซียที่ไม่จำเป็นต้องคบกับตะวันตกก็ได้ เรื่องอะไรต้องมาแบ่งอำนาจกับพวก อีลิท หรือพวกผู้ดี ราชวงศ์ รวมทั้งนายแบงค์ยุโรป
เรื่องมันไม่ง่าย เพราะฉะนั้นจากเหตุปัจจัยที่กล่าวมา ทั้งหมด เราอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงของสงครามโลก มากกว่าสันติภาพ ผลประโยชน์ดูแล้วมันไม่ลงตัว.

เสริมท้าย ย้อนเหตุการณ์ยึดวอลล์สตรีท แต่ไม่สำเร็จ แต่ก็ทำให้หนาวขี้เหมือนกัน



ตอนนี้ทหารอเมริการบางส่วนไม่พอใจที่เขาไปรบนั้นบางคนรับรู้ว่าไม่ได้ทำเพื่อประเทศกลับทำให้ผลประโยชน์กลุ่มทุนที่ควบคุมอเมริกาอีกที
ยังจำเหตุการณ์ยึดวอลสตรีท ได้หรือเปล่า มันจะกลับมาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
ปรากฏการณ์ยึดวอลล์สตรีท ถึงเวลา "รากหญ้าอเมริกันชน" ต้องลุกฮือ!!
http://www.thairath.co.th/content/209255
https://www.youtube.com/watch?v=jyziG5bUuBE
http://www.oknation.net/blog/Illusions/2011/10/14/entry-1
ความคิดเห็นที่ 60
ถึง คห 56  ขายทรัพย์สินของคนไทยให้ต่างชาติในราคาถูก ต้องกู้ IMF .......อันนี้จะไม่ด่าคนไทยหน่อยเหรอ?

พอ อเมริกาทำ UK Japan EU ก็พิมพ์เงิน ตามๆ กันเลยค่ะ....UK ทำตอนไหนครับ?

ส่วนทำไม อเมริกา ไม่ทุบค่าเงิน UK Japan EU แบบที่ทำกับรัสเซีย........ไม่มีใครทุบค่าเงินรัสเซียครับ เค้าทุบราคาน้ำมัน และไม่เกี่ยวกับการทำ QE ครับอันนี้โยงได้มั่วมาก



เห้อเพลีย  ติ่งแอนตี้อเมริกาก็ยังเป็นติ่งอเมริกา มีแต่การมโนไร้ข้อเท็จจริง จริงใครจะแอนตี้ใครก็โอเคนะ แต่น่าจะอยู่บนความเป็นจริงกันหน่อย นี่เล่นอะไรก้ไม่รู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่