สำหรับผมเมื่อก่อนไม่เคยคิดถึงเรื่องกล้องติดรถยนต์เลยครับ จนมีวันนึงเจออุบัติเหตุรถยนต์กับตัวเองครับ ซึ่งคู่กรณีผมตีหน้ามึนเลย ผมเองก็ไม่มีหลักฐานว่าอยู่ดีๆเขาขับรถตัดหน้าผมแล้วเลี้ยวจอดกระทันหันครับ ก็ตามสเตป จอดรถ รอตำรวจ รอรถพยาบาล รอประกัน ยืนเถียงครับ แต่โชคดีที่ผมมีพยานเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับตามมาเห็นเหตุการณ์และเค้าก็ล้มเจ็บตัวด้วย เพราะเสียหลักมาชนรถผมอีก งานนี้มอเตอร์ไซค์เจ็บ รถผมประตูซ้ายพัง ส่วนคู่กรณีรถไม่เป็นไรครับ แต่ก็โดนปรับไป
ตั้งแต่วันนั้นก็คิด ถ้าไม่มีมอเตอร์ไซค์นี่ผมไม่มีหลักฐานหรือพยานเลยครับ เรื่องคงยาวครับกว่าจะจบ ฉะนั้นควรกันไว้ก่อนเลยดูข้อมูลเกี่ยวกับกล้องติดรถยนต์ครับ พอมาดูก็พบว่า โอ้ว..เยอะเหมือนกันนะ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายราคา คุณภาพดีหรือไม่ดี ไหนจะกลางวันและกลางคืน ฟิล์มรถก็มีส่วนในเรื่องของภาพ มีของแท้กับของปลอมอีก กว่าจะซื้อได้นี่ผมนั่งดูข้อมูลเป็นอาทิตย์เลยครับจนมาเจอคลิปวีดีโอของกล้องยี่ห้อนึง ผมโหลด Raw File(ไฟล์ต้นฉบับจากกล้อง) มาจากเว็บขายกล้องติดรถเว็บนึงครับ เป็นภาพตอนกลางคืนจากนั้นก็เข้าไปดูตามยูทูปอีก ภาพชัดมากๆทั้งกลางวันและกลางคืนครับ ราคาค่อนข้างสูงเกินงบที่ตั้งไว้ แต่จากการอ่าน Spec การใช้งานและการรับประกันถึง 1 ปีเต็ม (เสียสามารถเคลมตัวใหม่ได้ภายใน 1ปี) ผมก็ตัดสินใจจัดเลยครับ ก็ได้ VicoVation Marcus 2 มา
ใครที่เคยดูข้อมูลของกล้อง Vico Marcus จะรู้เลยว่า Spec ของ Marcus 2 นี่เกือบจะเทียบเท่า Marcus 4 เลยครับ ตัดเพียงความละเอียดระดับ XHD กับ Movie Mode อัตราส่วนภาพ 21:9 ออกไปแค่นั้น ส่วนความละเอียดระดับ Full HD 30fps และ Bitrate เฉลี่ยที่ 12-13 Mbps นั้นเท่ากันเลยครับ รวมถึงโหมด HDR (High Dynamic Range) คือคุณภาพของการบันทึกในเวลากลางคืนนั้นก็มีเหมือนกันและค่าตัวที่ประหยัดกว่า Marcus 4 + เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ผมจึงไม่ลังเลในการซื้อ Marcus 2 ครับ
สเปค VicoVation Marcus 2 ครับ
Marcus 2 แนะนำให้ใช้ SDHC/SDXC Class 10 เท่านั้นและรองรับความจุสูงสุดที่ 64GB สเปคตัวกล้องบอกว่าสามารถใช้งานได้แม้อยู่ในอุณหภูมิสูงถึง 75 องศา Marcus 2 ใช้ Super Capacitor แทนแบต ใช้งานได้ในอุณหภูมิต่ำหรือสูง อายุการใช้งานยาวนาน ซึ่งจากการใช้งานจริง ผมยังไม่เคยจอดรถตากแดดครับรถยังไม่เคยร้อนขนาดนั้น แต่เคยลองจับกล้องดูตอนที่ขับรถติดต่อกัน 2 