เราคบกับแฟนคนนี้มาพักนึงแล้วค่ะ เจ้าชู้มากและเวลาจับได้ก็จะโกหกเสมอว่าเพื่อนมั่ง พี่มั่ง น้องมั่ง ประมาณว่าไม่ยอมรับถ้าไม่มีหลักฐานหรือถ้ามีก็รับแค่ครึ่งเดียว และที่หนักเข้าไปอีกก็คือ เขาขอยืมเงินบ่อยค่ะ แต่ละเรื่องแต่ละราวที่เขาสร้างมาเพื่อขอเราจะประมาณว่า ค่าห้องไม่พอมั่ง ค่างวดรถมั่ง ซึ่งเราก็ช่วยไปนะคะ และเขาก็สัญญาว่าจะคืนตอนโบนัสค่ะ พอถึงเวลาก็จะมีปัญหาเข้ามาอีก ทำให้ไม่สามารถคืนได้ ซึ่งระหว่างที่คบเราเองก็พยายามสืบทราบมาตลอด ว่าชีวิตจริงๆเขาเป็นยังไง ซึ่งก็ได้รู้ทีละเล็กทีละน้อย โบนัสที่คืนให้ไม่ได้ ก็เพราะเขาติดหนี้นอกระบบ 4 แสนค่ะ เจ้าเขาจะหักทุกโบนัส มารู้ทีหลังนี้ แย่เลยค่ะ เครียดมากๆ และสาเหตุที่เขาติดหนี้ก็เพราะเขาเล่นการพนันค่ะ ซึ่งเราเองก็รู้หลังจากที่ คบไปแล้ว และช่วยไปแล้ว ซึ่งเงินก้อนสุดท้าย ที่ช่วยเขา คือ 1 แสน เพราะตอนนั้น เขาติดหนี้เพื่อนเป็นค่าบอล ตอนที่เขาขอให้ช่วย เขาก็พูดเศร้าๆให้เราเห็นใจ และสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่สร้างหนี้อีกแล้ว เพราะเขาไม่เหลืออะไรแล้ว โดนเจ้าที่เขาแทงบอลไว้ตาม โดนขู่ต่างๆนานาดูแล้วเขาเองก็กลัวมากๆเช่นกัน เราลังเลใจที่จะช่วย เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ทำตามสัญญา แต่เขาก็มาคุยอ้อนวอนทุกวัน สุดท้ายก็ใจอ่อน เราจึงไปกดบัตรสินเชื่อมาจ่ายให้เขาค่ะ แต่โกหกเขาว่ากู้นอกระบบมาให้โดยที่เจ้าเขาจะคิดแบบลดต้นลดดอกให้ โดยจ่ายคืนเดือนละ 5000 ซึ่งเมื่อคิดรายรับและรายจ่ายเขาแล้ว ถึงแม้จะไม่รวมยอดหนี้นี้ ก็ติดลบอยู่ดีค่ะ เราถามเขาว่า แล้วจะเอาตังค์ไหนจ่ายเขา เขาตอบว่าเราก็ช่วยๆกันสิ... ซึ่งเงินที่เอามาๆปิดหนี้ให้เขาแต่เวลาจ่ายก็บอกว่าช่วยกัน แต่เพื่อนสนิทเขา(ซึ่งก็ระอาเพื่อนตัวเองมากๆ)ก็ให้คำแนะนำมาว่าให้เอารถไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันค่ะ เราจึงได้มอไซค์เขามาจอดไว้ ส่วนรถยนต์ให้เขาใช้ค่ะ เพราะเขาเพิ่งเข่าหลุด ต้องขับรถยนต์ไปทำงาน แต่เขาไม่รู้นะคะ ว่ามอไซค์มาจอดไว้กับเรา อีกอย่างมอไซค์เขาราคา 70000 เอามาก็ยังไม่คุ้มเงินที่เขาเอาไปเลย ยิ่งยังเป็นชื่อเขา เพราะเพิ่งผ่อนมาได้ไม่กี่เดือนเอง เหลืออีกประมาณ 2 ปีกว่าๆ ถึงจะหมด  ราคาที่พวกนอกระบบตีไว้จริงๆก็แค่ 4-5 หมื่นเท่านั้น หลายๆคนอาจจะคิดว่า ไปช่วยมันทำไมใช่มั้ยคะ....