จากกระทู้หมอสูตินารี ที่เจอเด็กท้อง แล้วต้องออกจากโรงเรียน ..........
ซึ่งก็ปรากฏว่ามีความคิดที่ขัดแย้งเกิดขึ้น บางความคิดเห็นก็ด่าโรงเรียน ด่าครู ที่ทำให้เด็กขาดโอกาสเรียนต่อ
บางความคิดเห็นก็บอกว่าควรให้โอกาสเด็ก
บางความเห็นก็ว่าถ้าเด็กรักจะเรียนจริงๆ ก็ต้องดิ้นรนหาหนทางที่จะได้เรียน
บางความเห็นก็โกรธเกรี้ยวครูอย่างหนักถึงขั้นเสนอว่าครูคนไหนตั้งท้องก็ควรไล่ออกจากโรงเรียน
บางความเห็นก็แย้งว่าเพราะเด็กไม่ยั้งคิดก่อนที่จะทำ
เลยอยากให้ดูภาพข่าวที่หลายคนอาจผ่านๆแล้วลืม
ภาพรณรงค์ของหน่วยงานที่หลายๆคนเคยผ่านตาแล้วอาจผ่านไป
เริ่มจาก
จับนักเรียนมัธยม 26 คน เสพยา มั่วเซ็กส์ ชาย 18 หญิง 8 คน
“ณัฐพร” ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ พา ด.ญ.11 ขวบร่วมหลับนอนถึง 2 ครั้ง แต่เจ้าตัวปฏิเสธลั่น อ้างไม่รู้จัก แถมบอกเด็กหญิงผู้เสียหายเคยได้ผู้ชายมาแล้วเป็น 10 ราย
อีกข่าว จากการสอบถามเด็กนักเรียนทั้งหมดทราบว่า ทุกคนอายุ 14 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.2 และเป็นแฟนกัน แต่แอบหนีเรียนมาเช่าห้องมั่วเซ็กส์ ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว กระทั่งมาถูกจับกุม
นักเรียนนำเงินที่ได้ จากการขายโทรศัพท์ นำมา จ่ายเช่าห้องในราคา 400 บาท โดยได้เข้ามากับเพื่อนรุ่นพี่ และเพื่อนนักเรียนชาย-หญิง อายุประมาณ 13-16 ปี และไปซื้อเหล้าเถื่อนและเบียร์ และได้เข้ามามั่วสุมกัน ประมาณ 5-6 คน เข้า-ออก จนถึงวันเกิดเหตุ กลุ่มนักเรียนบางส่วน ได้ทยอยกลับไปบ้างบ้างแล้ว ส่วนนักเรียนหญิง 2 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุกำลังเข้ามา
ขณะที่ยังมีอีกหน่วยงานที่รณรงค์
แม้กระทั่งในโรงเรียนก็รณรงค์ในเรื่องนี้
ที่ออกมาถกเถียงกันในกระทู้คุณหมอ อยากให้ลองหาทางออกช่วยกันเพราะจากที่อ่านมา พอสรุปคร่าวๆ คือ
1. เข้าข้างเด็ก เห็นใจเด็ก สงสารเด็ก
2. ไม่เข้าข้างเด็ก เพราะว่าเด็กไม่มีจิตคิดยับยั้งอารมณ์ความต้องการ
3. โทษโรงเรียน โทษครู
4. โทษผู้ปกครองเด็ก
5. โทษสังคม
เท่าที่ผมเคยเรียนมา ถามน้องๆที่อยู่มัธยม ครูสุขศึกษา ครูวิทย์ ครูชีวะ ก็สอนอยู่นะเรื่องท้องเรื่องการป้องกัน
ครูสอนวิธีนับวันหน้า 7 หลัง 7 การใช้ถุงยาง เรื่องยาคุม ยาคุมฉุกเฉิน แม้กระทั่งอบรมเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
แต่ข่าวแบบนี้ยังออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้เราควรโทษใครที่สุด