ชั่วโมงเวลาเที่ยงวันแดดลงกล้องเต็มๆก็รู้สึกว่ากล้องค่อนข้างร้อนครับแต่ก็ใช้งานได้ปกติ ตลอดเวลาที่ใช้มาประมาณ 1 เดือนยังไม่เจออาการ Error รีสตาร์ทเองหรือไฟล์มีปัญหาครับ ถือว่าเสถียรในระดับนึง แต่ก็ต้องดูกันต่อไปในระยะยาวครับ โดยผมหวังให้มันอยู่กับผมได้สัก 3 ปีขึ้นครับ ระหว่างนี้จะมารายงานเรื่อยๆว่าการใช้งานเป็นยังไงบ้างครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องครับ
Credit ภาพ 999carcam.tarad.com , ebay.com
ตัวกล้องมีขนาดเล็กกระทัดรัดครับ เวลาติดตั้งก็ดูกลืนไปกับกระจกมองหลัง วัสดุอาจดูไม่แข็งแรงเท่าไหร่แต่การประกอบทำได้เนียนสวยงามครับ ปุ่มกดการเข้าตั้งค่าฟังก์ชั่นต่างๆกดถนัดมือดีครับ ผมกดเข้าไปตั้งนู่นนี่บ่อย ก็กดใช้งานได้ดีครับยังไม่มีปัญหาอะไร ส่วนสายไฟ Marcus 2 ให้มา 4 เมตรครับสำหรับรถผมเป็น Honda City ปี 2012 ติดตั้งเก็บสายได้พอดีครับ ในรูปผมใช้ขายึดแบบ 3M นะครับ (Marcus 2 แถมขายึดทั้ง 2 แบบให้ในกล่องครับ เลือกใช้ได้เลยว่าชอบแบบไหน)
Marcus 2 เลนกว้าง 160องศา เก็บรายละเอียดกระจกหน้าได้กว้างสามารถเห็นเสาเอทั้ง 2 ข้างสำหรับ Honda City 2012 การเปิดเครื่องของ Marcus 2 คือเวลาที่เราบิดกุญแจหรือสตาร์ทรถหรือหากมีไฟเข้ากล้องจะยังไม่ติดทันที แต่จะมีดีเลย์ประมาณ 5 วินาทีเพื่อป้องกันไฟกระชากเวลาสตาร์ทรถครับ ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ น่าจะเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานด้วย ส่วนเวลาปิดก็จะมีดีเลย์ประมาณ 1 วินาทีครับ (Marcus 2 ไม่มีไฟสำรองนะครับ กล้องจะใช้งานได้ต่อเมื่อมีไฟเข้า แต่ถ้าต้องการนำไปใช้ข้างนอกรถก็ใช้ไฟจาก Powerbank ได้ครับ พี่คนขายบอกมา)
รายละเอียดของไฟล์ที่บันทึกจากกล้อง Marcus 2 ครับ
ไฟล์ฟอร์แมตเป็น .MOV มีการเข้ารหัสด้วย Codec H.264 Bitrate เฉลี่ยที่ 12-13 Mbps เฟรมเรท 30fps ครับ ได้ไฟล์ขนาดไม่ใหญ่มากครับ 5นาที 500MB เฉลี่ยนาทีละ 100MB คุณภาพก็คมชัดครับ ส่วน SDHC ที่ผมใช้เป็น Kingston Class 10 16GB บันทึกได้ 2 ชั่วโมงนิดๆและ Codec เสียงแบบ AAC LC ที่ 64Kbps ไฟล์ไม่ใหญ่ คุณภาพเสียงOKครับ ตัวกล้องมีไมค์ทั้งด้านซ้ายและขวา เก็บรายละเอียดเสียงรอบข้างได้ดีถึงแม้กล้องจะอยู่ในรถ ส่วนตัวผมพอใจทั้งภาพและเสียงครับ ลองชมคลิปครับ
*แนะนำให้ปรับความละเอียดวีดีโอเป็น Full HD 1080p เพื่อภาพที่ใกล้เคียงต้นฉบับที่สุดครับ*
ช่วงเวลากลางวันอีกคลิปครับ แต่ผมตัดเสียงออกและใส่เสียงเพลงแทนเนื่องจากการสนทนาส่วนตัวครับ
