ตอนนี้หลายคนคงรู้จัก Eddie Peng yuyan หรือ เผิงอวี่เยียน กันมาพอสมควร จากซีรี่ส์สุดประทับใจ "ลำนำทะเลทราย" ที่ใครคงไม่เถียงว่าจากบทบาทเรื่องนี้ ทำให้เขาเป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น ทั้งที่ Eddie Peng เคยแสดงซีรีส์ละครฉายในโทรทัศน์เมืองไทยมาแล้วหลายเรื่อง เมื่อหลายปีก่อน เช่น เซียนกระบี่พิฆาต และ ขุนพลตระกูลหยาง ในบทบาทของ หยางชีหลาง น้องเจ็ดจอมซน
รวมทั้งภาพยนตร์ เรื่อง Cold war
แต่เราก็จะติดภาพของเขาในลักษณะของเด็กหนุ่ม หน้าตาสดใส ท่าทางเอาเรื่อง เป็นรูปลักษณ์ของพระรองมากกว่าจะดูโดดเด่นจริงจังอย่างในบทบาทของ แม่ทัพ เว่ยหวู่จี้ ในเรื่องลำนำทะเลทราย
วันนี้อยากจะมาเล่าเรื่องการเดินทางสายอาชีพนักแสดงของ Eddie Peng กันอีกค่ะ เพราะสารภาพว่าตอนนี้ ยังเพ้อๆ ติดหล่มพ่อเผิงคนนี้ไม่ถอนตัวถอนหัวถอนใจเสียที .... เพราะยิ่งได้อ่านเรื่องราวของเขาแล้ว เห็นได้เลยว่า ดาราหนุ่มคนนี้มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจในสายอาชีพนักแสดงที่เราน่าทำความรู้จักเขากันให้มากขึ้น
ในวัยเด็กที่เรารู้จักกัน Eddie Peng เป็นเด็กจ้ำม่ำคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่มีแต่ผู้หญิง ทั้งคุณแม่ และคุณยาย ในฐานะเด็กผู้ชายคนเดียวของบ้าน ก็จะได้รับการเอาใจจากคุณยายมาตลอดเวลา และย้ายไปอยู่แคนาดามาตั้งแต่เด็กและกลับมาที่ไทเปเมื่อตอนเขายี่สิบกว่าๆแล้วเพื่อเล่นละครโทรทัศน์
เห็นไซส์จากรูปไหมคระ... เด็กน้อย น่าขยุ้มจริงๆ
จากข่าวนี้.... Eddie Peng เล่าถึงสาเหตุความเป็นเด็กตุ้ยนุ้ยของเขาตอนเด็กๆค่ะ ว่าเกิดมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยผู้หญิงแล้วมีเขาเป็นเด็กชายคนเดียวในบ้าน ทุกวันเสาร์ตอนบ่ายพอเขากลับถึงบ้าน คุณยายก็จะเตรียมอาหารเป็น ก๋วยเตี๋ยวผัดราดซอสวางไว้ให้เขา ทันทีที่เขาเข้าบ้าน เปิดประตูเข้าไป แล้วตะโกนว่า "คุณยายครับ ผมกลับมาแล้ว" ก็จะเห็นชามก๋วยเตี๋ยวนี่ละลอยมาวางบนโต๊ะ ที่เขาจะต้องจัดการให้หมด
...เพราะเหตุนี้ทำให้เขากลายเป็นเด็กจ้ำม่ำมากๆ เคยน้ำหนักถึง 68 กิโล ตอนอายุ 11 ตอนเด็กๆเขาก็เคยแสดงโฆษณาขนมของว่างอยู่บ้างเพราะความจ้ำม่ำของเจ้าตัวนี่ละ พอกลับมาที่ไทเปเมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาจึงได้รับการทาบทามมาเล่นละครสั้นๆอีกเล็กๆน้อยๆ ในสไตล์เด็กวัยรุ่น
จุดเปลี่ยนของ Eddie Peng น่าจะเริ่มต้นจากการที่เขายอมรับที่จะเล่นบท อาชิน จากเรื่อง Jump Ashin เมื่อปี 2010 นั่นเองค่ะ
ที่สวมบทบาทเป็นนักกีฬายิมนาสติค
...งานเข้าค่ะ....Eddie Peng ดาราหนุ่มนักแสดงเด็กแบ๊วๆ หน้าละอ่อน จะทำอย่างไร.....
