หลังจากเคยเดินทางมาที่นี่เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว
ครั้งนั้นเป็นเพียงตลาดเล็กๆ มีร้านค้าไม่กี่ร้าน
ล้อมรอบด้วยเรือกสวนผลไม้ของชุมชนท้องถิ่น
ถนนลาดยางเส้นเล็กๆวิ่งผ่านร่องสวน
..........
..........
แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต
ติดชาร์ตอันดับต้นๆของชาวเมืองหลวงแห่งประเทศที่ได้ชื่อว่า "สยามเมืองยิ้ม"
แต่ผู้คนกลับไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ เนื่องเพราะอะไร หลายท่านคงทราบดีแก่ใจครับ
..........
..........
การเดินทางต้องวิ่งผ่านหมู่บ้านจัดสรรเกิดใหม่
ถนนตัดใหม่ ใหญ่โตโอ่อ่า เรือกสวนไร่นาค่อยๆถูกกลืนหายไป
การจราจรแออัด ราวกับอยู่บนถนนสุขุมวิท
แต่ทุกคนต่างมีจุดหมายเดียวกันครับ
"ตลาดน้ำคลองลัดมะยม" ที่ถูกโปรโมทผ่านสื่อหลายสำนัก
ตั้งตระหง่านรอรีดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวอยู่ตรงหน้า
ตลาดแห่งนี้เมื่อครั้งอดีตเป็นแหล่งระบายสินค้าการเกษตรของชุมชนที่นั่น
ทั้งผัก ผลไม้ต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปที่ผู้คนส่วนใหญ่มักซื้อหาไว้ติดก้นครัว
แต่ในปัจจุบัน เมื่อเวลาผ่านไป มันก็กลายร่างเป็นตลาดน้ำที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
มาตรฐานของนักการตลาด ที่จะมีสินค้าเหมือนกันหมดแทบจะทุกแห่ง
พูดง่ายๆก็คือ "ก๊อปปี้กันมา"
เห็นที่ไหนทำอย่างไร ก็จะทำตามๆกันเป็นสูตรสำเร็จ
เหมือนที่หลายคนเคยหล่นทัศนะเอาไว้นั่นแหละครับ
ที่ว่า "คนไทยไม่ค่อยคิดอะไรใหม่ แต่ชอบลอกเลียนแบบจากที่คนอื่นทำ"
ทั้งนี้ผมไม่ได้มีเจตนาว่ากล่าวนะครับ เพียงแค่สะท้อนความคิดเห็นเท่านั้น
ตลาดคลองลัดมะยมแห่งนี้จึงเหมือนกับตลาดน้ำชื่อดังอีกหลายแห่ง ที่มีอยู่ในประเทศไทยแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็น ตลาดสามชุก ตลาดน้ำอัมพวา เป็นอาทิ
อีกหน่อยคงมี "แกะ" เอาไว้ให้วัยรุ่นได้ถ่ายรูปกันละครับ
..........
..........
แต่มันก็ยังคงมีข้อดีของมันอยู่นะครับ
คือมันทำให้คนกรุงเทพไม่ต้องหาที่เที่ยวไกลๆเกินหนึ่งร้อยกิโลฯ
พ่อค้า แม่ค้าได้มีที่ขายของ ทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกๆเรียนหนังสือ
สินค้าที่นี่คงหนีไม่พ้นเสื้อผ้า ของที่ระลึกที่เกือบจะเหมือนกันทุกร้าน
อาหารการกินก็หลากหลายดีครับ แต่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ที่อัมพวา
เพราะอาหารทะเลเยอะมากๆ ทั้งหอยแมลงภู่เผา หอยเชลล์เผา หมึกย่าง ปลาเผา กุ้งแม่น้ำเผา ( แต่ตัวเล็กมากครับ )
รวมถึงอาหารยอดฮิตของชาวไทยในห้วงเวลานี้คือส้มตำปูม้า ที่มีขายกันเกลื่อนมากกว่ายี่สิบร้านค้า
ข้อติติงมีอยู่บ้างครับ คือโต๊ะสำหรับให้นั่งกินอาหารนั้นมันมีน้อยไปนิด
ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลยล่ะครับ อีกทั้งยังแคบมากๆ เหมือนกำลังกินอาหารอยู่ในศูนย์ฝึก รด. ยังไงยังงั้น
แต่โดยภาพรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าเดินทางมาเยี่ยมเยือนนะครับ
โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ขี้เกียจขับรถไกลๆเพื่อไปอัมพวาหรือสามชุกครับ
เพราะมันเหมือนกันเป๊ะๆๆๆๆ
ขอให้ทุกๆท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เดินทางด้วยความไม่ประมาทเสมอครับ
สวัสดี!!!