ไฟล์ของ Marcus 2 จะบันทึกเวลาคลิปละ 5 นาทีและวนไปเรื่อยๆครับ ในส่วนของการบันทึกวีดีโอตอนกลางคืนนั้น จากที่ลองสังเกตุคือตรงไหนมีไฟสว่างกล้องจะจับแสงสว่างได้ดีชัดพอๆกับที่ตาเราเห็นครับ ถ้าขับในเมืองที่มีแสงสว่างรอบๆ กล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้หมด ไม่มืด จะมืดก็ต่อเมื่อแสงน้อยจริงๆเช่นถนนในต่างจังหวัดครับถึงจะเห็นแต่ไฟหน้ารถ ลองดูจากคลิปของผมครับ ฟิล์มรถผม 60% ครับ แสงรอบๆไม่เยอะมาก มี Noise อยู่นิดหน่อย แต่ถ้าแสงเยอะก็แทบไม่มี Noise เลยครับ โดยรวมผมพอใจมาก ถ้าเป็นรถที่ใช้ฟิล์มใส 40% ขับตอนกลางคืนนี่สบายเลยครับ สว่าง+ชัดแน่นอน
คลิปด้านล่างนี้เริ่มตั้งแต่มีแสงสว่างรอบๆ แสงสว่างปานกลาง แสงสว่างน้อย รายละเอียดของป้ายต่างๆตามทางครับ และมีความยาว 10 นาทีครับโดยผมนำไฟล์ 2 ไฟล์มาต่อกัน เพื่อทดสอบ Seamless ครับ สังเกตุว่าช่วงเวลานาทีที่ 4:59 ถึง 5:01 นั้นต่อเนื่องครับ ไฟล์ต่อกันได้พอดี ไม่มีเฟรมที่ขาดหายจากการทดสอบดูทีละเฟรม ก็ถือว่า Marcus 2 สอบผ่านตามที่โฆษณาไว้ครับ(ผมตัดเสียงออกและใส่เสียงเพลงแทนเนื่องจากการสนทนาส่วนตัวครับ)
*ทุกคลิปมาจากไฟล์วีดีโอต้นฉบับ ไม่มีการปรับแต่งด้วย Software หรือใส่ Filter หรือการตั้งค่าใดๆที่ตัวกล้องเพิ่มเติมครับ*
ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆนั้น ไม่ว่าจะเป็นระบุตำแหน่ง , เตือนเมื่อขับเร็ว , ขับใกล้คันหน้าและเตือนเมื่อขับออกนอกเลนนั้นผมยังไม่ได้ทดสอบครับ เพราะฟังก์ชั่นพวกนี้จะใช้ได้ต่อเมื่อต่อเข้ากับ GPS Module เท่านั้น ซึ้งเป็นอุปกรณ์เสริม ต้องซื้อแยกต่างหากครับ ฟังก์ชั่น Parking Mode ก็ต้องมีไฟสำรองครับถึงจะใช้งานได้ ผมได้ทดสอบจริงเพียงการบันทึกไฟล์ Emergency Record โดยการกดปุ่มสีส้มที่ตัวกล้องแทนการใช้ G-Sensor ซึ่งการทำงานของ Emergency Record คือบันทึกไฟล์ย้อนกลับไปก่อนที่เราจะกดประมาณ 30วิและบันทึกต่อไปจนสุดไฟล์โดยที่ไฟล์นี้ไม่สามารถลบออกได้ด้วยตัวกล้อง มีการ Copy ไฟล์แยกโฟลเดอร์ไว้ครับ ไฟล์ฉุกเฉินจะไม่ถูกวนทับและเก็บไฟล์ฉุกเฉินได้ 10ไฟล์ครับ
สุดท้ายนี้ก็จะขอกล่าวถึงในส่วนของการบริการหลังการขายครับ VicoVation Marcus ทุกรุ่นรับประกันถึง 1 ปี โดยที่ถ้าตัวกล้องมีปัญหาจากการผลิดสามารถเคลมตัวใหม่ได้ภายใน 1 ปีครับตรงนี้ก็เป็นอีกส่วนนึงที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อ เพราะความมั่นใจว่าสินค้าต้องมีคุณภาพจริงๆไม่งั้นคงไม่กล้าการันตีแบบนี้ครับ มีศูนย์ในไทยและตัวแทนจำหน่ายที่บริการดีมากครับ สามารถสอบถามปัญหาในการใช้งานได้ตลอดไม่ทิ้งลูกค้าซึ่งตรงนี้ก็ได้ใจผมไปเต็มๆครับ กล้องราคาอาจจะสูงหน่อยแต่ได้คุณภาพและการบริการหลังการขายที่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ผิดหวังที่ซื้อ Vico Marcus 2 มาครับ