เริ่มจากเรื่อง'วิธีพูด'ก่อนเลย จากเด็กหนุ่มที่ พูดภาษาจีนออกเสียงแปร่งๆ ผิดๆถูกๆ (เพราะไปอาศัยอยู่ในแคนาดาสิบกว่าปี) ก็ต้องฝึกพูดประโยคทีละประโยค เขียนบทเป็นตัวสะกดภาษาอังกฤษให้กับตัวเอง จะได้พูดชัดๆ ตอนเล่นละครมาก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเวลาละครโทรทัศน์ออกฉายจะมีการพากย์เสียงทับ แต่ในภาพยนตร์นี้เขาต้องใช้เสียงตัวเอง จึงเป็นปัญหาที่ Eddie Peng จะต้องพูดชัดฟังออกทุกคำ...ดูคลิปด้านล่างนี้ได้ค่ะ บทของ Eddie จะมี Alphabet ช่วยประกอบการออกเสียงหลายตัวเลย เพราะเจ้าตัว ออกเสียงไม่ถูก...โค้ชยังบ่นทำนองว่า ไม่รู้ว่าพ่อเผิงแกพูดภาษาไต้หวันหรือพูดภาษาอะไร 55555
แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแสดงเรืองนี้คือ.....เขาต้อง ฝึกยิมนาสติคค่ะ
...เรื่องเล่นกีฬา คงไม่น่าเป็นปัญหา สำหรับเด็กจีนที่ไปโตในแคนาดา อย่างเขา....แต่นี่มันคือ ยิมนาสติคนะคะ.....การถ่ายทำคลิปเบื้องหลัง ชุดนี้จะเห็นความพยายามของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นอย่างมากค่ะ ว่าเขาต้องสู้ และผ่านอะไรมาบ้าง เพื่อแสดงเรื่องนี้จนสำเร็จ
เริ่มต้น จากเด็กที่แทบจะตีลังกาไม่ได้เลยค่ะ...แต่เขาก็มีทัศนคติที่ดี ที่จะสู้ พยายามฝึกให้ได้
และนำมาสู่ความสำเร็จ ...พร้อมในการถ่ายทำ
และในบางฉากที่มีความเสี่ยง โลดโผน ขนาดสตั๊นท์ขึ้นไปทดสอบยังดูยากมาก เขาก็กัดฟันเล่นจนผ่านฉากนั้นไปได้
(ไม่ต้องคิดหรอกว่ามือไม้เปิงขนาดไหน)
เมื่อจบจากเรื่อง Jump Ashin เราก็พอจะเห็นแล้วว่า เด็กคนนี้รูปร่างได้เปลี่ยนไป จากเด็กหนุ่มทั่วไปกลับมีสรีระแบบนักกีฬาที่แข็งแกร่ง
เวลาถ่ายภาพออกมาก็เรียกเสียงฮือฮา เพราะกล้ามเนื้อที่ดูสมส่วนกับลักษณะของส่วนสูงพอดิบพอดี ไม่ดูเทอะทะ ก้ามปู เป็นข้อได้เปรียบของเขาทันที
แล้วก็มาสู่ การเปลี่ยนแปลง อีกบทบาทหนึ่ง....ที่สำคัญของ Eddie Peng ค่ะ
Eddie Peng จากเด็กตุ้ยนุ้ย มาสู่ดาราชายสุดแฮนด์ซั่ม...เพราะคำว่า "มืออาชีพ"
รวมทั้งภาพยนตร์ เรื่อง Cold war
แต่เราก็จะติดภาพของเขาในลักษณะของเด็กหนุ่ม หน้าตาสดใส ท่าทางเอาเรื่อง เป็นรูปลักษณ์ของพระรองมากกว่าจะดูโดดเด่นจริงจังอย่างในบทบาทของ แม่ทัพ เว่ยหวู่จี้ ในเรื่องลำนำทะเลทราย
วันนี้อยากจะมาเล่าเรื่องการเดินทางสายอาชีพนักแสดงของ Eddie Peng กันอีกค่ะ เพราะสารภาพว่าตอนนี้ ยังเพ้อๆ ติดหล่มพ่อเผิงคนนี้ไม่ถอนตัวถอนหัวถอนใจเสียที .... เพราะยิ่งได้อ่านเรื่องราวของเขาแล้ว เห็นได้เลยว่า ดาราหนุ่มคนนี้มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจในสายอาชีพนักแสดงที่เราน่าทำความรู้จักเขากันให้มากขึ้น
ในวัยเด็กที่เรารู้จักกัน Eddie Peng เป็นเด็กจ้ำม่ำคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่มีแต่ผู้หญิง ทั้งคุณแม่ และคุณยาย ในฐานะเด็กผู้ชายคนเดียวของบ้าน ก็จะได้รับการเอาใจจากคุณยายมาตลอดเวลา และย้ายไปอยู่แคนาดามาตั้งแต่เด็กและกลับมาที่ไทเปเมื่อตอนเขายี่สิบกว่าๆแล้วเพื่อเล่นละครโทรทัศน์
เห็นไซส์จากรูปไหมคระ... เด็กน้อย น่าขยุ้มจริงๆ
