ข่าวนี้จริงไหมเนี่ย....
เหยื่อหุ้นทองคำกว่า 200 ราย โร่แจ้งความดำเนินคดีรอง ผจก.แบงก์กสิกรไทยสาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ หลังหลงเชื่อร่วมลงทุนชื้อหุ้นทองคำ “เคโกลด์” สูญเงินคนละ 10-15 ล้านบาท ขณะที่ตัวแสบหอบ 1,000 ล้านไปเสวยสุขที่สหรัฐอเมริกา ด้านผู้การ ภูธรเชียงใหม่สั่งสอบสวนข้อเท็จจริง ตั้งชุดพนักงานสอบสวนรับแจ้งความ พร้อมประสานธนาคารชี้แจงและชดใช้ค่าเสียหาย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 8 มี.ค.58 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เขื่อนแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าได้มีผู้เสียหายจำนวนมากต่างทยอยแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ช่วยติดตามสืบสวนประสานงานกับธนาคารกสิกรไทยสาขาช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารได้ให้ทางรองผู้จัดการอาวุโสคนหนึ่ง ทราบเพียงชื่อเล่นคือ น.ส.ดอกอ้อ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ซักซวนให้ลูกค้าระดับคนมีชื่อเสียงโด่งดัง บุคคลวีไอพี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการเข้าร่วมลงทุนชื้อกองทุนทองคำเคโกลด์กับธนาคาร โดยมี น.ส.ดอกอ้อ เป็นเจ้าหน้าที่รับเปิดบัญชี รับเงินจากลูกค้าจำนวนกว่า 200 ราย เพื่อนำเข้าบัญชีเงินกองทุน แต่พอถึงครบรอบกำหนดกลุ่มลูกค้าหรือผู้เสียหายได้นำสมุดบัญชีธนาคารไปตรวจสอบ ปรากฏว่าเงินสดจำนวนกว่า 15,000,000 บาท ไม่มีอยู่ในบัญชีแต่อย่างไร ต่างทยอยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน น.ส.คำน้อย (ขอสงวนชื่อจริงและนามสกุล) อายุ 66 ปี อดีตข้าราชการบำนาญอยู่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทย สาขาช้างเผือกมานานกว่า 10 ปี โดยได้ชื้อกองทุนของธนาคารกสิกรไทยสาขาช้างเผือก ตามบัญชีเงินฝากจำนวน 3 บัญชี รวมเงินจำนวนกว่า 15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค.58 ตนเองได้นำสมุดบัญชีไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารปรากฏว่าเงินทั้งหมดไม่มีอยู่ในบัญชี จึงทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายเป็นอันมาก จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ช่วยติดตามเงินมาคืน
น.ส.คำน้อย (สงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า ตนเเป็นลูกค้าธนาคารมานานกว่า 10 ปี จึงได้นำเงินสดจำนวนกว่า 15 ล้านบาท ไปเปิดบัญชีลงทุนกองทุนทองคำของธนาคาร เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในตัวของ น.ส.ดอกอ้อ รอง ผจก.อาวุโสของธนาคาร จะเป็นคนเปิดบัญชีและสะแต้มลงบัญชีให้ แต่พอมาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้นำสมุดบัญชีเงินลงทุนไปตรวจสอบปรากฏว่าเงินจำนวน 15 ล้านบาท ไม่มีในบัญชี ทำให้เกิดความเดือดร้อนและได้รับความเสียหาย จึงได้มาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังธนาคารกสิกรไทย ปรากฏว่า น.ส.ดอกอ้อ ได้หลบหนีไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าของธนาคาร บุคคลระดับวีไอพี ข้าราชการบำนาญ ตำรวจ ทหาร ถูกหลอกให้ลงทุนชื้อกองทุนทองคำ เคโกลด์ จำนวนกว่า 200 ราย รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านาบาท ต่างทยอยเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเช่นกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังธนาคารกสิกรไทย สาขาช้างเผือก ทางธนาคารรับปากว่าจะชดใช้ให้ครบทุกบาท ทุกสตางค์ แต่หากตนเองไม่ได้รับเงินคืนก็จะแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยหากมีข่าวเผยแพร่ออกไปจะทำให้ธนาคารได้รับผลกระทบบรรดาลูกค้าหรือเปิดบัญชีเงินลงทุนกองทุนทองคำแห่มาตรวจสอบถอนเงินกับทางธนาคาร อาจทำให้ธนาคารเสียหายได้
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.วชิระ กาญจนวิภาดา ผกก.สภ.ช้างเผือก จัดตั้งทีมสอบสวนเข้าไปสอบสวนปากคำผู้เสียหายและสืบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมทั้งจะได้ตั้งทีมพนักงานสอบสวนไว้รับแจ้งเหตุ พร้อมจะได้ประสานกับทางธนาคารกสิกรไทยสาขาช้างเผือก มาดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงแก่ประชาชน ลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งลูกค้าบางรายก็ไม่อยากเป็นข่าว เกรงว่าธนาคารจะปัดความรับผิดชอบไม่คืนเงินให้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการประสานการเจรจากับธนาคารกสิกรไทยในวันที่ 9 มี.ค.นี้
http://www.banmuang.co.th/news/crime/10891 