ข้อดี
1.ภาพชัดทั้งกลางวันและกลางคืนครับ โดยเฉพาะกลางวันชัดมากครับ (กลางคืนรถผมฟิล์ม 60% แต่ภาพก็ยังชัดและสว่างพอๆกับที่ตาผมเห็น)
2.ตอนนี้ใช้มา 1ปี 4เดือน ยังไม่มี Error ยังไม่มีปัญหาครับ (อัพเดต 30/4/59)
3.กล้อง Vico Marcus มี Firmware ให้อัพเดตสำหรับปรับปรุงฟังก์ชั่นหรือแก้ Bug ต่างๆ (แต่ Marcus 2 ยังไม่มีครับเพราะเป็นรุ่นใหม่+ Firmware เสถียรดีครับยังไม่มีปัญหาจากการใช้งาน)
4.การบันทึกวีดีโอมีความต่อเนื่องกันทุกคลิปไม่มีรอยต่อระหว่างไฟล์ ทุกวินาทีไม่ขาดหาย จากการทดสอบนำไฟล์มาต่อกันและดูทีละเฟรมครับ
5.คิดว่ากล้อง Marcus 2 น่าจะอยู่กับผมได้นานแหละครับ ก็ต้องดูกันไปไว้ผมจะมาอัพเดตเรื่อยๆครับ
6.ประกันยาวนาน มั่นใจได้ครับ มีศูนย์ในไทย 1 ปีมีปัญหา(ต้องมีปัญหาจากตัวกล้องจริงๆนะครับ)เปลี่ยนตัวใหม่เลย
7.บริการหลังการขายดีมากๆครับ พี่คนขายคุยดีมาก ผมเป็นลูกค้าที่เรื่องมากพอสมควรแต่พี่เค้าก็ตอบคำถามดีตลอดครับ ประทับใจมากครับผม
8.ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีของปลอมมั๊ย ไม่ต้องวัดใจหรือกลัว Jackpot ครับ กล้อง VicoVation Marcus ไม่มีของปลอม
ข้อเสีย
1.ราคาครับ อาจจะแพงไปสำหรับใครหลายๆคน แต่ผมถือว่าคุ้มละครับได้คุณภาพกับการบริการแบบนี้ไม่ผิดหวังครับ
2.งานเนียนสวยครับแต่มันยังดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะกล้องมันตัวเล็กน่าทะนุถนอมมั้งครับ ผมเลยรู้สึกแบบนั้น อันนี้แล้วแต่คนนะครับ
3.ฟังก์ชั่นส่วนใหญ่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเท่านั้นครับถึงจะใช้งานได้ เช่น GPS Tracking,LDWS,FCWS,Overspeed และ Quick Mounting สำหรับใส่ CPL Filter ลดการสะท้อนต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มครับ
4.อยากให้เพิ่ม Bitrate วีดีโออีกหน่อย สัก 18-20Mbps ก็ดีครับ ถ้า Bitrate มากกว่านี้รายละเอียดของภาพน่าจะชัดขึ้นอีก ถึงแม้ไฟล์จะใหญ่แต่ตัวกล้องก็รองรับ SDHC ความจุถึง 64GB อยู่แล้วครับ
สรุป