แต่มุมมองของเรา ณ ตอนนั้นคือเรามองว่าคนคบกัน จะอยู่ด้วยกัน เวลานี้เขาลำบาก เขาไม่มีใครช่วยเลย มีแต่เราที่ช่วยได้ ถ้าเราช่วยเขาไปในเวลานี้ เวลาที่เขาพบกับมรสุมที่เขาสร้างมานี้ เขาน่าจะคิดได้และเปลี่ยนตัวเองได้เพื่อเรานะ เพราะชีวิตเขาดิ่งลงไปรอบนึงแล้ว เขาคงไม่ยอมดิ่งลงไปอีกแล้ว แต่มันก็เป็นความคิดที่โง่จริงๆค่ะ...เชื่อใจว่าเขาจะเปลี่ยน เชื่อใจว่าเขาจะไม่โกหก
แต่เมื่อกี้ก่อนหน้าได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาแอดเฟสมาหา เห็นรูปปุ๊ปจำได้ทันทีค่ะ เป็นรูปเดียวกันกับที่เห็นมาเม้นท์ในไลน์ ซึ่งเขาตอบเรามาว่าน้อง เราเลยให้เบอเราไปเลยค่ะ แล้วโทรคุยกัน. เปิดใจทุกอย่างค่ะ น้องเขาก็คุยดีค่ะ เขาก็อยากรู้ว่าเรากับแฟนเป็นไรกัน เท่าที่คุย เขาก็คบน้องคนนี้มาได้พักนึงแล้วค่ะ น้องเขาขับรถไม่เป็น เวลาเขาอยากเจอเขาก็จะไปรับไปส่งค่ะ   น้องเขาอยู่ห่างจากหอพักเขาไป ประมาณ 30 โลค่ะ เคยไปเที่ยว ไปกินข้าวด้วยกันค่ะ ส่วนเราขับรถเป็น มีรถเป็นของตัวเอง แล้วก็ค่อนข้างจะอิสระ อยากไปไหนก็ไป วันหยุดก็ไม่ค่อยว่าง และถึงว่าง. เวลาชวนเขาก็จะใช้เหตุผลว่า ยังไม่อยากไปไหน เครียด อยากอยู่คนเดียว ไปกินข้าวกับน้องเขาจ่ายนะคะ แต่กับเราให้ซื้อข้าวไปให้ เพราะเดินไปไหนลำบาก เราก็เลยต้องซื้อข้าวกล่องให้กินทุกวันทั้งมื้อเช้าและกลางวัน โดยตังค์เราล้วนๆค่ะ เคยขอยืมตังค์น้องเขาด้วยนะ แต่น้องเขาไม่ให้ค่ะ และดักทางเขาไว้ตั้งแต่แรกค่ะ แต่เขาก็ยังคบน้องคนนี้มาเรื่อยนะคะ ถึงแม้ว่าน้องเขาจะไม่ให้ยืม คิดเหมือนกันไหมคะ ว่าเขาชอบพอน้องคนนั้นมากกว่าเรา แต่สิ่งที่น้องเขาบอกมาคือ น้องเขาไม่ได้คิดแบบเราค่ะ ที่เขาดีด้วยก็เพราะน้องผู้หญิงเขาเป็นหลานเจ้าของบริษัทค่ะ และเรา 2 คนก็มั่นใจนะว่า ที่เขาคุยอยู่ ไม่ได้มีแค่เรา 2 คนแน่ๆ
ตอนนี้เราเองก็ปรึกษากันนะคะ ว่าจะทำไงดี น้องผู้หญิงเองก็เป็นห่วงเรานะ เพราะเราช่วยเขาไปเยอะ ถ้าจะวางแผนให้น้องเขานัดเขามาเจอแล้วให้เราเข้าไปให้เห็นจะๆ มันก็จะได้แค่เรื่องชู้สาว แต่สิ่งที่เราต้องการคือให้ได้เงินคืนและที่สำคัญที่สุดที่อยากได้คือ ให้ "บทเรียน" กับเขา จะว่าเราเป็นมารร้ายรึเปล่าค่ะ ถ้าเราจะทำให้เขาไม่เหลืออะไรเลย