แห่แจ้งความจับรองผจก.แบงค์รวงข้าว ชวนลงทุนค้าหุ้น”ทองคำ” เชิดพันล้านเผ่นหนีสหรัฐ
เหยื่อหุ้นทองคำกว่า 200 ราย โร่แจ้งความดำเนินคดีรอง ผจก.แบงก์กสิกรไทยสาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ หลังหลงเชื่อร่วมลงทุนชื้อหุ้นทองคำ “เคโกลด์” สูญเงินคนละ 10-15 ล้านบาท ขณะที่ตัวแสบหอบ 1,000 ล้านไปเสวยสุขที่สหรัฐอเมริกา ด้านผู้การ ภูธรเชียงใหม่สั่งสอบสวนข้อเท็จจริง ตั้งชุดพนักงานสอบสวนรับแจ้งความ พร้อมประสานธนาคารชี้แจงและชดใช้ค่าเสียหาย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 8 มี.ค.58 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เขื่อนแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าได้มีผู้เสียหายจำนวนมากต่างทยอยแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ช่วยติดตามสืบสวนประสานงานกับธนาคารกสิกรไทยสาขาช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารได้ให้ทางรองผู้จัดการอาวุโสคนหนึ่ง ทราบเพียงชื่อเล่นคือ น.ส.ดอกอ้อ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ซักซวนให้ลูกค้าระดับคนมีชื่อเสียงโด่งดัง บุคคลวีไอพี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการเข้าร่วมลงทุนชื้อกองทุนทองคำเคโกลด์กับธนาคาร โดยมี น.ส.ดอกอ้อ เป็นเจ้าหน้าที่รับเปิดบัญชี รับเงินจากลูกค้าจำนวนกว่า 200 ราย เพื่อนำเข้าบัญชีเงินกองทุน แต่พอถึงครบรอบกำหนดกลุ่มลูกค้าหรือผู้เสียหายได้นำสมุดบัญชีธนาคารไปตรวจสอบ ปรากฏว่าเงินสดจำนวนกว่า 15,000,000 บาท ไม่มีอยู่ในบัญชีแต่อย่างไร ต่างทยอยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน น.ส.คำน้อย (ขอสงวนชื่อจริงและนามสกุล) อายุ 66 ปี อดีตข้าราชการบำนาญอยู่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทย สาขาช้างเผือกมานานกว่า 10 ปี โดยได้ชื้อกองทุนของธนาคารกสิกรไทยสาขาช้างเผือก ตามบัญชีเงินฝากจำนวน 3 บัญชี รวมเงินจำนวนกว่า 15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค.58 ตนเองได้นำสมุดบัญชีไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารปรากฏว่าเงินทั้งหมดไม่มีอยู่ในบัญชี จึงทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายเป็นอันมาก จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ช่วยติดตามเงินมาคืน
น.ส.คำน้อย (สงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า ตนเเป็นลูกค้าธนาคารมานานกว่า 10 ปี จึงได้นำเงินสดจำนวนกว่า 15 ล้านบาท ไปเปิดบัญชีลงทุนกองทุนทองคำของธนาคาร เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในตัวของ น.ส.ดอกอ้อ รอง ผจก.อาวุโสของธนาคาร จะเป็นคนเปิดบัญชีและสะแต้มลงบัญชีให้ แต่พอมาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้นำสมุดบัญชีเงินลงทุนไปตรวจสอบปรากฏว่าเงินจำนวน 15 ล้านบาท ไม่มีในบัญชี ทำให้เกิดความเดือดร้อนและได้รับความเสียหาย จึงได้มาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังธนาคารกสิกรไทย ปรากฏว่า น.ส.ดอกอ้อ ได้หลบหนีไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าของธนาคาร บุคคลระดับวีไอพี ข้าราชการบำนาญ ตำรวจ ทหาร ถูกหลอกให้ลงทุนชื้อกองทุนทองคำ เคโกลด์ จำนวนกว่า 200 ราย รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านาบาท ต่างทยอยเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเช่นกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังธนาคารกสิกรไทย สาขาช้างเผือก ทางธนาคารรับปากว่าจะชดใช้ให้ครบทุกบาท ทุกสตางค์ แต่หากตนเองไม่ได้รับเงินคืนก็จะแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยหากมีข่าวเผยแพร่ออกไปจะทำให้ธนาคารได้รับผลกระทบบรรดาลูกค้าหรือเปิดบัญชีเงินลงทุนกองทุนทองคำแห่มาตรวจสอบถอนเงินกับทางธนาคาร อาจทำให้ธนาคารเสียหายได้
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.วชิระ กาญจนวิภาดา ผกก.สภ.ช้างเผือก จัดตั้งทีมสอบสวนเข้าไปสอบสวนปากคำผู้เสียหายและสืบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมทั้งจะได้ตั้งทีมพนักงานสอบสวนไว้รับแจ้งเหตุ พร้อมจะได้ประสานกับทางธนาคารกสิกรไทยสาขาช้างเผือก มาดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงแก่ประชาชน ลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งลูกค้าบางรายก็ไม่อยากเป็นข่าว เกรงว่าธนาคารจะปัดความรับผิดชอบไม่คืนเงินให้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการประสานการเจรจากับธนาคารกสิกรไทยในวันที่ 9 มี.ค.นี้
http://www.banmuang.co.th/news/crime/10891