สำหรับใครที่ไม่ติดเรื่องงบและต้องการแบบซื้อครั้งเดียวจบ VicoVation Marcus 2 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมครับ คุณภาพที่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนรวมถึงการบริการนั้นถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา ส่วนอายุการใช้งานนั้นผมก็ต้องรอให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ครับ จะเข้ามาอัพเดตเรื่อยๆครับ
[CR] Review กล้องติดรถยนต์ VicoVation Marcus 2 กล้องติดรถยนต์คุณภาพสูง คมชัดระดับ Full HD
ตั้งแต่วันนั้นก็คิด ถ้าไม่มีมอเตอร์ไซค์นี่ผมไม่มีหลักฐานหรือพยานเลยครับ เรื่องคงยาวครับกว่าจะจบ ฉะนั้นควรกันไว้ก่อนเลยดูข้อมูลเกี่ยวกับกล้องติดรถยนต์ครับ พอมาดูก็พบว่า โอ้ว..เยอะเหมือนกันนะ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายราคา คุณภาพดีหรือไม่ดี ไหนจะกลางวันและกลางคืน ฟิล์มรถก็มีส่วนในเรื่องของภาพ มีของแท้กับของปลอมอีก กว่าจะซื้อได้นี่ผมนั่งดูข้อมูลเป็นอาทิตย์เลยครับจนมาเจอคลิปวีดีโอของกล้องยี่ห้อนึง ผมโหลด Raw File(ไฟล์ต้นฉบับจากกล้อง) มาจากเว็บขายกล้องติดรถเว็บนึงครับ เป็นภาพตอนกลางคืนจากนั้นก็เข้าไปดูตามยูทูปอีก ภาพชัดมากๆทั้งกลางวันและกลางคืนครับ ราคาค่อนข้างสูงเกินงบที่ตั้งไว้ แต่จากการอ่าน Spec การใช้งานและการรับประกันถึง 1 ปีเต็ม (เสียสามารถเคลมตัวใหม่ได้ภายใน 1ปี) ผมก็ตัดสินใจจัดเลยครับ ก็ได้ VicoVation Marcus 2 มา
ใครที่เคยดูข้อมูลของกล้อง Vico Marcus จะรู้เลยว่า Spec ของ Marcus 2 นี่เกือบจะเทียบเท่า Marcus 4 เลยครับ ตัดเพียงความละเอียดระดับ XHD กับ Movie Mode อัตราส่วนภาพ 21:9 ออกไปแค่นั้น ส่วนความละเอียดระดับ Full HD 30fps และ Bitrate เฉลี่ยที่ 12-13 Mbps นั้นเท่ากันเลยครับ รวมถึงโหมด HDR (High Dynamic Range) คือคุณภาพของการบันทึกในเวลากลางคืนนั้นก็มีเหมือนกันและค่าตัวที่ประหยัดกว่า Marcus 4 + เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ผมจึงไม่ลังเลในการซื้อ Marcus 2 ครับ
สเปค VicoVation Marcus 2 ครับ
Marcus 2 แนะนำให้ใช้ SDHC/SDXC Class 10 เท่านั้นและรองรับความจุสูงสุดที่ 64GB สเปคตัวกล้องบอกว่าสามารถใช้งานได้แม้อยู่ในอุณหภูมิสูงถึง 75 องศา Marcus 2 ใช้ Super Capacitor แทนแบต ใช้งานได้ในอุณหภูมิต่ำหรือสูง อายุการใช้งานยาวนาน ซึ่งจากการใช้งานจริง ผมยังไม่เคยจอดรถตากแดดครับรถยังไม่เคยร้อนขนาดนั้น แต่เคยลองจับกล้องดูตอนที่ขับรถติดต่อกัน 2 ชั่วโมงเวลาเที่ยงวันแดดลงกล้องเต็มๆก็รู้สึกว่ากล้องค่อนข้างร้อนครับแต่ก็ใช้งานได้ปกติ ตลอดเวลาที่ใช้มาประมาณ 1 เดือนยังไม่เจออาการ Error รีสตาร์ทเองหรือไฟล์มีปัญหาครับ ถือว่าเสถียรในระดับนึง แต่ก็ต้องดูกันต่อไปในระยะยาวครับ โดยผมหวังให้มันอยู่กับผมได้สัก 3 ปีขึ้นครับ ระหว่างนี้จะมารายงานเรื่อยๆว่าการใช้งานเป็นยังไงบ้างครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องครับ