จากข่าวนี้.... Eddie Peng เล่าถึงสาเหตุความเป็นเด็กตุ้ยนุ้ยของเขาตอนเด็กๆค่ะ ว่าเกิดมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยผู้หญิงแล้วมีเขาเป็นเด็กชายคนเดียวในบ้าน ทุกวันเสาร์ตอนบ่ายพอเขากลับถึงบ้าน คุณยายก็จะเตรียมอาหารเป็น ก๋วยเตี๋ยวผัดราดซอสวางไว้ให้เขา ทันทีที่เขาเข้าบ้าน เปิดประตูเข้าไป แล้วตะโกนว่า "คุณยายครับ ผมกลับมาแล้ว" ก็จะเห็นชามก๋วยเตี๋ยวนี่ละลอยมาวางบนโต๊ะ ที่เขาจะต้องจัดการให้หมด
...เพราะเหตุนี้ทำให้เขากลายเป็นเด็กจ้ำม่ำมากๆ เคยน้ำหนักถึง 68 กิโล ตอนอายุ 11 ตอนเด็กๆเขาก็เคยแสดงโฆษณาขนมของว่างอยู่บ้างเพราะความจ้ำม่ำของเจ้าตัวนี่ละ พอกลับมาที่ไทเปเมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาจึงได้รับการทาบทามมาเล่นละครสั้นๆอีกเล็กๆน้อยๆ ในสไตล์เด็กวัยรุ่น
จุดเปลี่ยนของ Eddie Peng น่าจะเริ่มต้นจากการที่เขายอมรับที่จะเล่นบท อาชิน จากเรื่อง Jump Ashin เมื่อปี 2010 นั่นเองค่ะ
ที่สวมบทบาทเป็นนักกีฬายิมนาสติค
...งานเข้าค่ะ....Eddie Peng ดาราหนุ่มนักแสดงเด็กแบ๊วๆ หน้าละอ่อน จะทำอย่างไร.....
เริ่มจากเรื่อง'วิธีพูด'ก่อนเลย จากเด็กหนุ่มที่ พูดภาษาจีนออกเสียงแปร่งๆ ผิดๆถูกๆ (เพราะไปอาศัยอยู่ในแคนาดาสิบกว่าปี) ก็ต้องฝึกพูดประโยคทีละประโยค เขียนบทเป็นตัวสะกดภาษาอังกฤษให้กับตัวเอง จะได้พูดชัดๆ ตอนเล่นละครมาก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเวลาละครโทรทัศน์ออกฉายจะมีการพากย์เสียงทับ แต่ในภาพยนตร์นี้เขาต้องใช้เสียงตัวเอง จึงเป็นปัญหาที่ Eddie Peng จะต้องพูดชัดฟังออกทุกคำ...ดูคลิปด้านล่างนี้ได้ค่ะ บทของ Eddie จะมี Alphabet ช่วยประกอบการออกเสียงหลายตัวเลย เพราะเจ้าตัว ออกเสียงไม่ถูก...โค้ชยังบ่นทำนองว่า ไม่รู้ว่าพ่อเผิงแกพูดภาษาไต้หวันหรือพูดภาษาอะไร 55555
แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแสดงเรืองนี้คือ.....เขาต้อง ฝึกยิมนาสติคค่ะ
...เรื่องเล่นกีฬา คงไม่น่าเป็นปัญหา สำหรับเด็กจีนที่ไปโตในแคนาดา อย่างเขา....แต่นี่มันคือ ยิมนาสติคนะคะ.....การถ่ายทำคลิปเบื้องหลัง ชุดนี้จะเห็นความพยายามของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นอย่างมากค่ะ ว่าเขาต้องสู้ และผ่านอะไรมาบ้าง เพื่อแสดงเรื่องนี้จนสำเร็จ
เริ่มต้น จากเด็กที่แทบจะตีลังกาไม่ได้เลยค่ะ...แต่เขาก็มีทัศนคติที่ดี ที่จะสู้ พยายามฝึกให้ได้
และนำมาสู่ความสำเร็จ ...พร้อมในการถ่ายทำ
และในบางฉากที่มีความเสี่ยง โลดโผน ขนาดสตั๊นท์ขึ้นไปทดสอบยังดูยากมาก เขาก็กัดฟันเล่นจนผ่านฉากนั้นไปได้
(ไม่ต้องคิดหรอกว่ามือไม้เปิงขนาดไหน)
เมื่อจบจากเรื่อง Jump Ashin เราก็พอจะเห็นแล้วว่า เด็กคนนี้รูปร่างได้เปลี่ยนไป จากเด็กหนุ่มทั่วไปกลับมีสรีระแบบนักกีฬาที่แข็งแกร่ง
เวลาถ่ายภาพออกมาก็เรียกเสียงฮือฮา เพราะกล้ามเนื้อที่ดูสมส่วนกับลักษณะของส่วนสูงพอดิบพอดี ไม่ดูเทอะทะ ก้ามปู เป็นข้อได้เปรียบของเขาทันที
แล้วก็มาสู่ การเปลี่ยนแปลง อีกบทบาทหนึ่ง....ที่สำคัญของ Eddie Peng ค่ะ