จ่อบูรณะ สำเภาโบราณหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวร ที่ถูกไฟไหม้ คาดใช้เวลา2เดือน

กระทู้ข่าว
จากมติชนออนไลน์

เตรียมบูรณะซ่อมแซม เรือสำเภาที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ที่เกิดเพลิงไหม้ คาด 2 เดือนแล้วเสร็จ

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้เรือสำเภาโบราณที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร" ที่ปัจจุบันได้มีการปรับพื้นที่กองถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศวร มาเป็น ตลาดน้ำ กองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์ ของกองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งพัฒนาและปรับปรุงให้เป็น ตลาดน้ำแบบย้อนยุค และมีการจัดงานแสดง แสง เสียง ชุดพิเศษ ในระหว่างวันที่ 4-8 มี.ค.58 เหตุเกิดเมื่อคืนของวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (8 มี.ค. 58) ที่ตลาดน้ำ กองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์ บรรยากาศทั่วไปยังคงมีประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่วนซากเรือสำเภาโบราณ ขนาดกว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร ที่ถูกไฟไหม้ สภาพเสียหายเกือบทั้งลำ เหลือเพียงโครงสร้างที่เป็นเหล็ก และบริเวณช่วงท้องเรือบางส่วน โดยเรือได้ถูกลากจูงมาไว้ที่ริมตลิ่งอีกฟากของตลาดน้ำ และมีการติดตั้งกระบอกปืนใหญ่บนเรือ พร้อมวางระบบเอฟเฟค เพื่อใช้ในการแสดง แสง เสียง ในค่ำคืนนี้

โดย นางสาวอลิษา เศรษฐี ผู้ช่วยผู้บริหารตลาดน้ำฯ บริษัท วิซาร์ด โปรดักส์ชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เกิดจากเอฟเฟคที่ใช้ในการแสดง แสง เสียง ซึ่งโดยปกติได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลในเรื่องของความปลอดภัย พร้อมหน่วยดับเพลิงไว้ โดยหลังจากเสร็จสิ้นจากการแสดงในช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการราดน้ำเพื่อเคลียร์พื้นที่ แต่อาจเกิดจากสะเก็ดไฟก้านธูป ที่ตรวจไม่พบในขณะนั้น ประกอบกับอากาศร้อนมากในช่วงกลางวัน ขณะเดียวกันตัวเรือก็เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เนื่องจากวัสดุที่นำมาสร้างเป็นไม้สักและไม้ตะเคียนซึ่งเป็นไม้เก่า โดยสร้างมาได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว

ทั้งนี้ต้นเพลิงเกิดจากเชื้อไฟเพียงประกายขนาดเล็กที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ท้องเรือด้านท้าย ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เห็นเปลวไฟ จึงได้พายเรือนำน้ำและโฟมไปฉีดเพื่อดับไฟ แต่ในช่วงเวลานั้นเกิดกระแสลมแรงตีเข้าภายในเรือ จึงทำให้ไฟเกิดคุขึ้น และโหมลุกไหม้และลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเรือได้ลอยลำอยู่กลางบึงน้ำ ห่างจากฝั่งประมาณ เกือบ 100 เมตร ทำให้การดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก จากนั้นจึงตัดสินใจตัดเชือกให้ลมพัดเรือเข้าฝั่ง เพื่อนำรถน้ำมาช่วยกันระดมฉีดน้ำ และเนื่องจากภายในเรือมีการตกแต่งด้วยโฟม และวัสดุที่เป็นเชื้อไฟอย่างดี จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทัน ส่งผลให้ไฟลุกลามไปทั้งลำเรือ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุที่สุดวิสัย

สำหรับตัวลำเรือมีมูลค่าประมาณ 26 ล้านบาท แต่หากรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าขนย้าย ก็จะอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท ล่าสุดได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลป์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย ที่สร้างโรงถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ มาตรวจดูสภาพ เพื่อทำการบูรณะซ่อมแซมเรือขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งมีการตกแต่ง ให้สวยงามและยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามทางทีมงานคาดว่าจะต้องใช้เวลาบูรณะซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน แต่จะพยายามเร่งให้เสร็จทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ จ.กาญจนบุรี

ด้าน พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่9 ค่ายสุรสีห์ เปิดเผยว่า เรือสำเภาที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ไม่ใช่ทรัพย์สินของทางราชการ เป็นของบริษัทเอกชนที่เข้ามาดำเนินการในเรื่องของแสง เสียง โดยทางบริษัทฯ จะทำการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ให้สวยงาม ทั้งนี้หลังจากวันนี้ (8 มี.ค.58) ยังคงจัดให้มีการแสดง แสง เสียง ในเวลา 19.00 น. ทุกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ ของทุกสัปดาห์ และในส่วนของวันธรรมดาก็จะเกิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมตลาดน้ำ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไปจนถึง 21.00 น. ของทุกวัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่