Credit ภาพ 999carcam.tarad.com , ebay.com
ตัวกล้องมีขนาดเล็กกระทัดรัดครับ เวลาติดตั้งก็ดูกลืนไปกับกระจกมองหลัง วัสดุอาจดูไม่แข็งแรงเท่าไหร่แต่การประกอบทำได้เนียนสวยงามครับ ปุ่มกดการเข้าตั้งค่าฟังก์ชั่นต่างๆกดถนัดมือดีครับ ผมกดเข้าไปตั้งนู่นนี่บ่อย ก็กดใช้งานได้ดีครับยังไม่มีปัญหาอะไร ส่วนสายไฟ Marcus 2 ให้มา 4 เมตรครับสำหรับรถผมเป็น Honda City ปี 2012 ติดตั้งเก็บสายได้พอดีครับ ในรูปผมใช้ขายึดแบบ 3M นะครับ (Marcus 2 แถมขายึดทั้ง 2 แบบให้ในกล่องครับ เลือกใช้ได้เลยว่าชอบแบบไหน)
Marcus 2 เลนกว้าง 160องศา เก็บรายละเอียดกระจกหน้าได้กว้างสามารถเห็นเสาเอทั้ง 2 ข้างสำหรับ Honda City 2012 การเปิดเครื่องของ Marcus 2 คือเวลาที่เราบิดกุญแจหรือสตาร์ทรถหรือหากมีไฟเข้ากล้องจะยังไม่ติดทันที แต่จะมีดีเลย์ประมาณ 5 วินาทีเพื่อป้องกันไฟกระชากเวลาสตาร์ทรถครับ ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ น่าจะเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานด้วย ส่วนเวลาปิดก็จะมีดีเลย์ประมาณ 1 วินาทีครับ (Marcus 2 ไม่มีไฟสำรองนะครับ กล้องจะใช้งานได้ต่อเมื่อมีไฟเข้า แต่ถ้าต้องการนำไปใช้ข้างนอกรถก็ใช้ไฟจาก Powerbank ได้ครับ พี่คนขายบอกมา)
รายละเอียดของไฟล์ที่บันทึกจากกล้อง Marcus 2 ครับ
ไฟล์ฟอร์แมตเป็น .MOV มีการเข้ารหัสด้วย Codec H.264 Bitrate เฉลี่ยที่ 12-13 Mbps เฟรมเรท 30fps ครับ ได้ไฟล์ขนาดไม่ใหญ่มากครับ 5นาที 500MB เฉลี่ยนาทีละ 100MB คุณภาพก็คมชัดครับ ส่วน SDHC ที่ผมใช้เป็น Kingston Class 10 16GB บันทึกได้ 2 ชั่วโมงนิดๆและ Codec เสียงแบบ AAC LC ที่ 64Kbps ไฟล์ไม่ใหญ่ คุณภาพเสียงOKครับ ตัวกล้องมีไมค์ทั้งด้านซ้ายและขวา เก็บรายละเอียดเสียงรอบข้างได้ดีถึงแม้กล้องจะอยู่ในรถ ส่วนตัวผมพอใจทั้งภาพและเสียงครับ ลองชมคลิปครับ
*แนะนำให้ปรับความละเอียดวีดีโอเป็น Full HD 1080p เพื่อภาพที่ใกล้เคียงต้นฉบับที่สุดครับ*
ช่วงเวลากลางวันอีกคลิปครับ แต่ผมตัดเสียงออกและใส่เสียงเพลงแทนเนื่องจากการสนทนาส่วนตัวครับ