ตลาดน้ำ...คลองลัดมะยม ( คนแน่นมากกกก!!! )
หลังจากเคยเดินทางมาที่นี่เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว
ครั้งนั้นเป็นเพียงตลาดเล็กๆ มีร้านค้าไม่กี่ร้าน
ล้อมรอบด้วยเรือกสวนผลไม้ของชุมชนท้องถิ่น
ถนนลาดยางเส้นเล็กๆวิ่งผ่านร่องสวน
..........
..........
แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต
ติดชาร์ตอันดับต้นๆของชาวเมืองหลวงแห่งประเทศที่ได้ชื่อว่า "สยามเมืองยิ้ม"
แต่ผู้คนกลับไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ เนื่องเพราะอะไร หลายท่านคงทราบดีแก่ใจครับ
..........
..........
การเดินทางต้องวิ่งผ่านหมู่บ้านจัดสรรเกิดใหม่
ถนนตัดใหม่ ใหญ่โตโอ่อ่า เรือกสวนไร่นาค่อยๆถูกกลืนหายไป
การจราจรแออัด ราวกับอยู่บนถนนสุขุมวิท
แต่ทุกคนต่างมีจุดหมายเดียวกันครับ
"ตลาดน้ำคลองลัดมะยม" ที่ถูกโปรโมทผ่านสื่อหลายสำนัก
ตั้งตระหง่านรอรีดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวอยู่ตรงหน้า
ตลาดแห่งนี้เมื่อครั้งอดีตเป็นแหล่งระบายสินค้าการเกษตรของชุมชนที่นั่น
ทั้งผัก ผลไม้ต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปที่ผู้คนส่วนใหญ่มักซื้อหาไว้ติดก้นครัว
แต่ในปัจจุบัน เมื่อเวลาผ่านไป มันก็กลายร่างเป็นตลาดน้ำที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
มาตรฐานของนักการตลาด ที่จะมีสินค้าเหมือนกันหมดแทบจะทุกแห่ง
พูดง่ายๆก็คือ "ก๊อปปี้กันมา"
เห็นที่ไหนทำอย่างไร ก็จะทำตามๆกันเป็นสูตรสำเร็จ
เหมือนที่หลายคนเคยหล่นทัศนะเอาไว้นั่นแหละครับ
ที่ว่า "คนไทยไม่ค่อยคิดอะไรใหม่ แต่ชอบลอกเลียนแบบจากที่คนอื่นทำ"
ทั้งนี้ผมไม่ได้มีเจตนาว่ากล่าวนะครับ เพียงแค่สะท้อนความคิดเห็นเท่านั้น
ตลาดคลองลัดมะยมแห่งนี้จึงเหมือนกับตลาดน้ำชื่อดังอีกหลายแห่ง ที่มีอยู่ในประเทศไทยแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็น ตลาดสามชุก ตลาดน้ำอัมพวา เป็นอาทิ
อีกหน่อยคงมี "แกะ" เอาไว้ให้วัยรุ่นได้ถ่ายรูปกันละครับ
..........
..........
แต่มันก็ยังคงมีข้อดีของมันอยู่นะครับ
คือมันทำให้คนกรุงเทพไม่ต้องหาที่เที่ยวไกลๆเกินหนึ่งร้อยกิโลฯ
พ่อค้า แม่ค้าได้มีที่ขายของ ทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกๆเรียนหนังสือ
สินค้าที่นี่คงหนีไม่พ้นเสื้อผ้า ของที่ระลึกที่เกือบจะเหมือนกันทุกร้าน
อาหารการกินก็หลากหลายดีครับ แต่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ที่อัมพวา
เพราะอาหารทะเลเยอะมากๆ ทั้งหอยแมลงภู่เผา หอยเชลล์เผา หมึกย่าง ปลาเผา กุ้งแม่น้ำเผา ( แต่ตัวเล็กมากครับ )
รวมถึงอาหารยอดฮิตของชาวไทยในห้วงเวลานี้คือส้มตำปูม้า ที่มีขายกันเกลื่อนมากกว่ายี่สิบร้านค้า
ข้อติติงมีอยู่บ้างครับ คือโต๊ะสำหรับให้นั่งกินอาหารนั้นมันมีน้อยไปนิด
ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลยล่ะครับ อีกทั้งยังแคบมากๆ เหมือนกำลังกินอาหารอยู่ในศูนย์ฝึก รด. ยังไงยังงั้น
แต่โดยภาพรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าเดินทางมาเยี่ยมเยือนนะครับ
โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ขี้เกียจขับรถไกลๆเพื่อไปอัมพวาหรือสามชุกครับ
เพราะมันเหมือนกันเป๊ะๆๆๆๆ
ขอให้ทุกๆท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เดินทางด้วยความไม่ประมาทเสมอครับ
สวัสดี!!!