เรื่องมันมีอยู่ว่า พ่อของผมได้ขับรถจักรยานยนต์เบรคกระทันหัน เสียหลักล้มเองโดยไม่ได้ไปชนใครแต่อย่างใด พ่อผมหัวกระแทกพื้น หน้ากากหมวกกันน็อคบาดคิ้วเย็บไป 6 เข็มและมีแผลถลอกตามร่างกาย แล้วหลังจากนั้นได้มีพลเมืองดี ได้มายกรถขึ้น เนื่องจากรถเปิด idling stop (pcx) ไว้ ทำให้เหมือนเครื่องดับอยู่ พลเมืองดียกรถขึ้นโดยมือไปบิดคันเร่งทำให้รถพุ่งไปชนรถยนต์บริเวณนั้น หลังจากนั้นพลเมืองดีก็หนีไปจากที่เกิดเหตุ ขณะนั้นพ่อผมทำการเย็บแผลที่โรงพยาบาล (เกิดเหตุหน้าโรงพยาบาล) หลังจากทำแผลเสร็จใหม่ ๆ เจ้าหน้าที่ประกันได้มาขอให้ผมเซ็นเอกสารให้ในทันที พ่อผมถามไปว่าผิดในข้อหาอะไร ไม่ได้เป็นคนขับชน เจ้าหน้าที่ประกันบอกว่า ผิดในฐานะเป็นเจ้าของรถ (แต่รถเป็นชื่อผมนะ ไม่ใช่ชื่อพ่อ) ในขณะนั้นพ่อผมยังมึนงงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เลยเซ็นให้ไป แต่พ่อผมได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้อยู่ ซึ่งบันทึกประจำวันก็บอกชัดเจนว่าพ่อผมไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ แต่เป็นพลเมืองดี นำรถไปชน หลังจากนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ ได้มีหนังสือเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทประกัน โดยเนื้อความระบุว่าพ่อผมเป็นผู้ขับขี่ไปชน โดยเรียกร้องค่าเสียหาย 20000 บาท ซึ่งผมมองว่าสูงมาก รถคู่กรณี มีรอยขูดเริ่มตั้งแต่ประตูหน้า ประตูหลัง และท้ายรถ ซึ่งพ่อผมไม่ได้ทำแต่อย่างใด แต่แสดงความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของรถ เหมือนพ่อผมหลงคารมประกันให้รับผิดเป็นผู้ขับขี่ เพราะได้ทำการโทรไปสอบถาม และชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ ประกันก็ตอบแค่ว่า "ก็คุณเซ็นรับผิด ตกลงจะจ่ายหรือไม่จ่าย ไม่จ่ายจะตัดสายนะ" คำพูดนี้ทำให้ผมปรี๊ดเลย
เลยอยากสอบถามว่า ในกรณีนี้ไม่รับผิดในฐานะผู้ขับขี่ตามที่ประกันอ้าง แต่รับผิดในฐานะเจ้าของรถเท่านั้น พ่อผมต้องชดใช้ค่าเสียหายมั้ย และถ้าต้องชดใช้ การชดใช้ค่าเสียหายจะต่างจากเดิมมั้ย หรือต้องยอมรับสภาพที่เป็นอยู่นี้ไป
โดนประกันเรียกค่าเสียหายในฐานะผู้ขับขี่ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นคนขับ
เลยอยากสอบถามว่า ในกรณีนี้ไม่รับผิดในฐานะผู้ขับขี่ตามที่ประกันอ้าง แต่รับผิดในฐานะเจ้าของรถเท่านั้น พ่อผมต้องชดใช้ค่าเสียหายมั้ย และถ้าต้องชดใช้ การชดใช้ค่าเสียหายจะต่างจากเดิมมั้ย หรือต้องยอมรับสภาพที่เป็นอยู่นี้ไป