ไฟล์ของ Marcus 2 จะบันทึกเวลาคลิปละ 5 นาทีและวนไปเรื่อยๆครับ ในส่วนของการบันทึกวีดีโอตอนกลางคืนนั้น จากที่ลองสังเกตุคือตรงไหนมีไฟสว่างกล้องจะจับแสงสว่างได้ดีชัดพอๆกับที่ตาเราเห็นครับ ถ้าขับในเมืองที่มีแสงสว่างรอบๆ กล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้หมด ไม่มืด จะมืดก็ต่อเมื่อแสงน้อยจริงๆเช่นถนนในต่างจังหวัดครับถึงจะเห็นแต่ไฟหน้ารถ ลองดูจากคลิปของผมครับ ฟิล์มรถผม 60% ครับ แสงรอบๆไม่เยอะมาก มี Noise อยู่นิดหน่อย แต่ถ้าแสงเยอะก็แทบไม่มี Noise เลยครับ โดยรวมผมพอใจมาก ถ้าเป็นรถที่ใช้ฟิล์มใส 40% ขับตอนกลางคืนนี่สบายเลยครับ สว่าง+ชัดแน่นอน
คลิปด้านล่างนี้เริ่มตั้งแต่มีแสงสว่างรอบๆ แสงสว่างปานกลาง แสงสว่างน้อย รายละเอียดของป้ายต่างๆตามทางครับ และมีความยาว 10 นาทีครับโดยผมนำไฟล์ 2 ไฟล์มาต่อกัน เพื่อทดสอบ Seamless ครับ สังเกตุว่าช่วงเวลานาทีที่ 4:59 ถึง 5:01 นั้นต่อเนื่องครับ ไฟล์ต่อกันได้พอดี ไม่มีเฟรมที่ขาดหายจากการทดสอบดูทีละเฟรม ก็ถือว่า Marcus 2 สอบผ่านตามที่โฆษณาไว้ครับ(ผมตัดเสียงออกและใส่เสียงเพลงแทนเนื่องจากการสนทนาส่วนตัวครับ)
*ทุกคลิปมาจากไฟล์วีดีโอต้นฉบับ ไม่มีการปรับแต่งด้วย Software หรือใส่ Filter หรือการตั้งค่าใดๆที่ตัวกล้องเพิ่มเติมครับ*
ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆนั้น ไม่ว่าจะเป็นระบุตำแหน่ง , เตือนเมื่อขับเร็ว , ขับใกล้คันหน้าและเตือนเมื่อขับออกนอกเลนนั้นผมยังไม่ได้ทดสอบครับ เพราะฟังก์ชั่นพวกนี้จะใช้ได้ต่อเมื่อต่อเข้ากับ GPS Module เท่านั้น ซึ้งเป็นอุปกรณ์เสริม ต้องซื้อแยกต่างหากครับ ฟังก์ชั่น Parking Mode ก็ต้องมีไฟสำรองครับถึงจะใช้งานได้ ผมได้ทดสอบจริงเพียงการบันทึกไฟล์ Emergency Record โดยการกดปุ่มสีส้มที่ตัวกล้องแทนการใช้ G-Sensor ซึ่งการทำงานของ Emergency Record คือบันทึกไฟล์ย้อนกลับไปก่อนที่เราจะกดประมาณ 30วิและบันทึกต่อไปจนสุดไฟล์โดยที่ไฟล์นี้ไม่สามารถลบออกได้ด้วยตัวกล้อง มีการ Copy ไฟล์แยกโฟลเดอร์ไว้ครับ ไฟล์ฉุกเฉินจะไม่ถูกวนทับและเก็บไฟล์ฉุกเฉินได้ 10ไฟล์ครับ
สุดท้ายนี้ก็จะขอกล่าวถึงในส่วนของการบริการหลังการขายครับ VicoVation Marcus ทุกรุ่นรับประกันถึง 1 ปี โดยที่ถ้าตัวกล้องมีปัญหาจากการผลิดสามารถเคลมตัวใหม่ได้ภายใน 1 ปีครับตรงนี้ก็เป็นอีกส่วนนึงที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อ เพราะความมั่นใจว่าสินค้าต้องมีคุณภาพจริงๆไม่งั้นคงไม่กล้าการันตีแบบนี้ครับ มีศูนย์ในไทยและตัวแทนจำหน่ายที่บริการดีมากครับ สามารถสอบถามปัญหาในการใช้งานได้ตลอดไม่ทิ้งลูกค้าซึ่งตรงนี้ก็ได้ใจผมไปเต็มๆครับ กล้องราคาอาจจะสูงหน่อยแต่ได้คุณภาพและการบริการหลังการขายที่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ผิดหวังที่ซื้อ Vico Marcus 2 มาครับ