ลองดูข่าวนี้สักนิด......จากกระทู้หมอสูตินารี ที่เจอเด็กท้อง แล้วต้องออกจากโรงเรียน
ซึ่งก็ปรากฏว่ามีความคิดที่ขัดแย้งเกิดขึ้น บางความคิดเห็นก็ด่าโรงเรียน ด่าครู ที่ทำให้เด็กขาดโอกาสเรียนต่อ
บางความคิดเห็นก็บอกว่าควรให้โอกาสเด็ก
บางความเห็นก็ว่าถ้าเด็กรักจะเรียนจริงๆ ก็ต้องดิ้นรนหาหนทางที่จะได้เรียน
บางความเห็นก็โกรธเกรี้ยวครูอย่างหนักถึงขั้นเสนอว่าครูคนไหนตั้งท้องก็ควรไล่ออกจากโรงเรียน
บางความเห็นก็แย้งว่าเพราะเด็กไม่ยั้งคิดก่อนที่จะทำ
เลยอยากให้ดูภาพข่าวที่หลายคนอาจผ่านๆแล้วลืม
ภาพรณรงค์ของหน่วยงานที่หลายๆคนเคยผ่านตาแล้วอาจผ่านไป
เริ่มจาก
จับนักเรียนมัธยม 26 คน เสพยา มั่วเซ็กส์ ชาย 18 หญิง 8 คน
“ณัฐพร” ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ พา ด.ญ.11 ขวบร่วมหลับนอนถึง 2 ครั้ง แต่เจ้าตัวปฏิเสธลั่น อ้างไม่รู้จัก แถมบอกเด็กหญิงผู้เสียหายเคยได้ผู้ชายมาแล้วเป็น 10 ราย
อีกข่าว จากการสอบถามเด็กนักเรียนทั้งหมดทราบว่า ทุกคนอายุ 14 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.2 และเป็นแฟนกัน แต่แอบหนีเรียนมาเช่าห้องมั่วเซ็กส์ ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว กระทั่งมาถูกจับกุม
นักเรียนนำเงินที่ได้ จากการขายโทรศัพท์ นำมา จ่ายเช่าห้องในราคา 400 บาท โดยได้เข้ามากับเพื่อนรุ่นพี่ และเพื่อนนักเรียนชาย-หญิง อายุประมาณ 13-16 ปี และไปซื้อเหล้าเถื่อนและเบียร์ และได้เข้ามามั่วสุมกัน ประมาณ 5-6 คน เข้า-ออก จนถึงวันเกิดเหตุ กลุ่มนักเรียนบางส่วน ได้ทยอยกลับไปบ้างบ้างแล้ว ส่วนนักเรียนหญิง 2 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุกำลังเข้ามา
ขณะที่ยังมีอีกหน่วยงานที่รณรงค์
แม้กระทั่งในโรงเรียนก็รณรงค์ในเรื่องนี้
ที่ออกมาถกเถียงกันในกระทู้คุณหมอ อยากให้ลองหาทางออกช่วยกันเพราะจากที่อ่านมา พอสรุปคร่าวๆ คือ
1. เข้าข้างเด็ก เห็นใจเด็ก สงสารเด็ก
2. ไม่เข้าข้างเด็ก เพราะว่าเด็กไม่มีจิตคิดยับยั้งอารมณ์ความต้องการ
3. โทษโรงเรียน โทษครู
4. โทษผู้ปกครองเด็ก
5. โทษสังคม
เท่าที่ผมเคยเรียนมา ถามน้องๆที่อยู่มัธยม ครูสุขศึกษา ครูวิทย์ ครูชีวะ ก็สอนอยู่นะเรื่องท้องเรื่องการป้องกัน
ครูสอนวิธีนับวันหน้า 7 หลัง 7 การใช้ถุงยาง เรื่องยาคุม ยาคุมฉุกเฉิน แม้กระทั่งอบรมเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
แต่ข่าวแบบนี้ยังออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้เราควรโทษใครที่สุด