ข้อดี
1.ภาพชัดทั้งกลางวันและกลางคืนครับ โดยเฉพาะกลางวันชัดมากครับ (กลางคืนรถผมฟิล์ม 60% แต่ภาพก็ยังชัดและสว่างพอๆกับที่ตาผมเห็น)
2.ตอนนี้ใช้มา 1ปี 4เดือน ยังไม่มี Error ยังไม่มีปัญหาครับ (อัพเดต 30/4/59)
3.กล้อง Vico Marcus มี Firmware ให้อัพเดตสำหรับปรับปรุงฟังก์ชั่นหรือแก้ Bug ต่างๆ (แต่ Marcus 2 ยังไม่มีครับเพราะเป็นรุ่นใหม่+ Firmware เสถียรดีครับยังไม่มีปัญหาจากการใช้งาน)
4.การบันทึกวีดีโอมีความต่อเนื่องกันทุกคลิปไม่มีรอยต่อระหว่างไฟล์ ทุกวินาทีไม่ขาดหาย จากการทดสอบนำไฟล์มาต่อกันและดูทีละเฟรมครับ
5.คิดว่ากล้อง Marcus 2 น่าจะอยู่กับผมได้นานแหละครับ ก็ต้องดูกันไปไว้ผมจะมาอัพเดตเรื่อยๆครับ
6.ประกันยาวนาน มั่นใจได้ครับ มีศูนย์ในไทย 1 ปีมีปัญหา(ต้องมีปัญหาจากตัวกล้องจริงๆนะครับ)เปลี่ยนตัวใหม่เลย
7.บริการหลังการขายดีมากๆครับ พี่คนขายคุยดีมาก ผมเป็นลูกค้าที่เรื่องมากพอสมควรแต่พี่เค้าก็ตอบคำถามดีตลอดครับ ประทับใจมากครับผม
8.ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีของปลอมมั๊ย ไม่ต้องวัดใจหรือกลัว Jackpot ครับ กล้อง VicoVation Marcus ไม่มีของปลอม
ข้อเสีย
1.ราคาครับ อาจจะแพงไปสำหรับใครหลายๆคน แต่ผมถือว่าคุ้มละครับได้คุณภาพกับการบริการแบบนี้ไม่ผิดหวังครับ
2.งานเนียนสวยครับแต่มันยังดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะกล้องมันตัวเล็กน่าทะนุถนอมมั้งครับ ผมเลยรู้สึกแบบนั้น อันนี้แล้วแต่คนนะครับ
3.ฟังก์ชั่นส่วนใหญ่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเท่านั้นครับถึงจะใช้งานได้ เช่น GPS Tracking,LDWS,FCWS,Overspeed และ Quick Mounting สำหรับใส่ CPL Filter ลดการสะท้อนต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มครับ
4.อยากให้เพิ่ม Bitrate วีดีโออีกหน่อย สัก 18-20Mbps ก็ดีครับ ถ้า Bitrate มากกว่านี้รายละเอียดของภาพน่าจะชัดขึ้นอีก ถึงแม้ไฟล์จะใหญ่แต่ตัวกล้องก็รองรับ SDHC ความจุถึง 64GB อยู่แล้วครับ
สรุป
สำหรับใครที่ไม่ติดเรื่องงบและต้องการแบบซื้อครั้งเดียวจบ VicoVation Marcus 2 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมครับ คุณภาพที่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนรวมถึงการบริการนั้นถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา ส่วนอายุการใช้งานนั้นผมก็ต้องรอให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ครับ จะเข้ามาอัพเดตเรื่อยๆครับ